Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1018

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1018 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1018 ชัยชนะที่ฉิวเฉียด

แปลโดย iPAT 

 

หลังจากชั่วครู่ บางคนก้าวออกมา “นิกายเงาสามารถเสียสละ เหตุใดวังสวรรค์จะไม่สามารถ? ข้ายินดีเสียสละตนเองเพื่อหอคอยดวงตาสวรรค์!”

 

“ข้าก็เช่นกัน!”

 

“ใช้ร่างกายนี้เพื่อกำจัดเทพปีศาจ มีเหตุผลใดที่จะไม่ทำ?”

 

ผู้อมตะวังสวรรค์หลายคนตะโกน

 

แต่หลายคนยังมีความคิดเห็นที่แตกต่าง

 

“ในความคิดเห็นของข้า เรื่องเร่งด่วนในเวลานี้คือตรวจสอบว่าเขากำลังหลอมรวมสิ่งใด?”

 

“เรื่องนี้ยังไม่หมดหวัง เราควรเก็บความแข็งแกร่งไว้ในเวลาสำคัญ”

 

“เมื่อเทพปีศาจจิตวิญญาณยังมีชีวิต เขาไม่สามารถโค่นล้มวังสวรรค์ ตอนนี้เขาตายไปแล้ว เขาอ่อนแอกว่าก่อนหน้า แล้วพวกเราต้องกลัวสิ่งใด?”

 

เจ้าวังโบกมือกล่าว “ข้าตัดสินใจแล้ว คนที่ต้องการเสียสละตนเองมากับข้า ส่วนคนที่เหลือ ข้าจะส่งพวกเจ้าไปยังสวรรค์สีขาว ไม่ว่าพวกเราจะได้รับชัยชนะหรือพ่ายแพ้ พวกเจ้าต้องรวบรวมเศษซากของหอคอยดวงตาสวรรค์และนำกลับไปยังวังสวรรค์”

 

สมาชิกวังสวรรค์ตัดสินใจในที่สุด

 

หอคอยดวงตาสวรรค์ปลดปล่อยเสาแสงขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณตกใจมากและพยายามหยุดหอคอยดวงตาสวรรค์

 

แต่หอคอยดวงตาสวรรค์ไม่ได้ดิ้นรนหลบหนี มันยังอยู่ในสภาพภูตผีเช่นเดิม

 

เสียงของเจ้าวังดังออกมา “เทพปีศาจจิตวิญญาณ ข้าจะแสดงการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของหอคอยดวงตาสวรรค์ให้เจ้าได้เห็น!”

 

“บึม!”

 

ภัยพิบัติเถาวัลย์มังกรที่เกี่ยวพันอยู่บนร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณเปลี่ยนเป้าหมาย พวกมันหันไปโจมตีค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา

 

การแสดงออกของเทพปีศาจจิตวิญญาณเปลี่ยนแปลงไป

 

การโจมตีของหอคอยดวงตาสวรรค์อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา แม้เขาจะวางแผนมานานหลายหมื่นปีและสามารถอนุมานภัยพิบัติทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น แต่เขาไม่คิดว่าหอคอยดวงตาสวรรค์จะมีวิธีควบคุมภัยพิบัติโดยตรง

 

กลิ่นอายที่รุนแรงปะทุออกมาจากร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาโจมตีเถาวัลย์มังกรอย่างดุเดือด

 

แม้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนร่างของเขาจะถูกหมื่นภัยพิบัติทำลายไปเป็นจำนวนมาก แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่เหลืออยู่ยังสว่างไสวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

 

การปะทะที่รุนแรงระเบิดขึ้น

 

ด้านหนึ่งควบคุมภัยพิบัติให้โจมตีขณะที่อีกด้านใช้จิตวิญญาณตอบโต้

 

แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะเหลือเพียงดวงวิญญาณ แต่เขายังสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจที่น่าเหลือเชื่อออกมา

 

เขาสามารถปิดกั้นการโจมตีของเถาวัลย์มังกรทั้งหมด

 

ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา ไม่มีสิ่งใดสามารถผ่านการป้องกันนี้เข้าไปได้

 

หอคอยดวงตาสวรรค์ยังอยู่ในสภาพภูตผีแต่มันเริ่มแตกสลาย

 

วิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนถูกทำลายทุกวินาที

 

ในหอคอยดวงตาสวรรค์ ทุกๆไม่กี่ลมหายใจ ผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์หนึ่งคนจะตายโดยการเสียสละตนเอง

 

เพื่อปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุด พวกเขาต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล

 

เช่นเดียวกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อต้านภัยพิบัติ ร่างกายที่ใหญ่โตของเขาค่อยๆลดขนาดลงเรื่อยๆ

 

กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนจากไฟป่าเป็นกองไฟ

 

“เทพปีศาจจิตวิญญาณ เจ้าต่อต้านสวรรค์ เจ้าต้องตายเยี่ยงสุนัข!” ก่อนตาย เจ้าวังสวรรค์ตะโกนสาปแช่งเป็นครั้งสุดท้าย

 

ผู้อมตะวังสวรรค์ที่อยู่ในหอคอยดวงตาสวรรค์ทั้งหมดตายแล้ว!

 

“บึม!”

 

หอคอยดวงตาสวรรค์ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

ผู้อมตะวังสวรรค์ที่อยู่ในสวรรค์สีขาวพยายามเก็บรวบรวมวิญญาณอมตะที่เหลือเอาไว้โดยเฉพาะวิญญาณชะตากรรม

 

ร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่เคยสูงหลายพันเมตรหดเล็กลงเหลือเพียงร้อยเมตร

 

ไม่เพียงเท่านั้นกลิ่นอายของเขายังอ่อนแอมาก

 

ภัยพิบัติใหญ่คุกปฐพีจบสิ้นลงในเวลานี้

 

แสงดาบพุ่งขึ้นสู่อากาศ ผีดิบอมตะโป้ชิงบินเข้าไปหาเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ดวงวิญญาณของโม่เหยาที่อยู่ในร่างผีดิบอมตะโป้ชิงกรีดร้อง “เทพปีศาจจิตวิญญาณ คืนสามีของข้ามา!”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณให้ความสนใจกับค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาเท่านั้น ตอนนี้ผีดิบอมตะสุดยอดกายาทั้งสิบถูกสังเวยไปแล้ว มันกลายเป็นดวงแสงหลากหลายสีสันเพียงดวงเดียว

 

ผีดิบอมตะโป้ชิงเข้าไปใกล้ “ท่านสัญญากับข้าว่าจะชุบชีวิตเขา!”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณหันหน้าไปทางโป้ชิง “ดวงวิญญาณแยกที่สร้างโป้ชิงถูกทำลายไปแล้วในภัยพิบัติ เมื่อดวงวิญญาณสูญหายไป แล้วข้าจะชุบชีวิตเขาได้อย่างไร?”

 

“ท่านโกหกข้า!?” ผีดิบอมตะโป้ชิงกำหมัดแน่น

 

“แน่นอนว่าข้าไม่ได้โกหกเจ้า ข้าเป็นร่างหลักของโป้ชิง เมื่อข้าฟื้นขึ้น มันก็หมายความว่าโป้ชิงฟื้นขึ้นเช่นกัน เมื่อข้าครองโลก มันก็หมายความว่าโป้ชิงสามารถบรรลุระดับเก้าเช่นกัน นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าคาดหวังเช่นนั้นหรือ?” เทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวอย่างช้าๆ

 

“ผีเฒ่า!” ผีดิบอมตะโป้ชิงพุ่งเข้าโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณด้วยความโกรธ

 

แต่แสงดาบของเขากลับอันตรธานหายไปในพริบตา

 

ผีดิบอมตะโป้ชิงลอยอยู่ด้านหน้าเทพปีศาจจิตวิญญาณโดยไม่สามารถขยับเขยื้อน

 

“เจ้าเป็นอุปสรรคสุดท้ายของข้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า น่าเสียดาย หากม่านเยี่ยนซื่อไม่เตือนข้าล่วงหน้า เจ้าอาจทำให้ข้าเดือดร้อน แต่ตอนนี้…ฮ่าฮ่า เจ้าลืมไปแล้วงั้นหรือว่าวิญญาณอมตะทั้งหมดของเจ้ามีเจตจำนงของข้าอยู่ภายใน เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าผู้ใดเป็นผู้ให้อาหารพวกมันตลอดหลายปีที่ผ่านมา”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณกล่าวต่ออย่างเย็นชา “ตอนนี้ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ฆ่าพวกเขาและกลับใจซะ”

 

โดยธรรมชาติ ‘พวกเขา’ ที่เทพปีศาจจิตวิญญาณหมายถึงก็คือผู้อมตะวังสวรรค์ที่อยู่ในสวรรค์สีขาว

 

ผีดิบอมตะโป้ชิงถ่มน้ำลายลงพื้น

 

“ฮืม หญิงโง่”

 

วินาทีต่อมาดวงวิญญาณของโม่เหยาก็ถูกดึงออกจากร่างของผีดิบอมตะโป้ชิงและถูกเทพปีศาจจิตวิญญาณกลืนกินเข้าไปในคำเดียว

 

“อิงอู๋เซี่ย เจ้าต้องปกป้องข้า ข้าต้องการเวลาอีกเพียงสิบลมหายใจก่อนที่ทุกสิ่งจะประสบความสำเร็จ” เทพปีศาจจิตวิญญาณก้มหน้ามองลงไปด้านล่าง

 

“ทราบแล้ว!” อิงอู๋เซี่ยบินขึ้นมาหยุดอยู่ด้านหน้าเทพปีศาจจิตวิญญาณด้วยความกระตือรือร้น

 

“เราหมดโอกาสแล้ว” ผู้อมตะวังสวรรค์ถอนหายใจและเริ่มล่าถอย

 

ด้านเทพปีศาจจิตวิญญาณ เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสิ่งที่กำลังหลอมรวม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

 

“หลังจากวางแผนและทุ่มเทความพยายามมานานหลายหมื่นปี ในที่สุดข้าก็ประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะระดับเก้า วิญญาณดวงนี้จะทำให้ข้าก้าวข้ามผู้อมตะระดับเก้าทั้งหมดในประวัติศาสตร์ ข้าจะได้รับร่างของปีศาจต่างโลกที่ไม่มีผู้ใดเคยเห็นมาก่อน ผู้อมตะระดับเก้าทั้งหมดจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับข้า กระทั่งมนุษย์คนแรกจะฟื้นขึ้นมา เขาก็ยังด้อยกว่าข้า ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเงยหน้าหัวเราะขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

ในเสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความวิกลจริต ความหยิ่งผยอง ความภาคภูมิใจ และความผ่อนคลาย

 

สายลมพัดร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณให้สั่นไหว

 

หากเขาไม่กินดวงวิญญาณของโม่เหยาเข้าไป เขาอาจไม่สามารถรักษาร่างกายเอาไว้ได้

 

เสียงหัวเราะหยุดลง

 

ดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลายเป็นน่ากลัว “ยิ่งใกล้จุดจบ ข้ายิ่งไม่สามารถประมาท”

 

ด้วยการใช้วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เขาสามารถสอดส่องพื้นที่โดยรอบ

 

ในสวรรค์สีขาว ผู้อมตะวังสวรรค์ล่าถอยไปแล้วแต่พวกเขายังทิ้งวิญญาณสายสืบสวนเอาไว้

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเงยหน้าพ่นลมหายใจขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

ปราณจิตวิญญาณพุ่งเข้าทำลายวิญญาณสายสืบสวนทั้งหมดของผู้อมตะวังสวรรค์ในครั้งเดียว

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณมองไปรอบๆ ในที่สุดเขาก็เห็นฟางหยวน

 

ขณะนี้ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันกำลังปกป้องเขา

 

ฟางหยวนนอนอยู่บนพื้น เปลือกตาของเขาเริ่มสั่นไหวราวกับเขากำลังจะตื่นขึ้น

 

“เขาตื่นแล้ว! เขาตื่นแล้ว!” ไท่เป่ยหยุนเฉิงกรีดร้องด้วยความดีใจ

 

ไห่ลั่วหลันขมวดคิ้วกล่าว “เช่นนั้นก็รีบตื่นขึ้นมาและใช้วิญญาณท่องแดนอมตะออกไปจากสถานที่นองเลือดแห่งนี้!”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างกันมาก นอกจากนี้หากเขาตื่น เขาอาจไม่เสี่ยงกลับมาภูเขาอี้เทียน หรือกระทั่งเขาจะเสี่ยง มันก็มีเวลามากพอสำหรับเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

หลังจากภัยพิบัติมากมายผ่านพ้นไป ภูเขาอี้เทียนกลายเป็นพื้นที่ที่ว่างเปล่า

 

ผู้อมตะถูกบูชายัญพร้อมกับมิติช่องว่างของพวกเขา มีเพียงแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตและความตายเท่านั้นที่ถูกรักษาไว้โดยเจตนา

 

“ไม่มีปัญหา อา…ไม่” เทพปีศาจจิตวิญญาณมองไปที่อิงอู๋เซี่ย

 

อิงอู๋เซี่ยกระพริบตาสองสามครั้งขณะมองไปที่ร่างหลักของเขา

 

“อายุขัยของเจ้าเหลือเท่าใด?” เทพปีศาจจิตวิญญาณถาม

 

อิงอู๋เซี่ยตอบ “ข้าเหลือเวลาอีกสิบห้านาที”

 

“นั่นเกินพอแล้ว” ในที่สุดเทพปีศาจจิตวิญญาณก็สามารถถอนหายใจ

 

เขาแทบไม่สามารถรักษาร่างกายเอาไว้ได้อีกต่อไปแต่เขายังใช้จิตวิญญาณกระตุ้นการหลอมรวมและเปลี่ยนดวงแสงให้เป็นของแข็ง

 

ระหว่างกระบวนการนี้ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างกะทันหัน

 

“เจตจำนงสวรรค์!” เขาผุดลุกขึ้นยืนด้วยความวิตกและโกรธเกรี้ยว

 

“ฟางหยวน ในที่สุดเจ้าก็ตื่นขึ้น!” ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันมีความสุขมาก

 

“บึม!”

 

ฟางหยวนโจมตีคนทั้งสองที่ช่วยชีวิตเขา!

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันถูกส่งลอยกลับหลัง

 

วิญญาณท่องแดนอมตะ!

 

“พรวด!”

 

เขาพ่นเลือดคำโตออกมาจากปากหลังจากล้มเหลวในการกระตุ้นใช้วิญญาณท่องแดนอมตะ

 

“บัดซบ! ข้าต้องทำให้ทันเวลา!” เขากัดฟันแน่นก่อนจะกระตุ้นใช้วิญญาณท่องแดนอมตะอีกครั้ง

 

ก่อนที่ไท่เป่ยหยุนเฉิงและไห่ลั่วหลันจะกลับมาถึง ฟางหยวนก็ทำสำเร็จแล้ว

 

เขากลับไปที่ภูเขาอี้เทียน!

 

เขาอยู่ห่างจากภูเขาอี้เทียนหนึ่งหมื่นลี้ เมื่อเห็นสนามรบที่เปลี่ยนแปลงไป เขาตกใจมาก

 

มันสายไปแล้ว!

 

เป็นดังที่เทพปีศาจจิตวิญญาณคาดการณ์ ฟางหยวนมาไม่ทันเวลา

 

แต่…

 

ก่อนที่เทพปีศาจจิตวิญญาณกำลังจะผสานดวงวิญญาณของตนเข้ากับทารกอมตะ อิงอู๋เซี่ยกลับคว้าร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณเอาไว้

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณได้ยินอิงอู๋เซี่ยกล่าวเพียงไม่กี่คำ

 

“นำวิญญาณสู่ความฝัน!”

 

“อา…”

 

ในเสี้ยวพริบตาต่อมา เทพปีศาจจิตวิญญาณถูกนำเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน

 

ขณะที่ดวงวิญญาณของฟางหยวนหลุดออกมาจากร่างของอิงอู๋เซี่ย

 

จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหลอมรวมกับทารกอมตะต่อหน้าเทพปีศาจจิตวิญญาณ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด