Reincarnation Of The Strongest Sword God 2847

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2847 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2847 รังลับของสัตว์ประหลาด

ในเวลากลางคืนที่เงียบสงบ และมีท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง :

แม้ว่าจะเป็นเขตที่อยู่อาศัยใน Upper Zone ก็ตาม แต่นอกเหนือจากบริเวณไฟถนนตามรายทางเล็กน้อยแล้ว มันก็มีแต่ไฟในบ้านบางหลังเท่านั้นที่ถูกเปิดไว้ ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าทุกคนในเขตนี้ส่วนใหญ่นั้นได้หลับกันไปหมดแล้ว

ไม่ไกลจากบริเวณประตูของเขตนี้ อี้กุ้ยที่เดินมาพร้อมกับหวังซวนหมิงได้รายงานว่า
“มิสเตอร์หวัง ตอนนี้มีบริเวณสถานที่ที่คอยตรวจสอบความปลอดภัยแค่ไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ยังเปิดอยู่ นอกจากนี้ เรายังพบกับหุ่นยนต์ต่อสู้สามสิบสองตัวที่คอยลาดตระเวนไปมาทั่วบริเวณ แต่พวกมันก็ไม่ได้ลาดตระเวนอย่างสม่ำเสมอมากนัก”

ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ Upper Zone ได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยสูงมากนั้น หุ่นยนต์พวกนี้ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลนี่แหละ เพราะท้ายที่สุดแล้วหุ่นพวกนี้เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีสติปัญญาสูงมาก และตัวของพวกมันทั้งหมดก็ทำจากไทเทเนียมผสมกับโลหะพิเศษ โดยแม้ว่าจะถูกปืนใหญ่ยิง แต่พวกมันก็ยังจะได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งนี่มันทำให้เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับปรมาจารย์ทั่วไปที่จะสามารถทำลายหุ่นนี้ได้ด้วยตัวเอง แถมมาตราฐานการต่อสู้ของหุ่นยนต์พวกนี้นั้นมันยังเทียบเท่ากับปรมาจารย์ฮั่วจินอีกด้วย ….

ต่อหน้าหุ่นยนต์ต่อสู้แบบนี้นั้น ปรมาจารย์ฮั่วจิน และปรมาจารย์เหิงเหลียนจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย และเทคโนโลยีที่น่ากลัวแบบนี้นั้นมันก็ถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของบริษัทกรีนก๊อดมาโดยตลอด โดยมันก็ได้ถูกนำมาใช้ในงานด้านการป้องกันแทบทุกด้าน และมันสามารถถูกเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ทรงพลังที่สุดในโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกนั้นกลัวบริษัทกรีนก๊อด

และเนื่องจากหุ่นยนต์ต่อสู้นี้เอง มันก็ทำให้แม้แต่สุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนก็ยังไม่กล้าจะทำอะไรแบบบุ่มบ่าม เพราะท้ายที่สุดพวกมันตัวเดียวนั้นไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าถูกพวกมันรุมนั้น สุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนก็จะมีจุดจบที่น่าสังเวชเช่นกัน ….

“สามสิบสอง ?” หวังซวนหมิงพยักหน้า “โอเค งั้นขอแผนที่ที่แจกแจงตำแหน่งคร่าวๆของพวกมันมาหน่อย …”

เรื่องจำนวนของหุ่นยนต์ต่อสู้พวกนี้นั้นเขาไม่ได้แปลกใจมากนัก เพราะมันอยู่ในขอบเขตที่เขาคาดการณ์ไว้แล้ว หุ่นยนต์ต่อสู้พวกนี้ในเขตทั่วไปนั้นมันมีน้อยกว่าที่ในเขตวิลล่าซึ่งมีมากกว่าสองร้อยตัวอย่างมาก ซึ่งทุกอย่างมันก็เป็นไปตามราคาที่อยู่อาศัยนั่นแหละ ….

แต่ถึงกระนั้น หากเขาต้องการจะลอบเข้าไปสอนบทเรียนให้กับสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินจริงๆ เขาก็จะต้องคำณวนเวลาให้ดี เพราะเท่าที่เขารู้หุ่นยนต์ต่อสู้พวกนี้นั้นถูกตั้งค่าให้รีบพุ่งมายังบ้านที่เกิดการต่อสู้ภายในเวลาแปดวินาที ….

ซึ่งในช่วงเวลาสั้นๆนี้ แม้แต่ปรมาจารย์เหิงเหลียนก็ยังยากที่จะจัดการคู่ต่อสู้ของเขาให้เสร็จ และทำการหลบหนีไปให้ได้เลย …. โดยตราบใดที่ถูกค้นพบ แม้แต่ปรมา
จารย์เหิงเหลียนก็ควรจะเลิกหวังที่จะหลบหนี ไม่งั้นมันก็จะเป็นการแสวงหาความตายโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น ….

ดังนั้นเมื่อคำณวนเวลาทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน เวลาสำหรับการต่อสู้จึงจะเหลือน้อยลงไปอีกมาก ….

“นี่คือที่อยู่ของหุ่นยนต์ต่อสู้สามสิบสองตัวเมื่อสิบวินาทีที่แล้ว” อี้กุ้ยจัดการส่งแผนที่ที่แสดงถึงตำแหน่งของหุ่นยนต์ต่อสู้สามสิบสองตัวไปให้หวังซวนหมิงอย่างว่าง่าย

ซึ่งเมื่อได้รับข้อมูลมาแล้ว หวังซวนหมิงก็ได้เริ่มเปิดภาพโฮโลแกรมของแผนที่ทั้งหมดขึ้นเช็คตำแหน่งทันที “เซี่ยชิงหยางนี่มีความสามารถค่อนข้างมากจริงๆ ด้วยการจัดการกระจายตัวกันแบบนี้ในบริเวณเขตบ้านทั่วไป มันจะทำให้ฉันมีเวลาอย่างมากที่สุดก็แค่เจ็ดวินาทีเท่านั้น …”

“เจ็ดวินาที ?” อี้กุ้ยที่ได้ยินการประเมินของหวังซวนหมิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “ให้ฉันช่วยดึงดูดความสนใจของพวกหุ่นยนต์ไหม ?”

“ไม่ต้องกังวลน่า …” หวังซวนหมิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เมื่อได้เห็นท่าทีของอี้กุ้ย ‘ฉันเคยผ่านสถานการณ์อันตรายมากกว่านี้มาแล้ว และแค่เจ็ดวินาทีมันก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน ….”

สำหรับเขาผู้มีความสามารถสูง และอยู่ห่างจากขอบเขตปรมาจารย์ทางจิตเพียงครึ่งก้าวนั้น เขาสามารถที่จะระเบิดพลังทั้งหมดของตัวเองออกมา และฆ่าสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนได้ในสามวินาทีเท่านั้น ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงการทำให้บาดเจ็บสาหัสซึ่งง่ายกว่ามากเลย และนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงกับสุดยอดปรมาจารย์ฮั่วจินที่มีร่างกายทางกายภาพแย่กว่าสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนเลย

เมื่อได้ยินดังนี้อี้กุ้ยนั้นก็ไม่ได้เลือกจะพูดอะไรต่อ เพราะท้ายที่สุดแล้วเขารู้ดีว่าหวังซวนหมิงเป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ เนื่องจากเขาเคยปะทะกับหวังซวนหมิงและพ่ายแพ้มาก่อน แถมชายผู้นี้ยังเป็นศิษย์ของผู้ที่อยู่อาศัยในชั้นกลางของเมืองไห่เทียนด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่น่าจะประเมินเรื่องงานที่จำเป็นต้องทำในทุกๆด้านผิดพลาด

หลังจากที่หวังซวนหมิงได้เตรียมการทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็ได้ลอบเข้าไปในบริเวณเขตบ้านที่อยู่อาศัยนี้เพียงคนเดียว

โดยหวังซวนหมิงนั้นสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและไม่มีเสียงใดๆเลย ซึ่งในสามวินาที หวังซวนหมิงก็ได้หายตัวไปจากบริเวณถนนของเขต ….

“นี่ความสามารถในการควบคุมร่างกายของเขาก้าวขึ้นไปอีกขั้นแล้วงั้นหรอ ?!”

อี้กุ้ยที่ได้เห็นฉากตรงหน้านั้นอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง และตัวสั่น นี่ถ้าหากเขาต้องตกเป็นเป้าหมายของหวังซวนหมิงในตอนนี้ ผลที่ตามมันคงจะย่ำแย่มากแน่นอน ….

ซึ่งในขณะที่อี้กุ้ยกำลังรู้สึกตกตะลึงกับพลังของหวังซวนหมิงนั้น หวังซวนหมิงก็ได้หลบหลีกเหล่าหุ่นยนต์ต่อสู้ทั้งหมด และมาถึงบริเวณบ้านที่ซือเฟิงอยู่อาศัยอย่างรวดเร็ว

เมื่อหวังซวนหมิงได้มาถึงนั้น เขาก็ยังไม่ได้รีบเข้าไปในบ้าน แต่เขาเลือกจะซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง และสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบ กับคาดเดาตำแหน่งล่าสุดของหุ่นยนต์ต่อสู้ทั้งสามสิบสองตัวก่อน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว หากเขาเริ่มปฎิบัติการเมื่อไหร่ เขาจะต้องพังประตูเข้าไป ซึ่งมันจะเป็นการไปเตือนให้พวกหุ่นยนต์ต่อสู้รู้ตัว ดังนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องคำณวนเวลาทุกอย่างให้แม่นยำ

“โอเค ดูเหมือนว่ามันจะมีทางหนีอยู่ทั้งหมดสามทาง !!!”

“ตราบใดที่ฉันสามารถสอนบทเรียนให้กับซือเฟิงได้ภายในเวลาห้าวินาที ฉันก็จะสามารถหนีออกไปจากที่นี่ได่โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆแน่นอน !!!”

หลังจากหวังซวนหมิงทำการจำลองสถานการณ์ และคาดเดาทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้เริ่มปฎิบัติโดยการพังประตูเข้าไปทันที ….

ซึ่งทันทีที่เขาทำแบบนี้นั้น หุ่นยนต์ต่อสู้หกตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ได้รับการแจ้งเตือน และรีบพุ่งมาที่บ้านของซือเฟิงทันที

ขณะเดียวกันเสียงแจ้งเตือนนี้ก็ได้ไปถึงซือเฟิงที่อยู่ในห้องเกมเคบินด้วย โดยเขาได้ถูกบังคับตัดการเชื่อมต่อจากระบบรักษาความปลอดภัยทันที เพราะท้ายที่สุดแล้วการกล้าบุกรุกบ้านผู้อยู่อาศัยใน Upper Zone แบบนี้ ผู้บุกรุกจะต้องแข็งแกร่งมากๆ ดังนั้นระบบรักษาความปลอดถัยจึงถูกตั้งให้ตัดการเชื่อมต่อกับโลกเสมือนจริงทันทีที่มีสัญญาณแจ้งเตือนเพื่อให้ตัวเจ้าของบ้านพอมีเวลาจะป้องกันตัวเองได้ก่อนที่หุ่นยนต์ต่อสู้จะมาถึง ….

อย่างไรก็ตามหลังจากที่หวังซวนหมิงเคลื่อนที่เข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว และได้มาถึงห้องนั่งเล่น พร้อมทั้งกำลังเตรียมตัวจะขึ้นไปยังห้องนอนของซือเฟิงนั้นเขาก็ต้องตกตะลึง ….

เพราะเขาไม่รู้เลยว่ามันมีคนมานั่งอยู่ที่บริเวณโซฟาของห้องนั่งเล่นเมื่อไหร่ โดยคนที่มานั่งนั้นก็สวมชุดนอนสีขาวราวกับหิมะ ขณะที่ใบหน้าของคนผู้นี้นั้นแม้จะดูสวยงาม แต่มันก็ไม่ได้มีอารมณ์ใดๆอยู่เลย โดยภายใต้แสงยามค่ำคืนนี้ มันก็ทำให้คนผู้นี้ดูเหมือนกับนางฟ้าที่จุติลงมาเลย และคนผู้นี้ก็ได้เฝ้าดูหวังซวนหมิงอยู่อย่างเงียบๆ

ซึ่งนี่มันทำให้หวังซวนหมิงได้หยุดลงและมองไปยังหญิงสาวที่งดงามตรงหน้าของเขาพลางหัวเราะ ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “คุณผู้หญิง คุณนี่โชคไม่ดีจริงๆเลย !! จริงๆแล้วเวลานี้คุณควรจะไปพักผ่อนได้แล้วนะ !!!”

เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้มากนัก เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขารับข้อมูลมาแล้วว่ารองหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกสองคน ซึ่งเป็นหญิงสาวที่งดงามได้อาศัยอยู่กับซือเฟิงด้วย

และหลังจากพูดจบนั้น หวังซวนหมิงก็ได้ก้าวเท้าพุ่งเข้าโจมตีไป๋ฉิงเฉวโดยใช้มีดในมือของเขาทันที ….
อย่างไรก็ตามเมื่อการโจมตีของหวังซวนหมิงกระทบเข้ากับสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นร่างของไป๋ฉิงเฉวนั้น หวังซวนหมิงก็ต้องตกตะลึง

“ห้ะ ?!”

ภาพติดตา !!!

ขณะเดียวกัน ในระหว่างนี้นั้นหวังซวนหมิงก็ไม่สามารถรับรู้ใดๆได้เลย ก่อนที่ไป๋ฉิง
เฉวจะมาปรากฎตัวขึ้นที่ด้านข้างของเขา ซึ่งไป๋ฉิงเฉวนั้นก็ยังคงมองไปยังหวังซวนหมิงอย่างเงียบๆ และมันก็ไม่มีความเศร้า หรือสุขปรากฎขึ้นในดวงตาของเธอเช่นเดิม

แต่อย่างไรก็ตามมันก็สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ เธอไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลยจากการโจมตีของหวังซวนหมิงหมิง ….

“อึก !! นี่ซือเฟิงไปหาสัตว์ประหลาดแบบนี้มาจากไหนกัน ?!!”

หวังซวนหมิงนั้นมองไปยังไป๋ฉิงเฉวที่ยืนอยู่ข้างเขาในเวลานี้ด้วยความรู้สึกที่ตกตะลึง และเริ่มหวาดกลัว นี่คนอายุน้อยแบบนี้มีความสามารถมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน ?!

ตอนแรกเขาก็วางแผนที่จะต่อสู้และทำทุกอย่างให้จบอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามหลังจากได้มาเผชิญหน้ากับไป๋ฉิงเฉวเขาก็รู้แล้วว่าแผนของเขาทั้งหมดนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย !!! เพราะไป๋ฉิงเฉว หญิงสาวตรงหน้าของเขานั้นน่ากลัวมากๆ !!!

ไม่สิ !!

คำว่าน่ากลัวไม่สามารถใช้บรรยายความสามารถของเธอได้อีกต่อไป !!!

มันต้องบอกว่าเธอนั้นอยู่ในระดับที่เหนือมนุษย์ไปแล้ว !!!

เขาสามารถบอกได้อย่างขัดเจนว่าสมรรถภาพทางกายของไป๋ฉิงเฉวนั้นอยู่ในระดับปรมาจารย์เหิงเหลียน ซึ่งเทียบกับเขาไม่ได้เลย อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเริ่มหลบการโจมตีของเขานั้น เขาก็ได้สัมผัสถึงความน่ากลัวที่แท้จริงของเธอ ….

ซึ่งก็คือความสามารถทางจิตของเธอที่มันสูงมากๆ และการที่คนๆหนึ่งจะมีความสามารถทางจิตที่สูงแบบนี้นั้นมันก็ควรจะต้องผ่านการต่อสู้ และฝึกที่เดิมพันด้วยชีวิตและความตายมานับพันครั้ง

โดยสำหรับเขาที่มีอายุสามสิบห้าปีนั้น เขาพึ่งจะแตะขอบเขตประตูที่ไป๋ฉิงเฉวอยู่ได้เท่านั้น

แต่ตอนนี้ไป๋ฉิงเฉว หญิงสาวที่มีอายุน้อยกว่าเขามากกับไปถึงขอบเขตนั้นได้แล้วจริงๆ ….

เมื่อคิดได้ดังนี้นั้น หวังซวนหมิงก็ไม่ได้รีรออีกต่อไป เขารีบหันหลังกลับ และพยายามจะวิ่งหนีไปที่ประตูทันที

ถ้าเขาต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดแบบนี้นั้น มันก็เป็นไปได้เลยที่จะสามารถตัดสินผลลัพธ์ได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และเวลาของเขาในตอนนี้ก็มีจำกัดด้วย ซึ่งถ้าหากเขาถูกจับโดยหุ่นยนต์ต่อสู้ เขาก็จะซวยเอาได้

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่หวังซวนหมิงกำลังจะไปถึงบริเวณประตูนั้น มันก็มีร่างอีกร่างหนึ่ง ซึ่งก็คือร่างของอควาโรสปรากฎตัวขึ้นมาขวางทางเจา

“รนหาที่ตายแล้ว !!!”

หวังซวนหมิงมองไปยังอควาโรสที่อยู่ในชุดนอนสีฟ้าอ่อนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ตอนนี้เขารู้สึกโกรธมากจริงๆ ถ้าเขาถูกยืดเวลาออกไป และถูกหุ่นยนต์ต่อสู้จับ เขาได้ซวยแน่ …. นี่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ภารกิจของเขาล้มเหลวเลย

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้นั้น หวังซวนหมิงจึงม่ได้คิดจะยั้งมือใดๆอีกต่อไป และเริ่มเอาจริงทันที

ในพริบตาเขาก็เริ่มปล่อยหมัดออกไปมากกว่าหนึ่งโหลเพื่อโจมตีเข้าใส่อควาโรส ซึ่งทุกหมัดนั้นล้วนรวดเร็วมากๆ และทุกหมัดก็มีพลังมากพอจะทำให้อี้กุ้ยบาดเจ็บสาหัสได้เลย

แต่อย่างไรก็ตามการโจมตีทั้งหมดนี้ของหวังซวนหมิงกับไม่โดนอควาโรสเลย แม้แต่นิดเดียว โดยเธอสามารถหลบพวกมันทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่เธอจะเข้าประชิดตัวของหวังซวนหมิงมาได้ และใช้ฝ่ามือโจมตีไปที่บริเวณหัวใจของหวังซวนหมิง

มันดูจะเป็นการโจมตีที่แผ่วเบา หากแต่ว่ามันก็ทำให้หวังซวนหมิงนั้รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก และเขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้นอกจากต้องยอมถอยสองก้าวเพื่อตั้งหลักร่างกายให้คงที่ ก่อนที่เขาจะมองไปยังผู้หญิงตรงหน้าของเขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”

สัตว์ประหลาด !!

สัตว์ประหลาดีอีกคน ?!!

ในเวลานี้ไป๋ฉิงเฉวก็ได้เข้ามาประชิดด้านหลังของหวังซวนหมิงแล้วเช่นกัน โดยที่เธอก็ได้มองไปยังหวังซวนหมิงอย่างไร้อารมณ์เช่นเดิม

ชั่วขณะหนึ่งหวังซวนหมิงนั้นก็ทำได้แค่มองไปยังอควาโรส และไป๋ฉิงเฉวสลับกันด้วยรอยยิ้มขมขื่น และพูดกันตามตรงตอนนี้เขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้ฆ่าอี้กุ้ยเลย

นี่ไอ้บ้านั่นมันไปรวบรวมข้อมูลมาแบบไหนกัน ?!

ไอ้บ้านั่นมันไม่รู้เลยรึไงว่ามีสัตว์ประหลาดแบบนี้สองคนอาศัยอยู่กับซือเฟิง ?!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด