Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1946 การเปลี่ยนแปลงของจื่อเว่ย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter บทที่ 1946 การเปลี่ยนแปลงของจื่อเว่ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฟางหยวนมีระบบการต่อสู้กระบบ

จากสิ่งที่ราชันมังกรเห็น ฟางหยวนมีเพียงสองระบบการต่อสู้

หนึ่งคือระบบการต่อสู้บนเส้นทางแห่งกาลเวลา อีกหนึ่งคือระบบการต่อสู้บนเส้นทางแห่งดาบ

ระบบการต่อสู้บนเส้นทางแห่งกาลเวลาครอบคลุมมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายอมตะภาพอนาคตสามลมหายใจอัญเชิญอสูรปี กรรไกรฤดูใบไม้ผลิ พัดฤดูร้อน เสื้อคลุมฤดูหนาวสัมผัสฤดูใบไม้ร่วง ตลอดไปถึงเรือรบหมื่นปี ไพ่ตายของระบบนี้คือท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาสิ่งสําคัญที่สุดคือวิญญาณกาลเวลา

ระบบการต่อสู้บนเส้นทางแห่งดาบเริ่มตั้งแต่ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบคลื่นดาบสามชั้นดาบเกล็ดทองน้ำตกดาบแห่งปัญญา นักดาบแห่งปัญญาและอื่นๆไพ่ตายของระบบนี้คือดาบห้าดัชนีระบบนี้มีพลังโจมตีแข็งแกร่งกว่าระบบกาลเวลาโดยเฉพาะดาบห้าดัชนีแต่ในแง่มุมอื่นไม่มีสิ่งใดน่ายกย่องและยังกลายเป็นจุดอ่อนต่อหน้าตัวตนเช่นราชันมังกร

นอกเหนือจากสองระบบนี้ ฟางหยวนยังมีวิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณ แต่ในสายตาของราชันมังกรระบบการต่อสู้บนเส้นทางแห่งพลังปราณของฟางหยวนยังไม่สมบูรณ์ท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขตเห็นได้ชัดว่าเป็นไพ่ตายของระบบนี้และไม่สามารถใช้งานได้บ่อยครั้ง

ราชันมังกรยังรู้ว่าฟางหยวนมีวิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ไพ่ตายของเส้นทางนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือตราประทับเหล่าโป แต่วังสวรรค์เตรียมวิธีรับมือมันไว้แล้วฟางหยวนไม่ได้ใช้วิ ธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้นนี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด

เกราะหวนคืนเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกฎหมื่นตัวตนเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์กําปั้นยักษ์หมื่นตัวตนเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งใบหน้าที่คุ้นเคยเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงนําวิญญาณสู่ความฝันเป็นท่าไม้ตายอมตะ บนเส้นทางแห่งความฝันวิธีการเหล่านี้ล้วนน่ากลัวและทรงพลังแต่พวกมันเป็นท่าไม้ตายอิสระมันเหมือนไข่มุกเม็ดใหญ่แต่ในการต่อสู้ระบบการต่อสู้ที่สมบูรณ์เปรียบได้กับสร้อยไข่มุกที่ทํามาจากไข่มุกหลายเม็ดที่สามารถสนับสนุนกัน

ในการต่อสู้กับผู้อมตะส่วนใหญ่ ฟางหยวนสามารถพึ่งพาไข่มุกเม็ดใหญ่เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์และตัดสินผลลัพธ์แต่ต่อหน้าตัวตนเช่นราชันมังกรจุดอ่อนของระบบการต่อสู้ของฟางหยวนจะปรากฏออกมาอย่างชัดเจน

“ฟางหยวน สิ่งที่เจ้าขาดคือเวลา ข้าเชื่อว่าเจ้ารู้ตัวอยู่แล้วน่าเสียดายระบบการต่อสู้ที่สมบูรณ์ แบบต้องใช้เวลาสะสมอย่างน้อยสองหรือสามร้อยปี!”ราชันมังกรมองฟางหยวนด้วยสายตาแหลม คม “แม่เจ้าจะพึ่งพามรดกของคนรุ่นก่อนแต่มันยังไม่เพียงพอ!”

หลังกล่าวจบคํา ราชันมังกรใช้ดาบเขี้ยวมังกรโจมตีฟางหยวนจากระยะไกล แต่พวกมันถูกปีดกั้นโดยเกราะหวนคืน

ราชันมังกรไม่ท้อ เกราะหวนคืนค่อนข้างทรงพลัง แต่มันสามารถป้องกันเท่านั้นจดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันคือมันต้องจ่ายด้วยแม่น้ำหวนคืน

ฟางหยวนขาดระบบการต่อสู้สําหรับไพ่ใบนี้ ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของมันจึงค่อนข้างต่ำ

เปรียบเทียบกับวังสวรรค์และราชันมังกร รากฐานของฟางหยวนยังไม่เพียงพอ

นี่ทําให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากล่าบาก

ราชันมังกรโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งและอดทนต่อผลกระทบย้อนกลับจากเกราะหวนคืนแต่มันก็ทําให้ฟางหยวนสูญเสียแม่น้ำหวนคืนไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

เพลงพรหมลิขิตของฟงจิวเก้อยังกดดันฟางหยวนตลอดเวลา แม้ฟางหยวนจะใช้เกราะหวนคืนแต่เขายังได้รับผลกระทบบางส่วน

สิ่งที่แย่กว่านั้นคือเพลงพรหมลิขิตทําให้ฟางหยวนอ่อนแอลงขณะที่ราชันมังกรแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

ฟางหยวนตอบโต้ด้วยการใช้กายาแห่งความฝัน

แต่ในไม่ช้ากายาแห่งความฝันก็ถูกระเบิดกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝันก่อนจะกลายเป็นกายาแห่งความฝันอีกครั้งและต่อสู้เพื่อวังสวรรค์

มันคือฟงจินฮวง!

เทพธิดาจื่อเว่ยนฟงจินฮวงกลับมาที่วังสวรรค์เช่นกัน

“ฟงจินฮวง!” ฟางหยวนขมวดคิ้วและคิดในชีวิตก่อนหน้านางพึ่งพาค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันและทําลายแผนการของข้าตอนนี้นางกําลังใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะหรือคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพื่อต่อต้านข้าอีกครั้ง

ฟางหยวนต้องการค้นหาตําแหน่งของฟงจินฮวงและจัดการนาง แต่เขาไม่มีอิสระที่จะทําเช่นนั้นในเวลานี้

เขาไม่สามารถเข้าใกล้หอคอยดวงตาสวรรค์และยังถูกผลักดันออกไปเรื่อยๆ

นี่เป็นเพราะคู่ต่อสู้ของเขาคือราชันมังกรและฟงจิวเก้อ

ผู้พิทักษ์เต่สองคนจับมือกัน!

สําหรับฟางเจิ้งและฉินติงหลิง พวกเขาไม่สามารถเข้าแทรกแซงได้อีกและหันไปจัดการกองทัพอสูรปีรวมถึงนักดาบแห่งปัญญาที่กระจัดกระจายอยู่ทั่ววังสวรรค์

กองกําลังหลักของวังสวรรค์เริ่มกลับมายังวังสวรรค์ผ่านประตูสวรรค์และเข้าสู่การต่อสู้

กองทัพอสูรปีและนักดาบแห่งปัญญาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา พวกมันพบกับความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง

แท่นบูชาแห่งโชคถูกโจมตีโดยกองกําลังหลักของวังสวรรค์เช่นกัน บางคนเข้าไปในหอคอยดวงตาสวรรค์และทําให้ฉีหลางตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย

“ไม่ดีแล้ว กองกําลังหลักของวังสวรรค์กลับมาแล้ว นี่หมายความว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติสูญเสียคุณค่าของมันไปแล้ว วังสวรรค์ได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต่ความสําเร็จเพียงพอที่จะฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมแล้ว!” การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นเคร่งขรึมสถานการณ์กลายเป็นเลวร้ายมากขึ้น

“จ่อเว่ย ใช้ความเมตตาเท่าเทียมจัดการวิญญาณกาลเวลา!” ราชันมังกรออกคําสั่ง

“ทราบแล้ว!” อาการบาดเจ็บของเทพธิดาจอเว่ยได้รับการรักษาแล้ว นางนคฤหาสน์วิญญาณอมตะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและกวาดตามองสนามรบทั้งหมด

ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียม!

“ความเมตตาเท่าเทียมถูกกระตุ้นใช้งานแล้ว ฟางหยวนจะไม่สามารถหลบนี้ได้ในครั้งนี้!”เทพธิดาจอเว่ยส่งข้อความเสียงไปยังราชันมังกร

“ทําได้ดีมาก”ราชันมังกรหัวเราะอย่างเต็มที่และโจมตีฟางหยวนรุนแรงขึ้น

ฟางหยวนถูกบังคับให้ล่าถอย

“ฟางหยวน ไม่ว่าเจ้าจะดิ้นรนอย่างไร มันก็ไร้ประโยชน์ สิ่งที่รอเจ้าอยู่มีเพียงความพ่ายแพ้เท่านั้น!” เทพธิดาจอเว่ยยิ้ม

แต่ในวินาทีต่อมานางกลับได้ยินเสียงของผู้หญิง “เช่นนั้นหรือ?”

“ผู้ใด!?” เทพธิดาจอเว่ยตกใจมาก มันเป็นเสียงที่นางคุ้นเคย สิ่งที่ทําให้นางตกใจที่สุดคือนางไม่พบการดํารงอยู่ของผู้อมตะในบริเวณนี้

“เจ้ากําลังมองหาผู้ใด? ข้าก็คือเจ้า!” เทพธิดาจ๋อเว่ยตกใจอีกครั้งเมื่อตระหนักว่านางกําลังตอบกลับตัวเอง

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

“ข้าไม่สามารถควบคุมตัวเอง!”

มีบางสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับดวงวิญญาณของข้า!”

ทันใดนั้นแสงสีดําก็พุ่งออกมาจากรูม่านตาของนางและกลืนกินดวงตาส่วนที่เป็นสีขาวของนางทั้งหมด

เทพธิดาจอเว่ยพยายามดิ้นรนแต่มันไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง ในช่วงเวลาสุดท้ายนางตระหนักได้ในที่สุดว่านางถูกควบคุมโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ ทุกครั้งที่นางค้นวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณดวงวิญญาณของนางจะถูกดัดแปลงทีละเล็กทีละน้อย วิธีการของเทพปีศาจจิตวิญญาณเหนือกว่านางมาก นางไม่สามารถตรวจสอบหรือค้นพบสิ่งผิดปกติใดๆนางถูกแทรกซึมโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณการตัดสินใจต่างๆที่ผ่านมาของนางล้วนได้รับอิทธิพลจากเทพปีศาจจิตวิญญาณทั้งสิ้น

การแทรกแซงของเทพปีศาจจิตวิญญาณมีผลเพียงเล็กน้อยในช่วงแรก แต่มันค่อยๆส่งอิทธิพลต่อนางมากขึ้นเรื่อยๆเป็นเพียงเวลานี้ที่เขาสามารถควบคุมเทพธิดาจื่อเว่ยได้อย่างสมบูรณ์

ก่อนหน้านี้เทพธิดาจอเว่ยไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียม แต่นางคิดว่านางใช้ไปแล้วและแจ้งราชันมังกรเช่นนั้น

“บางทีในชีวิตก่อนหน้าข้าก็ถูกเทพปีศาจจิตวิญญาณครอบงําเช่นกัน แม้ข้าจะมีท่าไม้ตายอมตะความเมตตาเท่าเทียม แต่ข้าก็ไม่ได้ใช้มันจริงๆ” นี่คือความคิดสุดท้ายของเทพธิดาจ๋อเว่ย

ในเวลาต่อมา นางค่อยๆเงยหน้าขึ้นและมองไปยังสนามรบอย่างเงียบๆ ตอนนี้ดวงตาของนางกลับเป็นปกติเรียบร้อยแล้ว แต่นางกลับเผยรอยยิ้มที่น่าขนลุกขึ้นบนใบหน้า

นางเปิดประตูสวรรค์ทิ้งไว้และเคลื่อนที่ไปยังวิหารปราบมารอย่างเงียบๆ

นางปลดโซ่ตรวนทุกชนิดออกและคืนอิสรภาพให้กับเทพปีศาจจิตวิญญาณ

“จ่อเว่ยคารวะนายท่าน!” นางคุกเข่าลงและทําความเคารพเทพปีศาจจิตวิญญาณ

เทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในสภาพที่อ่อนแอมาก เขากลายเป็นดวงวิญญาณทรงกลมที่โปร่งแสงและค่อยๆบินเข้าไปหาเทพธิดาจ๋อเว่ย “ไปดูการแสดงกันก่อน”

เทพธิดาคือเว่ยถือดวงวิญญาณไว้ในมือทั้งสองข้าและเดินออกจากวิหารปราบมาร

เป็นเพียงเวลานี้ที่วหยง อู่ส่วย และคนอื่นๆปรากฏตัวขึ้นในสนามรบวัสวรรค์

“เกิดสิ่งใดขึ้น? จ่อเว่ย!” ราชันมังกรตะโกนถาม ประตูสวรรค์ยังเปิดอยู่และน่าศัตรูเข้ามา

ราชันมังกรไม่สามารถติดต่อเทพธิดาจ๋อเว่ย นี้ทําให้หัวใจของเขาจมดิ่งลง เขาต้องการทําลายประตูสวรรค์แต่ในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับพุ่งเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์อีกครั้ง

ราชันมังกรโกรธจัด เขาถูกบังคับให้สกัดกั้นฟางหยวนและล้มเลิกแผนการทําลายประตูสวรรค์

ผู้อมตะเดินทางมายังวังสวรรค์ที่ละคนผ่านประตูสวรรค์

“ตามท่านวหยงไป!”

“ดังนั้นนี่ก็คือวังสวรรค์”

“ฆ่าพวกมัน!”

“หอคอยดวงตาสวรรค์อยู่ที่นั่น ตามข้ามา!”

การต่อสู้ตัดสินครั้งสุดท้ายปะทขึ้นในที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด