Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1148

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1148 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1148 เวลาพักสั้นๆ

แปลโดย  iPAT  

ฟางหยวนส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่สวรรค์สีเหลือง

“โอ้ ?” เขาหยุดเคลื่อนไหวเมื่อเห็นกองสินค้าที่อยู่ด้านหน้า

“นี่คือดิน ไหล งั้นหรือ ?” ฟางหยวนถาม

เจตจำนงของผู้อมตะหานอวี๋ตื่นขึ้น  เมื่อเห็นลูกค้า  เขาเร่งกล่าว  “พวกมันคือดิน ไหล !”

หลังจากพูดคุยเรื่องราคา  เขาถามต่อ  “ท่านต้องการเท่าใด ?”

ดิน ไหล เป็นทรัพยากรระดับห้า  มันเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์มาก

ฟางหยวนพยักหน้าอยู่ในใจและกล่าว  “ข้าต้องการทั้งหมด ”

ผู้อมตะหานอวี๋กล่าวเสียงสั่น  “ทั้งหมด ? ข้ามีมันอยู่ในคลังจำนวนมาก !”

ฟางหยวนยืนยัน  “ถูกต้อง  ทั้งหมด  หินวิญญาณอมตะสองร้อยก้อน  ราคานี้ใช่หรือไม่ ?”

หานอวี๋เร่งพยักหน้า  “ใช่  ใช่ ”

สวรรค์สีเหลืองมีสินค้าทุกประเภทและมีวิญญาณแสงสมบัติช่วยตรวจสอบคุณภาพ

ฟางหยวนสามารถประเมินราคาได้โดยพิจารณาแสงสมบัติที่เกิดขึ้น

“มาแลกเปลี่ยนกันเถอะ ” ฟางหยวนกล่าว

“ได้เลยๆ ” หานอวี๋เร่งตอบสนอง

สถานการณ์ไม่เป็นไปตามความคาดหมายของเขา

เขาเป็นผู้อมตะระดับหกที่ผ่านภัยพิบัติพิภพมาเพียงครั้งเดียว  เขาพยายามอย่างหนักเพื่อพัฒนามิติช่องว่างของตน  ในอดีตเขาต้องลดราคาลงอย่างมากเพื่อขายมันออกไป  แต่ผู้ใดจะคิดว่ามันจะขายหมดอย่างรวดเร็วเช่นนี้

นี่เป็นข่าวดีสำหรับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

หานอวี๋ถือหินวิญญาณอมตะสองร้อยก้อนเอาไว้ในมือขณะที่ร่างเจตจำนงของเขาสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น

‘ในชีวิตแรก  ข้าก็เป็นเช่นนี้ ’ ฟางหยวนถอนหายใจ

หานอวี๋เป็นบรรทัดฐานของผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่  ฟางหยวนในชีวิตแรกยังยากลำบากกว่านี้เพราะเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือด

แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป

เพียงธุรกรรมวิญญาณความเด็ดเดี่ยวก็ทำให้เขาได้รับกำไรมหาศาล

หลังจากขายทรัพยากรของถ้ำสวรรค์ไห่ฟานออกไป  ความมั่งคั่งของฟางหยวนถึงบรรลุถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน  มันไม่ใช่เพียงสองร้อยหินวิญญาณอมตะแต่เขาสามารถนำสองพันหินวิญญาณอมตะออกมาได้โดยไม่กระพริบตา

โดยรวมแล้วสถานการณ์ทางการเงินของฟางหยวนค่อนข้างดี

หลังจากซื้อดินไหลฟางหยวนยังเดินไปรอบๆและซื้อดินอีกหลายประเภท

เมื่อบรรลุเป้าหมาย  ฟางหยวนจึงถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกจากสวรรค์สีเหลือง

เขาเพ่งจิตเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิและควบคุมผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเพื่อจัดการพื้นที่ต่างๆของภาคใต้น้อย

ทิวทัศน์ของภาคใต้น้อยเปลี่ยนไปอย่างมาก

มันเต็มไปด้วยป่าไม้และพืชพันธุ์นานาชนิด

นอกจากพืชพันธุ์ทั่วไปยังมีทรัพยากรคุณภาพสูงปะปนอยู่มากมาย

ต้นไม้ดนตรีมีอยู่มากที่สุด

เดิมทีภาคใต้น้อยว่างเปล่าแต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

นอกจากนกยังมีกวาง  กระรอก  วานร  อสรพิษ  พยัคฆ์  และสัตว์อื่นๆ  พวกมันทำให้เกิดระบบนิเวศที่เหมาะสม

มีภูเขานับร้อยลูกที่ถูกเคลื่อนย้ายมากจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

หากเป็นผู้อมตะทั่วไป  พวกเขาย่อมไม่สามารถเคลื่อนภูเขา  แต่วิญญาณอมตะยกภูเขาทำให้ฟางหยวนได้รับสิ่งนี้

ท่ามกลางภูเขาเหล่านั้น  ภูเขาที่สูงที่สุดคือภูเขามรดกอมตะ

ศาลาหินยังอยู่บนภูเขา  ฟางหยวนไม่ได้ลบมันออกไป  แต่มรดกที่อยู่ภายในถูกยึดครองไปแล้ว

หลังจากไม่นานฟางหยวนก็ควบคุมผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งทั้งหมดและบังคับให้พวกมันจัดการทรัพยากรในตำแหน่งที่แตกต่างกัน

ฟางหยวนสังเกตอยู่ชั่วครู่และรู้สึกพึงพอใจ

“ด้วยดินเหล่านี้พืชเหล่านั้นจะเติบโตขึ้นได้ดี ”

มิติช่องว่างของฟางหยวนมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีอยู่ไม่มาก นั่นเป็นเหตุผลที่ภาคใต้น้อยไม่เคยมีภูเขามาก่อน

ความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่ได้รับมาจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟานแทบทั้งสิ้น

ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมีภูเขาและพืชพันธุ์รวมถึงสิ่งมีชีวิต  มันเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

แต่หลังจากย้านมาอยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน  พวกมันเริ่มขาดสารอาหารเนื่องจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีของฟางหยวนมีอยู่น้อยมาก

ฟางหยวนต้องซื้อดินที่อุดมสมบูรณ์เช่นดินไหลมาเพื่อแก้ปัญหานี้

“แต่นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ”

“ดินเหล่านี้เป็นทรัพยากรระดับมนุษย์  หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง  มันจะสูญสลายไป ”

ดินเหล่านี้เป็นทรัพยากรระดับมนุษย์ที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีอยู่ภายใน แน่นอนว่าพวกมันไม่สามารถเปรียบเทียบกับทรัพยากรอมตะ  หลังจากต้นไม้และพืชพันธุ์ดูดซับสารอาหารจากดินเหล่านี้  ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีจะสูญสลายไป

“ด้วยการก้าวข้ามภัยพิบัติหรือดูดซับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีจากผู้อมตะคนอื่นๆ มันจะช่วยแก้ปัญหาของข้า ” ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน

ฟางหยวนไม่สามารถก้าวข้ามภัยพิบัติพิภพครั้งที่ห้าที่แดนน้ำแข็งและต้องเลือกสถานที่ใหม่ที่อุดมสมบูรณ์

เมื่อฟางหยวนก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งต่อไป  ปัญหาของเขาจะบรรเทาลง

สำหรับการสังหารผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีและดูดซับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากพวกเขา นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีระดับต่ำมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าไม่มากขณะที่ผู้อมตะระดับสูงแข็งแกร่งเกินไป ฟางหยวนไม่ต้องการเสี่ยงชีวิตเพื่อจัดการพวกเขา

จนถึงตอนนี้ฟางหยวนก้าวข้ามภัยพิบัติพิภพมาแล้วสี่ครั้ง

เนื่องจากเจตจำนงสวรรค์ต้องการกำจัดเขา  ภัยพิบัติเหล่านั้นจึงรุนแรงกว่าภัยพิบัติทั่วไปมาก  แต่นี่ก็ทำให้ฟางหยวนได้รับผลประโยชน์มหาศาล

นอกจากนั้นมิติช่องว่างจักรพรรดิยังยกระดับขึ้นอย่างมากเพราะทรัพยากรจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

แต่มิติช่องว่างจักรพรรดิมีขนาดใหญ่เกินไป  มันจึงมีเพียงภาคใต้น้อยเท่านั้นที่มีชีวิตชีวา  สำหรับภูมิภาคอื่นๆ  พวกมันมีทรัพยากรอยู่บ้างแต่ยังไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนภาคใต้น้อย

โดยรวมแล้วทรัพยากรที่ฟางหยวนสะสมไว้สามารถเปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดเช่นชูตู๋ สำหรับฟงจิวเก้อ  เนื่องจากเขาได้รับการดูแลอย่างดีจากกองกำลังใหญ่  ฟางหยวนจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับคนผู้นี้

หลังจากจัดการกับทรัพยากรดินทั้งหมด  ฟางหยวนเริ่มค้นวิญญาณผู้อมตะที่ถูกจองจำไว้

ในมิติช่องว่างจักรพรรดิมีเชลยศึกอมตะอยู่มากมาก

ครั้งนี้เขาให้ความสนใจกับเชลยอมตะจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

จากการค้นวิญญาณครั้งก่อน  ฟางหยวนได้รับท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งโชคจากเฟิงจุนและท่าไม้ตายอมตะซ่อนตัวของเฉินเล่อ

“เจ้าไม่ใช่ไห่เจิ้ง ! เจ้าคือผู้ใด ?”

“คนชั่วไร้ยางอาย  หากมีความกล้าก็ฆ่าข้าซะ !”

“ช่วยข้า  โปรดช่วยข้า  ตราบเท่าที่ท่านคืนชีพให้ข้า  ข้าจะเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของท่าน !”

ท่ามกลางดวงวิญญาณทั้งหมด  บางคนถาม  บางคนสาปแช่ง  บางคนต้องการตาย  และบางคนต้องการมีชีวิตอีกครั้ง

ฟางหยวนไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์ของไห่เจิ้งอีกต่อไป  หลังจากทั้งหมดท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยก็ต้องใช้พลังงานอมตะขณะที่วิญญาณทัศนคติยังต้องพึ่งพาพลังจิต

ฟางหยวนไม่สนใจเสียงกรีดร้องของดวงวิญญาณเหล่านี้

ทุกวันเขาจะค้นวิญญาณเชลยศึกชั่วระยะเวลาหนึ่ง

“ข้าจะดึงความทรงจำทั้งหมดของพวกเขาออกมาภายในสามวัน ”

หลังจากค้นวิญญาณ  ฟางหยวนดึงสติกลับมา

เขาออกจากเมืองเมฆาและไปยังหุบเขาเหล่าโป

ฟางหยวนขัดเกลาจิตวิญญาณอย่างยากลำบากอยู่ที่นั่น  ด้วยการพึ่งพาภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโป  จิตวิญญาณของเขาพัฒนาไปได้ไกลมาก

อย่างไรก็ตามเขายังไม่มั่นใจที่จะนำดวงวิญญาณกลับเข้าร่างเดิมของเขา

“นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด ”

“แม้รากฐานด้านจิตวิญญาณของข้าจะพัฒนาขึ้น  แต่มันยังยากที่จะหลบเลี่ยงกับดักที่นิกายเงาวางไว้ ”

“ผู้ใดจะรู้ว่าอิงอู๋เซี่ยจะวางกับดักชนิดใดไว้บ้าง  บางทียิ่งจิตวิญญาณของข้าแข็งแกร่งมากเท่าใด  กับดักของนิกายเงาก็ยิ่งร้ายแรงมากเท่านั้น ”

“อิงอู๋เซี่ยรู้ว่าข้ามีภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโป  เมื่อเขาวางกับดัก  ไม่มีทางที่เขาจะไม่พิจารณารายละเอียดเหล่านี้ ”

การบ่มเพาะประจำวันของฟางหยวนสิ้นสุดลงแต่การแสดงออกของเขายังเคร่งขรึม

ตราบเท่าที่เขาสามารถใช้วิญญาณสติปัญญา  ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นราวกับจุดระเบิด

ปัญหามากมายที่เขาเผชิญอยู่จะถูกแก้ไขอย่างง่ายดาย

“ข้ามีวิญญาณสติปัญญาและร่างเดิม  ตอนนี้เหลือเพียงกุญแจดอกสุท้ายเท่านั้น ” ฟางหยวนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

ฟางหยวนอาศัยอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างมีความสุขเป็นเวลาเจ็ดวัน

เขาใช้ช่วงเวลานี้ในการบ่มเพาะโดยไม่หยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว

รากฐานด้านจิตวิญญาณของเขาเติบโตขึ้นอีกครั้ง  เขาสามารถค้นวิญญาณของเชลยศึกอมตะทั้งเก้าได้อย่างสมบูรณ์  ฟางหยวนยังใช้แต้มผลงานของนิกายหลางหยาแลกเปลี่ยนคริสตัลสวรรค์บางส่วน เขายังกระจายภารกิจหลอมรวมวิญญาณออกไป

ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณวัน  วิญญาณเดือน  วิญญาณปี  เขาต้องการพวกมันเป็นจำนวนมาก

เขาใช้แต้มผลงานเพื่อขอให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนช่วยหลอมรวมวิญญาณเหล่านี้ให้กับเขา นี่ทำให้เขาสามารถประหยัดเวลาและพลังงานไปได้มาก

เจ็ดวันต่อมาเขาออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและมุ่งหน้าสู่ทะเลตะวันออก!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด