Reincarnation Of The Strongest Sword God 2888

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2888 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2888 โอกาสสุดท้าย

ฟางฉีหานมองไปยังซือเฟิงที่มีท่าทีงุนงง และเธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม และพูดออกมาอย่างสบายๆว่า “คุณไม่เข้าใจเงื่อนไขของฉันงั้นหรอ ปรมาจารย์ซือเฟิง ?”

“ก็บางส่วนนั่นแหละ …” ซือเฟิงพยักหน้า

เท่าที่ซือเฟิงดูพลังของตระกูลของฟางฉีหานนั้นจัดว่าแข็งแกร่งมากๆแน่นอน แถมเธอยังเป็นรองหัวหน้ากิลลำดับที่หนึ่งของไมโทโลจี้ด้วย ซึ่งไม่ว่าจะมองอย่างไร เธอก็ดูเหมือนจะมีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัดมากๆ และเธอก็จัดเป็นตัวตนที่ไม่มีใครกล้าจะยั่วยุแน่นอน

แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ทางจิต แต่สิ่งที่เขาสามารถจะนำมาให้ฟางฉีหานได้นั้นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำธุรกรรมทรัพยากรในพื้นที่ชั้นกลางของ Upper Zone และนี่มันก็เป็นเหตุผลหลักๆเลยว่าทำไมมหาอำนาจต่างๆถึงต้องการจะร่วมมือกับปรมาจารย์ทางจิต ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการมากๆเลยว่าฟางฉีหานต้องการอะไรจากเขากันแน่

“ชายผู้ไร้เดียงสาที่ครอบครองแหวนหยกกลายเป็นอาชญากร ฉันคิดว่าปรมาจารย์ซือเฟิงน่าจะมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับประโยคที่ฉันได้กล่าวไปข้างต้น …” ฟางฉีหานถอนหายใจออกมา ก่อนที่เธอจะเริ่มกล่าวอย่างช้าๆว่า “เดิมทีตระกูลฟางของเรานั้นก็มีปรมาจารย์ทางจิตอยู่ แต่ด้วยการจากไปของปรมาจารย์ทางจิต มันจึงทำให้การอยู่อาศัยของตระกูลฟางของเราในพื้นที่ชั้นกลางนั้นยากขึ้นมากๆ และตอนนี้แม้แต่โควต้าพื้นที่ชั้นกลางของตระกูลฟางก็ยังเริ่มถูกจับจ้องจากกองกำลังต่างๆในพื้นที่ชั้นกลางแล้ว ดังนั้นฉันจึงหวังจะพึ่งคุณในการรับมือกับเรื่องราวเหล่านี้ ปรมา
จารย์ซือเฟิง ….”

“มันมีโควต้าในพื้นที่ชั้นกลางด้วยงั้นหรอ ?” ซือเฟิงรู้สึกตกตะลึงเมื่อได้ยิน

โควต้าของพื้นที่ชั้นพื้นฐานของ Upper Zone นั้นมันก็จัดว่ามีค่ามากๆอยู่แล้ว และผู้ที่มีมันนั้นก็ทำให้มหาอำนาจต่างๆในชั้นพื้นฐานด้วยกันอิจฉาอย่างมาก ดังนั้นนี่ก็จะไม่ต้องพูดถึงเรื่องโควต้าของพื้นที่ชั้นกลางเลย

และเมื่อได้ฟังจากคำพูดของฟางฉีหานนั้น ดูเหมือนโควต้าชั้นกลางนี้จะเป็นสิ่งที่ไม่ผูกมัดด้วย
ซึ่งโควต้าแบบนี้นั้นมันมีค่ามากกว่าโอกาสสามเดือนที่มหาอำนาจต่างๆในชั้นพื้นฐานแข่งขันกันเพื่อแย่งสิทซะอีก ….

“ปรมาจารย์ซือเฟิงยินดีจะร่วมมือกับฉันไหม ?” ฟางฉีหานนั้นอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามย้ำซือเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล

แต่เดิมเธอนั้นยอมแพ้ในโควต้าเหล่านี้ไปแล้ว เพราะด้วยความแข็งแกร่งที่เธอมีในไมโทโลจี้ตอนนี้นั้น มันไม่มีทางเลยที่เธอจะสามารถรักษาโควต้านี้เอาไว้ได้

แต่ในเวลานี้เธอมีโอกาสอีกครั้ง ….

ถ้าเธอไปขอความร่วมมือจากปรมาจารย์ทางจิตทั่วไปในพื้นที่ชั้นกลางนั้น พวกมหาอำนาจต่างๆในพื้นที่ชั้นกลางก็จะไม่ได้หวาดกลัวเธอ และพวกเขาก็จะยังคงต้องการแย่งโควต้าของตระกูลเธอไปแน่นอน อย่างไรก็ตามสำหรับในกรณีของซือเฟิงนั้นมันแตกต่างออกไป เขาสามารถกลายเป็นปรมาจารย์ทางจิตได้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงยี่สิบห้า ดังนั้นเขาจึงจะได้รับความสนใจและการยกย่องอย่างสูงจากบริษัทกรีนก๊อดแน่นอน ซึ่งนี่มันก็จะทำให้เขามีสถานะเหนือกว่าปรมาจารย์ทางจิตทั่วไปมาก ดังนั้นตราบใดที่ซือเฟิงยินดีจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเธอในเรื่องนี้ บางทีเธออาจจะช่วยตระกูลของเธอรักษาโควต้านี้เอาไว้ได้

ซือเฟิงคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “ฉันสามารถยอมรับเงื่อนไขของคุณได้ แต่นอกเหนือจากเงื่อนไขที่คุณเสนอมาให้ฉัน ฉันยังต้องการเพิ่มอีกหนึ่งข้อ”

“ปรมาจารย์ซือเฟิงกล่าวมาได้เลย …” ฟางฉีหานกล่าวอย่างไม่ลังเล

“ฉันต้องการคะแนนการค้าหนึ่งร้อยล้านแต้ม !!!” ซือเฟิงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “มิสฟางสามารถจะรับเงื่อนไขนี้ของฉันได้ไหม ?”

ปัจจุบันเขาไม่มีคะแนนการค้าอื่นใดเลยนอกจากคะแนนการค้าที่เขาได้รับมาจากการแลกคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่เป็นคะแนนสะสม ซึ่งเพื่อที่จะซื้อน้ำแห่งชีวิตแล้ว เขาก็ยังต้องการคะแนนการค้าอีกมาก และจริงๆจะพูดกันตามตรงนั้นเขาก็ยังต้องการคะแนนการค้าอีกเป็นจำนวนมากเพื่อใช้ในหลายๆด้านที่ Upper Zone โดยเฉพาะอย่างยิ่งคะแนนการค้าที่เขาจะต้องมอบให้กับไฟเออร์แดนซ์ และคนอื่นๆ หลังจากที่พวกเขาเข้ามาสู่ Upper Zone ….

ดังนั้นคะแนนการค้ามันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ

“คะแนนการค้าหนึ่งร้อยล้านแต้ม ?” ฟางฉีหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะกัดฟัน และตอบตกลง “ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจะโอนมันไปให้คุณเป็นการส่วนตัว !!”

เมื่อซือเฟิงเห็นว่าฟางฉีหานยอมตกลงตามที่เขาต้องการแล้ว เขาจึงได้พาฟางฉีหานกลับไปที่สำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกเพื่อจัดการเซ็นสัญญากัน

และหลังจากที่เซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้วนั้น ฟางฉีหานก็ได้ออกจากสำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกไปเพื่อกลับไปเตรียมการทุกอย่าง ซึ่งซือเฟิงต้องยอมรับเลยว่าเธอนั้นตัดสินใจทุกอย่างแบบเด็ดเดี่ยว และกล้าหาญมากจริงๆ

บนรถสุดหรูของฟางฉีหานที่บริเวณสนามบิน :

“รองหัวหน้ากิล คุณวางแผนที่จะติดตามซือเฟิงไปตลอดเลยงั้นหรอ ?” แมตซ์อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามฟางฉีหานที่ตอนนี้ดูเหมือนกำลังนั่งครุ่นคิดบางอย่างอยู่ “ถ้าคุณออกจากกิลแบบนี้นั้น กิลจะไม่มีวันปล่อยคุณไปแน่นอน และแม้ว่าซือเฟิงจะกลายเป็นปรมาจารย์ทางจิตตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เขาก็ไม่น่าจะสามารถช่วยป้องกันเราจากกองกำลังต่างๆในพื้นที่ชั้นกลางได้ทั้งหมด เพราะท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังคงมีช่องว่างระหว่างปรมาจารย์ทางจิตที่พึ่งมาถึงขอบเขตนี้กับผู้ที่มาถึงขอบเขตนี้นานแล้วอยู่ในระดับหนึ่ง ฉันกลัวว่านอกเหนือจากเราจะไม่สามารถรักษาโควต้าเอาไว้ได้แล้ว เราอาจจะถูกทางกิลตอบโต้สำหรับเรื่องนี้อย่างรุนแรงด้วย …”

ไมโทโลจี้กิลที่พวกเขาอยู่นั้นเป็นหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด และในฐานะหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น กองกำลังชั้นสูงที่พวกเขาสังกัดในตอนที่เข้าร่วมกับไมโทโลจี้นั้นก็ได้รับการสนับสนุนจาปรมาจารย์ทางจิตที่ทรงพลังและมีสถานะสูงมาก

ฟางฉีหานนั้นเป็นรองหัวหน้ากิลลำดับที่หนึ่งของไมโทโลจี้ หากเธอตัดสินใจจะออกจากกิล มันจะส่งผลกระทบอย่างมากแน่นอนต่อไมโทโลจี้ และไมโทโลจี้ก็จะต้องแก้แค้นในเรื่องนี้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นใน Upper Zone หรือ ใน God domain

“ฉันไม่สน นี่มันเป็นโอกาสสุดท้ายของฉันแล้ว …” ฟางฉีหานยิ้มอย่างขมขื่น “ถ้าฉันรอจนกว่าไมโทโลจี้จะยอมช่วยฉัน โควต้าก็จะต้องถูกยึดไปแล้วแน่นอน และเมื่อถึงเวลาแม้ว่าปรมาจารย์ทางจิตที่ทรงพลังจะออกหน้ามาช่วย แต่ฉันก็กลัวว่าเราคงจะเอาโควต้าคืนมาไม่ได้ ตอนนี้ฉันจึงได้เลือกจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ซือเฟิง …”

มันเป็นเรื่องยากอย่างมากสำหรับปรมาจารย์ทางจิตที่จะได้รับโควต้าของพื้นที่ชั้นกลาง และมันก็อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นที่ทำให้คนๆหนึ่งสามารถเข้าสู่พื้นที่ชั้นกลางได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ

หากเธอไม่สามารถรักษาโควต้านี้ไว้ได้ นอกเหนือจากตระกูลของเธอจะตกอยู่ในสภาพย่ำแย่แล้ว ตัวเธอเองก็จะตกอยู่ในสภาพย่ำแย่เช่นกัน เพราะความหวังที่เธอจะกลายเป็นปรมาจารย์ทางจิตจะยิ่งริบหรี่ลงไปมาก

เนื่องจากจนถึงตอนนี้ใน Upper Zone นั้น ผู้ที่สามารถกลายเป็นปรมาจารย์ทางจิต และก้าวเข้าสู่ชั้นกลางได้ด้วยสาเหตุนี้นั้นมีน้อยมากๆ และมันก็อาจกล่าวได้ว่ามากกว่าเก้าสิบเปอเซ็นต์ของปรมาจารย์ทางจิตทั้งหมดนั้น พวกเขากลายเป็นปรมาจารย์ทางจิตได้ก็หลังจากที่ก้าวเข้าสู่ชั้นกลางได้แล้วเท่านั้น

ในเวลาเดียวกันกับที่ฟางฉีหานกลับไปที่ Upper Zone ที่เธออาศัยอยู่ ข่าวเรื่องผู้อาวุโสฉี และคนอื่นๆที่ถูกส่งมาโจมตีซือเฟิงนั้นก็เริ่มแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน ซึ่งนี่มันก็ได้สร้างความตกตะลึงอย่างถึงที่สุดให้กับมหาอำนาจต่างๆใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน

เนื่องจากไม่มีมหาอำนาจกลุ่มใดเลยที่คิดว่าซือเฟิงจะมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวมากขนาดนี้ และสิ่งนี้มันก็ทำให้มหาอำนาจบางส่วนที่คิดจะออกหน้าไปเอาใจอาจารย์ของหวังซวนหมิงถึงกับต้องถอยกลับ

“นายน้อย ตอนนี้เราควรจะทำยังไงกันดี ? ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน หรือไห่เทียนนั้นไม่มีใครกล้าจะไปหาเรื่องซือเฟิงอีกแล้ว” อี้กุ้ยติดต่อมาหาลู่เทียนตี้ และกล่าวอย่างเป็นกังวลว่า “แถมตอนนี้ชื่อเสียงและอำนาจของซือเฟิงใน Upper Zone นั้นมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตอนนี้มันมีหลายกลุ่มที่ต้องการจะร่วมมือกับซือเฟิง และได้รับคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่จากสภาสิบแปดปีก ….”

“ฉันเข้าใจแล้ว ในตอนนี้ให้คุณรีบออกมาจาก Upper Zone ของเมืองหยวนเทียนโดยทันที” ลู่เทียนตี้กล่าวอย่างสบายๆ “ตอนนี้อาจารย์รู้เรื่องนี้แล้ว และมันมีโอกาสสูงมากที่เขาจะลงมือด้วยตัวเอง ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำก็แค่เฝ้าดูจากข้างสนามเท่านั้น”

“รับทราบ !!” เมื่อได้ยินคำพูด และคำสั่งล่าสุดของลู่เทียนตี้นั้นอี้กุ้ยก็คลายความกังวลไปอย่างรวดเร็ว

หากคนๆนั้นเป็นคนลงมือเอง ทุกอย่างมันก็จะง่ายขึ้นมากๆ และเมื่อซือเฟิงถูกจัดการไปแล้ว สตาร์ลิ้งของพวกเขาก็จะสามารถเอาชนะสภาสิบแปดปีกได้ง่ายขึ้นมาก

เมืองเฟิงหลิน สำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีก :

เมื่อซือเฟิงกลับมาทุกคนในสภาสิบแปดปีกก็ตื่นเต้นกันมากๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เชี่ยวชาญที่พึ่งจะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกเมื่อไม่นานมานี้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ซือเฟิงพึ่งจะมอบโพชั่นแห่งชีวิตจำนวนมากให้กับไฟเออร์แดนซ์ และผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกคนอื่นๆ รวมไปถึงสมาชิกภายในที่มีทำผลงานได้ดีกับกิลด้วย

แถมซือเฟิงยังประกาศสิ่งที่ทำให้ทุกคนในสภาสิบแปดปีกตกตะลึงอย่างถึงที่สุดด้วย

ซึ่งนั่นก็คือในอนาคตสมาชิกภายในทุกคนที่ทำผลงานได้ดีกับกิลนั้นจะมีสิทได้รับรางวัลเป็นโพชั่นแห่งชีวิต รวมไปถึงสิทในการเข้าสู่ Upper Zone !!

โดยเมื่อซือเฟิงประกาศเรื่องนี้ออกไปนั้น ทั่วทั้งสำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกก็เดือดพล่าน

Upper Zone นั้นเป็นสถานที่ที่ผู้คนนับไม่ถ้วนล้วนใฝ่ฝันจะได้เข้าไปสัมผัสสักครั้ง นี่ไม่ต้องพูดถึงการเข้าไปอยู่อาศัยเลย แต่โดยปกติแล้วหลายคนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เพราะมันจะมีก็แต่พวกมหาอำนาจแค่ไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่มีสิทได้สัมผัสอะไรแบบนี้ และสำหรับพวกเขาที่เป็นเพียงสามัญชนนั้น โดยพื้นฐานแล้วมันจึงเป็นไปไม่ได้เลย

แต่ตอนนี้มันเป็นไปได้แล้ว !!

“หัวหน้ากิล ทำแบบนี้มันจะโอเคจริงๆงั้นหรอ ?” ไฟเออร์แดนซ์มองไปยังประกาศ และรายละเอียดการให้รางวัลของซือเฟิงด้วยความเป็นห่วง

โดยในรายละเอียดการให้รางวัลนั้นตราบใดที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของกิลสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาไปได้หนึ่งร้อยสิบเปอเซ็นต์ พวกเขาก็จะได้รับโพชั่นแห่งชีวิตไปสามขวด และหลังจากนั้นเมื่อปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้เพิ่มขึ้นทุกๆหนึ่งเปอเซ็นต์ก็จะได้รับไปอีกเปอเซ็นต์ละขวด และพอทะลุหนึ่งร้อยสิบห้าเอเซ็นต์ได้แล้ว ทุกๆเปอเซ็นต์ต่อไปก็จะได้รับโพชั่นแห่งชีวิตไปสามขวด

นอกจากนี้มันยังมีรางวัลสำหรับค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจด้วย โดยตราบใดที่ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของผู้เล่นคนหนึ่งขึ้นไปถึงขั้นกลาง ของขั้นสี่ได้ ผู้เล่นคนนั้นก็จะได้รับโพชั่นแฟนธ่อมหนึ่งขวด และเมื่อค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจขึ้นไปอยู่ที่จุดสูงสุดของขั้นสี่นั้น ผู้เล่นก็จะได้รับโพชั่นแฟนธ่อมสามขวด และหากค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของผู้เล่นสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นห้าได้ ผู้เล่นก็จะได้รับโพชั่นแฟนธ่อมสิบขวด ….

ขณะเดียวกันมันก็มีรางวัลในส่วนของขอบเขตที่แท้จริงด้วยเช่นกัน โดยหากทะลวงเข้าสู่ขอบเขตที่แท้จริงได้ ผู้เล่นจะได้รับโพชั่นแห่งชีวิตไปหนึ่งขวด และหากทะลวงเข้าสู่ขอบเขตที่แท้จริงขั้นสูงได้ ผู้เล่นก็จะได้รับโพชั่นแห่งชีวิตไปอีกสามขวด

และสิ่งที่ดีที่สุดคือตราบใดที่คนๆหนึ่งสามารถเข้าสู่ขั้นห้าได้ พวกเขาก็จะได้รับสิทในการเข้าไปสู่ Upper Zone หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ !!!

ไม่ต้องพูดถึงสิทในการเข้าสู่ Upper Zone เลย เพราะรางวัลแต่ละรางวัลนอกเหนือจากรางวัลนี้ที่ซือเฟิงประกาศว่าจะให้นั้นมันก็จัดว่ามีค่ามากๆแล้ว ซึ่งไฟเออร์แดนซ์ที่ได้ยินข่าวคร่าวเรื่องของ Upper Zone มาจากซือเฟิงบ้างนั้นก็เข้าใจอย่างชัดเจนว่าโพชั่นพวกนี้มีค่ามากขนาดไหน

“ไม่ต้องกังวล มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก …” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ในทางตรงกันข้าม ฉันหวังว่าจะมีคนจำนวนมากได้รับรางวัลด้วยซ้ำ ….”

โพชั่นแห่งชีวิตนั้นมีประโยชน์มากในการปรับปรุงร่างกาย และสภาสิบแปดปีกก็กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ซึ่งการจะพึ่งแค่พลังของเขาอย่างเดียวมันไม่พอ อย่างน้อยกิลจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญระดับสุดยอดปรมาจารย์จำนวนหนึ่งคอยดู และป้องกันตัวเองจากมหาอำนาจอื่นๆด้วย ดังนั้นการตั้งรางวัล และเพิ่มรางวัลพวกนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ

และเมื่อเขาทำแบบนี้เขาก็ยังจะสามารถช่วยเพิ่มความกระตือรือร้นของสมาชิกสภาสิบแปดปีกในการทำเควสเลื่อนขั้นได้ด้วย นอกเหนือจากนี้แล้วนี่มันก็ช่วยให้กิลมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนเพิ่มมากขึ้นแน่นอน

และด้วยโพชั่นแห่งชีวิตที่เขาได้มอบให้ไป ในอีกไม่กี่วันไฟเออร์แดนซ์ กับเหล่ยเปาก็น่าจะสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสุดยอดปรมาจารย์ได้แล้ว ….

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้พูดคุยกับไฟเออร์แดนซ์ และผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีกเกี่ยวกับการพัฒนาที่รวดเร็วของกิล และพูดกันตามตรงมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเผชิญหน้ากับกองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่น ซึ่งถ้าเมืองปีกสีเงิน กับเมืองหินโบราณได้รับการจัดการไม่ดีนั้น พวกมันก็อาจถูกทำลายลงได้ง่ายๆเลย

ซึ่งกว่าจะพูดคุยกันเสร็จนั้น เวลาก็ได้ผ่านไปหนึ่งวันเต็มแล้ว ….

“ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ตอนนี้ฉันคงจะต้องล๊อคอินกลับเข้าสู่ God domain ก่อน …”

ซือเฟิงพึมพำ ในขณะที่เขามองเวลาบนนาฬิกาควอนตัมของเขา ก่อนที่เขาจะดื่มโพชั่นแห่งชีวิตไปหนึ่งขวด และจัดการใช้ห้องเกมเคบินภายในห้องรับรองของสำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกล๊อคอินกลับเข้าสู่ God domain

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด