Reincarnation Of The Strongest Sword God 2795

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2795 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

** แอดไม่ใช้คำว่าอดีตสมาชิกฮีฟเว่นเบลดนะ ใช้คำว่าสมาชิกฮีฟเว่นเบลดเหมือนเดิม เพราะเท่าที่อ่าน แม้จะยุบไปแล้ว แต่ทีมก็ยังค่อนข้างกลมเกลียว และยังดูจะรักกัน กับไม่ทิ้งกันเหมือนเดิม ….

ตอนที่ 2795 กบฎแห่งเกาะดราก้อนฮาร์ท

เกาะดราก้อนฮาร์ท น่านน้ำรอบเกาะ :

มันมีเรือหลายพันลำกระจายตัวกันอยู่รอบเกาะดราก้อนฮาร์ท โดยเรือเหล่านี้มีใบเรือและเครื่องหมายของทีมนักผจญภัยวอร์บลัดติดเอาไว้ทุกลำ ซึ่งเรือที่เข้าและออกเกาะดราก้อนฮาร์ทนั้นจะต้องถูกตรวจสอบโดยละเอียดโดยเรือของทีมนักผจญภัยวอร์บลัด ขณะเดียวกันเกาะดราก้อนฮาร์ททั้งหมดก็ถูกห่อหุ้มด้วยวงเวทย์ที่ทำให้ภายนอกกับภายในไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ และในเวลาเดียวกันเวทย์เทเลพอร์ตทุกอย่างก็ไม่สามารถใช้ได้ภายในเช่นกัน

ตอนนี้มันจึงทำให้เกาะดราก้อนฮาร์ทดูเหมือนจะกลายเป็นถิ่นที่ตั้งของทีมนักผจญภัยวอร์บลัดไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

“แม่งเอ้ย !! พวกทีมนักผจญภัยวอร์บลัดทำเกินไปแล้ว !!! พวกนั้นก็รู้ว่าเราไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับทีมนักผจญภัยฮีฟเว่นเบลดเลย แต่เรากับต้องจ่ายยี่สิบเหรียญเงินโบราณ พร้อมกับคริสตัลเวทย์มนต์สามชิ้นให้พวกนั้นเพื่อออกจากเกาะ” เบอเซิกเกอร์ขั้นสอง เลเวลหนึ่งร้อยสิบสี่ที่ทำหน้าที่ขับเรือกล่าวด้วยความไม่พอใจ ขณะที่เขามองไปยังเรือเร็วของทีมนักผจญภัยวอร์บลัดที่ตอนนี้อยู่ไกลออกไปแล้ว

“ลดเสียงลงหน่อยก็ดีนะ พวกเขาไม่ได้อยู่ไกลขนาดจะไม่ได้ยินเราอย่างที่คุณคิดนะ ….” elementalist รุ่นเยาว์เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบกล่าวเตือนเบอเซิกเกอร์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ปัจจุบันเกาะดราก้อนฮาร์ททั้งหมดนั้นตกไปอยู่ภายใต้การครอบครองของทีมนักผจญภัยวอร์บลัดแล้วก็ว่าได้ และแม้แต่เหล่ามหาอำนาจก็ยังต้องยอมก้มหัวให้กับวอร์บลัดที่นี่ ขณะที่ในตอนนี้เราจะออกจากเกาะไปเพื่อขายไอเทม หากอยู่ๆเราถูกพวกเขาเล็งเป้ามา เราจะซวยเอาได้”

“ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าทีมนักผจญภัยฮีฟเว่นเบลดไปทำให้ทีมนักผจญภัยวอร์บลัดโกรธแค้นอะไรนักหนา จนถึงตอนนี้ทีมนักผจญภัยวอร์บลัดก็ยังตามล่าสมาชิกของทีมนักผจญภัยฮีฟเว่นเบลดและคอยจับส่งไปให้ NPC เหล่านั้นโดยตรงเพื่อคุมขังอยู่ นี่มันเท่ากับว่าสมาชิกของทีมนักผจญภัยฮีฟเว่นเบลดนั้นแทบจะหมดสิทเข้าสู่เกาะดราก้อนฮาร์ทเลย” ออราเคิลหญิงขั้นสอง เลเวลหนึ่งร้อยสิบเจ็ดมองไปยังเรือเร็วของทีมนักผจญภัยวอร์บลัดที่อยู่ห่างออกไปด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“มันจะมีเรื่องอะไรได้อีกล่ะ พวกเขาก็แค่อยากได้ที่ดินรอบๆหอคอยโลกนั่นแหละ” เบอเซิกเกอร์ขั้นสองพูดอย่างเมินเฉย “ตอนนี้มันเริ่มมีสมบัติถูกค้นพบในชั้นใต้ดินของหอคอยโลกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ แต่พลังงานในชั้นสี่นั้นมันรุนแรงและน่ากลัวมากเกินไป และมันก็มีค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูตัวเองสำหรับผู้เล่นหลังจากโดนพลังงานนี้สูงเกินไป ซึ่งมันมีเพียงแค่การพักผ่อนรอบๆพื้นที่พิเศษของหอคอยโลกเท่านั้นที่จะทำให้เหล่าผู้เล่นฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว”

“ฮีฟเว่นเบลดนั้นได้ครอบครองที่ดินห้าผืนใหญ่ทั้งหมดรอบหอคอยโลก ขณะที่ที่ดินที่เหลือล้วนเป็นที่ดินขนาดกลางทั้งหมด ดังนั้นเรื่องนี้มันจะไม่ไปดึงดูดความสนใจของวอร์บลัดได้อย่างไร ? เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่มันหมูในอวยที่พวกเขาสามารถจะจัดการและล้อมจับเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์มาได้ง่ายๆเลย”

“ที่จริงตอนนี้พื้นที่รอบๆหอคอยโลกทั้งหมดนั้นมันมีการต่อสู้แย่งชิงกันอย่างดุเดือดและรุนแรงมากๆ พื้นที่รอบๆหอคอยโลกมันกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการจะเข้าไปพัฒนาตัวเองในชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ของหอคอยโลก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่ฮีฟเว่นเบลดตัดสินใจจะสู้ยิบตาและไม่ยอมมอบที่ดินที่พวกเขามีให้ใคร เนื่องจากหากพวกเขามีที่ดินนี้อยู่ พวกเขาก็ยังจะมีโอกาสกลับเข้ามาที่นี่ได้ ดังนั้นตอนนี้มันคงมีแต่การต้องจับผู้บัญชาการของฮีฟเว่นเบลดให้ได้ และบังคับให้ยอมจำนนเท่านั้นแหละ เรื่องมันถึงพอจะจบได้ ….” Elementalist ที่เป็นพวกขั้นสาม บนเรือเร็วลำนี้เพียงคนเดียวกล่าว

ในตอนนี้ทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความปราถนาต่อที่ดินรอบๆหอคอยโลก

ในตอนที่เหล่าผู้เล่นยังไม่ก้าวเข้าไปสำรวจชั้นใต้ดินชั้นสี่ของหอคอยโลกนั้น ที่ดินพวกนี้มันมีมูลค่าไม่มากนัก พูดกันตามตรงที่ดินพวกนี้มันแทบไม่มีใครสนใจเลยด้วยซ้ำ

เพราะท้ายที่สุดที่ดินพวกนี้มันมีราคาแพงมากๆ และมันก็ไม่ได้อยู่ในบริเวณถนนการค้าใจกลางเมืองดราก้อนฮาร์ท มันจึงเป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีใครต้องการซื้อมัน

มันมีที่ดินว่างเปล่ารอบหอคอยโลกที่เปิดให้ผู้เล่นซื้อได้อยู่สามสิบสี่ผืน โดยจำนวนแค่นี้นั้นแค่แบ่งกันให้พอในหมู่กองกำลังท้องถิ่นของเกาะดราก้อนฮาร์ทมันก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงมหาอำนาจอื่นๆจากภายนอกเลย

พูดกันแค่เรื่องที่ว่าการที่ทีมนักผจญภัยทีมเดียวอย่างฮีฟเว่นเบลดนั้นครอบครองที่ดินไปถึงห้าผืน มันก็เพียงพอที่จะทำให้กองกำลังท้องถิ่นและมหาอำนาจต่างๆบ้าคลั่งแล้ว นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าที่ดินที่ทีมนักผจญภัยฮีฟเว่นเบลดครอบครองอยู่ทั้งห้าผืนนั้นเป็นที่ดินที่ดีที่สุดทั้งหมด ดังนั้นนี่จะไม่ทำให้กองกำลังท้องถิ่น และมหาอำนาจต่างๆเคลื่อนไหวกันอย่างบ้าคลั่งได้อย่างไร ?

และนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลังจากที่เหล่าผู้เล่นส่วนใหญ่ได้รู้ว่าชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ของหอคอยโลกนั้นมันเป็นสถานที่ที่เหมาะจะใช้ฝึกและพัฒนาตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ด้วย

อย่างไรก็ตามในขณะที่เหล่าผู้เล่นที่อยู่บนเรือเร็วกำลังพูดคุยกันอยู่ มันก็มีการระเบิดเกิดขึ้นอย่างกระทันหันในบริเวณที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขานัก และเสียงของการระเบิดนี้มันก็ดังก้องไปหลายพันหลา ซึ่งทำให้ผู้เล่นโดยรอบอดไม่ได้ที่จะหันมามอง

ทันใดนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นผู้เล่นที่มีจำนวนไม่ถึงสามสิบคนที่สวมเสื้อคลุมสีดำกำลังทำการอัญเชิญอะเม้าท์บินได้สองตัวออกมา และหลังจากนั้นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามสองคนก็ได้เร่งความเร็วของตัวเองตามเข้ามาสมทบ พร้อมกับทำการฆ่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของวอร์บลัดไปยี่สิบคนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะแบ่งทีมออกเป็นจำนวนเท่าๆกันและกระโดดขึ้นอะเม้าท์บินได้สองตัว และเริ่มพยายามจะตีฝ่าวงเวทย์ที่ปิดผนึกเกาะดราก้อนฮาร์ทออกไป

“พวกเขาเป็นสมาชิกที่เหลือของฮีฟเว่นเบลด !!!”

“รีบจัดรูปแบบโจมตีพวกเขาเร็ว !!! อย่าปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้ !!!”

สมาชิกของวอร์บลัดที่เห็นฉากนี้นั้นได้เร่งรีบที่จะเคลื่อนไหวกันทันที

ทันใดนั้นเรือเร็วมากกว่าสิบลำก็ได้เข้ามาล้อมกรอบอะเม้าท์บินได้ทั้งสองไว้ และเริ่มวางวงเวทย์ปิดผนึกพื้นที่รอบอะเม้าท์บินได้ทั้งสองไว้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาได้เตรียมสิ่งนี้ไว้สำหรับสมาชิกของฮีฟเว่นเบลด

ซึ่งมันทำให้ตอนนี้อะเม้าท์บินได้ทั้งสองตัวนั้นถูกขังไว้ในพื้นที่ของวงเวทย์ปิดผนึกที่ครอบคลุมรัศมีหลายพันหลา ทั้งๆที่ยังไม่สามารถจะบินขึ้นไปสูงได้ถึงสองร้อยหลาเหนือระดับน้ำทะเลเลย โดยเมื่อมองจากผลของวงเวทย์ปิดผนึกนี้ มันก็เห็นได้ชัดเลยว่ามันเป็นวงเวทย์ขั้นสูง
แม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย ขั้นสี่ก็ยังจะต้องใช้เวลาในการจะทำลายมันจากภายในนานมาก ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นขั้นสามเลย

“แม่งเอ้ย !!” การ์เดี้ยนไนท์หญิงมองไปยังฉากตรงหน้าที่เกิดขึ้นด้วยความโกรธ ก่อนที่เธอจะหันไปหาชายคนหนึ่งและกล่าวว่า “รองผู้บัญชาการดีไวน์ชาโด้ว ตอนนี้เราควรจะทำยังไงกันดี ? เราจะต้องใช้เวลาราวสามถึงห้านาทีเลยในการทำลายวงเวทย์นี้ ซึ่งเวลาราวนี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับวอร์บลัดที่จะระดมพลมาจัดการเรา”

เมื่อได้ยินคำถามดีไวน์ชาโด้วก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เตรียมมาตราการรับมือสำหรับอะไรแบบนี้มา

“มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางทำอะไรได้เลย เพียงแต่มันจะยากหน่อยก็เท่านั้น เดี๋ยวฉันจะเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ของตัวเอง และฉันน่าจะสามารถทำลายวงเวทย์ปิดผนึกนี้ได้ภายในเวลาไม่ถึงนาที หลังจากนั้นฉันจะเข้าไปยื้อเวลาไว้ให้ พวกคุณก็ให้รีบหาทางหนีออกไปจากที่นี่แล้วกัน !!!” ดีไวน์ชาโด้วกล่าวขณะที่เขามองไปยังผู้เชี่ยวชาญของวอร์บลัดที่เข้ามาเสริมกำลังกันมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เขาจะหันมากล่าวกับการ์เดี้ยนไนท์หญิงว่า “จำไว้เฟรม แม้ว่าเธอจะรอดออกไปจากที่นี่คนเดียว แต่เธอก็ต้องไป ไปทำในสิ่งที่ควรทำ ตอนนี้นี่เป็นความหวังเดียวของฮีฟเว่นเบลดแล้ว !!!”

“เข้าใจแล้ว !!!” การ์เดี้ยนไนท์หญิงที่ชื่อคลีนซิ่งเฟรมพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง

ตอนนี้แม้ว่าฮีฟเว่นเบลดนั้นได้ถูกยุบไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามพวกทีมนักผจญภัยวอร์บลัดก็ยังตามล่าและกำจัดผู้เล่นทุกคนที่เคยเป็นสมาชิกของฮีฟเว่นเบลดอยู่เรื่อยๆไม่หยุดหย่อน ดังนั้นตอนนี้ความหวังเดียวในการจะเอาชีวิตรอดของพวกเขาคือการไปขอความช่วยเหลือจากโลกภายนอก ซึ่งตอนนี้นั้นเธอมีโฉนดที่ดินมูลค่าสูงลิ่วอยู่กับตัว และมันก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่คนภายนอกจะยอมช่วยเหลือเธอกับสมาชิกฮีฟเว่นเบลดทั้งหมด หากพวกเขาจ่ายค่าตอบแทนการช่วยเหลือด้วยโฉนดที่ดินนี้

อย่างไรก็ตามก่อนที่คลีนซิ่งเฟรมจะทันได้เตรียมการควบคุมให้อะเม้าท์บินหนีออกไปตามแผน มันก็มีเสียงที่ดังสนั่นดังก้องขึ้นมาในของสมาชิกฮีฟเว่นเบลดทุกคน

“อยากจะหนีออกไป ? มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก !!!”

“วันนี้จะไม่มีพวกคุณคนไหนหนีออกไปจากที่นี่ได้ !!!”

ก่อนที่ดีไวน์ชาโด้ว และคลีนซิ่งเฟรมจะทันได้ตอบสนองใดๆ พวกเขาก็เห็นร่างๆหนึ่งมาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเขาแล้ว โดยร่างนี้เป็นชายที่สวมเสื้อคลุมสีแดงเข้ม ขณะที่ดวงตาของเขานั้นก็เป็นดวงตาสีเลือด และเขาก็ได้ถือคทาไม้สีเลือดอยู่ โดยชายคนนี้นั้นแผ่ออร่าที่ดูน่ากลัว และชั่วร้ายอย่างไม่อาจจะพรรณนาได้ออกมา

ซึ่งในขณะที่ชายคนนี้กำลังยืนอยู่กลางอากาศ เขาก็ได้ทำให้ดีไวน์ชาโด้วและคนอื่นๆนั้นรู้สึกอึดอัดราวกับภูเขากดทับ และมันก็ดูเหมือนว่ามานาโดยรอบนั้นมันจะไม่ฟังคำสั่งของดีไวน์ชาโด้วและคนอื่นๆอีกต่อไป

“ออทั่มแพล้น !!!” ดีไวน์ชาโด้วมองไปที่ชายคนนี้ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ “เป็นไปได้ยังไงกัน !! คุณไม่ได้นำทีมไปสำรวจชั้นใต้ดินชั้นที่สี่อยู่งั้นหรอ ?!”

ใช่แล้ว ชายตรงหน้าของพวกเขาก็คือออทั่มแพล้น หนึ่งในรองผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยวอร์บลัด โดยออทั่มแพล้นนั้นเป็น Elementalist ที่เป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ที่สามารถจะทำลายเกาะครึ่งเกาะได้ด้วยการโจมตีเดียว

ซึ่งออทั่มแพล้นนี่แหละที่เป็นผู้ที่ทำให้สิบสามบัลลังก์ที่เป็นซุเปอร์กิลได้รับความเสียหายครั้งใหญ่จนเลือกจะยอมแพ้ไป

โดยออทั่มแพล้นนั้นได้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญหลายหมื่นคนของสิบสามบัลลังก์ไปในการโจมตีด้วยเวทย์ทำลายล้างขั้นสี่ เวทย์เดียว และเวทย์นี้ของเขาก็ได้ทำลายเกาะเล็กไปครึ่งหนึ่งด้วย ขณะเดียวกันจากผู้เชี่ยวชาญหลายหมื่นคนที่เขาฆ่านี้ มันก็มีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่ายี่สิบคนอยู่ในนั้น โดยมีสามคนที่อยู่ในขอบเขตโดเมนที่ถูกฆ่าไปด้วย ซึ่งหลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ชื่อเสียงของออทั่มแพล้นบนเกาะดราก้อน
ฮาร์ทก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

และจากการที่ฮีฟเว่นเบลดได้สืบเสาะจนรู้ว่าออทั่มแพล้นพาทีมไปสำรวจชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ และไม่น่าจะกลับมาในระยะเวลาอันสั้นนี่แหละ พวกเขาจึงได้เลือกจะใช้โอกาสนี้เพื่อหลบหนีออกจากเกาะดราก้อนฮาร์ท

แต่ตอนนี้ ….

“ฮ่าๆๆๆ !!! ถ้าฉันนำทีมไปสำรวจชั้นใต้ดินชั้นที่ แล้วฉันจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?” ออทั่มแพล้นกล่าวพลางหัวเราะอย่างเหยียดหยามขณะที่มองไปยังดีไวน์ชาโด้วและคนอื่นๆ

“หึ ! แม่งเอ้ย !!!” ดีไวน์ชาโด้วกำหมัดแน่น เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกหลอกแบบนี้ ก่อนที่ดวงตาของเขาจะแปรเปลี่ยนเย็นชา “งั้นแสดงให้ฉันดูหน่อยว่าคุณแข็งแกร่งแค่ไหนแล้ว หลังจากที่มาถึงขั้นสี่ !!!”

ดีไวน์ชาโด้วได้ใช้โอกาสที่ออทั่มแพล้นยังไม่ทันเตรียมตัวใดๆพุ่งเข้าโจมตีเขาอย่างฉับพลัน

“ไอ้โง่ !!!”

ออทั่มแพล้นมองไปยังดีไวน์ชาโด้วที่กำลังใกล้เข้ามาด้วยท่าทีดูถูก ก่อนที่เขาจะโบกมือของตัวเองสร้างคลื่นแสงขึ้นมา

ทันใดนั้นก่อนที่ดีไวน์ชาโด้วจะทันได้ตอบสนองอะไร มันก็มีโซ่สีเลือดมากกว่าหนึ่งโหลปรากฎขึ้นมาจากความว่างเปล่าและพันธนาการเขาเอาไว้ และไม่ว่าดีไวน์ชาโด้วจะดิ้นรนยังไง เขาก็ไม่สามารถจะหลุดจากโซ่นี้ได้ แถมยิ่งเขาดิ้นรน มันก็ยิ่งทำให้เขาอ่อนแอลงเรื่อยๆด้วย

“เป็นไปได้ยังไง ?!” คลีนซิ่งเฟรมที่ได้เห็นฉากนี้เต็มไปด้วยความตกตะลึง

ดีไวน์ชาโด้วนั้นคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนของฮีฟเว่นเบลด และหลังจากเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของผู้เล่นขั้นสี่ได้ แต่เขาก็น่าจะทนได้สักหนึ่งถึงสองการเคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตามตอนนี้ดีไวน์ชาโด้วกับถูกพันธนาการทันทีที่คิดจะเคลื่อนไหวโจมตีอย่างฉับพลัน นี่มันได้ทำลายสิ่งที่พวกเขาคิดว่าตัวเองรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับอาชีพขั้นสี่ไปทันที

“เหอะ ! นี่พวกคุณไม่รู้รึไงว่าช่องว่างระหว่างขั้นสามกับขั้นสี่มันยิ่งใหญ่มากแค่ไหน ?! นี่ไม่ต้องพูดถึงกับนักเวทย์ขั้นสี่อย่างฉันเลย คุณคิดจริงๆหรอว่าเมื่อคุณโจมตีอย่างฉับพลันแล้วฉันจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย ?” ออทั่มแพล้นกล่าวพลางมองไปที่ดีไวน์ชาโด้วด้วยความดูถูก “พูดกันตามตรง ต่อให้ผู้เชี่ยวชาญชั้นสาม ขอบเขตโดเมนสิบคนที่เปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์พุ่งเข้ามาโจมตีฉันอย่างฉับพลันแบบที่คุณทำ แต่พวกเขาทั้งหมดก็จะเคลื่อนไหวต่อหน้าฉันได้ไม่เกินสองถึงสามการเคลื่อนไหวแน่นอน”

“แม่งเอ้ย !!! แม่ง !!! ทุกคนรีบแยกกันหนีให้ไวที่สุด พวกคุณจะต้องไม่ถูกเขาจับได้ !!!” ดีไวน์ชาโด้วรีบกล่าว ขณะที่เขามองไปยังคลีนซิ่งเฟรมและคนอื่นๆ

“เฮ้อ เป็นพวกที่ไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆสินะ ….” ออทั่มแพล้นกล่าวพลางโบกคทาของเขา

ทันใดนั้นโซ่สีเลือดก็ปรากฎขึ้นมาพันธนาการคนอื่นๆด้วย และมันก็ทำให้พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถขยับได้เลย โดยเมื่อมาถึงตรงนี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าพวกเขาเป็นแค่มดปลวกเท่านั้นต่อหน้าออทั่มแพล้น

“อาชีพขั้นสี่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไงกัน ?!”

ในเวลานี้ดีไวน์ชาโด้ว คลีนซิ่งเฟรม และคนอื่นๆล้วนมองไปยังออทั่มแพล้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

พวกเขาได้ดูวีดีโอการต่อสู้ของซือเฟิงมาแล้วในตอนการแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสำรองของสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แม้ว่าขั้นสี่จะแข็งแกร่ง แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถเผชิญหน้าด้วยได้เลย แต่ตอนนี้พวกเขากับไม่สามารถจะต่อต้านออทั่มแพล้นได้เลย ความแข็งแกร่งที่ออทั่มแพล้นแสดงออกมาตอนนี้มันมากกว่าตอนที่ซือเฟิงแสดงออกมาในการแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสำรองของสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดซะอีก

ในระหว่างที่ดีไวน์ชาโด้ว คลีนซิ่งเฟรม และคนอื่นๆกำลังตกตะลึงกับเรื่องนี้ สมาชิกวอร์บลัดที่อยู่ใกล้ๆก็ได้ตรงเข้าไปจับกุมพวกเขาทั้งหมด

“โอเค ส่งพวกนี้ไปให้พวก NPC เลย” ออทั่มแพล้นมองไปยังดีไวน์ชาโด้ว และคนอื่นๆ ซึ่งมันก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ “คราวนี้เราจับปลาตัวใหญ่ได้สองตัว มาดูกันว่าซีเว่ยจะยังดื้อรั้นต่อไหม !!!”

“มันจบแล้ว ! จบแล้ว !! เราจบสิ้นแล้ว !!!” ดีไวน์ชาโด้วมองไปที่สมาชิกของฮีฟเว่น
เบลดคนอื่นๆที่ถูกจับกุมด้วยความสิ้นหวัง “ครั้งนี้ฉันพาทุกคนมาตายอย่างแท้จริง !!!”
ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับมาให้ดี และตอนนี้เขาก็ได้พาทุกคนมาตาย ….

เมื่อถูกจับกุมโดย NPC นั้น แม้ว่าผู้เล่นจะไม่ได้ถูกบังคับให้ออฟไลน์ แต่มันก็ไม่ได้มีประโยชน์ใดๆเลย หากพวกเขาไม่สามารถจะแหกคุกออกมาได้ เพราะท้ายที่สุดพวกเขาจะต้องถูกขังอย่างน้อยสิบห้าวันเลย ….

สิบห้าวันนั้นมันนานเกินพอที่จะทำให้พวกเขาถูกผู้เล่นชั้นแนวหน้าของ God domain คนอื่นๆทิ้งไปไกลมาก

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ดีไวน์ชาโด้วกำลังสิ้นหวังและตำหนิตัวเองอยู่ มันก็มีอินทรีมีเขาบินเข้ามาอย่างช้าๆจากระยะไกล โดยอินทรีตัวนี้นั้นมีผู้เล่นสี่คนนั่งอยู่บนหลังของมัน และตราบริเวณที่นั่งของมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันเป็นอินทรีของฮีฟเว่นเบลด ….

“พวกเศษเหลือเดนของฮีฟเว่นเบลดอีกแล้วงั้นหรอ ? และดูเหมือนว่านี่ก็จะเป็นปลาตัวใหญ่อีกตัวซะด้วย …” ออทั่มแพล้นอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างมีความสุขออกมา เมื่อได้เห็นดังนี้

ฉากนี้ทำให้ดีไวน์ชาโด้ว คลีนซิ่งเฟรม และคนอื่นๆรู้สึกงุนงงมากๆ พวกเขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมถึงมีอะเม้าท์บินได้ของฮีฟเว่นเบลดบินมาจากโลกภายนอกได้ อย่างไรก็ตามแม้จะงุนงง แต่พวกเขาก็ได้พยายามจะส่งสัญญาณให้ผู้ขับอะเม้าท์บินได้ผู้นี้หนีไป

แม้ว่าขั้นสี่จะแข็งแกร่ง แต่ความเร็วในการบินของพวกนี้ก็ยังไม่สามารถจะเทียบกับอะเม้าท์บินได้ ได้ …. มันยังคงมีความหวังที่จะหลบหนีอยู่ หากผู้ที่เข้ามาบังคับให้อะเม้าท์บินได้หนีเต็มกำลัง

“หนี ? คุณคิดว่ามันจะเป็นไปได้งั้นหรอ ?!”

ออทั่มแพล้นได้เคลื่อนตัวไปปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของผู้ที่เข้ามาใหม่นี้ เหมือนกับที่เขาทำกับดีไวน์ชาโด้วและคนอื่นๆทันที

สำหรับจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ เมื่อใช้ใช้สกิลบลิ้งนั้น พวกเขาจะสามารถเคลื่อนที่ก้าวผ่านระยะได้สูงสุดสามพันหลาทันที ซึ่งนี่มันเป็นสิ่งที่ผู้เล่นนักเวทย์ขั้นสามเทียบไม่ติดเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด