Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1069

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1069 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1069 การเคลื่อนไหวของวังสวรรค์

แปลโดย iPAT 

 

ผีเสื้อสีเขียวบินลงมาเกาะบนปลายนิ้วของเทพธิดาจื่อเว่ย

 

เทพธิดาจื่อเว่ยมองผีเสื้อหยกตัวนี้และเผยรอยยิ้มบาง “นี่คือวิญญาณท่องแดนอมตะงั้นหรือ?”

 

ผู้อมตะหญิงชราที่อยู่ด้านข้างตอบอย่างไร้อารมณ์ “ถูกต้อง”

 

หญิงชราผู้นี้มีเส้นผมหยักศกสีเหลืองคล้ายข้าวสาลี ใบหน้าของนางเหี่ยวย่น ดวงตาพร่ามัว ตอนนี้นางอยู่ในชุดคลุมสีน้ำตาล

 

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวด้วยการแสดงออกที่จริงใจ “มันเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหกแต่ได้รับการหลอมรวมโดยปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเช่นท่านยายชา นี่ถือเป็นเกียรติสำหรับมันอย่างแท้จริง”

 

ผู้อมตะหญิงชารผู้นี้เป็นสมาชิกวังสวรรค์ที่พึ่งตื่นขึ้นเร็วๆนี้

 

นางเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีอายุหลายพันปี นางถือเป็นผู้อาวุโสของวังสวรรค์และเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่หายาก

 

เทพธิดาจื่อเว่ยรู้จักนางเพียงเล็กน้อย

 

นางเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา นางสามารถอนุมานความลับมากมายจากเงื่อนงำเพียงเล็กๆ

 

นางรู้ว่ายายชาผู้นี้เหลืออายุขัยไม่มาก นางต้องจำศีลอยู่ในวังสวรรค์เพื่อชะลอเวลาตาย นางและเจ้าวังคนก่อนเป็นคนรุ่นเดียวกัน พวกเขากระทั่งเคยมีความสัมพันธ์กันเมื่อายุยังน้อย

 

ระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เจ้าวังคนก่อนเสียชีวิต นี่อาจเป็นเหตุผลที่ยายชายุติการจำศีลของตนและเลือกที่จะตื่นขึ้น

 

ยายชามองวิญญาณท่องแดนอมตะที่อยู่ในมือของเทพธิดาจื่อเว่ยและถอนหายใจ “ข้าเป็นเพียงหญิงชราที่กำลังจะตาย ข้าจะมีเกียรติอันใด? ด้วยการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะดวงนี้ ข้าสามารถช่วยเจ้าจับฟางหยวนหรือไม่?”

 

การหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะต้องใช้แสงแรกกำเนิด แต่แสงแรกกำเนิดหาได้ยากแต่วังสวรรค์เป็นข้อยกเว้น

 

นี่คือกองกำลังอันดับหนึ่งของโลกมาอย่างยาวนาน

 

นิกายเมฆาวายุเป็นเพียงกองกำลังย่อยของวังสวรรค์ แต่พวกเขายังมีแสงแรกกำเนิด แล้ววังสวรรค์จะไม่มีได้อย่างไร

 

โดยไม่ต้องสงสัย ยายชาสามารถหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะได้โดยไร้ปัญหาเรื่องทรัพยากร

 

นี่คือรากฐานที่วังสวรรค์สะสมมาสามล้านปี!

 

คำตอบของยายชาทำให้เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้ม “จากการอนุมาน ข้าสามารถรับประกันได้หกสิบส่วน”

 

ดวงตาของยายชาส่องประกายขึ้น “เจ้าและเจ้าวังคนก่อนเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาในระดับเดียวกัน ผลลัพธ์หกสิบส่วนเป็นโอกาสที่ต้องทดลอง”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้าเบาๆ “กล่าวตามตรง ข้าอนุมานได้เพราะข้าได้รับเงื่อนงำบางอย่างโดยบังเอิญ ฟางหยวนครอบครองวิญญาณกาลเวลาและวิญญาณท่องแดนอมตะ นี่ไม่ใช่ความลับ แต่เมื่อเร็วๆนี้หลังจากจับกุมปีศาจอมตะกงซุนเหลียง พวกเราได้เรียนรู้ว่าผู้นำของเขายืมวิญญาณอมตะจากเขา ต่อมาพวกเราพยายามตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ของฟางหยวนและพบว่าหนึ่งในพวกเขาอยู่ที่แม่น้ำหม้อหลอมรวม ที่นิกายเมฆาวายุ ผู้อมตะฟงเฉินซื่อขโมยแสงแรกกำเนิดและขายมันให้กับคนนอก”

 

“ดังนั้นเจ้าจึงอนุมานว่าวิญญาณท่องแดนอมตะของฟางหยวนถูกทำลายไปแล้วถูกต้องหรือไม่?” ยายาชาถาม

 

“มันมีความเป็นไปได้แต่มองดูจากผลลัพธ์ มันถูกต้อง” เทพธิดาจื่อเว่ยตอบ

 

“วิญญาณกาลเวลาถูกผนึกขณะที่วิญญาณท่องแดนอมตะอยู่กับพวกเรา ด้วยวิธีนี้การจับกุมเขาก็จะง่ายขึ้น” ยายชากล่าว

 

เทพธิดาจื่อเว่ยส่ายศีรษะและถอนหายใจ “แม้เราจะมีวิญญาณท่องแดนอมตะ มันก็เป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหก มันมีประโยชน์น้อยมาก”

 

“นั่นถูกต้อง” ยายชาเห็นด้วย “มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้วิญญาณท่องแดนอมตะกลายเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ดหรือแปด แสงแรกกำเนิดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด กระทั่งวังสวรรค์ยังสามารถทดลองหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดได้เพียงสามครั้ง สำหรับวิญญาณท่องแดนอมตะระดับแปด มันเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว”

 

วิญญาณท่องแดนอมตะระดับหกไม่สามารถขนส่งผู้อมตะระดับเจ็ดโดยไม่ต้องกล่าวถึงผู้อมตะระดับแปด

 

เว้นเพียงผู้ใช้งานจะเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่มีท่าไม้ตายอมตะบางอย่างเท่านั้น

 

แต่สถานการณ์ดังกล่าวหาได้ยาก

 

ยายชากล่าวต่อ “แท้จริงแล้ววังสวรรค์ของเราเคยเป็นเจ้าของวิญญาณท่องแดนอมตะมาแล้วหลายครั้ง ส่วนใหญ่เราจะมอบมันให้นิกายต่างๆเพื่อใช้งาน แต่เนื่องจากเหตุผลบางประการ พวกเรากลับสูญเสียวิญญาณท่องแดนอมตะไป ครั้งหนึ่งมันเคยอยู่ในมือของสมาชิกวังสวรรค์ ผู้อมตะเหลียงเหลียง เขาทำให้มันกลายเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด คนผู้นี้เป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ แต่หลังจากเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรแรกกำเนิด เขาเสียชีวิตในการต่อสู้ขณะที่วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดถูกทำลายไปพร้อมกัน”

 

วิญญาณท่องแดนอมตะเป็นสมบัติล้ำค่าของฟางหยวน แต่ในสายตาของวังสวรรค์ มันแทบไร้คุณค่า

 

ดังนั้นในสถานการณ์ปกติ วิญญาณท่องแดนอมตะจะถูกส่งต่อไปยันสิบนิกายโบราณของภาคกลาง

 

แต่ผู้ใดจะคิดว่าฟางหยวนจะสามารถหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะขึ้นมาและใช้มันสร้างปัญหามากมายให้กับโลกใบนี้

 

ยังคงต้องใช้คำกล่าวเดิม ไม่มีวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด มีเพียงผู้ใช้วิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด

 

พลังอำนาจของวิญญาณไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวมันเองเท่านั้นแต่สิ่งสำคัญคือผู้ใช้วิญญาณ

 

เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวต่อ “ชิงหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะและผนึกวิญญาณกาลเวลาเป็นการตัดปีกของฟางหยวน หลังจากนี้ข้าจะพยายามค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของฟางหยวนในภาคกลาง ท่านยายชา ข้าคงต้องขอให้ท่านช่วยหลอมรวมวิญญาณอมตะและซ่อมแซมหอคอยดวงตาสวรรค์”

 

ยายชาพยักหน้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เจ้าวังตาย ข้าไม่สามารถช่วยเขา แต่ข้าสามารถซ่อมแซมหอคอยดวงตาสวรรค์ ข้าแน่ใจว่าเขาจะสามารถนอนหลับอย่างสงบหลังประตูแห่งชีวิตและความตาย เอาล่ะ ลาก่อน”

 

หลังจากยายชาจากไป เทพธิดาจื่อเว่ยเรียกหาผู้อมตะหมื่นมังกร

 

“ฟงเฉินซื่อทำเรื่องผิดพลาดเพราะความเห็นแก่ตัว ดูเหมือนภาคกลางจะสงบสุขมานานเกินไป พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ทำลายชื่อเสียงของวังสวรรค์! ลงโทษเขา ให้เขาเฝ้าถ้ำมังกรเร้นเป็นเวลายี่สิบปี หากมังกรปีศาจเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เขาต้องชดใช้ด้วยชีวิต” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวเสียงเย็น

 

ผู้อมตะหมื่นมังกรพยักหน้าแต่ยังขมวดคิ้วบาง “แล้วเฒ่าเป่ยฟง?”

 

ฟงเฉินซื่อเป็นหลานของผู้อมตะเฒ่าเป่ยฟง เฒ่าเป่ยฟงผู้นี้มีความสามารถที่โดดเด่นและมีโอกาสก้าวเข้าเป็นสมาชิกของวังสวรรค์

 

เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้ม “หากเฒ่าเป่ยฟงต้องการมาวังสวรรค์ ข้าจะต้อนรับเขาด้วยตนเอง แต่ตอนนี้หลานชายของเขาต้องไปดูแลถ้ำมังกรเร้น ด้วยการบ่มเพาะระดับหก เขาไม่สามารถรับมือมันด้วยตนเอง แต่วังสวรรค์กำลังขาดกำลังคน ไม่มีผู้ใดสามารถไปช่วยเขา ดังนั้นเราจะปล่อยให้เฒ่าเป่ยฟงไปช่วยหลานชายของเขา”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยหยุนก่อนกล่าวต่อ “ข้าเรียกเจ้ามาที่นี่เพราะข้าอนุมานสมาชิกของนิกายท้าทายสวรรค์เรียบร้อยแล้ว ข้าต้องการให้เจ้าไปจับกุมพวกเขา หลังจากนั้นข้าจะค้นหาเงื่อนงำต่อไป”

 

“เข้าใจแล้ว” ผู้อมตะหมื่นมังกรรับคำสั่ง

 

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญามีคุณสมบัติที่จะรับผิดชอบงานนี้ แน่นอนว่านางเป็นผู้นำวังสวรรค์เพียงชั่วคราวเท่านั้น

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์มีสถานะเท่าเทียมกัน ตำแหน่งเจ้าวังต้องได้รับการตัดสินใจจากสมาชิกทั้งหมด เว้นเพียงจะมีเทพอมตะปรากฏตัวขึ้น แต่นั่นเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น

 

“ยายชาซ่อมหอคอยดวงตาสวรรค์”

 

“หมื่นมังกรออกไปจับสมาชิกนิกายท้าทายสวรรค์”

 

“เว่ยหลิงหยางกำลังตรวจสอบสมาชิกของวังสวรรค์ เราไม่สามารถปล่อยให้สายลับเข้ามา”

 

“ตอนนี้ข้าต้องค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของฟางหยวน เราไม่สามารถปล่อยเวลาให้ผ่านไป”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คิ้วของเทพธิดาจื่อเว่ยยกขึ้นเล็กน้อย

 

นี่เกิดจากผลของการมนุมานครั้งล่าสุดของนาง ยิ่งนางอนุมาน นางก็ยิ่งรู้สึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟางหยวนกับนิกายเงา

 

จากมุมมองของวังสวรรค์ เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นเป้าหมายหลัก พวกเขาไม่สามารถผ่อนคลายจนกว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณจะตายอย่างสมบูรณ์

 

ตอนนี้ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันที่ภาคใต้ วังสวรรค์ไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากมองดูเขาเสียชีวิตอย่างช้าๆในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ดังนั้นวังสวรรค์จึงมุ่งเน้นไปที่ฟางหยวนกับนิกายเงาเพื่อตัดกำลังเสริมที่จะให้ความช่วยเหลือเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

กองกำลังย่อยของนิกายเงาที่เหลืออยู่กำลังถูกโจมตีโดยผู้คนที่เทพธิดาจื่อเว่ยส่งออกไป

 

ฟางหยวนเป็นจุดสนใจของนางในปัจจุบัน วิญญาณท่องแดนอมตะไม่ใช่ปัญหา แต่วิญญาณกาลเวลาต่างออกไป

 

หากฟางหยวนย้อนกลับไปในอดีต สิ่งใดจะเกิดขึ้น?

 

ภาคกลาง ถ้ำนรกใต้พิภพ

 

อิงอู๋เซี่ยตื่นขึ้นอย่างช้าๆ

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น? นี่คือ…” อิงอู๋เซี่ยมึนงง

 

เขาค่อยๆปรับสายตาและฟื้นคืนสติ

 

“บัดซบ! ข้าล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ! หลังจากใช้ไพ่ตาย โชคของข้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก แล้วเหตุใดข้าจึงไม่ประสบความสำเร็จ?” อิงอู๋เซี่ยกำหมัดแน่น

 

เขารู้สึกถึงความสูญเสียและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป

 

ทันใดนั้นค่ายกลวิญญาณพลันเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างกะทันหัน

 

“โอ้ ไม่! นี่คือการอนุมานจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา ค่ายกลวิญญาณกำลังต่อต้านมัน!” ใบหน้าของอิงอู๋เซี่ยกลายเป็นซีดเผือด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด