Reincarnation Of The Strongest Sword God 2893

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2893 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2893 ดินแดนลับของเทพปีศาจที่น่าตกตะลึง

“เข้าสู่ดินแดนลับในเวลาแบบนี้เนี่ยนะ ?!”

โคลท์ชาโด้วจ้องมองไปยังซือเฟิงที่อยู่ในห้องโถงด้วยความไม่เข้าใจอย่างถึงที่สุดว่าซือเฟิงนั้นคิดอะไรอยู่

ในตอนนี้นั้น กองทัพผู้รุกรานจากโลกอื่นเตรียมการจนใกล้จะพร้อมแล้ว และเท่าที่เธอคิด อีกไม่นานพวกเขาก็จะเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่ทวีปหลักของ God domain แล้ว และหากซือเฟิงกับพวกเขาทั้งหมดนี้ไม่อยู่ ไม่ต้องพูดถึงกิลสภาสิบแปดปีกหนึ่งกิลเลย ต่อให้มีกิลสภาสิบแปดปีกอีกสิบกิลก็จะไม่สามารถต้านทานการรุกรานจากโลกอื่นได้แน่นอน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาจำเป็นจะต้องจัดกองทัพผสมระหว่างผู้เชี่ยวชาญที่เป็นผู้เล่น และ NPC เข้าด้วยกันเพื่อคอยต้านทานกองทัพผู้รุกราน ซึ่งหากขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปนั้น มันก็จะเป็นเพียงแค่การไปรอความตายแน่นอน

และเท่าที่โคลท์ชาโด้วทำการตรวจสอบมานั้น ตอนนี้มหาอำนาจต่างๆในทวีปด้านตะวันออกก็เริ่มเตรียมการในด้านนี้กันทั้งหมดแล้ว ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกไม่ยอมทำตอนนี้ พวกเขาก็อาจจะล้าหลังกลุ่มอื่นๆได้

ดังนั้นทำไมซือเฟิงถึงจะให้พวกเขาเข้าสู่ดินแดนลับในเวลาแบบนี้กัน ?

อย่างไรก็ตามแม้จะคิดแบบนี้แต่โคลท์ชาโด้วก็พูดไม่ออก เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกคนอื่นๆนั้นไม่มีใครคัดค้านใดๆเลย ดังนั้นเธอซึ่งพึ่งจะเข้ากิลมาใหม่จึงเลือกจะไม่โต้แย้งใดๆ

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่โคลท์ชาโด้วไม่รู้จริงๆเลยก็คือก่อนเธอจะมาถึง ไฟเออร์แดนซ์ และผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีกได้เตือนซือเฟิงแล้ว แต่ซือเฟิงก็ยังคงยืนยันที่จะทำแบบนี้

เพราะท้ายที่สุดแล้วมันไม่มีใครเข้าใจเรื่องสงครามโลกแบบนี้ดีไปกว่าซือเฟิงอีกแล้ว ซึ่งซือเฟิงรู้ดีว่าจำนวนผู้เชี่ยวชาญนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญมากนักในสงครามนัก เรื่องที่สำคัญจริงๆ และจะทำให้สภาสิบแปดปีกสามารถจัดการสงครามครั้งนี้ได้อย่างแท้จริงคือความแข็งแกร่งของพลังการต่อสู้ !!!
ในสงคราม ผู้เล่นขั้นสามหลายพันคนเทียบไม่ได้กับผู้เล่น ขณะเดียวกันผู้เล่นขั้นสี่หลายร้อยคนก็เทียบไม่ได้กับผู้เล่นขั้นห้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามที่มี NPC เข้าร่วมด้วย ซึ่งหากผู้เล่นไม่มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากพอ แม้ว่าจะมีผู้เล่นขั้นสามหรือขั้นสี่มากขึ้น แต่มันก็จะไม่มีผลอะไรมากนัก

ดังนั้นในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดจริงๆก็คือการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองต่างหาก ไม่งั้นซือเฟิงคงจะไม่ลงทุนเตรียมโพชั่นที่จำเป็นสำหรับสองวัน และดึงดันที่จะเข้าสู่ดินแดนลับของเทพปีศาจแน่นอน ….

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้นำทางไฟเออร์แดนซ์ โคลท์ชาโด้ว และคนอื่นๆเข้าไปยังดินแดนลับของเทพปีศาจ และเมื่อเรียบร้อยนั้นซือเฟิงก็ได้เดินตามเข้าไปติดๆเช่นกัน

โดยเมื่อทั้งหมดเข้ามาในดินแดนลับของเทพปีศาจนั้น พวกเขาก็รู้สึกมึนงง และดวงตามืดบอดอย่างมาก หลังจากนั้นเมื่อผ่านไปมากกว่าสิบวินาทีพวกเขาก็เริ่มรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าการรับรู้ในด้านต่างๆของพวกเขาเริ่มช้าลง และแย่ลงมาก

“นี่มันอะไรกัน ?!”

โคลท์ชาโด้ว และคนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง เมื่อได้เห็นฉากตรงหน้า

เธอนั้นรู้จักดินแดนลับดี และเคยเข้าสู่ดินแดนลับมามากมาย ดังนั้นเธอจึงเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นดินแดนลับแบบไหน เธอก็จะสามารถรับมือได้ …. อย่างไรก็ตามพอได้มาเห็นดินแดนลับที่ซือเฟิงพาเข้ามานั้น เธอก็รู้ได้ทันทีเลยว่าความคิดนี้ของเธอมันเป็นเรื่องตลกชัดๆ

ดินแดนลับที่ซือเฟิงพาเข้ามานั้นมันมีลักษณะที่มืดมิดมากๆ และมันก็มีเพียงดวงจันทร์สีเลือดดวงเดียวที่คอยให้แสงสว่างกับพวกเขา สำหรับสภาพแวดล้อมโดยล้อมนั้นมันก็มีต้นไม้จำนวนมากที่มีความสูงตั้งแต่หลายร้อยไปจนถึงหลายพันเมตร ซึ่งหากนำมาเทียบกับผู้เล่นแล้ว ผู้เล่นก็จะดูตัวเล็กเหมือนทารกไปเลย

แต่นี่ยังไม่ใช่ส่วนที่น่าตกตะลึงที่สุด ส่วนที่น่าตกตะลึงที่สุดจริงๆก็คือ เมื่อหลายคนเริ่มตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆนั้น พวกเขาก็ได้พบกับรอยเท้าของมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย และเทพนิยายชั้นยอดมากกว่าหนึ่งร้อยตัว ซึ่งมันมากกว่าจำนวนของพวกเขาซะอีก แถมมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย และเทพนิยายชั้นยอดพวกนี้ยังมีเลเวลตั้งแต่หนึ่งร้อยห้าสิบสามหรือมากกว่าขึ้นไปทั้งหมด

(อสูรเลือดปีศาจ), (สิ่งมีชีวิตปีศาจ,ระดับเทพนิยาย,เลเวล 153) HP 350 million

(วิญญาณเลือดปีศาจ) (สิ่งมีชีวิตพลังงานปีศาจ,ระดับเทพนิยายชั้นยอด,เลเวล 160) HP 80,000 ล้าน

นอกเหนือจากนี้แล้วทุกคนก็สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามอนสเตอร์พวกนี้นั้นมีสติปัญญาสูงมาก เพราะพวกมันทำทุกอย่างแบบมีแบบแผนทั้งหมด ไม่ได้ทำตามสัญชาตญาณเลย

“หื้ม ?”

โคลท์ชาโด้วอุทานออกมา และเธอก็เป็นคนแรกที่เริ่มสังเกตเห็นถึงผลประโยชน์ที่ดินแดนลับของเทพปีศาจจะมอบให้ โดยเธอสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่า หากอยู่ฝึกที่นี่นั้น ต่อให้เป็นไอ้บ้าคนหนึ่งก็จะสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาไปได้มากกว่าหนึ่งร้อยสิบห้าเปอเซ็นต์แน่ๆ เพราะสภาพแวดล้อมที่นี่มันเอื้อต่อการฝึกในด้านนี้มากๆ ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงบรรดาผู้เชี่ยวชาญเลย

แต่กระนั้นมันก็มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง …

“ที่นี่ดูเหมือนจะปราบปรามพลังทางกายภาพของพวกเราเอาไว้ …” โคลท์ชาโด้วกล่าวพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “หากเราต้องฝึกด้วยการต่อสู้ และฆ่ามอนสเตอร์เหล่านี้ ฉันคิดว่ามันจะต้องยากมากแน่นอน ….”

พลังทางกายภาพนั้นก็มีส่วนสำคัญในการช่วยฝึกแบบนี้ ดังนั้นหากพวกเขาถูกปราบปรามพลังทางกายภาพเอาไว้ การฝึกนี้มันก็จะเป็นไปอย่างยากลำบากแน่นอน

ขณะเดียวกันนั้นไฟเออร์แดนซ์ก็ได้ลองเคลื่อนไหวอยู่สองถึงสามครั้ง และด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ของเธอที่ตอนนี้อยู่ในขั้นสี่ มันจึงทำให้หลายคนในทีมแทบจะไม่สามารถมองตามเธอได้ทันเลย หลังจากนั้นเธอก็กลับมาปรากฎตัวขึ้นบริเวณที่ทั้งทีมอยู่และกล่าวว่า “มันเป็นจริงอย่างที่คุณพูด แต่มันก็อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้นะ …”

“นี่คุณยอมรับมันได้งั้นหรอ ?”

ไวท์เฟเธอร์ โคลท์ชาโด้ว และคนของเธอทั้งหมดที่พึ่งจะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกอดไม่ได้ที่จะมองไปยังไฟเออร์แดนซ์อย่างตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด และได้เห็นสิ่งที่เธอกระทำ

พวกเขาส่วนใหญ่นั้นสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองไปได้หนึ่งร้อยห้าเปอเซ็นต์หรือสูงกว่าทั้งหมดแล้ว แต่กระนั้นร่างกายของพวกเขากับแทบจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ขณะที่ตัวไฟเออร์แดนซ์นั้นกับเคลื่อนไหวได้อย่างสบายๆ และดูเหมือนเธอแทบจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆด้วย

อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่ไฟเออร์แดนซ์ เพราะตอนนี้ผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกคนอื่นๆก็เริ่มเคลื่อนไหวกันแล้วเช่นกัน และทุกคนนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากมายนักเลยจากการปราบปรามของดินแดนลับแห่งนี้

ซึ่งเมื่อได้เห็นดังนี้นั้นโคลท์ชาโด้ว และคนของเธอทั้งหมดก็ตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ….

“นี่พวกเขาเป็นสัตว์ประหลาดกันทั้งหมดเลยหรอ ?”

สำหรับเรื่องความสามารถของไฟเออร์แดนซ์ที่เป็นผู้บัญชาการกองกำลังหลักของสภาสิบแปดปีกนั้นพวกเขายังพอจะทำใจยอมรับได้ แต่นี่คนอื่นๆกับทำได้แบบเธอด้วย …. นี่มันบ้าอะไรกัน ?!!

ในตอนนี้นั้นในหมู่พวกเขามีเพียงโคลท์ชาโด้วที่เคยได้เข้าไปฝึกในดินแดนลับพิเศษของไมโทโลจี้เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบน้อยมาก อย่างไรก็ตามสภาสิบแปดปีกกับมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่มากกว่าหกสิบคนที่เป็นแบบเดียวกับโคลท์ชาโด้ว แถมสมาชิกจำนวนหนึ่งของสภาสิบแปดปีกอย่างไวโอเล็ตคลาวด์ อควาโรส และเสวี่ยเหวินโหรวนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลยด้วย

โดยในระหว่างนี้นั้นซือเฟิงก็ได้ตามมาถึงแล้ว และเขาก็ได้พึมพำด้วยรอยยิ้มว่า “ดินแดนลับของเทพปีศาจนั้นมันเป็นสถานที่ที่ดีมากจริงๆ มันอุดมไปด้วยมานาและธาตุเวทย์มนต์ที่หนาแน่นมากๆ โดยหากไม่มีความเข้าใจในกฎการทำงานขององค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์มากเพียงพอ คนๆนั้นก็จะถูกปราบปรามอย่างหนักที่นี่ แต่อย่างไรก็ตามหากสามารถปรับตัวกับที่นี่ได้นั้น มันก็จะช่วยได้มากเลยทีเดียวในเรื่องการปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาเพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งการสร้างมานาขั้นห้า”

เขาต้องยอมรับเลยว่าดินแดนลับ ระดับพระเจ้านั้นมันน่าทึ่งอย่างแท้จริง ด้วยการเข้ามาที่นี่ ผู้เล่นจะได้ฝึกหลายด้านอย่างที่เขาได้กล่าวไปข้างต้นด้วยการต่อสู้กับมอนสเตอร์ และรับรู้ผ่านความรู้สึก แถมเมื่อฆ่ามอนสเตอร์พวกนี้ได้ มันยังจะดรอปไอเทมดีๆอีก ซึ่งไม่ว่าจะมองอย่างไรนี่มันก็สวรรค์ชัดๆ !!! แม้ว่ามันจะมีอันตรายอยู่บ้างก็ตาม ….

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อซือเฟิงปรากฎตัวขึ้นนั้น พวกมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย และเทพนิยายชั้นยอดก็เริ่มมีท่าทีหงุดหงิด และตื่นตัวขึ้นมา

หลังจากนั้นไม่นานวิญญาณเลือดปีศาจที่มีความสูงกว่าสี่สิบเมตรก็ได้หันมามองซือเฟิง ก่อนที่มันจะตะโกน และชี้มายังซือเฟิงเป็นสัญญาณให้มอนสเตอร์ทั้งหมดเริ่มโจมตี

“อึก !!! นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย ?!!!” โคลท์ชาโด้วรู้สึกงุนงง

โดยปกติแล้วถ้าผู้เล่นยังไม่ได้ไปดึงดูดค่าความโกรธของมอนสเตอร์ พวกมันก็จะไม่เข้ามาโจมตีผู้เล่น เว้นแต่ว่าผู้เล่นจะเข้าไปรุกล้ำดินแดน หรือระยะของพวกมัน แต่ตอนนี้มอนสเตอร์ตรงหน้าพวกเขากับกำลังเริ่มโจมตีพวกเขา หลังจากที่ซือเฟิงมาถึง …. ทั้งๆที่ซือเฟิง และพวกเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ….

“ค่อนข้างฉลาดเลยทีเดียวที่วางแผนจะจัดการกับคนอื่น แล้วค่อยมารุมฉันทีเดียว …” ซือเฟิงมองไปยังเหล่ามอนสเตอร์ที่เข้ามาจากทุกทิศทางด้วยรอยยิ้ม “แต่น่าเสียดายที่วิธีนี้มันไร้ประโยชน์ !!!”

เมื่อพูดจบซือเฟิงก็ได้จัดการปลดปล่อยออร่าของเขาทั้งหมดออกมาทันที ซึ่งนี่มันก็ทำให้มอนสเตอร์ทั้งหมดหยุดชะงักไป ….

ในขณะเดียวกันโคลท์ชาโด้ว ไฟเออร์แดนซ์ และคนอื่นๆก็ล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆขณะที่พวกเขาจ้องมองไปยังซือเฟิงตอนนี้ ….

เพราะในตอนนี้ซือเฟิงนั้นดูเหมือนกับทวยเทพเลย และพวกเขาก็รู้สึกว่าที่นี่นั้นซือเฟิงคือเจ้าผู้ปกครองทั้งหมด โดยหากซือเฟิงต้องการจะทำอะไร ซือเฟิงก็น่าจะสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่เขาต้องการแน่นอนที่นี่ ….

สำหรับพวกมอนสเตอร์ที่หยุดชะงักไปนั้น ตอนนี้ค่าสถานะ รวมไปถึงการตอบสนอง และปฎิกิริยาด้านต่างๆของพวกมันก็เริ่มลดลงจนไปหยุดอยู่ที่ห้าสิบเปอเซ็นต์ ซึ่งมันทำให้ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ามอนสเตอร์พวกนี้ต่างหากที่ยากจะเคลื่อนไหวได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าของซือเฟิง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด