Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1195

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1195 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1195 เด็ก

แปลโดย  iPAT  

“เด็กน้อย  รับท่านี้ !” หลิวฮุ้ยตะโกนและปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมาจากร่างกาย

เขายกแขนขึ้นเหนือศีรษะและควบแน่นแสงสีเทารูปจันทร์เสี้ยงขึ้นกลางอากาศ

“ดี  ในที่สุดผู้อาวุโสหลิวฮุ้ยก็ใช้ท่าไม้ตายจันทร์เสี้ยวสีเทาออกมา !”

“นี่เป็นท่าไม้ตายที่โด่งดังของหลิวฮุ้ย ”

“ถูกต้อง  ร่างกายของผู้ที่ถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายนี้จะกลายเป็นหิน  นี่เป็นท่าไม้ตายที่รับมือได้ยาก ”

ภายในวังตะวันตก  ผู้อมตะฝ่ายธรรมะโห่ร้องด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

อีกด้านหนึ่ง  การแสดงของเซี่ยอู่เหิงกลับเปลี่ยนแปลงไป

เขารู้สึกถึงพลังอำนาจที่ไม่ธรรมดาของท่าไม้ตายนี้และไม่กล้าบุ่มบ่าม

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะและสร้างชั้นน้ำแข็งขึ้นมาปกป้องร่างกายของตนเอาไว้ แสงจันทร์สีเทาทำให้น้ำแข็งกลายเป็นหิน  แต่ชั้นนำแข็งยังก่อตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้แสงจันทร์สีเทาไม่สามารถสัมผัสร่างกายของเซี่ยอู่เหิง

“อันใด ? เขาใช้ท่าไม้ตายสายโจมตีกับร่างกายของตนเองงั้นหรือ ?”

“น่าอัศจรรย์นัก ! เซี่ยอู่เหิงจัดการท่าไม้ตายจันทร์เสี้ยวสีเทาได้อย่างง่ายดาย  เขาค่อนข้างฉลาด !”

“ต่อไป  มอบความพ่ายแพ้ให้เขา !”

ผู้อมตะฝ่ายชูตู๋โห่ร้อง

ในทางตรงข้ามอารมณ์ผ่อนคลายของผู้อมตะฝ่ายธรรมะในวังตะวันตกหายไปอย่างสมบูรณ์

“พวกเราจะไม่พ่ายแพ้ให้กับเซี่ยอู่เหิงอีกครัั้งใช่หรือไม่ ?”

“กระทั่งผู้อาวุโสหลิวฮุ้ยก็ยังไม่สามารถรับมือเขางั้นหรือ ?”

“เซี่ยอู่เหิงไร้ชื่อเสียงขณะที่ผู้อาวุโสหลิวฮุ้ยเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับหกที่โด่งดัง!””

ขณะที่ผู้อมตะเหล่านี้กำลังพูดคุย  เซี่ยอู่เหิงในชุดหินและน้ำแข็งก็พุ่งเข้าโจมตีหลิวฮุ้ย

“ตา เฒ่า  แก่แล้วเหตุใดไม่พักผ่อนอยู่บ้าน ? เช่นนั้นก็ตายซะ !”

เซี่ยอู่เหิงผลักฝ่ามือออกไป  คลื่นหิมะและน้ำแข็งพุ่งขึ้นสู่อากาศ

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะผู้อาวุโสหลิวฮุ้ยถูกโจมตีและจมอยู่ใต้คลื่นหิมะและน้ำแข็งเหล่านี้

เซี่ยอู่เหิงชนะ !

หลิวฮุ้ยตาย !

ทุกคนตกใจกับผลลัพธ์นี้

“ก่อนการต่อสู้ครั้งนี้  เซี่ยอู่เหิงได้รับชัยชนะมาแล้วสองรอบติดต่อกัน  เขาได้รับบาดเจ็บและไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด !”

“ในการต่อสู้สองครั้งก่อนหน้า  เขาต่อสู้กับผู้เยาว์ของฝ่ายธรรมะแต่เขาไม่สามารถสังหารคู่ต่อสู้  อย่างไรก็ตามตอนนี้เขากลับสังหารหลิวฮุ้ย !”

“หลิวฮุ้ยที่ยิ่งใหญ่กลับตกตายอยู่ในมือของปีศาจอมตะไร้นาม !”

“สวรรค์ ! ข้าไม่อยากจะเชื่อ !”

“คนผู้นี้เป็นเพียงผู้อมตะระดับหกแต่พลังการต่อสู้ของเขากลับเทียบเท่าผู้อมตะระดับเจ็ด! เขามาจากที่ใด ?”

“นี่ทำให้ข้าคิดถึงปีศาตอมตะเซี่ยหู  เขาใช้แซ่เซี่ยและบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็ง  เขาเหมือนปีศาจอมตะเซี่ยหูในวัยเยาว์ !”

“เขายังห่างไกลจากปีศาจอมตะเซี่ยหู  แต่ชัยชนะสามครั้งติดต่อกันจะทำให้ชื่อเสียงของเขาแพร่กระจายไปทั่วโลก!”

ทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายของชูตู๋ต่างวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเซี่ยอู่เหิง

“เสี่ยวจิน  อย่าเสียใจ  นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า  ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเกินไป  เขากระทั่งสามารถสังหารหลิวฮุ้ย !” เย่หลิวซุ้ยหงปลอบใจเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้าง

มันคือเย่หลิวเสี่ยวจิน

ขณะนี้แขนขวาของเขายังถูกแช่แข็ง  ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีดำน้ำเงิน  กระทั่งเลือดและกระดูกยังได้รับผลกระทบ

เย่หลิวเสี่ยวจินรู้สึกเจ็บปวดมากหลังจากพ่ายแพ้  เขากลับมาที่ห้องโถงแห่งนี้และก้มศีรษะลงตลอดเวลา

สำหรับคำกล่าวของเย่หลิวซุ้ยหง  ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ยิน

เย่หลิวซุ้ยหงเห็นสิ่งนี้และถอนหายใจ  “เจ้ายังเด็ก  ความพ่ายแพ้ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้า  ความอัปยศจะทำให้เจ้าพยายามมากขึ้น  ผู้ใดจะรู้ว่าในอนาคตเจ้าอาจประสบความสำเร็จและเหนือกว่าพวกเขา  สิ่งสำคัญคืออย่าสูญเสียความมั่นใจ ”

เย่หลิวซุ้ยหงมองไปทางเซี่ยอู่เหิงจากนั้นก็เลื่อนสายตาไปทางเหนียงเอ๋อปิงซื่อที่ไม่สามารถสงบนิ่ง

“ข้าขอออกไปได้หรือไม่ ?” เหนียงเอ๋อปิงซื่อลอบขออนุญาตผู้อาวุโสเผ่าเหนียงเอ๋อ

อย่างไรก็ตามเหนียงเอ๋ออี้ฟางยังส่ายศีรษะ  “คนผู้นี้ชนะมาสามครั้งแล้ว  มีผู้บาดเจ็บล้มตาย  ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุด  หากเจ้าสังหารเขา  มันจะไม่มีสิ่งใดพิเศษ  แต่หากเจ้าทำไม่สำเร็จ  ศักดิ์ศรีของเจ้าจะถูกทำลาย  อีกฝ่ายไม่ได้โง่เขลา  เหตุใดพวกเขาถึงปล่อยให้เซี่ยอู่เหิงสู้ต่อไป ?”

แต่ต่อมาชูตู๋กลับถอนเซี่ยอู่เหิงออจากการต่อสู้

เหนียงเอ๋อปิงซื่อตะคอก  “แม้เขาจะไม่ต่อสู้แต่ข้าก็จะขึ้นไป  เขาชนะสามครั้ง  ข้าจะชนะอย่างน้อยหกครั้ง !”

เหนียงเอ๋อปิงซื่อลุกขึ้นและโค้งคำนับกงหว่านถิง  “ข้าขอออกไปต่อสู้ !”

คิ้วกงหว่านถิงขมวดเล็กน้อย

ฝ่ายของชูตู๋ได้รับชัยชนะสามครั้งติดต่อกัน

นี่ทำให้ฝ่ายธรรมะสูญเสียชื่อเสียงและยังสร้างความเสียหายต่อศักดิ์ศรีของกงหว่านถิงอีกด้วย

กงหว่านถิงรู้ว่าเหนียงเอ๋อปิงซื่อได้รับมรดกของผู้พิทักษ์ดาบเผ่าเหนียงเอ๋อ หลังจากไตร่ตรอง  นางไม่มีเหตุผลที่จะไม่อนุญาตเขา

เหนียงเอ๋อปิงซื่อเข้าสู่สนามประลองและตะโกน  “ผู้ใดต้องการตาย ?”

เสียงโห่ร้องของฝ่ายชูตู๋เงียบลงทันที

“ระวัง  อย่าหลงกลเด็กผู้นี้  เขาเป็นผู้อมตะระดับหกที่สามารถสังหารผู้อมตะระดับเจ็ด !”

“เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการต่อสู้ที่แดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก เขาโหดเหี้ยมมาก  เขาฆ่าผู้อมตะไปหลายคนในครั้งนั้น ”

“กระทั่งปีศาจเฒ่าซากศพพิษก็ไม่สามารถทำสิ่งใดเขา ”

“เขาเป็นผู้สืบทอดของผู้พิทักษ์ดาบเผ่าเหนียงเอ๋อ  เขาย่อมไม่ใช่คนธรรมดา ”

เผชิญหน้ากับการท้าทายของเหนียงเอ๋อปิงซื่อ  ฝ่ายชูตู๋กลายเป็นเงียบงันไปชั่วขณะ

“เด็กยุคนี้แต่ละคนช่างโหดเหี้ยมนัก ” ชูตู๋เผยรอยยิ้มบาง

“พี่ชู  โปรดให้ข้าออกไป ” เซี่ยอู่เหิงร้องขอ

แต่ชูตู๋จะอนุญาตได้อย่างไร

เซี่ยอู่เหิงได้รับบาดเจ็บกระทั่งมิติช่องว่างบางส่วนยังกลายเป็นหินและสูญเสียทรัพยากรจำนวนมากจากท่าไม้ตายของหลิวฮุ้ย

“อย่ากังวล  ข้ามีแผนจัดการเด็กผู้นี้แล้ว ” ชูตู๋เผยรอยยิ้มมั่นใจ

“ท่านยายหยิน  ข้าต้องฝากการต่อสู้ครั้งนี้ไว้กับท่านแล้ว ” ชูตุ๋กล่าวกับผู้อมตะชุดคลุมดำที่อยู่ด้านหลังเขา

ผู้อมตะหลังค่อมผู้นี้ถือไม้เท้าเอาไว้ในมือและไม่เคยกล่าวสิ่งใด

เมื่อได้ยินคำกล่าวของชูตู๋  นางก็ยกมือขึ้นปิดหมวกออก

“ฮิฮิ  หญิงชราผู้นี้จะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี ” ยายหยินบินเข้าสู่สนามประลองและจ้องมองเหนียงเอ๋อปิงซื่อด้วยดวงตาสีเหลืองที่ขุ่นมัว

“อันใด ? นางคือปีศาจอมตะระดับเจ็ด  ยายหยิน !”

“ชูตู๋ช่างไร้ยางอายนัก  เหนียงเอ๋อปิงซื่อเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก  แต่เขากลับส่งผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่มีชื่อเสียงออกมา !”

“ไม่ดีแล้ว  เรียกเหนียงเอ๋อปิงซื่อกลับมา !” เหนียงเอ๋ออี้ฟางกังวลมาก

เหนียงเอ๋อปิงซื่อเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นของเผ่าเหนียงเอ๋อและได้รับการดูแลอย่างดี ครั้งนี้เหนียงเอ๋ออี้ฟางถูกส่งมาดูแลความปลอดภัยให้กับเหนียงเอ๋อปิงซื่อ หากเหนียงเอ๋อปิงซื่อตาย  เหนียงเอ๋ออี้ฟางจะต้องรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตามเจตจำนงแห่งการต่อสู้ของเหนียงเอ๋อปิงซื่อกลับยิ่งพุ่งสูงขึ้น เขาพุ่งเข้าโจมตียายหยินทันที

…..

แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ  ยอดเขาที่หนึ่ง

“เจ้าต้องขอบคุณข้าที่ทำให้ระดับการบ่มเพาะของเจ้าพุ่งสูงขึ้นและกำลังจะถึงระดับห้า” ท่านหญิงหว่านซูพูดกับหม่าหงหยุนขณะที่ถือบอลสายฟ้าเอาไว้ในมือ

หม่าหงหยุนตะโกนอย่างบ้าคลั่ง  “คนชั่ว  เจ้ายังต้องการทรมานข้า  เจ้าจะทรมานข้าไปถึงเมื่อใด ? ข้าไม่ต้องการบ่มเพาะเช่นนี้  ปล่อยข้าไป !”

ท่านหญิงหว่านซูเย้ยหยัน  “นั่นเป็นไปไม่ได้ ”

จากนั้นนางก็ส่งบอลสายฟ้าออกไป

“เปรี้ยง !”

ร่างของหม่าหงหยุนสั่นกระตุก  เขากลอกตาไปมา  อ้าปากค้าง  และกรีดร้องตลอดเวลา

“อ๊าก …”

เขากรีดร้องกระทั่งประกายสายฟ้าสลายไปจนหมด

“ล้มเหลวอีกครั้ง  เจ้าเด็กนี่ !” ใบหน้าของท่านหญิงหว่านซูกลายเป็นมืดมน  นางตบแก้มของหม่าหงหยุนอย่างดุเดือด

หม่าหงหยุนหมดสติจากการตบของนาง

…..

ภาคกลาง  นิกายคฤหาสน์วิญญาณ

ฝนเทลงมาอย่างหนักทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีดำ

ร่างของจ้าวเหลียนหยุนเปียกโชกไปด้วยสายฝน  สายตาของนางพร่ามัวและรู้สึกวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง

นางต้องประคองสติด้วยกำลังทั้งหมด

แม้นางจะเป็นปีศาจต่างโลกที่มีความทรงจำของโลกใบก่อนหน้า  แต่นางยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับโลกของผู้อมตะมากนัก  นางไม่สามารถเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ

สิ่งเดียวที่นางกังวลคือหม่าหงหยุน

“ปีศาจต่างโลกผู้นี้ช่างโง่เขลานัก ” หลี่จุนอิงเฝ้าสังเกตอยู่อย่างลับๆ

ซูเฮาส่ายศีรษะ  “ข้าไม่เคยคาดคิดว่านางจะดื้อรั้นถึงเพียงนี้  มันผ่านไปมากกว่าสิบวันแล้ว ”

หลี่จุนอิงหันกลับมาที่สามีของนาง  “ท่านเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าฟงจินฮวงอาจใช้เรื่องนี้ต่อต้านพวกเรา  นางอาจขอให้จ้าวเหลียนหยุนยอมแพ้ในการชิงตำแหน่งผู้นำนิกายและสัญญาว่าจะช่วยคนรักของนาง”

ซูเฮายิ้ม  “เป็นไปไม่ได้  ด้วย ธรรมชาติของฟงจินฮวง  นางจะไม่ทำเช่นนั้น  หลังจากทั้งหมดทั้งสองล้วนยังเด็ก ”

…..

ในอาณาจักรแห่งความฝัน  ภาคใต้

“อา …” ฟางหยวนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

“เด็กน้อย  ตอนนี้เจ้ารู้จักเจ็บปวดแล้วงั้นหรือ ? หากเจ้าคุกเข่าลง  เจ้าก็คงไม่ต้องทรมานเช่นนี้ ” ชายวัยกลางคนเคราหนากำลังรักษาอาการบาดเจ็บให้กับฟางหยวน

ฟางหยวนเงยหน้าขึ้นและกำหมัดแน่น  “ท่านลุง  บุรุษจะคุกเข่าให้บิดามารดาและสวรรค์พิภพเท่านั้น  ข้าจะไม่คุกเข่าตามคำสั่งของผู้ใด ! แม้ตายข้าก็จะไม่คุกเข่า !”

“หากไม่สนใจชีวิตของตนเอง  การรักษาเจ้าก็ไร้ประโยชน์ !” ชายวัยกลางคนบ่น

“ฮืม  ข้าไม่ได้ขอให้ท่านรักษา !” ฟางหยวนอดทนต่อความเจ็บปวดและยืนขึ้นก่อนจะเดินออกจากระโจมไปโดยไม่หันหลังกลับ

อย่างไรก็ตามเขากลับล้มลงบนพื้นหลังจากเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว  ความเจ็บปวดทำให้เขาหมดสติ

เมื่อเขาตื่นขึ้นอีกครั้ง  เขาก็พบว่าตนเองกลับมาอยู่ในกระโจมของชายวัยกลางคนอีกหน

“เจ้ายังเด็กเกินไป ” ชายวัยกลางคนยกถ้วยสุราขึ้นดื่ม  “ข้ารักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าแล้วครึ่งหนึ่งและปล่อยให้อีกครึ่งเป็นบทเรียนของเจ้า”

ฟางหยวนพึมพำ  “ขอบคุณ  ท่านลุง  แต่ข้าบอกท่านไปแล้วว่านี่ไม่ใช่เรื่องของเด็กแต่เป็นเรื่องของหลักการ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด