Reincarnation Of The Strongest Sword God 2842

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2842 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2842 Upper Zone ที่เงียบสงัด

เมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาแบบนี้ ฝูงชนที่พูดคุยกันอยู่บนท้องถนนก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองหาที่มาของเสียงทันที

ซึ่งฝูงชนก็ได้เห็นว่าเสียงที่พูดขึ้นมาเมื่อกี้นั้นคือชายหนุ่มคนหนึ่งที่แต่งตัวดูธรรมดามากๆ และเขาก็ไม่ได้แผ่ออร่าที่แข็งแกร่งใดๆออกมาเลย

โดยคนๆนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซือเฟิงที่สวมชุดลำลองสีเทาเข้ม แม้ว่าความสูงของเขาจะเพิ่มขึ้นมาจากสมรรถภาพร่างกายที่ดีขึ้น แต่เขาก็ยังไม่สามารถจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ที่ดูธรรมดาๆของเขาได้เลย

“นี่เขาเป็นใครกัน ? เขากล้าหาญเกินไปหน่อยไหม ?”

“คนๆนี้ได้ตายแน่นอน แม้ว่าเขาจะเป็นทายาทของบริษัทยักษ์ใหญ่ใน Upper Zone เช่นกัน แต่เขาก็ไม่ควรที่จะทำให้ลู่เทียนตี้เสียหน้ากลางที่สาธารณแบบนี้เลย !!!”

“นี่คนๆนี้พึ่งจะเข้าสู่ Upper Zone มาใหม่รึปล่าว ?”

ทุกคนที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุนั้นล้วนมองไปยังซือเฟิงด้วยความตกใจ พวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำอยู่ใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียนจริงๆ

ท้ายที่สุดแล้วบริษัทสตาร์ไลน์ก็ยังคงเป็นบริษัทสตาร์ไลน์ พวกเขามีทั้งอิทธิพลและคนของพวกเขาจำนวนมากที่นี่ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ทายาทของบริษัท
สตาร์ไลน์อย่างลู่เทียนตี้จะหยิ่งผยองมากๆ

แถมความหยิ่งผยองของลู่เทียนตี้นั้นมันยิ่งขึ้นไปมากกว่าลู่ชิงหลัว ที่เป็นทายาทคนก่อนหน้านี้ที่ถูกปลดไปด้วย เพราะว่าลู่เทียนตี้นั้นได้รับการสนับสนุนอย่างลับๆอยู่จากยักษ์ใหญ่ในชั้นกลางของ Upper Zone ของเมืองไห่เทียนด้วย ….

เมื่อลู่ชิงหลัวถูกปลดออกจากตำแหน่งทายาทของบริษัทสตาร์ไลน์ ลู่เทียนตี้ก็ได้ถูกแต่งตั้งเข้ามาแทนที่แทบจะทันที และเนื่องจากเรื่องนี้ของลู่เทียนตี้เอง มันก็ทำให้อิทธิพลของบริษัทสตาร์ไลน์ที่นี่เพิ่มขึ้นมากๆจนแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆก็ยังไม่กล้าจะแตะต้อง
ไม่งั้นอี้กุ้ย พ่อบ้านของลู่เทียนตี้ก็คงจะไม่กล้าประกาศ และพูดอย่างหยิ่งผยองแบบนี้ต่อหน้าสาธารณชนแน่นอน

ขณะเดียวกันจี้ลั่วหรงที่ยืนอยู่ที่มุมหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ และสงสัย เธอไม่คิดเลยว่ามันจะมีใครที่กล้ายืนหยัดขึ้นเพื่อเธอ ….

แต่อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นแบบนี้นั้น เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะกังวลมากๆ เพราะท้ายที่สุดตัวตนของลู่เทียนตี้นั้นค่อนข้างพิเศษมากๆ และเขาจะได้ขึ้นไปอาศัยในชั้นกลางเมื่อไหร่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ซึ่งนี่มันก็ทำให้แม้แต่บริษัทกรีนก๊อดก็ยังต้องให้ใบหน้าแก่เขา ….

แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับกระทำการที่เป็นเหมือนการตบหน้าเขากลางที่สาธารณะ ….

“ชายหนุ่ม คุณนี่มันช่างกล้าหาญจริงๆ คุณรู้ไหมว่านายน้อยของฉันเป็นใคร ?” พ่อบ้านอี้กุ้ยอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยดวงตาที่เย็นชา “หรือว่าคุณอยากจะเป็นศัตรูกับบริษัทสตาร์ไลน์ของเรา ?”

เขาได้พูดขู่ทั้งหมดไปก่อนหน้านี้ว่าหากจี้ลั่วหรงไม่ตอบรับคำเชิญของนายน้อยของเขา มันก็จะไม่มีใครใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียนกล้าแลกเปลี่ยนทรัพยากรกับเธอแน่นอน แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับออกมาพูดโต้ตอบ และย้อนถามคำพูดของเขา ซึ่งนี่มันนับเป็นการตบหน้ากันชัดๆ

เมื่อได้ยินคำพูดของอี้กุ้ย ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงด้วยความเห็นใจ ตอนนี้เมื่ออี้กุ้ยเลือกจะใช้คำพูดแบบนี้ หากซือเฟิงพยายามจะต่อต้าน หรือยียวนต่อไป ผลที่ตามมามันจะย่ำแย่สำหรับเขาแน่นอน

และพูดกันตามตรง ซือเฟิงอาจมีสิทที่จะต้องเผชิญชะตากรรมที่แย่กว่าจี้ลั่วหรงเลยก็ได้ ซึ่งนั่นก็คือการถูกขับไล่ออกจาก Upper Zone โดยตรง

จี้ลั่วหรงที่ได้ยินคำพูดของอี้กุ้ยนั้นได้ตัดสินใจที่จะรีบเดินเข้ามาห้ามปรามการกระทำของซือเฟิง เพราะท้ายที่สุดแล้ว เธอไม่อยากจะลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องให้เข้ามาเดือดร้อนไปกับเธอด้วย

แต่อย่างไรก็ตามมู่ฉินนั้นได้เข้ามาห้ามจี้ลั่วหรงเอาไว้
“น้องสาวที่น่ารัก คุณไม่ต้องเป็นห่วงหมอนั่นหรอก ….” มู่ฉินกล่าวพลางมองไปยังจี้ลั่วหรงที่มีท่าทีเป็นห่วงซือเฟิงด้วยรอยยิ้ม “เมื่อเขาออกหน้าแบบนี้ แม้แต่บริษัทสตาร์ไลน์ก็จะทำอะไรกับคุณไม่ได้แน่นอน”

ซือเฟิงนั้นไม่เพียงแต่จะเป็นผู้มีอำนาจเกรด 1 ของ Upper Zone เท่านั้น แต่เขายังเป็นสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินด้วย (นี่คือชื่อของศิลปะการต่อสู้ที่ซือเฟิงฝึก นับจากนี้แอดจะใช้ชื่อนี้ จะได้แยกศิลปะการต่อสู้แต่ละอย่างออกง่ายๆ ไม่ทับกัน) ดังนั้นทายาทของบริษัทสตาร์ไลน์อย่างลู่เทียนตี้ และพ่อบ้านอี้กุ้ยจะไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้แน่นอน

จี้ลั่วหรงมองไปที่มู่ฉินด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่ามู่ฉินนั้นไม่ธรรมดา แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะกังวล “แต่ …”

อย่างไรก็ตามจี้ลั่วหรงยังพูดไม่ทันจบ เสียงที่ทุ้มลึกของซือเฟิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“เป็นศัตรูแล้วมันยังไงล่ะ ?”

คำพูดที่ฟังดูง่ายๆของซือเฟิงนั้นทำให้ผู้คนโดยรอบอ้าปากค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“นี่เขาเป็นบ้ารึไงกัน ?!”

“เขากล้าจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับบริษัทสตาร์ไลน์แบบเปิดเผยเนี่ยนะ … เขาเบื่อชีวิตแล้วรึไงกัน ?!!”

ก่อนหน้านี้นั้นทุกคนไม่ได้หวาดกลัวบริษัทสตาร์ไลน์เลย เพราะท้ายที่สุดแล้วอำนาจของพวกเขาก็ล้วนมีเท่าๆกัน และทุกๆคนก็ล้วนเป็นผู้อยู่อาศัยในชั้นพื้นฐานของ Upper Zone เมืองไห่เทียนเหมือนกัน ดังนั้นพวกเขาจะต้องมากลัวบริษัทสตาร์ไลน์ไปทำไม ?

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทั้งหมดมันได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อลู่เทียนตี้ ทายาทคนใหม่ของบริษัทสตาร์ไลน์นั้นมีคนที่อาศัยอยู่ในชั้นกลางหนุนหลังอยู่

พวกคนที่อาศัยอยู่ในชั้นกลางนั้นสามารถจะหาเหตุผลต่างๆนาๆมาทำให้บริษัทกรีน
ก๊อดไล่พวกเขาออกจาก Upper Zone ได้ง่ายๆเลย และต่อให้พวกเขาไม่ผิดอะไรเลย แต่กว่าจะพิสูจน์ได้มันก็จะต้องใช้เวลานานมาก ซึ่งระยะเวลานี้มันก็จะขยายออกไปอีกด้วย หากต้องการกลับเข้ามาใน Upper Zone เหมือนเดิม
อี้กุ้ยนั้นตกตะลึงไปชั่วครู่หนึ่งกับคำพูดของซือเฟิง ก่อนที่เขาจะแสดงท่าทีที่โกรธมากๆออกมา

“ชายหนุ่ม !!! คุณนี่ช่างรนหาที่ตายจริงๆ !!! ฉันคงจะต้องหักกระดูกคุณสักเล็กน้อยเพื่อสอนบทเรียนให้กับคุณ !!!”

แม้ว่าการต่อสู้กันจะถูกห้ามอย่างเด็ดขาดใน Upper Zone และผู้ที่กล้ากระทำมันก็จะถูกบริษัทกรีนก๊อดขับไล่ออกจาก Upper Zone อย่างถาวร แต่กฎนี้มันไม่ได้ครอบคลุมไปถึงการทะเลาะวิวาทกันเล็กๆ เพราะท้ายที่สุดแล้วบริษัทกรีนก๊อดนั้นเข้าใจดีว่าทุกคนที่ได้เข้ามาที่ Upper Zone ล้วนเป็นยักษ์ใหญ่และผู้มีความสามารถ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้อยากจะขัดแย้งกับคนเหล่านี้มากนัก การทะเลาะวิวาทเล็กๆจึงเป็นสิ่งที่พอจะยอมรับได้ ….

สำหรับอี้กุ้ย เมื่อเขาพูดจบ เขาก็พุ่งเข้าใส่ซือเฟิงทันที โดยในทุกๆที่ที่เขาเคลื่อนตัวผ่านนั้นก็ทำให้พื้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆเลย และเมื่อมาถึงตรงหน้าของซือเฟิง เขาก็ได้ปล่อยหมัดที่รวดเร็วออกไปโดยเล็งเข้าใส่ใบหน้าของซือเฟิงทันที

“หื้ม ?! เขาทำให้พื้นแตกได้แบบนี้ และมีความเร็วแบบนี้ นี่เขาเป็นสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนงั้นหรอ ?!!”

ทุกคนที่เห็นการเคลื่อนไหว และการกระทำของอี้กุ้ยที่พุ่งเข้าโจมตีซือเฟิงนั้นอดไม่ได้ที่จะตกใจ

แม้จะอยู่ใน Upper Zone แต่การจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนนั้นมันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยคนๆหนึ่งนั้นจะต้องผ่านการฝึกฝนที่หนักและยากลำบากมากๆ เพราะท้ายที่สุดแล้วสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนทุกคนล้วนมีร่างกายที่แข็งแกร่งราวกับสัตว์ประหลาด

และสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนนั้นก็เป็นตัวตนที่ค่อนข้างจะได้รับความเคารพสูงมากจากบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ….

ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการเลยว่าสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนนั้นได้ยอมมาเป็นพ่อบ้านให้กับทายาทของบริษัทสตาร์ไลน์

ในตอนนี้นั้น ในขณะที่คนอื่นๆรู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ มันก็มีเพียงแต่จี้ลั่วหรง และลู่เทียนตี้เท่านั้นที่ไม่แปลกใจ

“มันจบแล้ว ….” จี้ลั่วหรงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว และหลับตาลง

เธอรู้มานานแล้ว เรื่องที่อี้กุ้ยนั้นเป็นสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนนั่นเพราะว่าอี้กุ้ยนั้นเคยเปิดเผยความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดให้เธอเห็นมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นเธอจึงรู้ดีเลยว่าอี้กุ้ยนั้นไม่ใช่คนธรรมดา

สำหรับปรมาจารย์ทั่วไปนั้น หากถูกอี้กุ้ยโจมตีโดยตรง อี้กุ้ยก็จะสามารถจะหักกระดูกพวกเขาจนพวกเขาต้องไปนอนโรงพยาบาลเป็นสิบเดือนได้สบายๆเลย ….

ตู้ม !!

การโจมตีของอี้กุ้ยนั้น แม้แต่ผู้ที่อยู่ห่างออกไปนับสิบหลาก็ยังสัมผัสได้ถึงคลื่นความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน

ในเวลานี้หลายคนที่เฝ้ามองอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะหลับตาลง เพราะท้ายที่สุดแล้วต่อให้ซือเฟิงเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ แต่ถ้าเขาถูกสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนอย่างอี้กุ้ยโจมตีโดยตรงแบบนี้ เขาก็จะเละแน่นอน ….

และตอนนี้มันมีเสียงระเบิดที่รุนแรงดังขึ้น ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าซือเฟิงได้ถูกอี้กุ้ยโจมตีโดยตรง ….

แต่เมื่อทุกคนเริ่มลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับภาพที่เห็น

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”

พวกเขาได้เห็นซือเฟิงยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ซือเฟิงได้ใช้เพียงมือเดียวรับการโจมตีจากหมัดของอี้กุ้ยที่เข้ามา

ณ จุดนี้นั้น แม้แต่อี้กุ้ยซึ่งเป็นผู้โจมตีเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับเรื่องนี้ และพูดกันตามตรง เขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงด้วยซ้ำ

“คุณโจมตีเรียบร้อยแล้วสินะ …” ซือเฟิงกล่าวอย่างสบายๆ ขณะที่มองไปยังอี้กุ้ย “งั้นคราวนี้ก็ถึงตาฉันบ้าง !!!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด