Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1188

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1188 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1188 การทดสอบของปีศาจ

แปลโดย  iPAT  

หลายวันต่อมา

ภาคเหนือ  ถ้ำปีศาจคลั่ง

“หลิวกวนซื่อ  เรารอเจ้าอยู่ !” ปู้อู๋หมิงออกมาต้อนรับฟางหยวนกับชูตู๋

ทั้งสามพูดคุยกันและเดินลึกเข้าไปในถ้ำ

ฟางหยวนพบว่าเส้นทางในครั้งนี้แตกต่างจากก่อนหน้าเล็กน้อย

“เส้นทางในถ้ำปีศาจเปลี่ยนแปลงบ่อยเพียงใด ?” ฟางหยวนถาม

“พวกมันเปลี่ยนแปลงบ่อยขึ้นเรื่อยๆ  ดังนั้นเส้นทางที่เราใช้ก็ต้องเปลี่ยนเช่นกัน  เมื่อเสียงปีศาจดังขึ้น  สัตว์อสูรจะกลายเป็นบ้าคลั่งและทำให้ภูมิประเทศเปลี่ยนไป ” ปู้อู๋หมิงอธิบาย

หลังจากชั่วครู่พวกเขาก็พบเพิ่งซาน

เพิ่งซานตื่นขึ้นจากการหลับใหล  “น้องชู  เจ้ามาแล้ว ”

ดูเหมือนเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชูตู๋

จากนั้นเขาจึงหันหน้าไปทางฟางหยวน  “น้องหลิว  ข้ารู้ความสามารถของเจ้าแล้ว  เรามาพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลปีศาจคลั่งกันเถอะ ”

ฟางหยวนถาม  “เราจะสร้างข้อตกลงอย่างไร ?”

“เราต้องไปให้ถึงชั้นในสุด  แต่ข้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยง่าย  ข้าไม่สามารถไปพร้อมกับเจ้า ” เพิ่งซานกล่าวอย่างคลุมเครือ

“ตามข้ามา ” ปู้อู๋หมิงนำทางต่อไป

ผู้อมตะทั้งสามยังเดินลึกเข้าไปในถ้ำ

“ในถ้ำแห่งนี้ทางอ้อมเร็วกว่าทางตรง ” ปู้อู๋หมิงยิ้ม

ชูตู๋พยักหน้า  “เมื่อเราไปถึงที่นั่น  อย่าตกใจเกินไป ”

ฟางหยวนรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น

หลังจากนั้นพวกเขาก็พบกับพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยแสงสว่าง

แสงทุกเฉกสีส่องประกายออกมาจากดิน  ก้อนหิน  และต้นหญ้า

ฟางหยวนสูดหายใจลึก  “นี่คือพลังงานแห่งเต๋าทั้งหมด  มีเพียงทรัพยากรอมตะกึ่งระดับเก้าเท่านั้นที่สามารถปลดปล่อยแสงชนิดนี้ พวกมันเป็นทรัพยากรอมตะกึ่งระดับเก้าทั้งหมดงั้นหรือ ?”

ปู้อู๋หมิงหัวเราะ  “น้องหลิวกล่าวถูกต้องแต่พลังงานแห่งเต๋าของทรัพยากรเหล่านี้วุ่นวายมาก พวกมันไม่สามารถใช้งาน ”

ชูตู๋ยิ้ม  “ก่อนหน้านี้เมื่อข้าเห็นพวกมันเป็นครั้งแรก  ข้าก็ตกใจเช่นกัน ”

ปู้อู๋หมิงหยุดหัวเราะ  “พลังงานแห่งเต๋าของที่นี่หนาแน่นมาก  บางส่วนของมันยังเหมือนกับท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ  นี่ทำให้การเดินทางผ่านมันกลายเป็นเรื่องที่ยากลำบาก  น้องหลิว  เจ้าสามารถทดลองด้วยตนเอง ”

ฟางหยวนส่ายศีรษะ  “ผู้อาวุโสปู้อู๋หมิง  ตั้งแต่ท่านเป็นผู้กล่าว  ข้าจะไม่เชื่อท่านได้อย่างไร ? ไม่จำเป็นต้องทดลอง ”

ปู้อู๋หมิงมองชูตู๋และยิ้ม  “น้องหลิวฉลาดกว่าบางคน  ตอนนั้นเขาปฏิเสธที่จะเชื่อข้า  เขาต้องการทดลองด้วยตนเอง  ข้าไม่สามารถหยุดเขา  นั่นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ”

ชูตู๋ถูจมูก  “ปู้อู๋หมิงกำลังกล่าวถึงข้า  ข้าต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ  อย่าดูแคลนพลังงานแห่งเต๋าของที่นี่  สถานที่แห่งนี้อันตรายมาก  ข้าจะบอกเคล็ดลับแก่เจ้า  พยายามอยู่ใกล้กับพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสายหลักของเจ้าให้มากที่สุด นั่นจะช่วยให้เจ้าเดินไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น ”

ปู้อู๋หมิงพยักหน้า  “นั่นเป็นเรื่องจริง  ข้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกฎ  ข้าต้องพยายามเดินไปในตำแหน่งที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกฎอยู่มากที่สุด”

“และข้าบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง  ข้าจำเป็นต้องเดินไปในตำแหน่งที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่ง ดังนั้นหลังจากนี้พวกเราจะไม่สามารถช่วยเหลือเจ้า  เจ้าต้องเดนนไปบนเส้นทางของตนเอง ” ชูตู๋กล่าวเตือน

ฟางหยวนพยักหน้า

ปู้อู๋หมิงเริ่มก้าวเท้าออกไปเป็นคนแรก  “ข้าจะไปก่อน  น้องหลิว  คอยดูให้ดี ”

ฟางหยวนตั้งใจดูการเคลื่อนไหวของปู้อู๋หมิงอย่างเต็มที่

ปู้อู๋หมิงก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง  สิบก้าวแรกเขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย  แต่หลังจากนั้นมันเริ่มยากลำบากมากขึ้น  เมื่อ ผ่านไปยี่สิบก้าวการเคลื่อนไหวของเขาเริ่มไม่มั่นคง  หลังจากผ่านไปสามสิบก้าว  ใบหน้าของปู้อู๋หมิงก็เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ  เขาหยุดเคลื่อนไหวในก้าวที่สี่สิบสอง

ปู้อู๋หมิงถอนหายใจและหันหลังกลับมาทางฟางหยวน  “น้องหลิว  เจ้าตั้งใจดูหรือไม่ ?”

ชูตู๋หัวเราะ  “ปู้อู๋หมิง ! หยุดแสดงละคร  เจ้าไม่สามารถเดินหน้าต่อแต่เจ้ากลับแสดงออกราวกับเป็นห่วงน้องหลิวมากมาย ความจริงก็คือเจ้าหยุดอยู่ตรงนี้ !”

ปู้อู๋หมิงรู้สึกอับอายเมื่อถูกเปิดโปง  เขาตะคอก  “ชูตู๋  เช่นนั้นเจ้าก็แสดงให้ข้าดูว่าเจ้าจะไปได้ไกลกว่าข้าหรือไม่ ?”

ชูตู๋ตะคอกกลับ  “ข้าต้องกลัวงั้นหรือ ? คอยดูให้ดี !”

ก่อนที่เขาจะกล่าวจบประโยค  เขาก็ก้าวไปข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว

การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วกว่าปู้อู๋หมิงทำให้ฝ่ายหลังแสดงออกด้วยใบหน้าที่มืดมน

แต่ในไม่ช้าชูตู๋ก็ก้าวพลาด  พลังงานแห่งเต๋าใต้ฝ่าเท้าของเขาส่องประกายขึ้นและทำให้ชูตู๋กระอักเลือดออกมาทันที

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งเดียว  แต่เขายังไม่หยุด  ชูตู๋อดทนต่อความเจ็บปวดและเดินหน้าต่อไปทีละก้าวอย่างยากลำบาก

ในที่สุดเขาก็หยุดอยู่ที่ก้าวที่สี่สิบ

“ข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับเจ้าได้จริงๆ ” ชูตู๋เช็ดเลือดที่มุมปากและถอนหายใจ

ปู้อู๋หมิงตกใจมาก  เขามองชูตู๋ด้วยดวงตาเบิกกว้าง  “จักรพรรดิอมตะ  เจ้าพัฒนาขึ้นมากจากครั้งก่อน ! ข้ารู้สึกละอายใจนัก  ข้าอยู่ในถ้ำปีศาจคลั่งมานาน  แต่ข้ายังมาได้เพียงสี่สิบสองก้าวเท่านั้น ”

ชูตู๋หัวเราะ  “เอาล่ะ  หยุดประจบข้า  ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมด  เจ้าเพียงพยายามกอบกู้ใบหน้าของข้าเท่านั้น ”

ปู้อู๋หมิงไม่ได้ปฏิเสธ  เขาหัวเราะเบาๆ  “แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่พัฒนาการของเจ้าก็เกินกว่าจินตนาการของข้า  เจ้าเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง  เพิ่งซานมองคนไม่ผิดจริงๆ ”

ชูตู๋หัวเราะและโบกมือ  “เอาล่ะ  หยุดคำเยินยอของเจ้า  ต่อไปเรามาดูน้องหลิวกันเถอะ ”

ผู้อมตะทั้งสองหันหน้ามาทางฟางหยวน

ฟางหยวนพยักหน้า  “อย่าหัวเราะเยาะข้าเมื่อข้าทำให้ตนเองอับอาย ”

“น้องหลิว  ผ่อนคลายเถอะ  นี่เป็นครั้งแรกของเจ้า  ให้ความสำคัญกับทุกย่างก้าวและอย่าหมกมุ่นกับจำนวนก้าว ” ปู้อู๋หมิงกล่าว

ชูตู๋หัวเราะ  “ฮ่าฮ่า  อย่ากังวล  น้องหลิว  ข้าจะจดจำสภาพที่น่าสมเพชของเจ้าเอาไว้  ครั้งแรกที่ข้ามาที่นี่ข้าเดินมาได้ยี่สิบสองก้าว  หากเจ้าไม่สามารถเอาชนะข้า  ข้าจะหัวเราะเยาะเจ้าตลอดไป  ฮ่าฮ่าฮ่า ”

ฟางหยวนหัวเราะผสมโรง

แต่ในความเป็นจริงเขาเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่  ‘ทั้งสองตั้งใจพิสูจน์ความสามารถของข้า ’

‘แม้ชูตู๋จะแนะนำข้าแต่พวกเขาก็ยังไม่มั่นใจในความสามารถของข้า  ดังนั้นปู้อู๋หมิงจึงนำข้ามาที่นี่ ’

‘นี่คือการตรวจสอบรากฐานของข้า ’

‘หากข้าทำผลงานได้แย่เกินไป  พวกเขาอาจไม่ทำข้อตกลงกับข้า !’

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเทพปีศาจไร้ขอบเขตและความลับของชีวิตนิรันดร์ ดังนั้นฟางหยวนจึงตัดสินใจที่จะแสดงผลงานที่ดีให้พวกเขาได้เห็น

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น  เขาสูดหายใจลึกและยืนอย่างมั่นคงก่อนจะก้าวเท้าออกไป

เขาเลือกตำแหน่งที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด

แต่ในช่วงเวลาต่อมาการแสดงออกของฟางหยวนกลับเปลี่ยนแปลงไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า ” ชูตู๋สังเกตเห็นการแสดงออกของเขาและหัวเราะออกมา  “น้องหลิว  มองอย่างเดียวไม่มีประโยชน์  เจ้าต้องรู้สึกถึงแรงกดดันถูกต้องหรือไม่ ?”

ฟางหยวนเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดอยู่ภายในแต่เขาไม่ได้แสดงออก

เขาไม่ตอบชูตู๋

หนึ่งก้าว  สองก้าว  สามก้าว  ฟางหยวนเดินไปข้างหน้ามากกว่าสิบก้าวอย่างมั่นคง

ความรู้สึกแปลกประหลาดทวีความรุนแรงมากขึ้น  ‘เกิดสิ่งใดขึ้น ? เหตุใดข้าไม่รู้สึกถึงสิ่งกีดขวาง  ข้าก้าวมามากกว่าสิบก้าวและรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่บนพื้นปกติ ’

นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก

ฟางหยวนเดาได้ในไม่ช้าว่าสถานการณ์นี้เกิดจากร่างทารกอมตะของเขา

‘ชูตู๋และปู้อู๋หมิงต้องเผชิญกับแรงกดดันจากความขัดแย้งระหว่างพลังงานแห่งเต๋าที่แตกต่าง’

‘ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกถึงแรงกดดันและยากที่จะก้าวเท้าออกไป ’

‘แต่ข้าแตกต่างจากพวกเขา  พลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบต่อข้า !’

‘แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาของข้าเท่านั้น  ความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น ’

ฟางหยวนคิดและเดินต่อไปอีกสองสามก้าว

การแสดงออกของปู้อู๋หมิงและชูตู๋เปลี่ยนไปเล็กน้อย

‘หลิวกวนซื่อผู้นี้แข็งแกร่งมาก !’ ปู้อู๋หมิงตกใจมาก

‘เขาเดินมาเกือบยี่สิบก้าวแล้วแต่ยังสงบนิ่ง  ครั้งแรกที่ข้ามาที่นี่  ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความยากลำบาก  ข้าต้องทุ่มเทความพยายามทั้งหมด  มันเป็นภาพที่น่าสมเพช !’ ชูตู๋นึกถึงประสบการณ์ของตนเองและรู้สึกประทับใจในตัวฟางหยวนมากขึ้น

ความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของเขาอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง  ‘อยาบอกว่าหลิวกวนซื่อผู้นี้เป็นอัจฉริยะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่กระทั่งเก่งกาจกว่าข้าเมื่อเปรียบเทียบกับความสำเร็จบนเส้นทางความแข็งแกร่งของข้า ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขาอยู่ในระดับใดกันแน่?’

หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนแสร้งหอบหายใจราวกับว่าเขาเหนื่อยมาก

แต่การแสดงออกของเขาเปรียบเทียบกับครั้งแรกของชูตู๋และปู้อู๋หมิง  มันยังต่างกันมาก

ในที่สุดฟางหยวนก็หยุดที่ก้าวที่ยี่สิบและยิ้ม  “ข้าเกือบจะถึงตำแหน่งเดียวกับพี่ชู ”

ชูตู๋มองฟางหยวนอย่างมีความหมาย  “น้องหลิว  เจ้ายังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมด ”

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น  “ข้าแทบจะไม่สามารถก้าวต่อไป  หากข้าก้าวต่อไป  ข้าอาจกระอักเลือดออกมา ”

รอยยิ้มของชูตู๋ดูขมขื่นยิ่งกว่า  “ข้าจะไม่โกหกเจ้า  ครั้งแรกที่ข้ามาที่นี่  ข้าเริ่มกระอักเลือดตั้งแต่ก้าวที่สิบ !”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด