Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1079

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1079 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1079 กลับคืนสู่เจ้าของ

แปลโดย iPAT 

 

อิงอู๋เซี่ยเปิดเปลือกตาขึ้นและมองเห็นภาพเหตุการณ์ปรากฏบนพื้นผิวของบ่อน้ำวิญญาณ

 

เขาเห็นผมที่หกคุกเข่าลงข้างหนึ่งและแสดงออกด้วยความรู้สึกผิด “นายท่าน ข้าทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อฟางหยวนเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ ข้าไม่ได้ใช้…”

 

“ผมที่หก เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า กล่าวไปแล้วเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะข้าใช้ไพ่ตายเพิ่มโชคให้กับตนเอง นั่นทำให้ฟางหยวนได้รับประโยชน์จากมันเช่นกัน” อิงอู๋เซี่ยส่งข้อความเสียงเข้าสู่จิตใจของผมที่หกโดยตรง

 

นี่คือวิธีการสื่อสารของนิกายเงา มันเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่มีประสิทธิภาพสูงมาก

 

ทั้งสองอยู่ต่างภูมิภาคและถูกกีดขวางโดยกำแพงพลังงาน นอกจากนี้ผมที่หกยังอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาแต่พวกเขายังสามารถสื่อสารและสามารถหลีกเลี่ยงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

ตอนนี้อิงอู๋เซี่ยไม่ได้อยู่ในร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนอีกต่อไป เขาอยู่ในร่างของผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งอีกตน

 

แต่ร่างนี้ค่อนข้างแก่ชรา มิติช่องว่างของเขาแตกสลายไปแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่สะดวกที่อิงอู๋เซี่ยจะใช้วิญญาณ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นวิญญาณระดับมนุษย์หรือวิญญาณอมตะ พวกมันสามารถอาศัยอยู่บนร่างกายของผู้อมตะไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง เส้นผม โลหิต กระดูก หรือส่วนอื่นๆ แต่การจัดเก็บในรูปแบบนี้มีความเสี่ยงเพราะกลิ่นอายของพวกมันจะรั่วไหลออกมาทำให้ศัตรูสามารถตรวจสอบ นอกจากนั้นหากร่างกายถูกทำลาย วิญญาณที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นก็จะถูกทำลายไปพร้อมกัน

 

หลังจากทั้งหมดวิญญาณเป็นสิ่งที่เปราะบางมาก

 

อิงอู๋เซี่ยพบความสูญเสียครั้งใหญ่ในการทำธุรกรรมกับฟางหยวนแต่การแสดงออกของเขายังสงบมาก

 

เขาให้กำลังใจผมที่หก “ครั้งนี้เจ้าทำงานได้ดีมาก เจ้าแสดงจุดอ่อนให้ฟางหยวนเห็นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เราสามารถทำธุรกรรมที่ดีที่สุดโดยเฉพาะตอนจบที่เจ้าแสร้งเป็นลมหมดสติ หากปราศจากความพยายามของเจ้า เราอาจไม่ได้รับทรัพยากรอมตะเหล่านี้”

 

ผมที่หกถอนหายใจ “ข้าตั้งใจเป็นลมเพื่อตรวจสอบฟางหยวน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ”

 

“ตั้งแต่เขารู้เบื้องหลังของพวกเรา เขาย่อมระวังตัวมากขึ้น นอกจากนั้นพวกเรายังสามารถทำธุรกรรมหลายครั้ง ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายจับมือกัน เขาย่อมกังวลว่าพวกเราจะรายงานเรื่องของเขากับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา” อิงอู๋เซี่ยตอบ

 

แม้อิงอู๋เซี่ยจะรู้สึกโศกเศร้ากับความสูญเสียแต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำธุรกรรมกับฟางหยวนเท่านั้น

 

ก่อนทำธุรกรรมนี้เขาได้เตรียมใจมาเพียงพอแล้ว

 

รายการทรัพยากรอมตะที่อิงอู๋เซี่ยให้ฟางหยวนดูเป็นสิ่งที่มากกว่าความต้องการของเขา

 

กล่าวโดยสรุป เขาบรรลุเป้าหมายแล้ว

 

ตอนนี้เขามีโอกาสแก้ไขสถานการณ์ ตราบเท่าที่เขาผ่านอุปสรรคนี้ เขาสามารถจัดการเรื่องต่างๆได้ในอนาคต

 

“วิญญาณอมตะดวงอื่นไม่สำคัญแต่ฟางหยวนไม่เพียงได้รับร่างเดิม เขายังได้รับวิญญาณกาลเวลา! ตอนนี้เขามีรากฐานที่แข็งแกร่งมาก!” ผมที่หกรู้สึกกังวล

 

อิงอู๋เซี่ยเย้ยหยัน “กระทั่งฟางยหวนจะได้รับร่างเดิมกลับคืน แล้วเขาจะกล้าใช้มันงั้นหรือ? วิญญาณกาลเวลาไม่มีปัญหา มันถูกผนึกเอาไว้นานแล้ว แม้ฟางหยวนจะสามารถแก้ปัญหานี้ แต่เขาจะพบกับความล้มเหลวหากกระตุ้นใช้งานวิญญาณกาลเวลาที่เต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ มันยังอีกนานที่เขาจะสามารถใช้มันได้อีกครั้ง นอกจากนั้นผู้อมตะวังสวรรค์ก็เตรียมตัวรับมือเรื่องนี้เอาไว้แล้ว”

 

ผมที่หกตะลึง มันกลายเป็นว่าเขากังวลมากเกินไป

 

เขาพยักหน้า “นายท่านกล่าวได้ถูกต้อง”

 

อิงอู๋เซี่ยถอนหายใจยาว “เจ้าจงจับตามองฟางหยวนต่อไป ตัวตนของเจ้าถูกเปิดเผยแล้ว แต่ฟางหยวนไม่สามารถทำสิ่งใดกับเจ้า มันไม่เป็นไรหากพวกเราไม่สามารถกำหราบเขา ตอนนี้เขามีวิญญาณอมตะจำนวนมาก เขาต้องแบกรับภาระที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนั้นภัยพิบัติที่เขาต้องเผชิญก็จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ปล่อยเขาไปจนกว่าข้าจะสามารถรวบรวมความแข็งแกร่ง หลังจากช่วยร่างหลักของเรา ข้าจะคิดบัญชีกับเขา!”

 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา อิงอู๋เซี่ยได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย

 

เขาเข้าใจว่าเมื่อใดต้องล่าถอย เขารู้ว่าสิ่งใดสำคัญกว่า และเรียนรู้ที่จะอดทน

 

หลังจากทั้งหมดเขาเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ทักษะตามธรรมชาติของเขาย่อมไม่ธรรมดา

 

ความล้มเหลว ความเจ็บปวด และความผิดหวังทั้งหมดผลักดันให้เขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

หลังจากเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมกับอิงอู๋เซี่ย

 

ฟางหยวนมองร่างผีดิบอมตะที่อยู่ตรงหน้าและถอนหายใจ

 

“ข้าไม่กล้าใช้งานมัน…” ฟางหยวนรู้สึกถึงปัญหา

 

เขาใช้ทุกวิธีที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อตรวจสอบร่างผีดิบอมตะของเขาและไม่พบปัญหาใด

 

แต่อิงอู๋เซี่ยคือผู้ใด? นิกายเงามีต้นกำเนิดอย่างไร?

 

มันคือเทพปีศาจจิตวิญญาณ!

 

เขาคือต้นกำเนิดของเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เทพปีศาจผู้สร้างกฎของโลกใบนี้!

 

แล้วอิงอู๋เซี่ยที่เป็นร่างแยกของเขาจะไม่สามารถวางกับดักบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณไว้ในร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนเช่นนั้นหรือ?

 

มันมีความเป็นไปได้สูงมาก

 

ธุรกรรมระหว่างฟางหยวนกับอิงอู๋เซี่ยไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของข้อตกลงบนเส้นทางแห่งข้อมูลใดๆตั้งแต่ต้นจนจบ

 

ทั้งสองฝ่ายไม่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

 

นอกจากนั้นความสำเร็จบนเส้นทางแห่งข้อมูลของฟางหยวนยังด้อยกว่าอิงอู๋เซี่ย หากเขาทำข้อตกลงบางอย่าง เขาอาจถูกหักหลังและส่งผลร้ายมากกว่าผลดี

 

ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของร่างนี้

 

ฟางหยวนต้องการร่างเดิมเพราะเขาต้องการใช้แสงแห่งปัญญา แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องย้ายดวงวิญญาณเข้าไปในร่างเดิมเป็นอันดับแรก

 

นี่เป็นเรื่องอันตรายมาก

 

นิกายเงามีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณมากที่สุด

 

ฟางหยวนไม่พบปัญหาใดอาจเป็นเพราะอิงอู๋เซี่ยไม่ได้วางกับดัก แต่สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคือเพราะฟางหยวนมีความสามารถไม่เพียงพอที่จะค้นพบสิ่งผิดปกติเหล่านั้น

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นผู้สร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ แต่ฟางหยวนต้องการถอดรหัสวิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณ นี่ไม่ต่างจากมือสมัครเล่นพยายามต่อต้านผู้เชี่ยวชาญ

 

“ดูเหมือนข้าต้องตรวจสอบร่างนี้อีกสักพัก ข้าไม่สามารถประมาท มิฉะนั้นข้าอาจตกลงสู่กับดักของนิกายเงา” ฟางหยวนเตือนตนเอง

 

“กระทั่งข้าจะไม่สามารถใช้งานวิญญาณสติปัญญา แต่ได้รับวิญญาณกาลเวลากลับคืนมาก็ถือว่าข้าประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว”

 

วิญญาณกาลเวลาเป็นไพ่ตายที่สำคัญที่สุดของฟาหยวนมาตลอด

 

ตอนนี้ฟางหยวนได้รับร่างเดิมกลับคืน วิญญาณกาลเวลาในฐานะวิญญาณหลักของเขาก็กลับมาเช่นกัน

 

ก่อนหน้านี้ผมที่หกปฏิเสธว่าอิงอู๋เซี่ยมีวิญญาณกาลเวลา

 

เนื่องจากต่างฝ่ายต่างไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ฟางหยวนไม่สามารถบอกได้ว่าคำกล่าวของผมที่หกเป็นเรื่องจริงหรือโกหก

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับพูดด้วยความมั่นใจ “นั่นเป็นไปไม่ได้! หากพวกเจ้าไม่มีมันจริงๆ พวกเขาจะหลอมรวมมัน ในกรณีนี้ข้าจะไม่สนใจสิ่งอื่นแต่พวกเจ้าต้องส่งวิญญาณกาลเวลามาให้ข้าโดยตรง”

 

แม้ผมที่หกจะสาบานด้วยชีวิตแต่ทัศนคติของฟางหยวนยังไม่เปลี่ยนแปลง

 

สุดท้ายฟางหยวนก็ได้รับวิญญาณกาลเวลากลับมาในที่สุด

 

แต่มันมีปัญหาเช่นกัน

 

มันถูกผนึกโดยวังสวรรค์ มันถูกตัดขาดจากสายธารแห่งกาลเวลาและอยู่ในสภาวะหิวโหย

 

นอกจากนี้ฟางหยวยังตระหนักถึงเจตจำนงสวรรค์ที่เป็นภัยคุกคามมากที่สุด

 

ร่างผีดิบอมตะและวิญญาณกาลเวลามีอันตรายซ่อนอยู่ พวกมันไม่สามารถใช้งาน

 

แต่ถึงกระนั้นฟางหยวนก็มีความสุข

 

“แม้ข้าจะไม่สามารถใช้งานพวกมันแต่ตราบเท่าที่พวกมันอยู่ในการครอบครองของข้า มันก็ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่แล้ว!”

 

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิญญาณกาลเวลา!”

 

หลังจากได้รับร่างเดิมและวิญญาณกาลเวลา ฟางหยวนยังต้องการแลกเปลี่ยนวิญญาณท่องแดนอมตะ แต่ผมที่หกจะนำมันมาจากที่ใด?

 

แม้ผมที่หกจะถูกบีบบังคับโดยฟางหยวนแต่มันก็ไร้ประโยชน์

 

ฟางหยวนเดาว่าพวกเขาล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ หากพวกเขาครอบครองมันอยู่ พวกเขาย่อมใช้มันหลบหนีไปนานแล้ว เหตุใดพวกเขายังต้องการทำธุรกรรมกับเขา?

 

สิ่งสำคัญกว่าก็คือการทำธุรกรรมกับผมที่หกหมายถึงการทรยศต่อนิกายหลางหยา

 

หากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้เรื่องนี้ มันจะส่งผลเสียมากกว่าผมดี

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงยอมแพ้เกี่ยวกับวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

แม้จะไม่ได้รับวิญญาณท่องแดนอมตะแต่ฟางหยวนก็ได้รับกำไรมหาศาลในการทำธุรกรรมครั้งนี้

 

ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ยังมีวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของพลังปราณ และวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของหมีบินของไห่ลั่วหลัน รวมถึงวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า และวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้าของไท่เป่ยหยุนเฉิง ติดตามมาด้วยวิญญาณอมตะยกภูเขา วิญญาณอมตะดึงแม่น้ำ วิญญาณอมตะเนตรดารา และวิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติของฟางหยวน

 

สำหรับวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของอินทรีย์มงกุฎเหล็กและวิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชค พวกมันติดอยู่ในสวรรค์สีเหลือง

 

วิญญาณอมตะกินความแข็งแกร่ง วิญญาณอมตะล้างใจ วิญญาณท่องแดนอมตะ วิญญาณอมตะศรดาวตก วิญญาณอมตะแสงดาว และวิญญาณอมตะดวงอื่นของฟางหยวน พวกมันระเบิดตัวเองไปแล้ว อิงอู่เซี่ยไม่สามารถรักษาพวกมันเอาไว้

 

อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้อาจเป็นข้อมูลลวง

 

ฟางหยวนและผมที่หกไม่ได้ทำข้อตกลงใดๆ ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถพิสูจน์ความจริง บางทีอิงอู๋เซี่ยอาจเก็บวิญญาณอมตะบางดวงเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่มีวิธีพิสูจน์เรื่องนี้

 

แน่นอนว่าฟางหยวนเป็นฝ่ายได้กำไรแต่เขาก็ไม่ต้องการให้อิงอู๋เซี่ยตายเร็วเช่นกัน

 

หากอิงอู๋เซี่ยตาย เขาจะทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ให้วังสวรรค์ นั่นจะทำให้ฟางหยวนพบปัญหาในไม่ช้า

 

มันจะดีกว่าหากอิงอู๋เซี่ยยังมีชีวิตและช่วยดึงดูดศัตรูแทนเขา

 

การต่อสู้ระหว่างวังสวรรค์กับนิกายเงาจะทำให้ทั้งสองฝ่ายอ่อนแอลงขณะที่ฟางหยวนจะสังเกตการณ์อยู่ข้างสนามรบ

 

ฟางหยวนขโมยวิญญาณทารกอมตะมาจากนิกายเงา พวกเขาย่อมต้องการสังหารฟางหยวน แต่นี่ก็เป็นเหตุผลที่นิกายเงาต้องปกป้องเขาเช่นกัน

 

เช่นเดียวกับหม่าหงหยุน หากนิกายเงาต้องการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะอีกครั้ง พวกเขาจะใช้ฟางหยวนเป็นวัสดุในการหลอมรวม

 

ตั้งแต่อิงอู๋เซี่ยต้องการทำธุรกรรมกับฟางหยวน มันก็หมายความว่าอิงอู๋เซี่ยอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังอย่างแท้จริง ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องมอบทางออกสายหนึ่งให้กับอิงอู๋เซี่ย

 

หากฟางหยวนบีบบังคับอิงอู๋เซี่ยมากเกินไป เขาอาจยอมแพ้และลากฟางหยวนให้ตายตกไปพร้อมกัน

 

ในความเป็นจริงคำกล่าวของผมที่หกมีประสิทธิภาพสูงมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด