Reincarnation Of The Strongest Sword God 2843

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2843 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2843 สร้างชื่อเสียงใน Upper Zone

คำพูดของซือเฟิงนั้นทำให้อี้กุ้ยหน้าซีดลงไปทันที ….

เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ซือเฟิงสามารถจะป้องกันการโจมตีด้วยหมัดเมื่อครู่ของเขาได้ แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่น่าประหลาดใจเท่านั้น

โดยจากเรื่องที่น่าประหลาดใจเรื่องนี้ มันก็ทำให้เขาสามารถบอกได้เลยว่า ซือเฟิงนั้นน่าจะเป็นสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจิน หรือไม่ก็มีพลังใกล้เคียงนี้แน่นอน ….
ซึ่งในตอนแรกที่เขาปล่อยหมัดโจมตีซือเฟิงนั้นเขาใช้ความแข็งแกร่งที่เขามีเพียงห้าสิบเปอเซ็นต์เท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นมองว่าเป็นการใช้กำลังเต็มที่ต่อสู้ และทำให้เรื่องลุกลามเป็นเรื่องใหญ่

อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับแสดงพลังที่เหนือกว่าที่เขาคาดไว้ออกมาโดยสมบูรณ์ และซือเฟิงก็ทำให้เขาให้ต้องอับอายและเสียหน้าอย่างมากต่อหน้าสาธารณชน ซึ่งนี่มันเป็นการบังคับให้เขาต้องแสดงพลังที่แท้จริงทั้งหมดออกมา เพราะถ้าเขาไม่ทำนั้น เขาจะกลายเป็นที่หัวเราะในหมู่สาธารณชนของ Upper Zone แน่นอน หากแต่ว่าถ้าเขาทำแบบนั้น แล้วมันกลายเป็นเรื่องใหญ่ เขาก็จะโดนลงโทษอย่างหนักจากบริษัทกรีนก๊อดแน่นอน และถึงตรงนั้นแม้แต่ลู่เทียนตี้ก็จะไม่สามารถช่วยเขาได้

“ชายหนุ่ม คุณรนหาที่ตายแล้ว !!!”

อี้กุ้ยกล่าวพลางกัดฟัน จากนั้นสเต็ปเท้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป โดยเขาได้ก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าว และเหวี่ยงหมัดอีกข้างหนึ่งของเขาเข้าใส่ซือเฟิง

กำปั้นถล่มครึ่งก้าว !!

ครั้งนี้อี้กุ้ยได้เลือกจะทุ่มพลังอย่างเต็มที่ในทันที เพราะเขาต้องการจะทำให้ซือเฟิงเสียใจในสิ่งที่ซือเฟิงได้พูดไป

แต่ในครั้งนี้มันก็เหมือนกับครั้งก่อน ซึ่งซือเฟิงได้เลือกจะป้องกันการโจมตีของอี้กุ้ยด้วยมือเดียวเช่นเดิม

เมื่อเห็นดังนี้นั้นอี้กุ้ยก็ยิ้มอย่างเย็นชาออกมา

ความแข็งแกร่งห้าสิบเปอเซ็นต์ของเขานั้นไม่ได้เป็นภัยต่อสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจิน และสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินก็สามารถจะรับการโจมตีแบบนี้ของเขาเอาไว้ได้สบายๆโดยใช้ความแข็งแกร่งและทักษะของตัวเอง แต่การโจมตีโดยใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ของเขานั้นมันแตกต่างออกไป แม้ว่าจะเป็นสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินก็ตาม แต่หากเลือกจะใช้มือเดียวรับการโจมตีแบบนี้ของเขา กระดูกก็จะหักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน …. แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับเลือกจะใช้มือเดียวรับหมัดของเขาจริงๆ ….

ตู้ม !

เสียงระเบิดดังขึ้นในอากาศ และมันก็เห็นได้ชัดเลยว่าคลื่นความรุนแรงจากการโจมตีนี้นั้นมันมากกว่าในครั้งก่อนอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ออกมานั้นมันก็ทำให้อี้กุ้ยตกตะลึงมากๆ เพราะซือเฟิงนั้นสามารถรับการโจมตีจากหมัดของเขาไว้ได้ด้วยมือเดียวเช่นเดิม

เรื่องนี้มันทให้อี้กุ้ยรู้สึกสับสน และไม่เข้าใจมากๆว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง

“นี่ฉันกังวลว่าอาจมีบางอย่างไม่คาดคิดเกิดขึ้นจนใช้พลังออกไปไม่เต็มที่งั้นหรอ ?” อี้กุ้ยพึมพำ และพยายามหาเหตุผลที่มันสมเหตุสมผลที่สุดมารองรับกับเรื่องนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่งั้นสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินจะไปสามารถป้องกันหมัดที่ใช้พลังหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ของเขาด้วยมือเดียวได้ยังไงกัน ?

อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ไม่ได้ให้เวลาอี้กุ้ยได้คิดกับเรื่องนี้นานนัก เขาได้ก้าวไปข้างหน้า และใช้ฝ่ามือของเขาผลักเข้าใส่บริเวณหัวใจของอี้กุ้ยทันที

ซึ่งความเร็วของฝ่ามือของซือเฟิงนั้นนั้นเร็วมากจนอี้กุ้ยไม่มีเวลาจะตอบโต้ใดๆ ….

อย่างไรก็ตามอี้กุ้ยนั้นก็ไม่ได้สนใจใดๆกับเรื่องนี้ เพราะร่างกายของเขานั้นสามารถจะสร้างการป้องกันขึ้นมาเองได้โดยสัญชาตญาณ เมื่อศัตรูโจมตีมาแบบนี้ กล้ามเนื้อร่างกายทั้งหมดของเขาจะเริ่มกระชับเข้าหากันจนมีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกับเหล็กกล้า โดยมันสามารถจะรับการโจมตีที่รุนแรงที่เข้ามาและกระจายออกไปดั่งสายน้ำได้ ….

ซึ่งความสามารถแบบนี้นั้นคือความสามารถที่สุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนทุกคนมี …

สุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินนั้นจะเป็นที่รู้จักกันในเรื่องความสามารถของทักษะการต่อสู้ แต่สำหรับสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนนั้น พวกเขาจะเป็นที่รู้จักกันในเรื่องความแข็งแกร่งทางกายภาพ โดยหากทั้งสองฝ่ายมาต่อสู้กันนั้นสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนสามารถจะทนการโจมตีของสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินได้นับพันครั้ง แต่หากสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินถูกสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนโจมตีแม้แต่ครั้งเดียว พวกเขาก็อาจจะแพ้ได้ในทันทีเลย ….

ตู้ม !

ฝ่ามือของซือเฟิงโจมตีโดนอี้กุ้ยเต็มๆ แต่อย่างไรก็ตามอี้กุ้ยนั้นไม่ได้ถอยหลังไปหรือมีท่าทีใดๆเลย ตรงกันข้ามเขากับมองไปยังซือเฟิงด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันราวกับว่าฝ่ามือของซือเฟิงนั้นเป็นเพียงสายลมที่ไม่ควรกล่าวถึง

อย่างไรก็ตามไม่มีใครแปลกใจกับเรื่องนี้มากนัก ….

เนื่องจากนี่มันนับเป็นความสามารถตามปกติของสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนเลย ไม่งั้นเหล่ามหาอำนาจต่างๆใน Upper Zone คงจะไม่พยายามกันอย่างบ้าคลั่งเพื่อจะรับสมัครสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนหรอก

“ชายหนุ่ม ฉันยอมรับในความแข็งแกร่งของคุณนะ อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะทำร้ายฉันได้ …” อี้กุ้ยกล่าวอย่างเหยียดหยาม “ในทางตรงกันข้ามด้วยความแข็งแกร่งและพลังของสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจิน คุณจะมีแรงโจมตีฉันไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ ?”

ในแง่ของการควบคุมร่างกายนั้นสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินนั้นเก่งกาจกว่าสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดกันถึงด้านพละกำลังและร่างกายทางกายภาพนั้นสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนเหนือกว่ามาก

สุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนนั้นสามารถต่อสู้ได้สามวันสามคืนติดต่อกัน แต่สำหรับสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินนั้นแค่ครึ่งวันก็เต็มกลืนแล้ว

ด้วยเหตุนี้ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ทั้งสองสายนี้จึงมักจะมีปัญหากระทบกระทั่งกันตลอดเวลา เพราะสายฮั่วจินก็ด่าว่าสายเหิงเหลียนเป็นแค่พวกเต่าหัวหด ขณะที่พวกสายเหิงเหลียนก็ตอบโต้ว่าสุดท้ายแค่ชนะมันก็พอแล้วไม่ใช่หรอ ….

มู่ฉินที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกังวลเช่นกัน เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนจะยอมรับคนอย่างลู่เทียนตี้เป็นเจ้านาย สำหรับบริษัทโบลเดอร์ของเธอนั้น บริษัทต้องใช้ความพยายามอย่างมากเลยกว่าจะเชิญสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนมาทำงานให้ได้ และนอกจากพวกระดับผู้นำของตระกูลแล้ว สุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนก็ไม่เคยเกรงใจใครเลย

อย่างไรก็ตามตอนนี้อี้กุ้ย สุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนกับยอมรับลู่เทียนตี้เป็นเจ้านายอย่างแท้จริง

และเมื่อคนๆหนึ่งต้องมาเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดแบบนี้ใน Upper Zone ความเป็นอยู่ใน Upper Zone ของพวกเขาก็จะลำบากมากขึ้นแน่นอน

“มันไม่ได้ผลงั้นหรอ ?”

ในเวลานี้แม้แต่ซือเฟิงเองก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังอี้กุ้ยด้วยความประหลาดใจ

ตั้งแต่ที่ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาขึ้นไปอยู่ที่จุดสูงสุดของขั้นสี่ใน God domain นั้น เขาก็พบว่าในโลกแห่งความจริง การควบคุมร่างกายของเขาก็ดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเริ่มจะสามารถใช้เทคนิคที่เหมือนกับใน God domain ได้ในโลกแห่งความจริงแล้ว

นี่คือสาเหตุที่เขาจงใจจะยั่วยุอี้กุ้ย ….

เพราะตอนนี้เขาอยากรู้ว่าขีดจำกัดในปัจจุบันของเขานั้นอยู่ที่ตรงไหน ….

และเขาก็ได้รู้แล้วจริงๆ หลังจากที่เขาสามารถรับมือกับการโจมตีของอี้กุ้ยได้ด้วยมือเดียวแบบสบายๆ สำหรับตอนนี้ในตอนแรกเขาโจมตีนั้น เขาแค่ต้องการจะทดสอบอี้กุ้ยเท่านั้น อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาจะเริ่มเอาจริงแล้ว ….

สี่ฝ่ามือประสาน !!!

ซือเฟิงได้โจมตีออกไป แม้ว่าการโจมตีนี้ของเขามันจะดูเหมือนว่าเป็นฝ่ามือธรรมดาทั่วไป แต่จริงๆแล้วสี่ฝ่ามือที่ว่านี้มันได้หลอมรวมพลังทั้งหมดของเขาเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งการใช้เทคนิคโจมตีแบบนี้นั้นมันจะสูญเสียพลังงานอย่างมาก และต่อวันซือเฟิงก็ไม่น่าจะใช้ได้เกินสามครั้งด้วย

เมื่อโดนการโจมตีนี้เข้ามาอี้กุ้ยก็มองไปที่ซือเฟิงด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะยิ้ม

“ชายหนุ่ม มันถึงเวลบาที่ฉันจะต้องจัดการคุณสักที !!!”

อี้กุ้ยนั้นต้องการที่จะรีบเคลื่อนไหวโจมตีตอบโต้ทันที หากแต่ว่าเมื่อเขาต้องการจะเคลื่อนไหวนั้น ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน ก่อนที่จะล้มลงกับพื้น พร้อมกันนั้นเขาก็รู้สึกว่าดวงตาของเขาพร่ามัวไป

การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันแบบนี้ทำให้อี้กุ้ยรู้สึกงุนงงและสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“นี่คุณทำอะไรกับฉันกัน ?!”

อี้กุ้ยเงยหน้าขึ้นไปมองซือเฟิงอย่างไม่เข้าใจ และสงสัยมากๆ เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมซือเฟิงที่ใช้แค่ฝ่ามือโจมตีถึงทำให้เขาบาดเจ็บได้ขนาดนี้ ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่แรงจะลุกขึ้นยืนด้วยซ้ำ

สำหรับฝูงชน เมื่อได้เห็นฉากตรงหน้า พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด

“เอาชนะสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนได้ด้วยฝ่ามือเดียวเนี่ยนะ ?!”

“นี่เขาทรงพลังมากขนาดไหนกัน ?!”

ตอนนี้ทุกคนล้วนมองไปยังซือเฟิงราวกับมองสัตว์ประหลาด และพวกเขาก็แทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าจริงๆ ….

“ดูเหมือนว่าฉันจะเคยได้ยินข่าวของคนๆนี้มาก่อน เมื่อไม่นานมานี้มันมีอัจฉริยะสองคนปรากฎตัวขึ้นที่ Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้ที่ได้รับช่องเข้าสู่ Upper Zone มาจากบริษัทโบลเดอร์ และมันมีข่าวลือว่าเขาเป็นหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีก แม้ว่าใน God domain นั้นแบล๊คเฟรมจะดูแตกต่างไปเล็กน้อย แต่เขาคนนี้ก็น่าจะเป็นหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีก แบล๊คเฟรมแน่นอน !!!”

“ไม่จริงน่า !!! เขาคือคนที่ทำให้ลู่ชิงหลัวต้องถูกปลดออกจากตำแหน่งทายาทของบริษัทสตาร์ไลน์งั้นหรอ ?!!”

ไม่รู้ว่าใครคนอื่นหนึ่งอุทานเรื่องนี้ขึ้นมา แต่หลังจากนั้นมันก็เริ่มมีการบอกต่อๆกันไปในหมู่ฝูงชน และเมื่อทุกคนเริ่มตรวจสอบจนสามารถยืนยันได้อย่างแน่ใจว่าซือเฟิงคือแบล๊คเฟรม พวกเขาทั้งหมดก็ล้วนเต็มไปด้วยความเดือดพล่าน

ไม่มีใครคิดว่าจักรพรรดิดาบระดับตำนานใน God domain อย่างแบล๊คเฟรมจะมาปรากฎตัวขึ้นที่นี่ แถมตอนนี้เขายังสามารถล้มสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนได้ในฝ่ามือเดียวอีก นี่มันน่าเหลือเชื่อสุดๆไปเลย !!!

“เขาคือแบล๊คเฟรมที่พี่สาวกล่าวถึงงั้นหรอ ?”

จี้ลั่วหรงมองไปที่ซือเฟิง ในขณะที่ปากของเธอก็อ้าค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อเช่นกันว่านี่มันเป็นเรื่องจริง ตอนนี้บุคคลในข่าวลือใน God domain ที่ทุกคนล้วนกล่าวว่าแม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องปฎิบัติต่อคนๆนี้อย่างระมัดระวังได้มาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าเธอแล้วจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด