Reincarnation Of The Strongest Sword God 2895

Now you are reading Reincarnation Of The Strongest Sword God Chapter 2895 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2895 ดินแดนลับที่เปรียบได้ดั่งสมบัติ

ไอเทมที่วิญญาณเลือดปีศาจสี่ตัวดรอปออกมาหลังจากตายไปนั้นค่อยๆตกลงมาจากท้องฟ้าเหมือนกับเม็ดฝน

ซึ่งเท่าที่พวกเขาประมาณด้วยสายตาคร่าวๆนั้นมันก็มีจำนวนมากกว่าสามร้อยชิ้น แถมในหมู่ไอเทมพวกนี้มันยังมีมากกว่าสามชิ้นที่พวกเขาสามารถบอกได้ด้วยตาเปล่าเลยว่ามันอยู่ในระดับอีปิค และมันก็ดูเหมือนจะมีเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานดรอป
ออกมาสองชิ้นด้วย ….

แม้แต่ซือเฟิงที่เฝ้ามองอยู่ในปัจจุบันก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

แม้เขาจะรู้มานานแล้วว่าอัตราการดรอปของมอนสเตอร์ในดินแดนลับ ระดับพระเจ้านั้นมันสูงกว่าโลกภายนอกมาก แต่พอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆมันก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอยู่ดี

สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องรู้ก็คือ พวกมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายหรือเหนือกว่าขึ้นไปนั้นเมื่อมีเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบ อัตราการดรอปไอเทมระดับอีปิคของพวกมันก็จะลดลงอย่างมาก ซึ่งนี่มันเป็นสิ่งที่ระบบกำหนดมา เพราะว่ามอนสเตอร์ที่เลเวลนี้นั้นจะ
ดรอปไอเทมระดับอีปิคเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบออกมา และแม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายชั้นยอดนั้น หากมันดรอปอาวุธหรืออุปกรณ์ระดับอีปิคที่มีเลเวลมาก
กว่าหนึ่งร้อยห้าร้อยห้าสิบออกมาถึงหนึ่งถึงสองชิ้นนั้นมันก็จะจัดว่าผู้เล่นโชคดีมากแล้ว

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นที่มีเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบหรือมากกว่าใน God domain จึงมีอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบน้อยมาก และพูดกันตามตรงหลายคนมีอาวุธกับอุปกรณ์ระดับอีปิคที่เลเวลนี้นั้นแค่คนละหนึ่งถึงสองชิ้นด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามตอนนี้ไอเทมระดับอีปิคที่ทุกคนเห็นว่ามันดรอปออกมามากกว่าสามชิ้นนั้น ทุกชิ้นกับเป็นไอเทมระดับอีปิคเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบทั้งหมด !!!

แต่กระนั้นซือเฟิงก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะจัดการกับไอเทมที่ดรอปออกมา เนื่องจากเขาได้เลือกจะร่วมมือกับทุกคนในการฆ่าอสูรเลือดปีศาจที่เหลือก่อน ซึ่งมันก็ใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าที่จะสามารถกำจัดอสูรเลือดปีศาจทั้งหมดลงไปได้

แม้ว่าการฆ่าอสูรเลือดปีศาจที่เหลือพวกนี้ทั้งหมดจะไม่ได้ทำให้ทุกคนเลื่อนเลเวลอีกครั้ง แต่พวกมันก็ยังคงมอบ EXP จำนวนมหาศาลให้กับทุกคนเช่นกัน ขณะที่จำนวนไอเทมระดับอีปิคที่พวกมันดรอปนั้นก็จัดว่าไม่เลวเลย

“หัวหน้ากิล ไอเทมระดับอีปิคพวกนี้นั้นล้วนเป็นอาวุธและอุปกรณ์ที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบทั้งหมดเลย แถมมันยังมีบางชิ้นที่เป็นส่วนหนึ่งของเซ็ทอุปกรณ์ระดับอีปิคเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบด้วย” โคล่ากล่าวอย่างตื่นเต้นพลางหยิบเกราะเบาชิ้นหนึ่งวิ่งมาให้ซือเฟิงดู

ซือเฟิงเหลือบไปมองที่เกราะเบาที่โคล่านำมาให้ดู และก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เซ็ทอุปกรณ์ระดับอีปิคหัวใจศักสิทธิ์ที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบ แปดชิ้นงั้นหรอ ?!”

เซ็ทอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบนั้นมันหายากมากๆใน God domain ซึ่งมันเปรียบได้ดั่งเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานเลย และมันก็นับเป็นเรื่องยากสำหรับหัวหน้ากิลขนาดใหญ่บางคนด้วยซ้ำที่จะรวบรวมเซ็ทแบบนี้ให้ได้ครบ แต่อย่างไรก็ตามตราบใดที่รวบรวมได้ครบ และได้สวมใส่มันนั้น ค่าสถานะพื้นฐานที่มันมอบให้จะไม่ได้ด้อยไปกว่าอุปกรณ์ระดับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานเลย และเซ็ทแบบนี้ก็จะสามารถใช้ได้จนถึงเลเวลสองร้อยโดยไม่ต้องเปลี่ยนด้วยซ้ำ

อาจกล่าวได้ว่าเซ็ทอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบนั้นเรียกได้ว่าเป็นชุดสำเร็จการศึกษาขนาดเล็กจาก God domain ก็ว่าได้ !!

ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา กิลของเขานั้นรวบรวมมาได้แค่เซ็ทอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบแบบหกชิ้นเท่านั้น กิลของเขาไม่เคยได้สัมผัสกับอะไรที่สูงกว่านั้นเลย แถมเซ็ทที่รวบรวมมาได้มันก็ยังมีเซ็ทเดียวด้วย ซึ่งเซ็ทนี้นั้นก็จะให้ผู้บริหารระดับสูงในอาชีพเดียวกันผลัดเปลี่ยนกันใส่ เมื่อต้องทำภารกิจสำคัญๆ

แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงไม่คิดเลยจริงๆว่าพวกมอนสเตอร์ในดินแดนลับของเทพปีศาจแห่งนี้จะดรอปเซ็ทอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบออกมาด้วย แถมเซ็ทพวกนี้มันยังเป็นเซ็ทแบบแปดชิ้นอีกต่างหาก !!!

และตราบใดที่ผู้เล่นสามารถรวบรวมเซ็ทแบบนี้ที่เหมาะกับอาชีพของตัวเองได้ครบ และได้สวมใส่มันนั้น ผู้เล่นก็จะแทบเป็นอมตะเลยใน God domain ยุคปัจจุบันนี้ แถมเซ็ทแบบนี้หากผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ทั่วไปได้สวมใส่มัน บางทีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่คนนั้นอาจจะมีพลังที่สามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าได้เลย !!!

หลังจากนั้นไม่นานหยานเทียนซิงก็หยิบเซ็ทอุปกรณ์ระดับที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบขึ้นมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเซ็ทเกราะเบาแบบของโคล่า แต่มันเป็นเพราะผ้า ขณะที่ไวโอเล็ตคลาวด์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งนั้นก็ค่อยๆหยิบขึ้นมาเช่นกัน ….

ซึ่งสิ่งนี้มันทำให้ทุกคนนั้นรู้สึกตกตะลึงมากๆ

เนื่องจากมันมีอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบดรอปออกมาทั้งหมดเจ็ดสิบเอ็ดชิ้น และจากในนี้นั้นห้าชิ้นยังเป็นเซ็ทอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบด้วย โดยแบ่งเป็นถุงมือจากเซ็ทหัวใจศักสิทธิ์หนึ่งชิ้น รองเท้าผ้า และถุงมือจากเซ็ทของอาชีพหนึ่งอีกสองชิ้น และรองเท้ากับเกราะผ้าจากเซ็ทหัวมังกรอีกสองชิ้น

นอกจากนี้มันยังมีเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานสองชิ้นดรอปออกมาด้วย ซึ่งนั่นก็คือโล่แห่งสายลม และแหวนผี ซึ่งทั้งคู่นั้นนับเป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานที่มีคุณภาพสูงมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดมันก็ยังมีคริสตัลเทพเจ้าดรอปออกมาด้วย ซึ่งนี่มันก็ทำให้โคลท์ชาโด้วและคนอื่นๆตื่นเต้นมากๆ

จนถึงตอนนี้นั้นแม้แต่ซุเปอร์กิลต่างๆก็ยังนับว่ามีเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน และคริสตัลเทพเจ้าน้อยมากๆ เพราะไอเทมทั้งสองชิ้นนี้มันหายากมากๆ ดังนั้นการที่พวกเขาได้รับมันมาถึงสองชิ้นในการล่าคราวเดียวมันจึงเป็นเรื่องที่สุดยอดมากจริงๆ

ซือเฟิงมองไปที่เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานสองชิ้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า “ไวท์เฟเธอร์เอาโล่แห่งสายลมไป ส่วนแหวนผีนั้นฉันจะยกให้ไฟเออร์แดนซ์ เพราะมันเหมาะกับแอสซาซินแบบเธอ แล้วหลังจากนี้เดี๋ยวฉันจะหักคะแนนสะสมกิลเป็นค่าอุปกรณ์สองชิ้นนี้ไปเรื่อยๆเอง พวกคุณไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม ?”

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันพึ่งจะเข้ากิลมาได้ไม่นาน เรื่องนี้ ….” เมื่อไวท์เฟเธอร์ได้ฟัง เธอก็เลือกที่จะพยายามปฎิเสธอย่างรวดเร็ว

มันจะเป็นเรื่องไร้สาระมากๆ หากบอกว่าผู้เล่นแบบเธอนั้นไม่ต้องการโล่แห่งสายลม แต่อย่างไรก็ตามเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานแบบนี้นั้นมันนับเป็นมรดกที่แท้จริงของกิล และกิลส่วนใหญ่ก็มักจะมอบให้กับสมาชิกในกิลที่อยู่ในกิลมานาน และไว้ใจได้เท่านั้น ซึ่งสำหรับเธอนั้นมันไม่ใช่เลย เธอพึ่งจะเข้ากิลสภาสิบแปดปีกมาได้ไม่นาน แถมกิลที่เธอเลือกจะออกมา ก่อนจะมาเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกนั้นก็คือไมโทโลจี้ซึ่งเป็นศัตรูของสภาสิบแปดปีกด้วย อีกทั้งนี่ยังนับเป็นโล่ที่สำคัญและเลอค่ามากๆสำหรับการ์เดี้ยนไนท์ ดังนั้นหากเธอยอมรับมันมาจากซือเฟิง มันจะสร้างความไม่พอใจให้คนในกิลหลายคนแน่นอน

ไฟเออร์แดนซ์มองไปยังไวท์เฟเธอร์ที่ต้องการจะปฎิเสธ และพูดว่า “พี่สาวไวท์เฟเธอร์เก็บมันไว้เถอะ การตัดสินใจของหัวหน้ากิลนั้นมีความสมเหตุสมผลตามธรรมชาติ และนี่มันก็เป็นเพียงโล่ระดับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานเท่านั้น ซึ่งแท๊งเกอร์ขั้นสี่ในทีมของเรานั้นก็มีโล่ที่มีความแข็งเทียบเท่าหรืออยู่ในระดับนี้ทั้งหมดแล้ว และหากคุณไม่ยอมรับมัน มันก็คงจะต้องถูกนำไปเก็บไว้ในคลังกิลให้ฝุ่นจับ ซึ่งไร้ประโยชน์มากๆ โดยแทนที่จะให้เป็นแบบนั้นการมอบให้คุณเพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้โดยรวมของทีมมันก็ดูจะเหมาะสมมากกว่า”

เมื่อได้ยินคำพูดของไฟเออร์แดนซ์ สมาชิกของสภาสิบแปดปีกคนอื่นๆก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะท้ายที่สุดในฐานะหนึ่งในแท๊งเกอร์ของทีม หากไวท์เฟเธอร์ไม่มีโล่ที่เป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานนั้น การปฎิบัติงานของพวกเขามันจะลำบากมากแน่นอนในภายหลัง

เมื่อไวท์เฟเธอร์เห็นว่าทุกคนรวมไปถึงโคล่า และเย่หวูเมียนไม่ได้ต่อต้านหรือปฎิเสธใดๆ เธอก็เลือกที่จะพยักหน้ารับมันมาจากซือเฟิง และแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดตรงๆ แต่ภายในใจของเธอนั้นก็รู้สึกชื่นชม และเริ่มศรัทธาในกิลที่มีชื่อว่าสภาสิบแปดปีกมากขึ้น

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้ให้ทั้งทีมหยุดพักเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่เขาจะนำทั้งทีมเดินลึกเข้าไปในดินแดนลับของเทพปีศาจต่อ

ซึ่งพวกเขาก็พบกับมอนสเตอร์จำนวนมากที่เข้ามาปิดล้อมพวกเขาในระหว่างการเดินทาง และนอกเหนือจากนี้แล้วมันก็ยังมีการซุ่มโจมตีเป็นระยะๆจากมอนสเตอร์ และวิธีการต่อสู้ของพวกมอนสเตอร์นั้นมันก็ฉลาดมากขึ้นเรื่อยๆด้วย

และเมื่อตรงเข้าไปลึกขึ้นอีก ทั้งทีมก็เริ่มพบกับกับดักที่ถูกวางไว้ ซึ่งนี่มันก็ทำให้พวกเขาเคลื่อนที่ไปได้ช้ามากๆ

อย่างไรก็ตามมันก็โชคดีที่ซือเฟิงนั้นเป็นผู้เล่นขั้นห้า และจำนวนคนที่ตายในการต่อสู้แต่ละครั้งนั้นมีไม่มากนัก ดังนั้นหลังจากการใช้สกิลและเวทย์ช่วยฟื้นคืนชีพ รวมถึงการสลับหมุนเวียนตำแหน่งกัน มันจึงช่วยให้ทีมที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่แทบทั้งหมดนี้สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ

มันเป็นเวลาติดต่อกันสี่วันสี่คืนทั้งกลางวันและกลางคื ยกเว้นบางครั้งที่มีการหยุดพักล๊อคเอ้าท์กลับไปพักผ่อนในโลกภายนอก และติดตามข่าวสารต่างๆที่ผู้เล่นทั้งหมดนี้ทำการล่าอย่างบ้าคลั่ง และตรงลึกเข้าไปในดินแดนลับของเทพปีศาจเรื่อยๆ

ซึ่งนี่มันก็ทำให้เลเวลของทุกคนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยตอนนี้นั้นทุกคนล้วนมีเลเวลหนึ่งร้อยหกสิบห้าหรือสูงกว่าทั้งหมด ขณะที่นั้นก็มาถึงเลเวลหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดแล้ว ความเร็วในการเก็บเลเวลแบบนี้นั้นมันเร็วมากๆซะจนทำให้สมาชิกขั้นสี่หลายคนในทีมพูดไม่ออก โดยปกติแล้วหลังจากที่พวกเขามาถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบแล้วนั้น ความต้องการ EXP ในการจะเพิ่มเลเวลต่อๆไปนั้นมันก็สูงขึ้นมาก และโดยเฉลี่ยแล้วมันจะเป็นเรื่องดีมากหากเก็บเลเวลให้เพิ่มขึ้นได้หนึ่งเลเวลต่อหนึ่งวัน

แต่ตอนนี้หลังจากผ่านไปเพียงสี่วัน พวกเขาแต่ละคนกับมีเลเวลเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเลเวล

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบเรื่องเลเวลกับอุปกรณ์ และอาวุธที่ได้รับมาแล้ว ทุกคนค่อนข้างจะมีความสุขกับอุปกรณ์ และอาวุธที่พวกเขาได้รับมามากกว่า

ตอนนี้สมาชิกในทีมของพวกเขาทั้งหมดได้เปลี่ยนไปสวมใส่อาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบเป็นอย่างน้อยแล้ว นึ่ยังไม่ต้องพูดถึงเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานอีกทั้งหมดสี่สิบห้าชิ้นที่พวกเขาได้รับมาระหว่างการล่าและเดินทางเลย และแม้แต่ซือเฟิงก็ยังอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เมื่อเขาได้เห็นผลกำไรจากการเก็บเกี่ยว เขาไม่คิดเลยจริงๆว่าดินแดนลับ ระดับพระเจ้า เลเวลมาก
กว่าหนึ่งร้อยห้าสิบมันจะดีมากขนาดนี้ และตอนนี้ซือเฟิงก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมมหาอำนาจต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของเขาล้วนต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเพื่อแย่งชิงสิทเข้าสู่ดินแดนลับแบบนี้ในตอนที่มันถูกค้นพบ ….

แถมนอกเหนือจากไอเทมทั้งหมดที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น พวกเขายังสามารถรวบรวมเซ็ทอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบมาได้แบบครบเซ็ท หกเซ็ทแล้ว

โดยมันแบ่งเป็นเซ็ทอุปกรณ์หัวใจศักสิทธิ์หนึ่งเซ็ท เซ็ทอุปกรณ์เกราะผ้าสามเซ็ท เซ็ทหัวมังกรสองเซ็ท ซึ่งนี่มันก็ทำให้โคลท์ชาโด้วและคนอื่นๆนั้นรู้สึกพูดไม่ออกอย่างถึงที่สุด

ท้ายที่สุดแล้วสำหรับ God domain ในปัจจุบันนั้นแม้แต่เซ็ทอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบก็ยังหายากมากแล้ว ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบเลย

สำหรับเซ็ทเหล่านี้ ซือเฟิงได้เลือกจะมอบเซ็ทหัวใจศักสิทธิ์ให้กับเสวี่ยเหวินโหรว ส่วนเซ็ทอุปกรณ์เกราะผ้าสามเซ็ทนั้นซือเฟิงเลือกจะมอบให้ อควาโรส ไวโอเล็ต
คลาวด์ และอี้ลั่วเฟย ขณะที่ไฟเออร์แดนซ์กับหยานเทียนซิงนั้นก็ได้เซ็ทหัวมังกรไป ซึ่งนี่มันก็ทำให้ค่าสถานะของทั้งหกคนนี้ที่ได้รับเซ็ทไปพุ่งสูงขึ้นอีกมาก และส่งผลให้พวกเขามีค่าสถานะเป็นรองแค่ซือเฟิงเท่านั้น โดยเฉพาะเสวี่ยเหวินโหรวที่ตอนนี้ หลังจากสวมเซ็ทที่ซือเฟิงให้ไปนั้น ค่า STR ของเธอมันก็เกือบจะแตะเจ็ดหมื่นแต้มแล้ว ซึ่งมันเหนือกว่าผู้เล่นขั้นห้า เลเวลหนึ่งร้อยหกสิบทั่วไปด้วยซ้ำ

และหลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้แจกจ่ายคริสตัลเทพเจ้าทั้งหมดยี่สิบสี่ชิ้นให้กับเสวี่ยเหวินโหรว อควาโรส และไฟเออร์แดนซ์เพื่อให้พวกเธอนำไปอัพเกรด และซ่อมแซมเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานบางส่วนของพวกเธอให้มันกลายเป็นไอเทมระดับตำนานที่แท้จริง ซึ่งนี่มันก็ทำให้โคลท์ชาโด้วที่ได้เห็นเรื่องนี้นั้นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาสามสาวอย่างมาก

“หัวหน้ากิล ฉันพบซากปรักหักพังโบราณที่นี่ !!!” จู่ๆไฟเออร์แดนซ์ที่ออกไปสำรวจพื้นที่ด้านหน้าก็ตะโกนผ่านแชททีมมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด