Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1039

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1039 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1039 ดาบทมิฬ

แปลโดย iPAT 

 

“วิญญาณท่องแดนอมตะ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาประหลาดใจเล็กน้อย

 

ฟางหยวนตอบกลับอย่างใจเย็น “อย่ากังวล ข้าแน่ใจว่าวิญญาณท่องแดนอมตะไม่มีอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป”

 

เรื่องที่ฟางหยวนถามหนี่เซียงก็คือวิญญาณท่องแดนอมตะ วิญญาณกาลเวลา และวิญญาณดวงอื่นๆของเขาถูกทำลายไปแล้วใช่หรือไม่?

 

คำตอบคือไม่!

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถยืนยันบางสิ่ง

 

ประการแรก วิญญาณบางส่วนของเขาระเบิดตัวเองไปแล้วขณะที่วิญญาณบางดวงยังอยู่

 

ประการที่สอง อิงอู๋เซี่ยมีแนวโน้มที่จะค้นพบและสามารถทำลายแผนการที่ฟางหยวนเตรียมไว้ในร่างเดิมของเขา

 

หนี่เซียงรุ่นปัจจุบันเหลืออายุขัยไม่มาก หลังจากตอบคำถามเพียงข้อเดียวของฟางหยวน เขาก็เสียชีวิตทันที

 

แต่เพียงคำตอบเดียวก็ช่วยฟางหยวนได้มากแล้ว

 

‘ในกรณีเลวร้ายที่สุด อิงอู๋เซียได้ทำลายแผนการของข้าไปแล้ว ตอนนี้เขาจะซ่อนตัวจากข้าและไม่ได้อยู่ที่ภาคใต้อีกต่อไป’

 

‘ข้าไม่สามารถติดต่อไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิง มีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกเขาจะเข้าร่วมกับอิงอู๋เซี่ยหรืออาจจะตายไปแล้ว’

 

‘ข้าสงสัยว่าวิญญาณดวงใดบ้างที่ถูกทำลายไปแล้ว แต่ด้วยความตั้งใจของข้า วิญญาณท่องแดนอมตะเป็นวิญญาณดวงแรกที่จะระเบิดตัวเอง’

 

ฟางหยวนทำเช่นนี้เพราะเขารู้จักพลังอำนาจของวิญญาณท่องแดนอมตะเป็นอย่างดี แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ปล่อยให้ศัตรูใช้ประโยชน์จากมัน

 

‘สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือการระเบิดตัวเองของวิญญาณท่องแดนอมตะทำให้อิงอู๋เซี่ยค้นพบปัญหาและรีบผนึกวิญญาณดวงอื่น’

 

‘สถานการณ์ของเขาเลวร้ายกว่าข้า แต่หากเขาสามารถผนึกวิญญาณดวงอื่น นั่นหมายความว่าเขาได้รับความช่วยเหลือจากไห่ลั่วหลัน ไท่เป่ยหยุนเฉิง หรือกองกำลังที่เหลืออยู่ของนิกายเงา’

 

นิกายเงาถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณมานานหลายหมื่นปี เป็นเรื่องธรรมดาหากพวกเขาจะมีกองกำลังพิเศษที่ซ่อนอยู่

 

‘นิกายเงามีอยู่ทั้งห้าภูมิภาค กระทั่งกองกำลังพันธมิตรผีดิบก็เป็นกองกำลังย่อยของพวกเขา หลังจากการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน มีความเป็นไปได้ว่ากองกำลังในภาคใต้ของพวกเขาจะได้รับความสูญเสียมากที่สุด ขณะที่กองกำลังในภูมิภาคอื่นได้รับผลกระทบน้อยกว่า’

 

‘เมื่อวิญญาณท่องแดนอมตะถูกทำลาย อิงอู๋เซี่ยจะไม่สามารถพึ่งพาเพียงไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงเพื่อจัดการข้า เขาต้องเตรียมความพร้อมโดยการรวบรวมสมาชิกที่เหลืออยู่ของนิกายเงา นอกจากนั้นเขาจะพยายามหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะเช่นกัน’

 

ร่างใหม่ของฟางหยวนทำให้เขาคิดเรื่องต่างๆได้อย่างรวดเร็ว

 

การหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่เขาต้องทำ

 

เนื่องจากประตูแห่งดวงดาวไม่สามารถขนส่งร่างใหม่ของเขา วิญญาณท่องแดนอมตะยังเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด

 

‘ตราบเท่าที่ข้าได้รับวิญญาณท่องแดนอมตะ ข้าจะสามารถเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้โดยตรงและเก็บวิญญาณอมตะทั้งหมดไว้กับตัวข้าเอง’

 

‘ทรัพยากรในการบ่มเพาะที่ข้าสะสมไว้สามารถเก็บไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิเช่นกัน’

 

‘ข้ายังสามารถไปที่ถ้ำนรกใต้พิภพเพื่อกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว’

 

ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด มันก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฟางหยวน

 

สวรรค์สีเหลืองเป็นตลาดเปิดและยังเสียค่าธรรมเนียม มันไม่เหมาะที่จะใช้ขนส่งสิ่งของ

 

หากฟางหยวนใช้สวรรค์สีเหลืองขนส่งวิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งดาบ ความมั่งคั่งทั้งหมดของเขาอาจกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

 

“แน่ใจหรือว่าต้องการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถามอีกครั้ง

 

ฟางหยวนรู้สึกผิดปกติ “อันใด? ท่านไม่สามารถงั้นหรือ?”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาส่ายศีรษะ “ข้ามีความสามารถอย่างแน่นอน แต่ข้ายังขาดวัตถุดิบสำคัญ เจ้าลองทายดูว่ามันคือสิ่งใด?”

 

ฟางหยวนขมวดคิ้ว “มันคือแสงแรกกำเนิดงั้นหรือ?”

 

“ถูกต้อง” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบ “ไม่ว่าเจ้าจะใช้เคล็ดลับใดในการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ วัตถุดิบที่สำคัญที่สุดก็คือแสงแรกกำเนิด มันเป็นเรื่องยากที่จะเก็บรักษาแสงชนิดนี้”

 

“ไม่มีแม้แต่เคล็ดลับเดียว?” ฟางหยวนรู้ว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ได้โกหก แต่เขาไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้

 

“ไม่มี” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบอย่างหนักแน่น “ข้ามีเคล็ดลับในการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะสองเคล็ดลับ แต่ทั้งสองต่างต้องใช้แสงแรกกำเนิด ความแตกต่างเดียวคือปริมาณของแสงแรกกำเนิดที่ใช้”

 

“วิญญาณท่องแดนอมตะล้ำค่ามาก หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ มันคงถูกหลอมรวมไปนานแล้ว”

 

ได้ยินเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะรู้สึกว่าตนเองโชคดีมากที่สามารถหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้เซียวเมิ้งตายไปแล้ว

 

เซียวซานและเซียวเมิ้งเป็นตัวหมากเบี้ยของผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลเซียวในการแข่งขันบนภูเขาอี้เทียน

 

ทั้งสองเป็นตัวตนที่โดดเด่น แต่พวกเขาก็เป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ที่ไร้นัยสำคัญสำหรับผู้อมตะ

 

เมื่อเซียวเมิ้งตายบนภูเขาอี้เทียน วิญญาณแสงสุดขั้วก็ถูกทำลายไปพร้อมกันกับเขา

 

‘เซียวเมิ้งตายไปแล้ว วิญญาณของเขาก็ไม่รอด แล้วข้าจะนำแสงแรกกำเนิดมาจากที่ใด? เป็นไปได้หรือไม่ที่จะใช้แสงแห่งปัญญาแทนแสงแรกกำเนิด?’ ฟางหยวนคิด

 

‘ลืมมันไปซะ แสงแห่งปัญญาอาจสามารถใช้แทนแสงแรกกำเนิด แต่ข้าไม่ใช่ผีดิบอมตะ ข้าไม่สามารถใช้งานมัน ข้าควรไปตรวจสอบที่ตระกูลเซียว บางทีข้าอาจพบเงื่อนงำบางอย่าง’

 

ฟางหยวนไตร่ตรองก่อนจะส่งวิญญาณที่ได้รับจากตระกูลหนี่ไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

ต่อมาเขายังขอรายชื่อท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งดาบจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

ฟางหยวนจบการสนทนากับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและรีบเดินทางไปยังตระกูลเซียว

 

ระหว่างทางเขาตรวจสอบท่าไม้ตายเหล่านั้นและพบว่าส่วนใหญ่เป็นท่าไม้ตายระดับมนุษย์ มีท่าไม้ตายอมตะเพียงสามท่า

 

ท่ามกลางพวกมัน หนึ่งเป็นท่าไม้ตายที่ไม่สมบูรณ์ มันไม่ต่างจากเคล็ดลับการหลอมรวมที่ไม่สมบูรณ์ มันอาจมีคุณค่าในการศึกษาแต่มันไร้ประโยชน์ในการใช้งานจริง

 

อีกสองท่าเป็นท่าไม้ตายสายเคลื่อนไหวและท่าไม้ตายสายโจมตี

 

ท่าไม้ตายอมตะสายเคลื่อนไหวมีชื่อว่า ดาบประกายสายฟ้า มันใช้วิญญาณอมตะสองดวงเป็นแกนกลาง หนึ่ง วิญญาณอมตะประกายดาบ สอง วิญญาณอมตะเสียงสายฟ้า

 

ท่าไม้ตายอมตะสายโจมตีมีชื่อว่า ดาบทมิฬ มันใช้วิญญาณอมตะสองดวงเป็นแกนกลางเช่นกัน หนึ่ง วิญญาณอมตะดาบบิน สอง วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด

 

เมื่อเห็นชื่อวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะลอบถอนหายใจ

 

เขาเคยตามหาวิญญาณอมตะดวงนี้เมื่อนานมาแล้วแต่เขาไม่ประสบความสำเร็จ

 

หลังจากเทพธิดาเจียงหยูเสียชีวิต วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดก็สูญหายไป

 

‘หากข้ามีวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด ข้าจะสามารถใช้มันร่วมกับวิญญาณอมตะดาบบินของข้าเพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะดาบทมิฬ น่าเสียดาย…’

 

ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดเรื่องนี้ เสียงสายหนึ่งกลับดังมาจากระยะไกล “สหาย โปรดรอก่อน”

 

ฟางหยวนหันหน้าไปรอบๆก่อนจะพบราชสีห์ปราณกำลังวิ่งเข้ามาพร้อมกับผู้อมตะสองคนที่นั่งอยู่บนแผ่นหลังของมัน

 

…..

 

ภาคกลาง ถ้ำนรกใต้พิภพ

 

อสูรวิญญาณกรีดร้องด้วยเสียงอันโหยหวน

 

“ระวัง วิญญาณอมตะเสียงภูตผีถูกใช้อีกครั้ง!” อิงอู๋เซี่ยตะโกนเตือน

 

คลื่นเสียงลึกลับพุ่งเข้าโจมตีอิงอู๋เซี่ย ไห่ลั่วหลัน และไท่เป่ยหยุนเฉิง

 

ทั้งสามไม่มีทางเลือกนอกจากต้องล่าถอยเท่านั้น

 

วิญญาณอมตะเสียงภูตผีเป็นวิญญาณอมตะป่าระดับเจ็ดที่อาศัยอยู่ในร่างของอสูรวิญญาณ อิงอู๋เซี่ย ไห่ลั่วหลัน และไท่เป่ยหยุนเฉิงบังคับให้อสูรวิญญาณตกอยู่ในอันตราย มันจึงตอบสนองด้วยการโจมตีที่รุนแรง

 

“นี่เป็นไปได้อย่างไร? อสูรวิญญาณตัวนี้เป็นเพียงสัตว์อสูรเดียวดายแต่มันกลับสามารถครอบครองวิญญาณอมตะระดับเจ็ด?” ไท่เป่ยหยุนเฉิงกรีดร้องด้วยร่างกายที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด

 

อีกสองคนก็อยู่ในสภาพที่ไม่น่ามองเช่นกัน

 

การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยกลายเป็นน่าเกลียด

 

พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์คับขันอย่างกะทันหัน

 

ก่อนหน้านี้ทุกอย่างยังปกติแต่หลังจากนั้นอสูรวิญญาณตัวหนึ่งกลับพุ่งเข้าโจมตีพื้นที่ของนิกายเงาโดยไม่คาดคิด

 

“วิญญาณอมตะเสียงภูตผีไม่พึ่งพาพลังงานอมตะ มันอาศัยพื้นฐานของจิตวิญญาณเท่านั้น ก่อนหน้านี้มันต้องเป็นสัตว์อสูรบรรพกาล แต่หลังจากใช้งานวิญญาณอมตะเสียงภูตผีอย่างต่อเนื่อง มันจึงลดระดับลงมาเป็นสัตว์อสูรเดียวดาย” อิงอู๋เซี่ยอธิบาย

 

ในเวลาเดียวกันคำๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา เจตจำนงสวรรค์!

 

‘แผนการของนิกายเงาล้มเหลว ข้ากำเนิดใหม่แต่ไม่กำจัดฟางหยวนตามความต้องการของเจตจำนงสวรรค์ ดังนั้นเจตจำนงสวรรค์จึงต้องการกำจัดข้าเช่นกัน’

 

วิธีแห่งสวรรค์คือการรักษาสมดุล

 

ก่อนหน้านี้นิกายเงาพยายามซ่อนตัวเองจากเจตจำนงสวรรค์ พวกเขาจึงถูกขัดขวางไม่มากนัก

 

แต่อิงอู๋เซี่ยท้าทายสวรรค์อย่างเปิดเผย ดังนั้นเจตจำนงสวรรค์จึงส่งอสูรวิญญาณตัวนี้มาจัดการเขา

 

‘เจตจำนงสวรรค์มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง!’

 

‘ย้อนกลับไปฟางหยวนสามารถหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาก็เพราะความตั้งใจของเจตจำนงสวรรค์ วิญญาณท่องแดนอมตะก็เช่นกัน!’

 

‘ข้าต้องทำลายวิญญาณกาลเวลาที่อยู่ในร่างของข้าจริงๆงั้นหรือ?’

 

อิงอู๋เซี่ยลังเล

 

“เราไม่สามารถต่อสู้กับอสูรวิญญาณตัวนี้! เหตุใดเจ้ายังต้องเก็บซ่อนความแข็งแกร่ง? เหตุใดไม่ใช่ค่ายกลวิญญาณเหล่านั้น!?” ไห่ลั่วหลันกระตุ้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด