Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1055

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1055 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1055 เผชิญหน้าภัยพิบัติ (3)

แปลโดย iPAT 

 

อินทรีย์มงกุฎเหล็กสามตัวพุ่งมาที่ฟางหยวน

 

ดาบประหารชีวิต!

 

แต่ฟางหยวนกลับพ่นเลือดคำโตออกมาจากปากเมื่อท่าไม้ตายล้มเหลว

 

หลังจากทั้งหมดเขาพึ่งได้รับท่าไม้ตายนี้มาไม่นานและยังไม่ชำนาญมากพอ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน มันมีโอกาสล้มเหลวสูงมาก

 

เสียงกรีดร้องอันแหลมสูงของนกอินทรีย์ดังขึ้นขณะที่มันใช้กรงเล็บโจมตีศัตรู

 

ปีกค้างคาวมายาสะบัดตัวส่งร่างของฟางหยวนล่าถอยออกไป

 

อย่างไรก็ตามโล่สายลมที่อยู่รอบตัวเขาถูกทำลายในการโจมตีนี้

 

ฟางหยวนตัดสินใจใช้ท่าไม้ตายอมตะดาบประหารชีวิตอีกครั้งและครั้งนี้เขาประสบความสำเร็จ!

 

ดาบบินแทงทะลุแผ่นหลังของอินทรีย์มงกุฎเหล็ก

 

แต่ในจังหวะนี้ลมหนาวที่พัดมาจากด้านหลังทำให้หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก เขาไม่มีเวลาคิดสิ่งใดและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติทันที

 

ฟางหยวนบินขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับลูกศรและสามารถหลบการโจมตีของอินทรีย์มงกุฎเหล็กได้อย่างฉิวเฉียด

 

วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติเร็วมาก เพียงเสี้ยวพริบตาฟางหยวนก็สามารถสร้างระยะห่างออกจากอินทรีย์มงกุฎเหล็กได้ถึงสิบลี้

 

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

หลังจากสงบจิตใจ ฟางหยวนเรียกวิญญาณอมตะดาบบินกลับมา

 

ก่อนหน้านี้เขาส่งวิญญาณอมตะดาบบินออกไป หลังจากโจมตีอินทรีย์มงกุฎเหล็ก มันต้องใช้เวลามากกว่าสิบลมหายใจเพื่อบินย้อนกลับมาหาฟางหยวน

 

สำหรับอินทรีย์มงกุฎเหล็กที่ถูกแทง มันกรีดร้องอย่างน่าเวทนาก่อนจะร่วงลงสู่พื้นและกลายเป็นกองหิมะ

 

อินทรีย์มงกุฎเหล็กที่เหลืออีกสองตัวพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอีกครั้งจากด้านซ้ายและขวา

 

ฟางหยวนไม่เต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับพวกมัน เขาใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติล่าถอยออกไป

 

เส้นทางแห่งดาบมีข้อดีด้านการโจมตีแต่ด้อยด้านการป้องกัน

 

ด้วยวิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติ ฟางหยวนสามารถสร้างระยะห่างออกมาจากอินทรีย์มงกุฎเหล็กอีกครั้ง

 

กระทั่งวิญญาณอมตะดาบบินก็ยังเร็วไม่เท่ากับการเคลื่อนไหวของฟางหยวน

 

ฟางหยวนบินเป็นวงกลมอยู่บนท้องฟ้าก่อนจะส่งวิญญาณอมตะดาบบินออกไปในจังหวะที่เหมาะสม มันบินผ่านอินทรีย์มงกุฎเหล็กตัวแรกและทะลวงร่างของอินทรีย์มงกุฎเหล็กทั้งสอง

 

ร่างของอินทรีย์มงกุฎเหล็กตัวที่สองแตกสลายกลายเป็นหิมะตกลงบนพื้น

 

อินทรีย์มงกุฎเหล็กตัวสุดท้ายบินเข้ามาหาฟางหยวนด้วยความโกรธแค้น

 

ฟางหยวนกำลังจะเรียกวิญญาณอมตะดาบบินกลับมาแต่ในจังหวะนี้หัวใจของเขากลับสั่นสะท้านขึ้น

 

คิ้วของเขายกตัวขึ้นขณะที่ใบหน้าไม่สามารถปกปิดความสุข

 

‘ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง! ดูเหมือนการคาดเดาของข้าจะถูกต้อง มันประสบความสำเร็จ!’

 

ฟางหยวนตั้งใจมาที่แดนน้ำแข็งเพราะความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง

 

จากบันทึกในประวัติศาสตร์ เมื่อผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเพื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะที่นี่ พวกเขาจะได้รับความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง

 

แต่ของขวัญชิ้นนี้มีไว้สำหรับผู้ใช้วิญญาณเท่านั้น

 

หลังจากพวกเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ แม้พวกเขาจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ ณ สถานที่แห่งนี้ พวกเขาก็จะไม่ได้รับความหมายที่แท้จริงใดๆ

 

อย่างไรก็ตามหลังจากฟางหยวนได้รับท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ เขาสงสัยว่ามันจะทำให้เขาได้รับความหมายที่แท้จริงหรือไม่

 

ก่อนหน้านี้เมื่อเขาสังหารอสูรหิมะ เขาไม่ได้รับความหมายที่แท้จริงใดๆ เขาคิดว่าการคาดเดาของเขาผิด แต่หลังจากสังหารอินทรีย์มงกุฎเหล็ก เขากลับได้รับความหมายที่แท้จริงโดยไม่คาดคิด

 

ความหมายที่แท้จริงทำให้เขาเกิดความเข้าใจบางสิ่ง

 

เขารู้สึกราวกับได้เห็นอินทรีย์มงกุฎเหล็กตั้งแต่แรกกำเนิด บินครั้งแรก ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เขายังรู้สึกถึงวิธีการกระพือปีกของพวกมัน เขากำหมัดแน่นราวกับกรงเล็บอินทรีย์ที่แข็งแกร่งขณะที่ดวงตาสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล

 

ความสำเร็จบนเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขาเพิ่มสูงขึ้น!

 

นอกจากนั้นความสำเร็จด้านการบินของเขายังเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

 

ความหมายที่แท้จริงไม่ต่างจากการได้รับคำสั่งสอนโดยตรงจากเทพปีศาจคลั่ง

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเพิ่มขึ้นของระดับความสำเร็จเป็นประโยชน์ในหลายแง่มุม

 

หากเขาฝึกฝนด้วยตนเอง ความสำเร็จของเขาอาจเพิ่มขึ้นหลังจากผ่านไปหลายสิบหรือหลายร้อยปี นอกเหนือจากอาณาจักรแห่งความฝัน มีเพียงความหมายที่แท้จริงเท่านั้นที่จะทำให้ระดับความสำเร็จของคนผู้หนึ่งเพิ่มสูงขึ้นได้ในทันที

 

‘ในความเป็นจริงอาณาจักรแห่งความฝันเกิดจากอารมณ์ ความหลงใหล และความปรารถนา เมื่อคนผู้หนึ่งสามารถก้าวข้ามอุปสรรคในอาณาจักรแห่งความฝัน ระดับความสำเร็จของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น มันเหมือนการปลดปล่อยตนเองจากอารมณ์ต่างๆในอาณาจักรแห่งความฝันโดยไม่สูญเสียตัวตน ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถดึงความหมายที่แท้จริงออกมาจากความทรงจำที่กระจัดกระจายอยู่และเติบโตขึ้น’

 

‘แก่นแท้ของมันก็คือความหมายที่แท้จริง’

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

ฟางหยวนหลบอินทรีย์มงกุฎเหล็กที่บินเข้ามา

 

เหลืออินทรีย์มงกุฎเหล็กอีกเพียงตัวเดียว ฟางหยวนสร้างระยะห่างออกไปก่อนจะใช้ท่าไม้ตายอมตะดาบประหารชีวิตกำจัดมันโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ

 

เขาสำรวจพลังงานอมตะและพบว่ายังเหลืออยู่

 

แม้เขาจะใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบและวิญญาณอมตะระดับเจ็ดหลายครั้ง แต่ฟางหยวนเตรียมตัวมาก่อนแล้ว

 

นอกจากนั้นเขายังไม่ได้ยืมหินวิญญาณอมตะจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลาง

 

ในความเป็นจริงพลังงานอมตะส่วนใหญ่ของเขาถูกใช้ไปในกระบวนการสร้างมิติภัยพิบัติ

 

เมื่อไม่มีศัตรูอยู่บนท้องฟ้า ฟางหยวนมองลงไปบนพื้นอีกครั้ง

 

อสูรหิมะที่ยืนอยู่บนพื้นยกศีรษะขึ้นและคำรามด้วยความดุร้าย

 

‘จำนวนเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้า’ ฟางหยวนขมวดคิ้ว

 

ในเวลาต่อมาดาบสายลมและพายุหมุนทมิฬก็ถูกปล่อยออกไป

 

“บึม บึม บึม…”

 

เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

หลังจากผ่านไปหลายสิบรอบ ฟางหยวนจึงหยุดโจมตี

 

อสูรหิมะตัวเล็กตัวน้อยถูกทำลายไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงอสูรหิมะเดียวดายเท่านั้นที่ยังอยู่

 

ท่าไม้ตายระดับมนุษย์ไม่ใช่ภัยคุกคามของพวกมัน

 

แต่ในจังหวะนี้อสูรหิมะตัวเล็กตัวน้อยกลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

 

‘พวกมันยังอยู่!’ ฟางหยวนเริ่มรู้สึกปวดหัว

 

เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะดาบประหารชีวิตกำจัดอสูรหิมะเดียวดาย ขณะเดียวกันก็ใช้ท่าไม้ตายระดับมนุษย์เก็บกวาดอสูรหิมะตัวเล็กตัวน้อย

 

สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจก็คือไม่ว่าเขาจะสังหารอสูรหิมะไปมากเท่าใด เขาก็ไม่เคยได้รับความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง

 

‘ภัยพิบัติพิภพครั้งนี้แปลกมาก มันไม่มีบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ แต่ด้วยพลังอำนาจระดับนี้ มันก้าวข้ามภัยพิบัติของไห่ลั่วหลันไปแล้ว!’

 

ทันใดนั้นพายุหิมะพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง

 

นกกระเรียนหิมะหลายตัวบินออกมา

 

นอกจากนั้นพวกมันยังเป็นสัตว์อสูรเดียวดายกระเรียนเก้ามงกุฎ!

 

ฟางหยวนเลียริมฝีปากและพุ่งไปข้างหน้าด้วยความกระหายเลือด

 

หลังจากกำจัดกระเรียนเก้ามงกุฎ ฟางหยวนรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้รับความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง

 

ฟางหยวนต่อสู้กับกระเรียนเก้ามงกุฎอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ

 

เขาเคลื่อนที่ไปรอบๆเพื่อหลบเลี่ยงและโจมตีด้วยความเร็วสูง

 

เดิมทีเขาถูกศัตรูจำนวนมากปิดล้อมและตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

 

แต่หลังจากสังหารกระเรียนเก้ามงกุฎไปหลายตัว มันจึงเกิดพื้นที่ให้เขาบุกและล่าถอย

 

เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็สามารถควบคุมสถานการณ์

 

กระเรียนเก้ามงกุฎมีจำนวนมากว่าอินทรีย์มงกุฎเหล็กถึงสามเท่า แต่พวกมันยังถูกสังหารโดยฟางหยวน

 

ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ

 

ฟางหยวนรู้สึกถึงความสำเร็จที่ยกระดับขึ้น

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นอสูรหิมะจำนวนนับไม่ถ้วนที่รออยู่บนพื้น หัวใจของฟางหยวนก็จมดิ่งลงอีกครั้ง

 

ตอนนี้มีอสูรหิมะมากขึ้นถึงห้าหรือหกเท่า

 

อสูรหิมะตัวเล็กตัวน้อยปรากฏขึ้นเรื่อยๆขณะที่อสูรหิมะเดียวดายค่อยๆยกระดับเป็นอสูรหิมะบรรพกาล

 

นี่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกถึงแรงกดดันที่เพิ่มสูงขึ้น

 

‘สถานการณ์นี้ข้าต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบท่าที่สามเท่านั้น’

 

ท่าไม้ตายอมตะ คลื่นดาบสามชั้น!

 

ฟางหยวนสูดหายใจลึกและเพ่งความสนใจมากกว่าหกสิบส่วนกับการใช้ท่าไม้ตายนี้

 

ความยากของท่าไม้ตายอมตะคลื่นดาบสามชั้นสูงกว่าท่าไม้ตายอมตะดาบประหารชีวิต ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่สามารถละเลย

 

ฟางหยวนกำลังจะโจมตีอสูรหิมะแต่ในจังหวะนีักลับมีเงาร่างขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นด้านบน

 

ฟางหยวนเงยหน้าขึ้นไปและเห็นค้างคาวมรณะกำลังก่อตัวขึ้นกลางอากาศ

 

‘โอ้ ไม่!’ หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก

 

ค้างคาวมรณะตัวนี้มีขนาดร่างกายใหญ่โตมาก โดยไม่ต้องสงสัย มันคือสัตว์อสูรบรรพกาลที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับเจ็ด!

 

ค้างคาวมรณะบรรพกาลเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ พวกมันมีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวมาก หากพวกมันอาละวาดอยู่ในมิติช่องว่าง พวกมันอาจเจาะทะลวงกำแพงมิติและทำให้เกิดรูช่องโหว่ขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด