Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1174

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1174 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1174 สามปีศาจคลั่ง

แปลโดย  iPAT  

ชูตู๋ขอให้ฟางหยวนไปเชิญกำลังเสริมจากถ้ำปีศาจคลั่ง  ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องใช้วิธีการบางอย่างเพื่อป้องกันเสียงปีศาจ

‘ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องไป ’

ชูตู๋และจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกำลังต่อสู้กันอยู่ที่ถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน เรื่องนี้มีต้นกำเนิดมาจากฟางหยวน  นอกจากนั้นเขายังร่วมมือกับชูตู๋และบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก กล่าวได้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหานี้อย่างลึกซึ้ง

ฟางหยวนดำเนินการอย่างรวดเร็วและออกเดินทางทันที

เขาใช้ค่ายกลวิญญาณขนส่งของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเพื่อเดินทางไปยังถ้ำปีศาจคลั่ง

ไม่มีปัญหาระหว่างทาง

สิบวันต่อมาฟางหยวนหยุดอยู่กลางอากาศและมองลงไปด้านล่าง

ในป่าดึกดำบรรพมีถ้ำขนาดใหญ่ซ่อนอยู่  มีเสียงสัตว์คำรามดังขึ้นเป็นครั้งคราว

ฟางหยวนบินลงไปก่อนจะเดินเข้าไปในถ้ำ

ถ้ำขนาดใหญ่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยและเถาวัลย์

“เจี๊ยก !”

ไกลออกไปลิงสีเทารูปร่างประหลาดกำลังวิ่งไล่จับกันอยู่บนกิ่งไม้

ทันใดนั้นเถาวัลย์ที่ไม่เคลื่อนไหวกลับอ้าปากและกลืนกินลิงสีเทาหลายสิบตัวเข้าไปในพริบตา

แท้จริงแล้วมันคืออสรพิษเถาวัลย์เดียวดายที่รอให้เหยื่อเข้ามาหา

เสียงกรีดร้องของฝูงลิงทำให้ราชาของพวกมันปรากฏตัว

อสรพิษเถาวัลย์เดียวดายที่กินอิ่มล่าถอย  เป้าหมายของมันสำเร็จแล้ว  มันไม่ต้องการต่อสู้กับราชาวานรขณะที่ราชาวานรก็ไม่ได้ไล่ล่า

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงโหยหวยที่น่าสยดสยองดังขึ้น

‘โอ้  ไม่  เสียงปีศาจ ’ ฟางหยวนเร่งใช้วิธีป้องกันเสียงปีศาจที่ได้รับมาจากชูตู๋

วิธีทั่วไปไม่สามารถป้องกันเสียงปีศาจ  แต่วิธีของชูตู๋ได้ผลทันที  ฟางหยวนรู้สึกเหมือนเสียงปีศาจหายไปราวกับมันไม่เคยมีอยู่

เสียงกรีดร้องของราชาวานรและอสรพิษเถาวัลย์เดียวดายดังขึ้น

พวกมันได้รับอิทธิพลจากเสียงปีศาจและเริ่มต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง

นี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่รุนแรงแต่เป็นการต่อสู้แห่งชีวิตและความตาย

สัตว์อสูรเดียวดายทั้งสองต่อสู้กันอย่างชุลมุนวุ่นวายทำให้ต้นไม้ที่อยู่รอบๆพังทลายลง

ฝูงลิงที่อยู่รอบๆก็คลุ้มคลั่งเช่นกัน  พวกมันไม่เพียงโจมตีพันธมิตรแต่ยังทำร้ายตนเองด้วยวิธีการที่หลากหลาย

ป่าอันเงียบสงบกลายเป็นสับสนวุ่นวาย  เสียงคำรามดังขึ้นทุกหนแห่ง  สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนตกอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งขณะที่กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งขึ้นสู่อากาศ

ฟางหยวนยังสงบนิ่ง

แต่นกที่อยู่บินรอบๆพุ่งเข้าโจมตีเขา  กระทั่งมดและผึ้งที่อยู่ใกล้ๆยังฆ่าตัวตาย

‘นี่คือถ้ำปีศาจคลั่ง …’ ฟางหยวนถอนหายใจ

ฟางหยวนมีหัวใจที่เย็นชาและมั่งคง  เขายังมีวิธีการมากมายในการเอาชีวิตรอดจากสภาพแวดล้อมที่บ้าคลั่ง  ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกกดดันมากนัก

ท้ายที่สุดสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่เขาเพียงผู้เดียวแต่พวกมันโจมตีอย่างไร้สติ

เสียงปีศาจดังขึ้นชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนจะหายไป

ป่าเงียบลงทันที

สัตว์ป่าจำนวนนับไม่ถ้วนกลายเป็นซากศพที่ไม่สมบูรณ์กระจัดกระจายไปทั่ว บางแห่งกลายเป็นบ่อเลือด  ต้นไม้ถูกหักโค่น  ภูมิประเทศเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์

ไกลออกไปสัตว์อสูรเดียวดายสองตัวที่ต่อสู้กันตายไปแล้ว

ลำตัวของอสรพิษเถาวัลย์เดียวดายยังรัดพันร่างกายของราชาวานรอย่างแน่นหนาขณะที่ราชาวานรสามารถฉีกท้องของอสรพิษและคืนอิสรภาพให้แก่ลิงสีเท่าทั้งหมด อย่างไรก็ตามพวกมันตายแล้ว

ฟางหยวนเก็บซากศพสัตว์อสูรเดียวดายทั้งสองเข้าไปในมิติช่องว่างของตนและเดินทางต่อ

“หากข้าเป็นเจ้า  ข้าจะไม่เสียแรงเปล่า  สิ่งมีชีวิตที่เติบโตขึ้นในถ้ำปีศาจคลั่งไร้ค่า  พวกมันไม่สามารถขายในสวรรค์สีเหลืองเพราะร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่สับสนวุ่นวาย” เสียงสายหนึ่งดังขึ้น

“ผู้ใด ?” ฟางหยวนตกใจ

แม้เขาจะใช้ท่าไม้ตายใบหน้าที่คุ้นเคยและท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งกาลเวลาภาพอนาคตสามลมหายใจแต่เขายังไม่เห็นสิ่งใด

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาท่าไม้ตายภาพอนาคตสามลมหายใจก็ทำให้ฟางหยวนเห็นผู้อมตะชุดคลุมขาววัยกลางคนผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านหลังทางขวามือของฟางหยวน

ฟางหยวนตรวจสอบต่อไปอย่างเต็มความสามารถ

สามลมหายใจต่อมาผู้อมตะชุดคลุมขาวก็ปรากฏตัวขึ้นที่จุดนั้น

คนผู้นี้มีใบหน้าซีดขาว  ดวงตาส่องประกายราวกับดวงดาว  ภาพลักษณ์ของเขาดูไม่ธรรมดา

ฟางหยวนรีบหันหลังกลับ

ผู้อมตะชุดคลุมขาวยิ้มและกล่าว  “อย่ากังวล  สหาย  ข้าปู้อู๋หมิง ”

ฟางหยวนปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับหกออกมาในเวลานี้ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับเจ็ดออกมาอย่างไม่ปกปิด

“หือ ?” ฟางหยวนรู้สึกงุนงง

“ชื่อของข้าคือปู้อู๋หมิง  ข้าอาศัยอยู่ในถ้ำปีศาจคลั่ง  วิญญาณที่เจ้ามีคือป้ายเปิดทางที่พวกเราสามปีศาจคลั่งมอบให้จักรพรรดิอมตะชูตู๋” ผู้อมตะชุดคลุมขาวยิ้ม

ฟางหยวนเร่งทักทาย  “คารวะผู้อาวุโส  ข้ามาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญเพราะจักรพรรดิอมตะชูตู๋ให้ข้ามาขอการสนับสนุนจากผู้อาวุโส”

“ฮ่าฮ่าฮ่า  พวกเราสามปีศาจคลั่งอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายร้อยปีโดยไม่เคยออกไปยังโลกภายนอก หากชูตู๋ต้องการเข้าร่วมกับพวกเรา  พวกเรายินดีต้อนรับเขา  แต่หากเขาต้องการให้พวกเราออกจากถ้ำปีศาจคลั่ง  นั่นเป็นไปไม่ได้ ” ปู้อู๋หมิงยิ้ม

“โอ้ ?” ฟางหยวนแสดงออกด้วยความกังวลแต่ภายในเขาไม่รู้สึกใดๆ

ปู้อู๋หมิงกล่าวเช่นนี้อาจเป็นเพราะต้องการเพิ่มคุณค่าให้กับตนเองแต่จักรพรรดิอมตะชูตู๋ไม่ใช่บุคคลที่สามารถล้อเล่น

ชูตู๋มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสามปีศาจ  หากเขาให้ฟางหยวนมาที่นี่  เขาย่อมมีแผนการ

“ตั้งแต่ชูตู๋มอบวิญญาณดวงนี้ให้เจ้า  ข้าคิดว่าเขาต้องมอบวิธีการมากมายให้เจ้าด้วยเช่นกันถูกต้องหรือไม่?” ปู้อู๋หมิงถาม

“ถูกต้อง ” ฟางหยวนพยักหน้า

ปู้อู๋หมิงประเมินฟางหยวนโดยไม่ได้ตั้งใจ  ชูตู๋มอบความไว้วางให้ให้แก่ผู้อมตะหนุ่มผู้นี้  เขามีดีอย่างไร ?

“เช่นนั้นตามข้ามา  ฮ่าฮ่า  เจ้าโชคดีมากที่ข้าออกมาที่นี่เพื่อพักหายใจ  ถ้ำปีศาจคลั่งอันตรายมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา  เส้นทางของมันเปลี่ยนไปแล้ว  ตามข้ามาอย่างใกล้ชิด  หากเจ้าก้าวผิด  เจ้าต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ตามมาด้วยตัวของเจ้าเอง ” ปู้อู๋หมิงกล่าวและเดินเข้าไปในป่าดงดิบ

ฟางหยวนลังเลเล็กน้อยก่อนจะเดินตามเข้าไป

ทั้งสองเดินลึกเข้าไปกระทั่งบรรลุถึงถ้ำชั้นที่สอง

ถ้ำปีศาจคลั่งมีเก้าชั้น  ชั้นที่สองเต็มไปด้วยหินลาวาที่ร้อนแรง

ครู่ต่อมาพวกเขาก็ไปถึงชั้นที่สาม

ชั้นที่สามปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว  มีวิญญาณมากมายอาศัยอยู่ในป่าไผ่เมฆา  ฟางหยวนยังเห็นร่างอันคลุมเครือของสัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไหวอยู่ในม่านหมอก

ถัดมาฟางหยวนมองเห็นเมืองในสายหมอก

มันเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนแต่ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมา

“มันคือเมืองสายหมอก  วิญญาณอาฆาตจะมารวมตัวกันที่นี่  มันไม่มีสิ่งใดน่าดูชม ” ปู้อู๋หมิงกล่าว

ฟางหยวนตกใจเล็กน้อย  เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเมืองสายหมอกมาก่อนแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น ดวงวิญญาณที่สามารถสร้างเมืองสายหมอกอย่างน้อยต้องเป็นดวงวิญญาณของผู้อมตะและยังมีจำนวนมาก ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฟางหยวน  หากเขาเข้าไป  เขาต้องตายอย่างแน่นอน

ถ้ำปีศาจคลั่งเป็นหนึ่งในสิบเขตต้องห้ามที่ดุร้ายของภาคเหนือ  เป็นธรรมดาที่มันจะอันตรายมาก

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแข็งแกร่งของสามปีศาจคลั่งที่อาศัยอยู่ที่นี่ย่อมไม่ธรรมดา

ภายใต้การนำทางของปู้อู๋หมิง  ฟางหยวนเดินลึกเข้าไปถึงชั้นที่หก

“กระทั่งพวกเราก็ยังไม่กล้าเข้าไปในสามชั้นสุดท้าย  มันอันตรายเกินไป  มา  ให้ข้านำเจ้าไปพบเพิ่งซาน  เขาสนิทกับชูตู๋มากที่สุด  ชูตู๋รู้กฏของพวกเราแต่เขาก็ยังส่งเจ้ามาที่นี่  เพิ่งซานน่าจะรู้วัตถุประสงค์ของเขา ”

ปู้อู๋หมิงนำฟางหยวนไปพบปีศาจอมตะเพิ่งซานที่หุบเขาเล็กๆในชั้นที่หก

คนยักษ์ !

เพิ่งซานสูงหลายสิบเมตร  เขาใช้เนินเขาเป็นเก้าอี้และอยู่ในท่าครึ่งนั่งครั่งนอน

เพิ่งซานเปิดเปลือกตาขึ้นจากการหลับใหล

“โอ้  ชูตู๋ขอกำลังเสริมงั้นหรือ ? อืม  เราเคยทำข้อตกลงกันมาก่อน ” เพิ่งซานกล่าวอย่างช้าๆด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“ดังคาด  ตกลงกันว่าอย่างไร ?” ปู้อู๋หมิงถาม

“ให้เขายืมวิญญาณอมตะและท่าไม้ตายที่สามารถกำจัดข้อตกลงพันธมิตร ” เพิ่งซานตอบอย่างช้าๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด