Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1247 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารี

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1247 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1247 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารี

แปลโดย  iPAT  

“นี่ …พวกเราอยู่ที่ใด ?” จ้าวเหลียนหยุนมองออกไปด้านนอกและรู้สึกตกใจ

แต่คราวนี้กระทั่งผู้รอบรู้เช่นอวี๋อี้เย่ซือก็ยังไม่สามารถให้คำตอบแก่นาง

ปู้เจิ้งซือกล่าวด้วยความไม่แน่ใจ  “นี่อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่าอุโมงค์มิติ !”

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามของภาคกลาง  ค่ายนักรบ  ศาลานกขมิ้น  และหอคอยวายุกำลังเคลื่อนที่อยู่ในอุโมงค์ขนาดใหญ่

มันเป็นอุโมงค์สีน้ำเงินเข้มที่มีเส้นสายสีรุ้งเคลื่อนที่อยู่รอบๆ

“อุโมงค์มิติงั้นหรือ ?” อวี๋อี้เย่ซือถาม

ปู้เจิ้งซือมองจ้าวเหลียนหยุนด้วยสายตาซับซ้อน  “เจ้าน่าจะคุ้นเคยกับมัน ?”

“ข้า ?” จ้าวเหลียนหยุนสับสน  นางไม่รู้ว่าเหตุใดปู้เจิ้งซือถึงกล่าวเช่นนี้

ปู้เจิ้งซือถอนหายใจกล่าว  “เพราะอุโมงค์มิติเป็นท่าไม้ตายอมตะของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ !”

…..

ภาคใต้  ภายในค่ายกลวิญญาณ

อาณาจักรแห่งความฝัน

“ศิษย์คารวะท่านอาจารย์ ” ฟางหยวนคุกเข่าลงบนพื้นและแสดงความเคารพต่อผู้อมตะหญิงที่อยู่ตรงหน้า

ผู้อมตะหญิงพึมพำ  “ข้าคือจิงเมี่ยวซือ  ข้าบ่มเพาะอยู่บนเส้นทางแห่งวารี  แม้เจ้าจะเป็นบุตรหลานของข้า  แต่เจ้าจะสามารถบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวารีเช่นเดียวกับข้าหรือไม่นั่นขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าเท่านั้น”

“ท่านอาจารย์โปรดชี้แนะ ” ฟางหยวนกล่าวด้วยความเคารพ

ผู้อมตะหญิงสะบัดแขนเสื้อขณะที่สภาพแวดล้อมของอาณาจักรแห่งความฝันเปลี่ยนไป ตอนนี้ฟางหยวนยืนอยู่หน้าสระหยกแห่งหนึ่ง

สระหยกสงบนิ่งมาก  มันดูราวกับหยกชิ้นใหญ่

“แม่น้ำก็คือน้ำ  ทะเลก็คือน้ำ  สระหยกที่สงบนิ่งก็คือน้ำเช่นกัน  เส้นทางแห่งวารีทั้งลึกและกว้างใหญ่  ก้าวเข้าไปในสระหยก  หากเจ้าสามารถยืนอยู่บนผิวน้ำได้โดยไม่พึ่งพาวิญญาณ  ข้าจะยอมรับเจ้าเป็นศิษย์ ”

ฟางหยวนเบิกตากว้าง  เขากล่าว  “ท่านอาจารย์  หากข้าไม่ใช้วิญญาณ  ข้าก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น  ร่างกายของมนุษย์ธรรมดาจะยืนบนผิวน้ำได้อย่างไร ?”

“นั่นเป็นปัญหาของเจ้า ” ผู้อมตะหญิงสะบัดแขนเสื้อและหายตัวไปต่อหน้าฟางหยวน

ฟางหยวนขมวดคิ้วและเดินไปรอบๆสระหยก  หลังจากเดินวนหลายรอบ  เขาก็ก้าวเท้าเข้าไปในสระ

“ป๋อม …”

ด้วยเสียงอันแผ่วเบา  เขาตกลงไปในน้ำ

เขารีบปีนขึ้นมาด้วยร่างกายที่เปียกชุ่ม

ฟางหยวนกัดฟันด้วยความลังเลก่อนที่จะใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน

แต่ครั้งนี้กลับไม่เกิดสิ่งใดขึ้น

ฟางหยวนถอนหายใจ  ‘ช่างไร้ประโยชน์นัก  เห้อ …ข้าพบปัญหาแล้ว ’

ไม่นานมานี้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งโชคของเขายกระดับขึ้น  เขาสามารถพัฒนาท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคขึ้นสู่ระดับใหม่  ดังนั้นเขาจึงสามารถค้นหาตำแหน่งของอิงอู๋เซี่ย

ฟางหยวนเริ่มเตรียมตัวและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองโดยการหยิบยืมวิญญาณอมตะจากตระกูลวู

อย่างไรก็ตามเขาพบปัญหาเมื่อเขาต้องการจากไป

หากฟางหยวนจากไป  ตระกูลวูจะไม่มีผู้อมตะระดับเจ็ดคอยดูแลค่ายกลวิญญาณนี้  เนื่องจากตระกูลวูเป็นผู้นำในธุรกิจซื้อขายโอกาส  โดยปราศจากคนดูแล  ตระกูลอื่นจะฉวยโอกาสโจมตี

วูหยงยินดีให้ฟางหยวนยืมวิญญาณอมตะ  แต่เขาไม่เห็นด้วยที่ฟางหยวนจะออกเดินทาง

ตระกูลวูมีผู้อมตะจำนวนมาก  แต่พวกเขาก็มีแหล่งทรัพยากรมากมายที่ต้องปกป้องเช่นกัน  งานบางอย่างไม่สามารถโอนถ่ายได้อย่างง่ายดายเช่นหน้าที่ของฟางหยวนในการปกป้องค่ายกลวิญญาณ เรื่องนี้มีไม่กี่คนในตระกูลวูที่สามารถทำได้  แม้พวกเขาจะแข็งแกร่ง  แต่ความสามารถทางการเมืองของพวกเขายังน่าเป็นห่วง

เมื่อฟางหยวนขอออกเดินทาง  มันทำให้วูหยงรู้สึกปวดหัว

แต่ฟางหยวนยังยืนกรานกับเรื่องนี้  ดังนั้นวูหยงจึงต้องใช้เวลาไตร่ตรองขณะที่ฟางหยวนทำได้เพียงรอคอยเท่านั้น

แต่ระหว่างการรอคอย  ฟางหยวนได้เข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

อาณาจักรแห่งความฝันจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา  อาณาจักรแห่งความฝันมีทั้งความฝันที่เกิดจากประสบการณ์จริงและความฝันที่แปลกประหลาดเหนือจินตนาการ

ปกติแล้วฟางหยวนจะเลือกอาณาจักรแห่งความฝันที่เกิดจากประสบการณ์จริงของผู้อมตะ สำหรับอาณาจักรแห่งความฝันที่แปลกประหลาดและเหนือจินตนาการ  มันเป็นเรื่องยากที่จะคลี่คลาย

‘ตามบันทึกในประวัติศาสตร์  จิงเมี่ยวซือเป็นศิษย์ของซุ้ยหนี่   เจ้าของอาณาจักรแห่งความฝันนี้เป็นศิษย์ของจิงเมี่ยวซือ  ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์  จ้าวสมุทรเดียวดาย !’

‘ตามบันทึกใน ประวัติศาสตร์ของภาคกลาง  เคย มีสัตว์อสูรแรกกำเนิดตัวหนึ่งทำให้น้ำตกสวรรค์เปลี่ยนทิศทาง  นั่นทำให้เกิดคลื่นยักษ์และทำให้น้ำท่วมภาคตะวันออกของภาคกลาง  ครั้งนั้นจ้าวสมุทรเดียวดายของวังสวรรค์ใช้ท่าไม้ตายอมตะหลายครั้งเพื่อเปลี่ยนทิศทางของน้ำตกสวรรค์ให้กลับไปยังทิศทางที่ถูกต้อง เขามีวิธีการที่น่าเหลือเชื่อมาก ’

‘ไม่แปลกใจเลยที่ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันของข้าไม่ได้ผล ’

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน

แต่กระทั่งเขาจะใช้หลายครั้ง  อาณาจักรแห่งความฝันแห่งนี้ก็ไม่หวั่นไหว

ฟางหยวนคิดว่ามันเป็นเพราะอาณาจักรแห่งความฝันนี้มีพลังมากเกินไป  วิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนาเป็นวิญญาณอมตะระดับหกเท่านั้น  มันไม่สามารถคลี่คลายความฝันนี้ !

ฟางหยวนเคยสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาวมาก่อนและประสบความสำเร็จในการใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันที่นั่น

แต่ครั้งนี้เขาไม่สามารถคลี่คลายความฝันของจ้าวสมุทรเดียวดาย

หากเปรียบเทียบ  จ้าวสมุทรเดียวดายเป็นเพียงผู้อมตะระดับแปด  ขณะที่เทพอมตะกลุ่มดาวเป็นผู้อมตะระดับเก้า

นี่หมายความว่าความแข็งแกร่งของอาณาจักรแห่งความฝันไม่มีความสัมพันธ์กับระดับการบ่มเพาะของเจ้าของความฝัน

สำหรับเหตุผลที่แท้จริง  ฟางหยวนไม่รู้

อย่าลืมว่าห้าร้อยปีในชีวิตแรกของฟางหยวน  เขาไม่ได้สำรวจอาณาจักรแห่งความฝันมากนัก  เป้าหมายหลักของเขาในช่วงเวลานั้นคือการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือด

ฟางหยวนไม่ได้ศึกษาเส้นทางแห่งความฝันอย่างลึกซึ้ง  แต่เขายังรู้บางสิ่ง  ยิ่งอาณาจักรแห่งความฝันแข็งแกร่งเพียงใด  เขาก็จะได้รับประโยชน์มากเท่านั้นหลังจากประสบความสำเร็จในการคลี่คลายความฝัน

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้  ฟางหยวนรู้สึกสนใจอาณาจักรแห่งความฝันนี้มากขึ้น

‘ตระกูลวูยังไม่ได้มอบหน้าที่ใหม่ให้ข้า  ข้าต้องการยืมวิญญาณอมตะของตระกูลวู  แต่วูหยงจะไม่ให้ข้ายืมจนกว่าข้าจะได้รับภารกิจใหม่ ’

‘ดังนั้นในช่วงเวลานี้ข้าควรใช้เวลาสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน ’

วันถัดมา  ฟางหยวนยังพยายามยืนบนผิวน้ำ

โดยปราจากความช่วยเหลือจากวิญญาณ  ผู้ใช้วิญญาณก็ไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา  แน่นอนว่ามันแตกต่างจากกรณีของวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์หรือวิญญาณความแข็งแกร่งของหมูป่าที่จะสลักร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าไว้บนร่างกายของผู้ใช้วิญญาณ

‘มีวิญญาณบนเส้นทางแห่งวารีเช่นวิญญาณเดินบนผิวน้ำ  พวกมันจะสลักร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีไว้บนร่างกายของผู้ใช้วิญญาณและอนุญาตให้พวกเขาสามารถเดินบนผิวน้ำ แต่สิ่งนี้ไม่สามารถใช้ได้ในกรณีนี้ ’

อาณาจักรแห่งความฝันแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ฟางหยวนใช้วิญญาณ

‘เป็นเช่นที่จิงเมี่ยวซือกล่าว  นางกำลังทดสอบความสามารถของข้า  นี่คืออาณาจักรแห่งความฝันที่เกิดจากประสบการณ์จริงของผู้อมตะ  จ้าวสมุทรเดียวดายผ่านมันไปได้  ดังนั้นข้าก็ต้องทำได้เช่นกัน  เพราะความสำเร็จบนเส้นทางแห่งวารีของข้าอยู่ในระดับกึ่งปรมาจารย์ ’

ฟางหยวนพยายามต่อไปแต่ยังตกลงไปในสระน้ำ

ทุกครั้งที่เขาตกลงไปในสระหยก  จิตวิญญาณของเขาจะได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้น

หลังจากตกลงไปหลายครั้ง  จิตวิญญาณของเขาอ่อนแอลงอย่างมาก

พิจารณาจากรากฐานของฟางหยวน  เขาสามารถตกลงไปในสระน้ำได้สิบเจ็ดหรือสิบแปดครั้งก่อนจะถึงขีดจำกัด

ฟางหยวนต้องออกมาและใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวรักษาตนเองเป็นครั้งคราว

เขายังพยายามต่อไปแต่ยังตกลงไปในสระน้ำ

แต่ครั้งนี้เมื่อเขาปีนขึ้นมาจากสระหยก  เขาเห็นจิงเมี่ยวซือยืนอยู่ข้างสระและมองมาที่เขา

จิงเมี่ยวซือกล่าวด้วยความขุ่นเคือง  “เพียงการทดสอบง่ายๆก็ทำไม่ได้  เจ้าไม่เหมาะที่จะเป็นศิษย์ของข้า !”

ฟางหยวนยิ้ม  “ไม่  ท่านอาจารย์  ข้าทำมันไปแล้ว  ดัง ที่ท่านกล่าว  ข้าต้องยืนอยู่บนผิวน้ำโดยไม่จมลงไป  ข้าทำมันไปแล้ว !”

จิงเมี่ยวซือยิ้มก่อนจะชี้นิ้วไปที่ร่างกายของฟางหยวน  “แล้วนี่คือสิ่งใด ?”

ฟางหยวนส่ายศีรษะ  “นี่ไม่ใช่สิ่งใด เพราะ สระน้ำในใจของข้ายังสงบนิ่งและไม่เคลื่อนไหว  ข้ายืนอยู่บนผิวน้ำ  เมื่อมองลงไป  ข้ายังเห็นภาพสะท้อนของตนเองที่ปรากฏขึ้นบนผิวน้ำได้อย่างชัดเจน ”

ความโกรธของจิงเมี่ยวซือค่อยๆจางหายไป

นางมองฟางหยวนอย่างลึกซึ้งและพยักหน้า  “ไม่เลว  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  เจ้าจะเป็นศิษย์ของข้า ”

ในเวลาต่อมาฟางหยวนกลับสู่โลกของความเป็นจริง

“อันใด !? อาณาจักรแห่งความฝันนี้มีเพียงฉากเดียวงั้นหรือ !?” ฟางหยวนตะลึง

แต่ในไม่ช้าความตกใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความสุข

“วิเศษมาก  ในที่สุดความสำเร็จบนเส้นทางแห่งวารีของข้าก็บรรลุระดับปรมาจารย์แล้ว!”

ก่อนหน้านี้แม้ฟางหยวนจะเป็นกึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารี  แต่หากเปรียบเทียบ  มันยังห่างไกลจากปรมาจารย์ที่แท้จริงอยู่มากนัก

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขากลับบรรลุระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารีได้ในครั้งเดียว

นอกจากเส้นทางแห่งวารี  ฟางหยวนยังเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง  เส้นทางความแข็งแกร่ง  เส้นทางแห่งเลือด  เส้นทางแห่งปัญญา  และเส้นทางแห่งดวงดาว

ปรมาจารย์บนเส้นทางหกสาย !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด