Reincarnation Of The Strongest Sword God 2810

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2810 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2810 กระจกแห่งโลก

สำหรับไอเทมที่ซาบริจด์ดรอปนั้น ซือเฟิงได้คิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆนาๆ เขาคิดกระทั่งว่าซาบริจด์มีสิทจะดรอปไอเทมระดับตำนานที่เสียหายแบบดาบแสงแห่งสองโลกด้วยซ้ำ เพราะท้ายที่สุด เขาได้ฆ่า NPC ขั้นสี่ที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีจำนวนอยู่ไม่มากนักในเมืองดราก้อนฮาร์ท

อีกทั้งถ้าซาบริจด์ไม่ริเริ่มจะยั่วยุเขาก่อน และยังคงยืนอยู่ในเมืองอยู่ เขาก็คงจะไม่มีโอกาสฆ่าซาบริจด์เลย

เนื่องจากวงเวทย์ของเมืองดราก้อนฮาร์ทนั้นสามารถจะบัฟและช่วยเพิ่มค่าสถานะต่างๆให้กับ NPC ของเมืองได้ เว้นแต่ว่าซาบริจด์จะเมิดกฎของเมืองดราก้อนฮาร์ท ซึ่งหากเขากล้าที่จะต่อสู้กับซาบริจด์ในเมืองดราก้อนฮาร์ทจริงๆ NPC คนอื่นๆก็จะเข้ามาช่วยซาบริจด์อย่างแน่นอน และเขาก็คงจะไม่สามารถฆ่าซาบริจด์ได้

และสาเหตุนั้นมันก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากพวก NPC ขั้นห้าระดับสูงของเมืองนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชร่า เวเรีย ผู้บัญชาการกองอัศวินดาวศักสิทธิ์ ที่มันจะเป็นเรื่องง่ายเลยสำหรับเธอที่จะฆ่าเขาในการเคลื่อนไหวเดียว

ในเวลานี้ซือเฟิงก็ได้มองไปที่กระจกคริสตัลในมือของเขา และเริ่มคาดเดาถึงตัวตนจริงๆของซาบริจด์

เพราะท้ายที่สุดไอเทมที่อยู่ตรงหน้าเขานั้น มันไม่ใช่ของที่ NPC ขั้นสี่ควรจะได้รับมาเลย

ซือเฟิงเหลือบมองไปที่กระจกคริสตัล กับคริสตัลสีดำ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “กระจกแห่งโลกที่คนๆหนึ่งจะได้รับมาหลังจากครอบครองทั้งจักรวรรดิได้อย่างสมบูรณ์แล้วในชีวิตก่อนหน้านี้ของฉันกับมาอยู่ในมือของ NPC ขั้นสี่ตอนนี้ ถ้าฉันไปบอกเหล่ามหาอำนาจต่างๆในชีวิตที่แล้วของฉัน มันก็คงจะไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้แน่นอน”

กระจกแห่งโลก !!

หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากระจกแห่งห้วงอวกาศ มันจัดเป็นสมบัติโบราณอย่างแท้จริง มันไม่ใช่สิ่งของที่พวกเทพในยุคปัจจุบันจะสร้างได้

เพราะสิ่งนี้ทั้งหมดนั้นล้วนถูกสร้างขึ้นมาโดยฝีมือของเทพโบราณ และแม้แต่การจะสร้างเลียนแบบมันก็ยังแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

สิ่งนี้นั้นมันนับเป็นมรดกของจักรวรรดิอย่างแท้จริง !!

หากผู้เล่นไม่สามารถจะควบคุมจักรวรรดิๆหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์ มันก็ไม่ควรจะมีทางเลยที่ผู้เล่นจะได้รับไอเทมชิ้นนี้มา

แน่นอนว่ากระจกแห่งโลกที่ซาบริจด์ได้มานั้นมันก็ยังไม่สมบูรณ์ เพราะกระจกแห่งโลกนั้นมันเป็นชุดกระจกสิบสองด้านสิบสองชิ้น บวกกับแกนควบคุมของมัน มันจึงจะกลายเป็นกระจกแห่งโลกที่สมบูรณ์ โดยมันมีความสามารถในการจะปิดผนึกโลกท้องฟ้าและโลก รวมทั้งเคลื่อนย้าย ถ่านโอนจักรวาลด้วย

ซึ่งการปิดผนึกท้องฟ้าและโลกนั้น มันไม่ได้เหมือนกับการทำจากเวทย์ หรือสกิลทั่วไป เพราะพื้นที่ท้องฟ้าและโลกที่ถูกปิดผนึกจากกระจกแห่งโลกนั้น พูดกันตามตรงคือมันจะกลายเป็นโลกใบเล็กอีกใบหนึ่งเลย

โดยในโลกใบเล็กนี้ แม้แต่พวกขั้นห้าก็ยังยากที่จะทำลายมัน และตราบใดที่ถูกจับเข้าสู่โลกใบเล็กนี้ความแข็งแกร่งของคนๆหนึ่งก็จะลดลงอย่างมากด้วย ซึ่งจะลดลงไปเหลือราวสิบเปอเซ็นต์จากเดิม

ยิ่งไปกว่านั้นผลของมันยังครอบคลุมระยะที่กว้างมากๆ และมันจะไม่มีปัญหาในการจะปิดผนึกแผนที่ขนาดใหญ่เลย

ตราบใดที่กองกำลังหนึ่งมีกระจกแห่งโลกแบบนี้ แม้แต่พวกขั้นหกก็ยังยากจะหลุดรอดออกมาได้เลย เพราะท้ายที่สุดแล้วภายในกระจกแห่งโลกนั้นมันลดพลังการต่อสู้ของผู้ที่อยู่ภายในที่เป็นศัตรูลงไปมาก ไม่เว้นแม้แต่พวกขั้นหก

และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ซุเปอร์กิลบางแห่งที่มีผู้เชี่ยวชาญขั้นหกหลายคน พ่ายแพ้ให้แก่กิลชั้นสูงที่มีผู้เชี่ยวชาญขั้นหกเพียงคนเดียวด้วย ….

สำหรับในตอนนี้ แม้ว่ามันจะไม่สมบูรณ์ แต่มันก็ยังคงสามารถใช้ได้ในระดับหนึ่ง และหากซือเฟิงติดตั้งมันลงไปในเมืองกิล เมืองใดเมืองหนึ่งของสภาสิบแปดปีก เมืองนั้นก็จะมีศักยภาพมากพอที่จะกลายเป็นเมืองหลวงขั้นสูงหรือเหนือกว่านั้นได้เลยด้วยซ้ำ

ซึ่งในเมื่อซาบริจด์ดรอปของแบบนี้ออกมา มันจะไม่ทำให้ซือเฟิงตกตะลึง และประหลาดใจได้อย่างไร ?

“แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าจริงๆแล้วซาบริจด์เป็นใครกันแน่ แต่ตอนนี้ในเมื่อกระจกแห่งโลกตกมาอยู่ในมือของฉันแล้ว ดังนั้นฉันก็สามารถจะเปลี่ยนแผนการพัฒนาบางอย่างได้เล็กน้อย” ซือเฟิงมองไปที่กระจกแห่งโลกในมือด้วยความคิดมากมายที่ผุดขึ้นมา

กระจกแห่งโลกที่ไม่สมบูรณ์นี้ มันยังคงมีผลที่น่าทึ่งอยู่ และแม้ว่าซือเฟิงจะไม่สามารถใช้มันสร้างเมืองหลวงขั้นสูงหรือเหนือกว่านั้นได้ แต่พลังของมันก็น่าจะเพียงพอให้เขาใช้สร้างเมืองหลักกิล

ซึ่งถ้าสภาสิบแปดปีกมีเมืองกิลที่เป็นเมืองหลักในระยะนี้ของเกม มันก็จะน่าทึ่งมากๆ

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าเมื่อเมืองกิลกลายเป็นเมืองหลักนั้น มันจะเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่มาก โดยที่มันจะสามารถรองรับผู้เล่นหลายสิบล้านคนได้อย่างง่ายดาย และในแง่ของพื้นที่มันมีขนาดใหญ่กว่าเมืองขนาดใหญ่ขั้นสูงถึงสามเท่า ขณะที่ในแง่ของการป้องกัน มันก็ไม่มีปัญหาเลยที่จะป้องกันจากพวกขั้นสี่

ส่วนประเด็นที่สำคัญที่สุดของเมืองหลักก็คือ เมื่อกิลมีมันนั้น หากพวกเขาไม่ได้นำเมืองไปตั้งอยู่ในดินแดนลับหรือดินแดนต้องห้ามที่มีเลเวลสูงมากจริงๆ พวกเขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องการป้องกันการรุกรานจากพวกมอนสเตอร์เลย

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ซือเฟิงกำลังคิดว่า เขาจะใช้กระจกแห่งโลกกับเมืองกิลเมืองใดดี มันก็ได้มีคนติดต่อเขาเข้ามา

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ซุเปอร์กิลของเราทั้งสองได้รวบรวมคนที่คุณต้องทั้งหมดมาไว้พร้อมที่เมืองดราก้อนฮาร์ทแล้ว” หมิงเทียนจางชุ่ยกล่าวอย่างกังวลเล็กๆ “คุณจะมารับพวกเขาเมื่อไหร่ ?”

“นี่ทำกันได้เร็วขนาดนั้นเลยหรอ ?” ซือเฟิงมองไปที่เวลาที่พึ่งจะผ่านไปเพียงครึ่งวันด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ด้วยความที่เมืองดราก้อนฮาร์ทนั้นยังคงถูกปิดกั้นเส้นทางการเดินทางส่วนใหญ่อยู่ โดยเฉพาะกับการเทเลพอร์ต ดังนั้นมันจึงไม่ได้ง่ายเลยที่จะเดินทางเข้ามาที่เมือง และยิ่งเป็นการเดินทางเข้ามาของผู้เล่นจำนวนมากด้วยแล้ว ….
ดังนั้นซือเฟิงจึงได้เลือกจะให้เวลาซุเปอร์กิลทั้งสองถึงครึ่งเดือน อย่างไรก็ตามพวกเขากับทำทุกอย่างเสร็จในครึ่งวัน ….

“แน่นอน” หมิงเทียนจางชุ่ยหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมอย่าลมืสิว่าซุเปอร์กิลทั้งสองของเรานั้นมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาในทะเล ดังนั้นพวกเราจึงมีวิธีพิเศษของตัวเองเช่นกันในเรื่องนี้”

“โอเค งั้นฉันจะไปรับพวกเขาทันที”

ซือเฟิงพยักหน้า ก่อนที่เขาจะรีบเดินออกจากร้านค้าพ่อค้าเร่ไปเพื่อรับคนของทั้ง
สองกิลโดยตรง

ซึ่งทั้งผู้อาวุโสหวู่และหมิงเทียนจางชุ่ยนั้นก็เข้าใจความคิดหลายสิ่งของซือเฟิงดี ดังนั้นพวกเขาจึงได้นัดสถานที่ส่งมอบคนเหล่านี้ที่บริเวณหุบเขา นอกเมืองดราก้อนฮาร์ท เพื่อเป็นการช่วยซือเฟิงปกปิดความตั้งใจของเขาไปอีกทางหนึ่ง

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม เรานำคนทั้งหมดมาให้คุณครบตามจำนวนแล้ว นับตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่งานของคุณเสร็จ คนเหล่านี้จะปฎิบัติตามคำสั่งทุกอย่างของคุณอย่างไม่มีข้อแม้ และทุกสิ่งที่พวกเขาก็จะถูกเก็บเป็นความลับ” หมิงเทียนชุ่ยกล่าวพลางชี้ไปยังคนนับหมื่น และพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ทั้งสองกิลของเราได้เติมเต็มสัญญาในส่วนนี้แล้ว คุณจะให้ทั้งสองกิลของเราเข้าไปปฎิบัติการในหอคอยโลกได้เมื่อไหร่ ?”

ในปัจจุบันนั้นสิ่งที่พวกเขากังวลที่สุดคือเรื่องการเข้ายึดครองป้อมปราการของวอร์
บลัดนชั้นใต้ดินชั้นที่สี่นี่แหละ เพราะยิ่งพวกเขายึดครองมันได้เร็วเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์มากขึ้น และตั้งมั่นที่นั่นได้ดีขึ้นมากเท่านั้น ไม่งั้นพวกเขาก็คงจะไม่ยอมใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อนำเอาคนเหล่านี้มารวมตัวกันที่นี่ให้ซือ
เฟิงอย่างรวดเร็วหรอก ….

เมื่อซือเฟิงเห็นท่าทีกระตือรือร้นของหมิงเทียนจางชุ่ย เขาก็ยิ้มและพูดว่า “คุณสามารถเริ่มเข้าไปจัดการสิ่งที่คุณต้องการในหอคอยโลกได้เลย ฉันได้แจ้งกับยู่หลัวเรื่องนี้ไปแล้ว ด้วยฐานะอัศวินกิตติมศักดิ์แห่งกองอัศวินดาวศักสิทธิ์ หากพวกมือลับกล้าจะดำเนินการใดๆต่อพวกคุณ พวกเขาไม่รอดแน่ ดังนั้นเริ่มจัดการสิ่งที่คุณต้องการได้เลย”

“ขอบคุณ หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม” เมื่อได้ยินคำรับรองจากซือเฟิง หมิงเทียนจางชุ่ยก็มีดวงตาที่สว่างวาบขึ้น “งั้นฉันก็มีเรื่องด่วนที่จะต้องไปจัดการแล้ว ฉันขอตัวก่อน”

ซือเฟิงเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น เขาไม่ได้กล่าวอะไรต่อ เขารู้ดีว่าเรื่องด่วนที่ว่าที่หมิงเทียนจางชุ่ยรวมทั้งคนของสิบสามบัลลังก์จะไปจัดการก็คือเรื่องการเข้าสู่หอคอยโลก

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้นำคนที่เหลือ ซึ่งเป็นพวกคนที่เขาร้องขอเดินทางไปยังเกาะร้างแห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณเกาะดราก้อนฮาร์ท โดยเกาะนี้นั้นซือเฟิงได้ตั้งด่าน รวมทั้งวงเวทย์ไว้โดยรอบทั้งหมดเพื่อปิดผนึกมัน ซึ่งเมื่อเข้าไปด้านในเกาะแล้ว ผู้เล่นที่อยู่ภายในก็จะไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกได้เลย พูดกันตามตรงผู้ที่อยู่ภายในนั้นไม่สามารถแม้แต่จะออฟไลน์ได้ด้วยซ้ำ หากพวกเขาต้องการจะออฟไลน์ พวกเขาก็จะต้องเดินทางออกจากเกาะนี้มาก่อนเท่านั้น

สามวันต่อมา บนเกาะร้างบริเวณเกาะดราก้อนฮาร์ท

โซริทารี่ไนน์ได้บินเข้ามาหาซือเฟิงที่กำลังทำการวาดวงเวทย์หลักอยู่บริเวณป้อมปราการเคลื่อนที่ที่มีขนาดเท่ากับภูเขา “ผู้บัญชาการ ฉันได้พึ่งได้รับข่าวใหม่มาจากเมืองดราก้อนฮาร์ทว่า พวกมิราเคิลกับสตาร์ลิ้งนั้นพร้อมจะเคลื่อนไหวแล้ว เราจะเริ่มกันเลยไหม ?”

หลังจากซือเฟิงวาดวงเวทย์หลักวงสุดท้ายเรียบร้อย เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ….

“พวกเขานี่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจริงๆนะ …” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะ “โอเค ด้านของฉันเองก็เรียบร้อยแล้ว เราจะเริ่มกันเลยตอนนี้แหละ ไปบอกให้ไลฟ์เลสธอร์นเตรียมการให้พร้อม พวกเราจะเดินทางกลับไปยังอาณาจักรทวินทาวเวอร์เดี๋ยวนี้ !!!”

“รับทราบ !!” โซริทารี่ไนน์พยักหน้าด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด