Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1179

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1179 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1179 ดิ้นรนต่อสู้  (3)

แปลโดย  iPAT  

ฟางหยวนลอยอยู่กลางอากาศและหอบหายใจอย่างหนักหน่วง

การต่อสู้ที่รุนแรงสิ้นสุดลงแล้ว

สนามรบเต็มไปด้วยหลุมบ่อและซากศพของ วานรเทพน้ำแข็ง  เปลวเพลิงจากท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งไฟลุกไหม้อยู่อย่างเงียบๆ

ผู้อมตะได้รับบาดเจ็บและล้มตาย

ผู้ที่เสียชีวิตในการต่อสู้ครั้งนี้คือผู้อมตะหญิงบนเส้นทางแห่งการโจมกรรม

นางไม่ได้ถูกมังกรสวรรค์เจ็ดกรงเล็บสังหารแต่ถูกสังหารโดยร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู

ฟางหยวนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

ปอดซ้ายของเขาถูกแทงทะลุ  หอกน้ำแข็งยังปักอยู่บนหน้าอกของเขา

ขาของเขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งขณะที่เนื้อเริ่มเน่าเปื่อย

ร่างทารกอมตะมีข้อได้เปรียบเพราะร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ไม่ขัดแย้งกัน แต่นี่ก็เป็นข้อบกพร่องที่สำคัญเช่นกัน  เมื่อฟางหยวนถูกโจมตี  เขาจะได้รับความเสียหายที่รุนแรงกว่าคนอื่นๆ

ในการต่อสู้ครั้งนี้ฟางหยวนได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับข้อบกพร่องร้ายแรงของร่างทารกอมตะ

‘ท่าไม้ตายสายป้องกันของข้ายังอ่อนแอเกินไป ’

‘วิญญาณอมตะสมบัติเลือดยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่  ข้าไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะอาภรณ์โลหิต  การป้องกันบนเส้นทางแห่งกาลเวลาไม่มีประโยชน์มากนัก ’

แม้ฟางหยวนจะได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน  แต่วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำถูกผนึกเอาไว้  การใช้งานมันจะดึงดูดอสูรปีให้เข้ามา

หากอสูรปีระดับแปดบุกมิติช่องว่างของฟางหยวน  เขาจะพบกับความสูญเสียอย่างแน่นอน  ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถใช้งานวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำในช่วงเวลานี้

มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานมีวิธีการป้องกันที่โดดเด่นแต่พวกมันล้วนใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำเป็นแกนกลาง

ท่าไม้ตายสายป้องกันในปัจจุบันของฟางหยวนใช้วิญญาณปีอมตะเป็นแกนกลาง หลังจากไห่ฟานบรรลุระดับเจ็ด  เขาหยุดใช้มันทันที

‘จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งทาสที่น่าเกรงขามอย่างแท้จริง!’

‘แม้เขาจะอยู่นอกถ้ำสวรรค์และส่งเพียงร่างเทียมเข้ามา  เขาก็ยังแข็งแกร่งมาก ’

‘การบิดเบือนห้วงมิติและส่งฝูงสัตว์อสูรเข้ามาก็เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาจริงๆ’

ในการต่อสู้ครั้งนี้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูส่งวานรเทพน้ำแข็งหนึ่งร้อยตัวและต้นหลิวหิมะเดียวดายจำนวนมากเข้ามา

ระหว่างการต่อสู้  เขายังส่งวานรเทพน้ำแข็งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ฟางหยวนคุ้นเคยกับวานรเทพน้ำแข็ง  ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเคยมีสัตว์อสูรชนิดนี้อยู่ตัวหนึ่ง

เมื่อนิกายกระเรียนอมตะบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู  ฟางหยวนยืมวานรเทพน้ำแข็งมาจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

อย่างไรก็ตามมันตายในการต่อสู้เพื่อปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

นอกจากนั้นระหว่างไห่ลั่วหลันก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะที่แดนน้ำแข็ง  ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งก็ปรากฏขึ้นในรูปลักษณ์ของวานรเทพน้ำแข็งเช่นกัน

‘วานรเทพน้ำแข็งตัวจริงแข็งแกร่งกว่าวานรเทพน้ำแข็งที่ถูกสร้างขึ้นจากความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งในแง่ของความสามารถในการต่อสู้’

‘ในความเป็นจริงพืชอสูรและสัตว์อสูรเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูที่ควบคุมพวกมัน’

‘เมื่อ กองทัพพืชอสูรและสัตว์อสูรเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ  พวกมันจะแข็งแกร่งขึ้น ’

ฟางหยวนนึกถึงการต่อสู้ทั้งหมดและตระหนักถึงพลังอำนาจของผู้อมตะระดับแปด

แม้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจะไม่ได้เข้าสู่สนามรบด้วยตนเอง  แต่ฟางหยวนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

พวกเขาได้รับชัยชนะเพราะความร่วมมือของทุกคน

‘เป็นการต่อสู้ที่น่าสังเวชอย่างแท้จริง  หากต้องต่อสู้อีกสองหรือสามครั้ง  องุ่นเขียวอมตะของข้าจะหมดสิ้นลงอย่างสมบูรณ์ ’

‘สิ่งที่ข้าสะสมมานานกลับถูกใช้ไปในครั้งนี้ ’

‘กระทั่งอาการบาดเจ็บของข้าก็ยังต้องใช้ทั้งเวลาและพลังงานอมตะจำนวนมากเพื่อฟื้นฟูมัน’

ฟางหยวนรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายได้อีกต่อไป

ในความเป็นจริวการสูญเสียของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูยิ่งรุนแรงกว่าฟางหยวน

การต่อสู้มาถึงจุดที่ไร้ทางออกอีกครั้ง

แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถถอยหลัง

การต่อสู้ยังดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น

ความพยายามของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูอาจล้มเหลวแต่มันยังมีผล

เขาพยายามสร้างฐานที่มั่นชั่วคราวในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและรักษามันไว้  ขณะเดียวกันเขาก็ส่งสัตว์อสูรบุกโจมตีศัตรูทำให้ฝ่ายของชูตู๋พบปัญหาในการป้องกัน

ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน  ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูพยายามทำลายแหล่งทรัพยากรที่เป็นรากฐานของชูตู๋ เรื่องนี้เขาประสบความสำเร็จ

แม้ชูตู๋  ฟางหยวน  และคนอื่นๆจะได้เปรียบด้านจำนวนคนแต่จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูยังเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์

ทั้งสองฝ่ายต่างดื้อรั้น

แต่ฟางหยวนเป็นคนแรกที่ยอมแพ้

เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดปลอม  ที่ผ่านมาเขาใช้เพียงองุ่นเขียวอมตะระดับหกเท่านั้น

สำหรับชูตู๋  การแสดงออกของเขาค่อนข้างน่าเกลียด

โดยเฉพาะเมื่อเขาอยู่ตามลำพังกับฟางหยวน  เขาจะก้มหน้าและแสดงความกังวลออกมา

เขากล่าวกับฟางหยวน  “ข้าขอความช่วยเหลือจากทุกคนที่ข้าสามารถขอแล้ว ”

“แต่ผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้คือจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู  แม้เราจะไม่ได้ต่อสู้กับร่างหลักของเขา  แต่พวกเราก็ไม่สามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปด ”

“กุญแจสำคัญในการตัดสินชัยชนะไม่ได้อยู่ในสนามรบแต่เป็นเผ่าไป่ซูที่อยู่ด้านนอก”

ชูตู๋เข้าใจอย่างชัดเจน

เขาและฟางหยวนคิดเหมือนกัน

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูไม่มีจุดอ่อน  จุดอ่อนเดียวของเขาคือเผ่าไป่ซู

แต่การเคลื่อนไหวของชูตู๋ก็ส่งผลกระทบอย่างมากต่อโลกของผู้อมตะภาคเหนือ

ข่าวลือแพร่สะพัดออกไป

“จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกำลังบุกโจมตีถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน  หากเขาประสบความสำเร็จและได้รับมัน  รากฐานของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอีกมาก ”

“หากจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูได้รับถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน  อีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า  เผ่าไป่ซูอาจเหนือกว่ากองกำลังตระกูลฮวงจิน !”

“จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ  เขาไม่มีสายเลือดตระกูลฮวงจิน  เมื่อเผ่าไป่ซูแข็งแกร่งขึ้น  มันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะ !”

ข่าวลือทุกชนิดถูกกล่าวถึง  แต่ประเด็นหลักยังเป็นภัยคุกคามที่มาจากเผ่าไป่ซูและการเน้นย้ำว่าพวกเขาไม่ใช่บุตรหลานที่สืบสายเลือดมาจากเทพอมตะตะวันเดือด

ยังมีผู้อมตะบางคนแอบอ้างว่ามาจากเผ่าไป่ซู

ไป่ซูเหว่ยเสียชีวิตไปแล้วในสนามรบ  ผู้นำกลุ่มผู้อมตะคนใหม่ของเผ่าไป่ซูมีความสามารถไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาต่างๆ เขาบอกจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเกี่ยวกับความยากลำบากและอันตรายที่เผ่าไป่ซูกำลังเผชิญหน้า แต่จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกลับไม่แยแส

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตอบกลับไปว่า  “นี่เป็นกลอุบายของชูตู๋  ชูตู๋ไม่ใช่สมาชิกฝ่ายธรรมะและไม่มีสายเลือดตระกูลฮวงจิน  หากเผ่าไป่ซูของเราเกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้  กองกำลังตระกูลฮวงจินจะไม่พอใจ ”

“ชูตู๋ปล่อยข่าวลือเหล่านั้นออกไปและสร้างภาพให้พวกเราตั้งใจยั่วยุกองกำลังตระกูลฮวงจิน นี่เป็นแผนการของเขา  แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เขาอ่อนแอมาก  เราต้องอดทน ”

“กองกำลังอื่นไม่ใช่คนโง่  พวกเขาสามารถบอกได้ว่าชูตู๋กำลังทำสิ่งใด  แต่เพราะการคงอยู่ของข้าในฐานะผู้อมตะระดับแปด  พวกเขาจึงไม่กล้าทำสิ่งใด ”

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูไม่โง่เช่นกัน  เขาเข้าใจสถานการณ์และยังมุ่งมั่นที่จะบุกถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

หลังจากทั้งหมดเขาเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้ว

ตอนนี้เหยากวงกับปีศาจอมตะเซี่ยหูกำลังยุ่งอยู่กับการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปด ปรมาจารย์ห้าธาตุยุ่งอยู่กับการบุกถ้ำสวรรค์นิรันดร  แม้องค์ชายฟงเซี่ยนดูเหมือนไม่ได้ทำสิ่งใด  แต่แท้จริงแล้วเขากำลังลอบกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างลับๆ

สำหรับฟางหยวน  เขามีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ

เพื่อเพิ่มจำนวนองุ่นเขียวอมตะ  เขาต้องขายสัตว์อสูรเดียวดายบางตัวออกไป

เขาขายปลามังกรเดียวดายสองตัวในสวรรค์สีเหลือง  เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อมิติช่องว่างของเขาอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้สภาพคล่องทางการเงินของเขาถือว่าดีเยี่ยมแต่ตอนนี้มันกลับเลวร้ายลงอย่างมาก

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นสัญญาณเตือน

‘ในแง่ของมิติช่องว่าง  ข้าเหนือกว่าชูตู๋  แต่พลังงานอมตะระดับหกเป็นจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้า  ดังนั้นข้าจึงเป็นคนแรกที่ล้มลงท่ามกลางผู้อมตะระดับเจ็ดทั้งหมด  ดูเหมือนว่าหลังการต่อสู้ครั้งนี้ข้าจำเป็นต้องก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดอย่างรวดเร็วที่สุด!’

การต่อสู้รุนแรงขึ้นทุกขณะ  ฐานทัพชั่วคราวทั้งหมดที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดสวรรค์ไป่ซูถูกทำลายโดยชูตู๋

หลายครั้งที่ร่างจริงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเกือบประสบความสำเร็จในการบุกเข้ามาในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

ฟางหยวนลอบขอความช่วยเหลือจากนิกายหลางหยาอย่างลับๆ

เขากล่าวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาว่า  “นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการดึงชูตู๋ให้เข้าร่วม !”

แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลับยกเลิกความคิดนี้ทันทีเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับแปด เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่านิกายหลางหยาจะไม่ให้ความช่วยเหลือ  หากมีบางสิ่งเกิดขึ้น  ฟางหยวนต้องเก็บเรื่องของนิกายหลางหยาเอาไว้เป็นความลับ  หากเขาเปิดเผย  เขาจะตายเพราะข้อตกลงพันธมิตร

“แม้ข้าจะสามารถอดทน  แต่ผลการต่อสู้ถูกตัดสินไปแล้ว  ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้จ่ายทรัพยากรไปมากกว่านี้ ” ชูตู๋ตัดสินใจยอมแพ้  เขาไม่ได้ปกปิดความคิดนี้จากฟางหยวนและกระทั่งพูดคุยเรื่องนี้กับเขา

ฟางหยวนอยากกลับแล้ว  ดังนั้นเขาจึงตอบรับอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามขณะที่ชูตู๋กับฟางหยวนกำลังพูดคุยเกี่ยวกับแผนการล่าถอย โลกของผู้อมตะภาคเหนือกลับเกิดความวุ่นวายขึ้น

กองกำลังตระกูลฮวงจินรวมถึงกองกำลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดต้องการตัดสินและคิดบัญชีกับเผ่าไป่ซู

ในช่วงเวลาสำคัญการเปลี่ยนแปลงที่ดีเกิดขึ้นแล้ว !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด