Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1141

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1141 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1141 ไม่ได้ฟังหรือไม่เชื่อ

แปลโดย iPAT 

 

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาถูกกระตุ้นการทำงานอย่างลับๆภายในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ร่างกายของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

มันกรีดร้องออกมาด้วยความรู้สึกไม่สะดวกสบาย

 

ในแง่หนึ่งเป็นเพราะร่างกายที่เติบโตเร็วเกินไปของมัน แต่สิ่งสำคัญคือมันหิว!

 

มันต้องกินผลึกสวรรค์จำนวนมากเป็นอาหารทุกวัน ตอนนี้เพียงหนึ่งลมหายใจก็เหมือนหนึ่งวันได้ผ่านไป เมื่อร่างกายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วมันจะไม่หิวได้อย่างไร?

 

โดยธรรมชาติไห่ฟานได้พิจารณาถึงสถานการณ์นี้เช่นกัน ดังนั้นท่าไม้ตายนี้จึงมีผลกระทบหนึ่งที่ช่วยชดเชยข้อบกพร่องนี้

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเริ่มกินคริสตัลสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง

 

ความแข็งแกร่งของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันขณะที่มันใช้ชีวิตอยู่กับฟางหยวนเป็นเวลาสั้นๆเท่านั้น ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องยากที่ฟางหยวนจะควบคุมมันและอาจใช้ความแข็งแกร่งของมันได้ไม่ถึงสามสิบส่วน

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่มีทางเลือก

 

เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง นี่เป็นความหวังเดียวที่จะทำให้เขาหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้

 

เขาเหมือนคนจมน้ำที่พยายามจับฟางเส้นหนึ่งเอาไว้

 

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนถูกกระตุ้นใช้งานอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มันกลายเป็นที่พึ่งเดียวสำหรับฟางหยวนในการซื้อเวลา

 

เขาใช้ท่าไม้ตายใบหน้าที่คุ้นเคยอำพรางตัวอยู่ในกองทัพภูตมนุษย์ ดังนั้นผู้อมตะลึกลับจึงไม่พบตัวจริงของเขา

 

พายุหมุนแห่งการทำลายล้างยังปกคลุมไปทั่วทั้งสนามรบ

 

ภูตมนุษย์ของฟางหยวนอยู่ได้เพียงหนึ่งหรือสองลมหายใจก่อนจะถูกทำลาย

 

ฟางหยวนไม่เคยกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายหมื่นตัวตนมากมายเท่านี้มาก่อน

 

โชคดีที่เขาเก็บภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนมากไว้ในมิติช่องว่างอยู่แล้ว นอกจากนั้นด้วยความชำนาญ เขาจึงไม่เคยล้มเหลวในการกระตุ้นใช้งานมัน

 

อย่างไรก็ตามพลังงานอมตะของเขายังลดลงเรื่อยๆ

 

เกี่ยวกับพลังงานอมตะ ฟางหยวนเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยธรรมชาติ เขาไม่มีทางแข่งขันกับผู้อมตะถึงเก้าคน

 

“ทักษะในการซ่อนตัวของคนผู้นี้น่าทึ่งมาก” ผู้อมตะลึกลับบางคนยกย่อง

 

“อย่ากังวล ตราบเท่าที่ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบสีเทายังอยู่ พวกเราไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเขาจะสามารถหลบหนี” ผู้อมตะอีกคนตอบกลับ

 

“ฮืม เจ้าหนูตัวน้อย ออกมาเถอะ ยิ่งเจ้าตายเร็วเท่าใด เจ้าก็ยิ่งหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานเร็วเท่านั้น”

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดทั้งสี่ไม่กล่าวสิ่งใดแต่ผู้อมตะระดับหกพยายามกดดันฟางหยวน

 

แต่ฟางหยวนจะง่ายดายเช่นนั้นได้อย่างไร

 

เจตจำนงของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า แม้เขาจะตกอยู่ในอันตราย เขาก็ไม่เคยละทิ้งความพยายามจนถึงวินาทีสุดท้าย

 

ตั้งแต่เขาใช้กลยุทธ์ยื้อเวลา เขาจะไม่มีวันเปิดเผยตัว

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเติบโตขึ้นด้วยความเร็วสูง รังนกคริสตัลสวรรค์ถูกกินไปแล้วมากกว่าครึ่ง

 

แต่มันยังห่างไกลจากความพอเพียง

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นกุญแจสำคัญของการต่อสู้ครั้งนี้

 

‘ศัตรูมีความได้เปรียบด้านจำนวน เมื่อข้าลงมือ ข้าต้องประสบความสำเร็จในครั้งเดียว ไม่มีโอกาสที่สอง!’

 

ขณะที่คิดถึงเรื่องนี้  เสียงหัวเราะเบาๆพลันดังขึ้นข้างหูของฟางหยวน

 

มันเป็นเสียงของผู้อมตะหญิง

 

เส้นผมของฟางหยวนชูชันขึ้น โดยไม่สนใจการเปิดเผยตัวตนของฝ่ายตรงข้าม ฟางหยวนกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติทันที

 

เขาบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

แทบจะในเวลาเดียวกันที่ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เท่าศาลาก่อตัวขึ้นในตำแหน่งเดิมของเขา

 

“เขาค่อนข้างเร็ว” ผู้อมตะระดับหกกล่าวด้วยความประหลาดใจ เสียงของนางเป็นเสียงเดียวกับเสียงที่ดังขึ้นข้างหูของฟางหยวน

 

“เสวี่ยเอ๋อ เจ้าประสบความสำเร็จแล้ว ไม่เลว” ผู้อมตะระดับเจ็ดยกย่อง

 

“ขอบคุณท่านย่า” ผู้อมตะหญิงดูเหมือนจะมีความสุข “แม้ข้าจะไม่สามารถค้นหาตัวจริงของเขาได้ทุกครั้ง แต่การกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะเพื่อสร้างภูตมนุษย์ของเขายังทำให้กลิ่นอายของวิญญาณอมตะรั่วไหลออกมา ยิ่งเขากระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะบ่อยเท่าใด มันก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ข้าค้นพบเขามากเท่านั้น”

 

“ดี ข้าจะดูว่าเขาจะหนีไปได้นานเท่าใด!” ผู้อมตะระดับเจ็ดอีกคนตะโกนและพุ่งเข้าไปหาฟางหยวน

 

เขาเร็วมาก

 

เพียงไม่นานเขาก็เข้าประชิดตัวฟางหยวน

 

ฟางหยวนจำผู้อมตะผู้นี้ได้ เขาคือคนที่ยิงศรน้ำแข็งออกมา

 

“ตาย!” ผู้อมตะระดับเจ็ดสร้างหอกน้ำแข็งขึ้นในมือทั้งสองข้าง

 

“ผู้อมตะสายต่อสู้ระยะประชิด!?” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาเร่งล่าถอยออกไป

 

อย่างไรก็ตามวิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติกลับไม่สามารถสร้างระยะห่าง

 

รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลงเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าชั้นเมฆหมอกสีเทาทำให้ความเร็วของเขาลดลง

 

ขณะเดียวกันมันก็ช่วยเพิ่มความเร็วให้กับผู้อมตะระดับเจ็ดผู้นั้น

 

“หากข้าปล่อยให้เจ้าหลบหนีได้อย่างอิสระ ข้าคงดูไร้ความสามารถจริงๆ” ผู้อมตะผู้ควบคุมท่าไม้ตายเขตแดนที่เฝ้ามองการต่อสู้อยู่ในระยะไกลกล่าว

 

ฟางหยวนถูกบังคับให้เข้าสู่การต่อสู้ระยะประชิด

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดผู้นี้ทั้งทรงพลังและมีทักษะการต่อสู้ที่โดดเด่น

 

ภายในไม่กี่กระบวนท่า แขนซ้ายและหน้าท้องของฟางหยวนถูกเจาะทะลวง

 

วิญญาณอมตะสมบัติเลือดได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางน้ำแข็งถูกฝังไว้บนบาดแผลของฟางหยวนทำให้มันเป็นเรื่องยากที่จะรักษา อุณหภูมิร่างกายของเขาลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว

 

ข้อบกพร่องของร่างทารกอมตะปรากฏให้เห็นเป็นครั้งแรก!

 

โดยปราศจากความขัดแย้งระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า มันทำให้ฟางหยวนบาดเจ็บได้ง่าย

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนระวังตัวตลอดเวลาจึงไม่พบปัญหาใด แต่ตอนนี้เขาถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับจุดอ่อนนี้

 

“ตาย!” ศัตรูส่งหอกน้ำแข็งในมือข้างขวาพุ่งเข้ากลางหน้าผากของฟางหยวนขณะที่หอกน้ำแข็งในมือข้างซ้ายพุ่งไปที่หัวใจของฟางหยวนอย่างเงียบๆ

 

“ฟิ้ว…”

 

ฟางหยวนเปลี่ยนท่าไม้ตายอย่างกะทันหัน เขาทะยานร่างเป็นเส้นโค้งและสามารถหลบการโจมตีของศัตรูได้อย่างฉิวเฉียด

 

“เส้นทางแห่งเลือด!?” ผู้อมตะระดับหกอุทานด้วยความตกใจ

 

“เขาเป็นคนบาปที่ไม่สามารถให้อภัย! เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือด!”

 

“นี่ถือได้ว่าพวกเราช่วยกำจัดความชั่วร้ายให้กับโลกใบนี้!”

 

“ข้าค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับท่าไม้ตายสายป้องกันก่อนหน้านี้ของเขา ดังนั้นมันจึงเป็นเช่นนี้”

 

ผู้อมตะถือหอกคู่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน

 

กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตน!

 

ฟางหยวนส่งกำปั้นยักษ์บินออกไป

 

ในระยะทางสั้นๆ ผู้อมตะหอกน้ำแข็งไม่สามารถหลบเลี่ยง

 

แต่เขาก็ไม่มีความคิดที่จะหลบ

 

เขาแทงกำปั้นยักษ์ด้วยหอกน้ำแข็งทั้งสองก่อนจะออกไล่ล่าฟางหยวน

 

เนื่องจากเขาชำนาญด้านการต่อสู้ระยะประชิด เขาจึงมีวิธีป้องกันที่โดดเด่น หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้เขาจะกล้าเสี่ยงเข้าเผชิญหน้ากับศัตรูในระยะประชิดได้อย่างไร

 

ผู้อมตะสายต่อสู้ระยะประชิดมีอยู่ไม่มาก มันเคยรุ่งเรืองในอดีต แต่ตอนนี้มันแทบสูญหายไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตามหากผู้อมตะสายนี้สามารถเข้าประชิดตัวคู่ต่อสู้ พวกเขาจะกลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรง

 

ฟางหยวนอยู่ในสถานการณ์แห่งชีวิตและความตายตลอดเวลา เขาต้องใส่ใจทุกการเคลื่อนไหวของศัตรู หากประมาทเพียงเล็กน้อย มันอาจส่งผลร้ายถึงชีวิต

 

ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะมากมาย แต่ในการต่อสู้ระยะประชิด เขากลับทำได้เพียงหลบเลี่ยงเนื่องจากไม่มีเวลาใช้ท่าไม้ตายอมตะที่ซับซ้อนและหากตอบสนองล่าช้า มันอาจส่งผลกระทบถึงชีวิต

 

จังหวะของฟางหยวนถูกทำลายลงในที่สุด เขาแทบไม่ได้หยุดพักก่อนที่ศัตรูจะพบช่องว่างและส่งหอกน้ำแข็งทะลุหัวใจของเขา

 

“มันจบแล้ว” การแสดงออกของผู้อมตะลึกลับผ่อนคลายลงเล็กน้อย

 

บุรุษคนก่อนหน้า!

 

เมื่อฟางหยวนกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า อาการบาดเจ็บร้ายแรงของเขาก็ถูกกู้คืนในพริบตา

 

จากนั้นท่าไม้ตายอมตะลอบสังหารในความมืดก็ถูกยิงไปที่ศีรษะของฝ่ายตรงข้าม

 

ฟางหยวนได้รับชัยชนะทันที

 

เขาเก็บวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้าเอาไว้เพื่อรอโอกาสนี้

 

เสียงตกใจดังขึ้นแต่กลุ่มผู้อมตะลึกลับกลับไม่โกรธ

 

ในช่วงเวลาต่อมาฟางหยวนก็เห็นสิ่งที่แปลกประหลาด ศีรษะที่ถูกทำลายของศัตรูไม่มีเลือดและเนื้อ มันถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มเมฆหมอกสีเทา!

 

เมฆหมอกสีเทาที่กระจายตัวออกไปควบรวมกันเป็นศีรษะของผู้อมตะหอกน้ำแข็งอีกครั้ง เขาหัวเราะ “ไม่เลว เจ้าทำลายศีรษะของข้าได้จริงๆ ฮืม ผู้อมตะมนุษย์ช่างเจ้าเล่ห์นัก หากเป็นเวลาปกติ ข้าอาจตายไปแล้วจริงๆ แต่น่าเสียดายที่นี่คือเขตแดนอมตะสนามรบสีเทา”

 

รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง

 

ความไม่รู้ทำให้เกิดข้อผิดพลาด

 

‘แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินเกี่ยวกับเขตแดนอมตะสนามรบสีเทาแต่มันก็เป็นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะที่ทรงพลัง’ ฟางหยวนถอนหายใจ

 

เขาตั้งใจปกปิดการคงอยู่ของวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้าเอาไว้และใช้มันในช่วงเวลาสำคัญ แต่แผนการที่ยากลำบากของเขากลับถูกขัดขวางโดยเขตแดนสนามรบสีเทา

 

“นี่คือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระมารดา แล้วมันจะง่ายดายได้อย่างไร!” ผู้อมตะหอกน้ำแข็งกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

 

ฟางหยวนมองเข้าในมิติช่องว่างจักรพรรดิเพื่อตรวจสอบการเติบโตของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

 

แต่…

 

มันกำลังจะตาย!

 

คริสตัลสวรรค์หมดสิ้นแล้ว ตอนนี้มันกำลังจะอดอาหารตาย

 

ฟางหยวนพยายามป้อนสิ่งอื่นให้มันอิต่นทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดยังปิดปาก

 

‘บัดซบ! ก่อนหน้านี้ข้ายุ่งอยู่กับการต่อสู้ ข้าไม่มีเวลากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด’ หัวใจของฟางหยวนจมลงสู่ก้นบึ้ง

 

ร่องรอยแห่งความหวังสุดท้ายของเขากำลังจะหายไป

 

ในเขตแดนสนามรบสีเทา ศัตรูจะไม่ตาย ฟางหยวนไม่มีกลยุทธ์ที่สามารถรับประกันชัยชนะ การจัดการผู้อมตะระดับเจ็ดเป็นเรื่องยากโดยยังไม่ต้องกล่าวถึงสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่ยังไม่ได้เคลื่อนไหวตั้งแต่เริ่มต้น

 

ความตายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

 

“เด็กน้อย ฝากชื่อของเจ้าไว้ เจ้าเป็นศัตรูที่ควรค่าแก่การจดจำ” ผู้อมตะหอกน้ำแข็งกล่าว

 

ผู้อมตะคนอื่นๆไม่ได้กล่าวสิ่งใด พวกเขาเพียงเฝ้ามองอยู่ด้านข้างเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับเผยรอยยิ้มมั่นใจ “ชื่อของข้าไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือสถานะของข้า ข้าคือผู้อาวุโสสูงสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา กองกำลังของมนุษย์กลายพันธุ์ ในสถานการณ์ปัจจุบัน มนุษย์กลายพันธุ์เช่นพวกเราไม่ควรต่อสู้กัน มนุษย์หินและมนุษย์ขนควรให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การต่อสู้กันเองจะทำให้ศัตรูที่แท้จริงรู้สึกพึงพอใจ”

 

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่า…” ผู้อมตะหอกน้ำแข็งประหลาดใจมาก

 

“เขารู้ตัวตนของพวกเราจริงๆ!”

 

“เร็ว ฆ่าเขา!”

 

“ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ล้วนเจ้าเล่ห์ อย่าฟังคำพูดของเขา!”

 

ผู้อมตะคนอื่นๆกรีดร้อง

 

“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา! นอกจากนี้เจ้ายังเป็นมนุษย์ขน? เจ้าคิดว่าข้าตาบอดงั้นหรือ?” ผู้อมตะหอกน้ำแข็งแทงหอกออกไปข้างหน้า

 

ฟางหยวนเปิดเผยตัวตนของพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้ฟังหรือไม่เชื่อคำกล่าวของฟางหยวน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด