Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1214

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1214 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1214 สถานการณ์ภาคใต้

แปลโดย  iPAT  

มองขึ้นไปบนท้องฟ้า  การแสดงออกของฟางหยวนค่อนข้างมืดมน

เขานึกถึงฉากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

จากการคาดเดาของฟางหยวน  ธุรกิจซื้อขายโอกาสสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันได้รับความนิยมมาก  มันเหนือกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของเขา

พิจารณาจากคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์บนยอดเขาและน้ำเสียงเทพธิดากระต่ายขาว ไม่ว่าจะเป็นปีศาจอมตะหรือผู้บ่มเพาะสันโดษ  ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถจ่าย  ทุกคนจะสามารถเข้าไปในค่ายกลวิญญาณและสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน

‘นี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของข้า  แต่เมื่อคิดเกี่ยวกับมัน  ข้าสามารถทำความเข้าใจ ’

เส้นทางแห่งความฝัน

ในปัจจุบันมันว่างเปล่ามาก

กระทั่งกองกำลังระดับสูงจะพยายามค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  แต่พวกเขาแทบไม่ได้รับสิ่งใด

ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน  เขาเป็นผู้นำบนเส้นทางสายนี้ในปัจจุบัน  แน่นอนว่าอิงอู๋เซี่ยก็มีความสามารถพิเศษบางอย่างที่ก้าวข้ามยุคนี้ไปแล้วเช่นกัน

ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันแสดงพลังอำนาจที่น่าอัศจรรย์ออกมาระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ขณะเดียวกันท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันทำให้ฟางหยวนได้รับผลประโยชน์มหาศาล

‘ผู้อมตะฝ่ายธรรมะอาจปิดผนึกอาณาจักรแห่ความฝันนี้  แต่พวกเขาไม่สามารถขุดค้นสมบัติที่อยู่ภายใน  ต่อมาพวกเขาเริ่มสูญเสียผู้เชี่ยวชาญระดับเจ็ดกระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล…’

ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถซ่อนจากโลกผู้อมตะภาคใต้  ฟางหยวนได้รับข้อมูลเหล่านี้มาอย่างง่ายดาย

‘ฝ่ายธรรมะพบกับความสูญเสีย  พวกเขารู้สึกว่าอาณาจักรแห่งความฝันไม่สามารถสำรวจได้โดยง่าย  ดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีล่อลวงให้ปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษเข้ามาและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ นอกจากนั้นหากเกิดอุบัติเหตุกับผู้คนเหล่านี้  มันยังเป็นเรื่องดีกับฝ่ายธรรมะ  นี่คือการยิงนกครั้งเดียวได้นกสองตัว ’

‘เพื่อให้ธุรกิจนี้ได้รับความนิยมในวงกว้าง  มันต้องได้รับฉันทามติจากผู้อมตะฝ่ายธรรมะต้อง  คฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์และเทพธิดากระต่ายขาวต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้อมตะฝ่ายธรรมะอย่างน้อยหกหรือเจ็ดกองกำลัง’

ฟางหยวนเป็นนักวางแผนและด้วยประสบการณ์ห้าร้อยปีในชีวิตแรก  เขาสามารถสรุปรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับธุรกิจซื้อขายโอกาสนี้ได้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตามแม้ฟางหยวนจะสามารถใช้วิธีนี้เพื่อเข้าไปในค่ายกลวิญญาณและสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน แต่นี่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเขา

ฟางหยวนต้องการสิ่งใด ?

ประการแรก  เขาต้องการเวลาในการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน

ประการที่สอง  เขาต้องป้องกันตัวเอง  แม้จะมีสิ่งใดเกิดขึ้น  เขาก็ต้องอยู่ที่นั่นได้อย่างปลอดภัยต่อไป  การเดินทางเพียงหนึ่งหรือสองครั้งในอาณาจักรแห่งความฝันน้อยเกินไป  นอกจากนั้นวิธีนี้ยังต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล

คำทำนายเกี่ยวกับเทพอมตะแห่งความฝันส่งผลกระทบต่อทุกคนและทำให้ผู้อมตะจำนวนนับไม่ถ้วนต้องการคว้าโอกาสนี้เอาไว้

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะได้ลิ้มรสชาติความทุกข์ทรมานจากการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันมาแล้ว เมื่อถึงเวลาที่ปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษตระหนักถึงความยากลำบากและไร้ประโยชน์เช่นเดียวกัน พวกเขาจะหมดความสนใจในที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้นแม้ฟางหยวนจะเลือกใช้วิธีนี้และสามารถคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝัน แต่การหดตัวลงของอาณาจักรแห่งความฝันจะดึงดูดความสนใจของผู้อมตะฝ่ายธรรมะ

หากผู้อมตะฝ่ายธรรมะตระหนักถึงสถานการณ์นี้  พวกเขาจะทำอย่างไร ?

เมื่อเวลานั้นมาถึงฟางหยวนจะติดอยู่ในค่ายกลวิญญาณและไม่สามารถปลดปล่อยตนเอง แม้เขาจะมีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด  แต่ตอนนี้เขามีอาหารไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูมัน

‘บางทีข้าอาจสังหารผู้อมตะฝ่ายธรรมะบางคนและใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยปลอมตัวเป็นคนผู้นั้นเพื่อเข้าไป?’

ฟางหยวนคิดก่อนจะส่ายศีรษะปัดความคิดนี้ทิ้งไป

ประการแรก  ผู้อมตะฝ่ายธรรมะมีวิธีตรวจสอบการคงอยู่หรือความตายของพวกเขาเช่นป้ายวิญญาณ โคมไฟวิญญาณ  หรือโลหิตวิญญาณ

ด้วยวิธีการเหล่านี้  พวกเขาจะสามารถค้นหาตำแหน่งและตระหนักถึงความตายของสมาชิกได้อย่างง่ายดาย

เมื่อฟางหยวนสังหารผู้อมตะบางคน  กองกำลังที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาจะค้นพบและตอบสนองทันที  เว้นเพียงฟางหยวนจะมีวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่สามารถปิดบังความจริงจากวิธีการเหล่านั้น

แต่ฟางหยวนยังอ่อนแอในแง่ของเส้นทางแห่งข้อมูล

แม้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยจะเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปดแต่มันไม่สามารถทำทุกสิ่ง ย้อนกลับไปอิงอู๋เซี่ยสามารถใช้วิญญาณอมตะตรวจสอบโชคเพื่อค้นหาฟางหยวน

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับนิสัยของผู้อมตะแต่ละคนที่เป็นข้อบกพร่องของท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย

ดังนั้นการสังหารบางคนและปลอมตัวเป็นพวกเขาจึงไม่ใช่วิธีที่ฉลาดนัก

ฟางหยวนคิดในทุกแง่มุมแต่ยังไม่สามารถหาวิธีที่ดี

แม้ฟางหยวนจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปดแต่เขาอาจไม่สามารถทำลายค่ายกลวิญญาณ กระทั่งเขาจะสามารถทำลายค่ายกลวิญญาณ  แต่ผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้ยังมีอีกมากมายและสามารถปรากฏตัวขึ้นทันที

หากถูกล้อมกรอบโดยผู้อมตะระดับแปด  เขาจะทำอย่างไร ?

ฟางหยวนไม่สามารถหาทางออกของเรื่องนี้  ดังนั้นเขาจึงหวนกลับไปยังคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์บนยอดเขา

ดวงตาของเทพธิดากระต่ายขาวส่องประกายขึ้น  นางเริ่มทักทายฟางหยวน  “เจ้าคงคิดมาแล้ว  เจ้าต้องการคว้าโอกาสนี้หรือไม่ ?”

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น  “เทพธิดากระต่ายขาว  ข้าเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ  ข้าแทบไม่เคยออกมายังโลกภายนอก  ราคานี้จะทำให้ข้าสูญเสียทรัพย์สินเกือบทั้งหมด  ข้าต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน  ข้ามาที่นี่ในครั้งนี้เพราะต้องการขอข้อมูลเพิ่มเติมจากท่านและทำความเข้าใจโลกของผู้อมตะภาคใต้ให้มากขึ้น”

ฟางหยวนกล่าวและส่งทรัพยากรอมตะระดับหกให้กับเทพธิดากระต่ายขาว

เทพธิดากระต่ายขาวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย  แม้มันจะเป็นทรัพยากรอมตะทั่วไป  แต่คำขอของฟางหยวนไม่ใช่เรื่องยาก  นางทำธุรกิจและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อมตะทุกประเภท  นางเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของโลกผู้อมตะภาคใต้เป็นอย่างดี

“เอาล่ะ  เช่นนั้นก็รับสิ่งนี้ไว้ ” เทพธิดากระต่ายขาวส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับฟางหยวน

…..

อาณาจักรแห่งความฝัน  ค่ายกลวิญญาณของฝ่ายธรรมะ

“เราพบกันอีกครั้งเทพธิดาเมียวหยิน  ท่านจำข้าได้หรือไม่ ?” ผู้อมตะเผ่าเฉียวนำผู้อมตะหญิงเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณ

เทพธิดาเมียวหยินเป็นปีศาจอมตะ  นางได้รับมรดกจากบรรพบุรุษและร่ำรวยมาก  นอกจากนั้นนางยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสามหญิงงามของโลกผู้อมตะภาคใต้

ทั้งสองเดินผ่านผู้อมตะสองคนเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณ

“คนเหล่านี้กล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ  พวกเขาเคยมาทุกเจ็ดวัน  แต่ตอนนี้พวกเขามาทุกวันหรือทุกสองวัน ”

“ผู้อมตะตระกูลลั่วยังดีที่นำผู้อมตะที่มีชื่อเสียงที่ดีเข้ามา  แต่ผู้อมตะตระกูลเฉียวกลับเก็บเกี่ยวผลประโยชน์โดยไม่เลือกหน้า  เมียวหยินเป็นสมาชิกฝ่ายปีศาจ  ในอดีตนางเคยทำลายแหล่งทรัพยากรสำคัญของตระกูลปาและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสี่คน ตระกูลปากำลังไล่ล่านางอยู่ !”

ผู้อมตะ ปา ฉวนฟงกล่าวด้วยความโกรธ

ด้านข้าเขาคือผู้อมตะตระกูล ปา อีกคน

คนผู้นี้มีความสูงเกือบสามเมตร  เส้นผมสีเขียว  เครายาวลงมาถึงเอว  หน้าอกกว้างและดูเหมือนเปลือกไม้

เขามีอายุนับพันปีและเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุด

เขาได้รับการยอมรับจากโลกผู้อมตะภาคใต้ว่าเป็นตัวตนอันดับหนึ่งภายใต้ผู้อมตะระดับแปด เฒ่าพฤกษา ปา เต๋อ !

ปา เต๋อกล่าวช้าๆ  “เสี่ยวฟง  แม้ตระกูลเฉียวจะอ่อนแอลง  แต่พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากตระกูลวูผ่านการแต่งงาน ”

ความโกรธของ ปา ฉวนฟงลดลง  เขากล่าวต่อ  “ตระกูลเฉียวเป็นกองกำลังฝ่ายธรรมะ  แต่ในช่วงสองสามพันปีที่ผ่านมาพวกเขากลับต้องพึ่งพาตระกูลวู  ฮืม  สุนัขรับใช้ตระกูลวู !”

“ตระกูลวูเอาแต่ใจเกินไป ! ด้วยการคงอยู่ของผู้อมตะระดับแปดสองคนทำให้พวกเขาไม่เกรงกลัวสิ่งใด คราวนี้พวกเขาร่วมมือกับหกตระกูลและสร้างธุรกิจซื้อขายโอกาสขึ้นมา  พวกเขาไม่สนใจความคิดของตระกูลอื่นบ้างงั้นหรือ ? ค่ายกลวิญญาณถูกสร้างขึ้นด้วยความร่วมมือจากกองกำลังฝ่ายธรรมะทั้งหมด พวกเราสร้างมันขึ้นมาพร้อมกัน !”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ” ปาเต๋อหัวเราะ  “เสี่ยวฟง  เจ้าคิดว่าทุกคนควรได้รับผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมใช่หรือไม่ ?”

ใบหน้าของปาฉวนฟงเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อถูกเปิดเผยความคิด  “ฮ่าฮ่า  ข้าไม่สามารถซ่อนมันจากท่านจริงๆ ”

ปาเต๋อส่ายศีรษะ  “การกระทำของตระกูลวูจะดึงดูดตระกูลอื่นให้เข้าร่วมมากขึ้น  อย่างไรก็ตามเราตระหนักแล้วว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน วิธีนี้สามารถทำกำไรให้กับพวกเรามากที่สุด …แต่ตระกูลปาของเราไม่สามารถเข้าร่วม ”

“อา …เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ?” ปาฉวนฟงเร่งถาม

“มีข้อดีและข้อเสียในเรื่องนี้  แม้พวกเขาจะได้รับทรัพยากรมากมายและพวกเราจะได้รับส่วนแบ่ง  แต่ในอนาคตเมื่ออาณาจักรแห่งความฝันถูกแจกจ่าย  พวกเราจะได้รับส่วนแบ่งมากกว่าหากไม่เข้าร่วมกับพวกเขาในครั้งนี้  เสี่ยวฟง  มองไปข้างหน้า  อาณาจักรแห่งความฝันไม่สามารถสำรวจได้ในเวลานี้  แต่ในอนาคตอาณาจักรแห่งความฝันจะกลายเป็นขุมสมบัติที่แท้จริง ” ปาเต๋อถอนหายใจ

“แต่ตระกูลวูมีผู้อมตะระดับแปดสองคนขณะที่พวกเรามีเพียงหนึ่ง  หากพวกเขาแสดงท่าทีแข็งกร้าว  แล้วพวกเราจะหยุดพวกเขาได้หรือไม่ ?” ปาฉวนฟงกังวล

“เราไม่สามารถหยุดตระกูลวู  แต่ตระกูลอื่นจะนิ่งเฉยงั้นหรือ ? นอกจากนั้นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของพวกเขากำลังจะตาย  ตระกูลวูจะตกสู่ความโกลาหลเป็นเวลานาน  ด้วยผู้อมตะระดับแปดเพียงหนึ่งเดียว  ตระกูลวูยังจะสามารถเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งของฝ่ายธรรมะได้หรือไม่?” ปาเต๋อเผยรอยยิ้มอย่างมีความหมาย

ปาฉวนฟงเบิกตากว้าง  “ดังนั้นข่าวลือกที่ว่าอายุขัยของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลวูกำลังจะหมดลงก็เป็นเรื่องจริง แต่พวกเขาเป็นกองกำลังใหญ่  แล้วพวกเขาจะไม่มีวิญญาณอายุยืนเก็บไว้ได้อย่างไร ?”

“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลวูเคยใช้วิธียืดอายุวิธีอื่นและมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไข ตอนนี้นางไม่สามารถใช้วิญญาณอายุยืนได้อีก ” ปาเต๋อถอนหายใจ  “ความตายของนางจะทำให้สถานการณ์ของภาคใต้เปลี่ยนแปลงไป  หลังจากนั้นพวกเราจะรอดูว่าตระกูลวูจะควบคุมสถานการณ์อย่างไรและตระกูลของเราจะมีโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์หรือไม่ หลังจากทั้งหมดตระกูลวูยึดครองแหล่งทรัพยากรเอาไว้มากเกินไป ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด