Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1261 ปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1261 ปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1261 ปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด

แปลโดย  iPAT  

“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย !” ดวงตามังกรมองไปที่ซื่อหนิว

ซื่อหนิวเงยหน้าขึ้นและตะโกน  “นายท่าน  ไปเร็ว !”

“ซื่อหนิว  ข้าจะจดจำความภักดีของเจ้าเอาไว้ !” อิงอู๋เซี่ยชำเลืองมองซื่อหนิวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบจากไป

เมื่อซื่อหนิวตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเพื่อถ่วงเวลาฟางหยวน  อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆจึงสามารถออกจากกำแพงภูมิภาคและเข้าสู่ภาคเหนือได้ในที่สุด

ขณะที่เท้าของพวกเขาเหยียบลงบนพื้นหญ้า  อิงอู๋เซี่ยก็ดึงไท่เป่ยหยุนเฉิงออกมาจากมิติช่องว่างของเขา

ชายชราตื่นขึ้นแล้วแต่อาการบาดเจ็บของเขายังรุนแรงมาก  ชีวิตของเขายังอยู่ในอันตราย

เมื่อผู้อมตะทั้งสี่อยู่พร้อมหน้า  พวกเขาก็กระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศและหายตัวไปจากจุดนั้นทันที

…..

ภายในอาณาจักรแห่งความฝัน

การต่อสู้จบลงแล้ว

กลุ่มโจรเสียชีวิตทั้งหมด

แต่ฝ่ายขบวนสินค้าก็อยู่ในสภาพที่เลวร้ายเช่นกัน  มีผู้ได้รับบาดเจ็บและล้มตายจำนวนมาก

ศพถูกทิ้งไว้ทุกหนทุกแห่งพร้อมกับบ่อเลือด

“ลุกหนวด  กลับมา  ตื่นได้แล้ว !” ฟางหยวนมองลุงเคราหนาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและรู้สึกตื่นตระหนก

“ช่วยด้วย  ช่วยเขาที !” ฟางหยวนตะโกนด้วยเสียงแหบแห้งแต่ไม่มีผู้ใดเข้ามา

ฟางหยวนรีบวิ่งไปหานายน้อย  “ลุงหนวดได้รับบาดเจ็บขณะช่วยชีวิตท่าน  เขากำลังจะตาย  โปรดช่วยเขาด้วย !”

“เขาไม่สามารถช่วยได้แล้ว  อาการบาดเจ็บของเขาร้ายแรงมาก  สิ่งสำคัญคือเขาถูกโจมตีโดยวิญญาณพิษ  เราไม่สามารถรักษาเขา ” นายน้อยส่ายศีรษะและเผยรอยยิ้มชั่วร้าย

“ไม่  ท่านมีวิธี  ท่านสามารถรักษาพิษ  ท่านถูกโจมตีโดยวิญญาณพิษเช่นกัน !” ฟางหยวนไม่ยอมแพ้

การแสดงออกของนายน้อยกลายเป็นมืดครึ้ม  “เจ้าต้องการให้ข้าใช้วิญญาณอันล้ำค่าเพื่อคนนอกงั้นหรือ ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าวิญญาณสายรักษามีขีดจำกัดในการใช้งาน ”

“แต่ลุงหนวดได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยท่าน !” ฟางหยวนโต้แย้ง

“แม้เขาจะไม่ช่วยข้า  ข้าก็ยังมีผู้พิทักษ์ที่คอยดูแลความปลอดภัยของข้าตลอดเวลา ” นายน้อยเย้ยหยันและโบกมือไล่ฟางหยวน  “ไปซะ  วิญญาณสายรักษาของข้าจะนำไปใช้กับมดปลวกเช่นพวกเจ้าได้อย่างไร ?”

ฟางหยวนกัดฟันและกำหมัดแน่นโดยไม่ขยับจากจุดเดิม

“เจ้ากำลังรนหาที่ตายงั้นหรือ ?” นายน้อยเริ่มโกรธ

“ฟางหยวน …” เป็นเพียงเวลานี้ที่ลุงเคราหนาตื่นขึ้นและเรียกชื่อฟางหยวนเบาๆ

ร่างของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น  เขาหันหลังและวิ่งกลับไปหาลุงเคราหนา  “ลุงหนวด  ท่านฟื้นแล้ว !”

ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจและมีความสุข

“อย่าต่อต้านนายน้อย  เจ้าจะเป็นฝ่ายทุกข์ทรมาน  หยุดอ้อนวอน  วิญญาณสายรักษจะใช้กับคนเช่นพวกเราได้อย่างไร ?” ลุงเคราหนายิ้ม

“แต่ท่านลุง  อาการบาดเจ็บของท่าน …” ฟางหยวนสะอื้น

…..

“บึม !”

ซื่อหนิวล้มลงบนพื้นอย่างสูญสิ้นเรี่ยวแรง

“ฮ่าฮ่าฮ่า ” เขามองมังกรดาบบรรพกาลที่บินอยู่ด้านหน้าและหัวเราะ  “ข้าทำสำเร็จ ! นายท่านสามารถหลบหนี  ฮ่าฮ่าฮ่า  นิกายเงาจะไม่มีวันแพ้ ! เทพปีศาจจิตวิญญาณจงเจริญ !”

ฟางหยวนใช้กรงเล็บทุบทำลายร่างหินของซื่อหนิวจ

ร่างหินของซื่อหนิวระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจายไปทั่ว

“คนกำลังจะตายจะตะโกนเพื่อสิ่งใด ?” ฟางหยวนเย้ยหยันและหยิบชิ้นส่วนสำคัญที่สุดออกมาจากกองหิน

จากนั้นเขาก็บินออกจากกำแพงภูมิภาคและไปยังภาคเหนือ

เขาโยนชิ้นส่วนหินลงบนพื้นก่อนที่มันจะดูดซับปราณสวรรค์พิภพและควบรวมเป็นแดนศักดิ์สิทธ์

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคตรวจสอบตำแหน่งของอิงอู๋เซี่ยและพบว่าพวกเขาอยู่ไกลมาก

“ฮืม ! พวกเขาใช้ค่ายกลวิญญาณนั่น ! แต่แล้วอย่างไร ? พวกเจ้าทั้งหมดต้องตายด้วยน้ำมือของข้าไม่ช้าก็เร็ว !”

“แต่ที่นั่นดูเหมือนจะเป็นโลกใต้บาดาลของกองกำลังพันธมิตรผีดิบ ”

ฟางหยวนกลับสู่ร่างมนุษย์และขมวดคิ้วเล็กน้อย

เขาคุ้นเคยกับโลกใต้บาดานของภาคเหนือ  เมืองคลื่นทมิฬยังซ่อนอยู่ที่นั่น  น่าเสียดายที่ไม่มีผู้ใดพบมัน  ไม่ใช่เรื่องแปลกหากอิงอู๋เซี่ยจะไปที่นั่น

“กองกำลังพันธมิตรผีดิบอของภาคเหนือถูกทำลายไปแล้ว  แต่ดูเหมือนที่นั่นจะมีทรัพยากรถูกทิ้งเอาไว้ ”

นี่เป็นสิ่งที่สามารถคาดเดา

ทรัพยการของเมืองคลื่นทมิฬยังถูกซ่อนไว้ที่นั่น

อย่างไรก็ตามซื่อหนิวตายไปแล้วขณะที่กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยได้รับบาดเจ็บ หากพวกเขาต่อสู้อีกครั้ง  แม้ที่นี่จะไม่ได้อยู่ในกำแพงภูมิภาค  แต่ฟางหยวนยังมีความได้เปรียบ

แดนศักดิ์สิทธิ์ของซื่อหนิวก่อตัวขึ้นแล้ว  ฟางหยวนเข้าไปแต่ไม่สามารถกำหราบจิตวิญญาณแผ่นดิน  ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปฐพีของเขาอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่ปรมาจารย์ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งปฐพีและต้องปล่อยมันไว้ชั่วคราว

ในอาณาจักรแห่งความฝัน

มีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่กล่าวกันว่าสามารถบรรเทาพิษ  เด็กหนุ่มฟางหยวนลอบออกจากขบวนสินค้าและปีนขึ้นไปบนหน้าผาเพื่อหาสมุนไพรดังกล่าว

ลมภูเขาอันหนาวเหน็บพัดมาทำให้ร่างกายของฟางหยวนสั่นสะท้าน

หน้าผาสูงชันอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้อย่างง่ายดายหากประมาทเพียงเล็กน้อย

‘ข้าต้องหาสมุนไพรเพื่อรักษาลุงหนวด !’

‘เขาช่วยชีวิตข้าไว้  ข้าจะไม่ชดใช้หนี้บุญคุณนี้ได้อย่างไร ?’

‘อดทนไว้  ฟาง …หยวน …อย่ากลัว …’

ฟางหยวนสูดหายใจลึกก่อนจะยื่นมือออกไป  หลังจากพยายามหลายครั้งในที่สุดเขาก็สามารถคว้าสมุนไพรมาได้

ในยามรุ่งสางด้วยตะกร้าที่เต็มไปด้วยสมุนไพรและเสื้อผ้าที่ขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขากลับไปยังค่ายพักแรม

…..

“เอาล่ะ  อาณาจักรแห่งความฝันจบลงแล้ว ” ฟางหยวนตื่นจากอาณาจักรแห่งความฝัน

ในที่สุดเขาก็กำจัดการแทรกแซงของอาณาจักรแห่งความฝันได้สำเร็จ

ในฉากสุดท้ายฟางหยวนยังได้รับทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝันจำนวนมาก ถูกต้อง  มันคือสมุนไพรในตะกร้า

‘หากข้าเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันด้วยตนเอง  ไม่มีทางที่ข้าจะสามารถเก็บเกี่ยวทรัพยากรได้มากถึงเพียงนี้  เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันของอิงอู๋เซี่ยนอกจากจะสามารถใช้โจมตีศัตรู มันยังช่วยให้ผู้สำรวจได้รับทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝัน ?’

ฟางหยวนคิดขณะไล่ล่ากลุ่มของอิงอู๋เซี่ยอีกครั้ง

โดยปราศจากการแทรกแซงจากอาณาจักรแห่งความฝัน  แม้อิงอู๋เซี่ยจะหนีไปจนสุดขอบโลก  ฟางหยวนก็สามารถไล่ล่า

…..

แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ

“เทพธิดาจ้าว  อย่าใช้วิญญาณแห่งความรักอีกเลย  ตอนนี้เจ้าไม่สามารถพูดได้แล้ว  หากใช้ซ้ำๆ  ข้าไม่รู้ว่าเจ้าต้องจ่ายด้วยสิ่งใดอีก !” ซือเจิ้งอี้เกลี้ยกล่อม

แต่จ้าวเหลียนหยุนส่ายศีรษะ

ในการต่อสู้กับจ้าวต้าหนิว  วิญญาณแห่งความรักได้แสดงพลังอำนาจของมันออกมา  แต่ครั้งนั้นวิญญาณแห่งความรักไม่ได้ใช้พลังงานอมตะแต่มันกลับพรากบางสิ่งไปจากจ้าวเหลียนหยุน

สิ่งนั้นคือเสียงของนาง

หลังการต่อสู้จบลง  จ้าวเหลียนหยุนไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้อีก  นางไม่สามารถแม้แต่ก่นเสียงในลำคอ

“หงหยุนยังรอข้าอยู่ ! ข้าไม่สามารถรออยู่ที่นี่และเฝ้ามองจากด้านข้าง  แม้ข้าจะพูดไม่ได้  แล้วอย่างไร ? ข้ายังสามารถสื่อสารกับทุกคนผ่านวิญญาณ ! มันไม่ใช่ปัญหา !” จ้าวเหลียนหยุนส่งข้อความเสียงไปยังซือเจิ้งอี้

ซือเจิ้งอี้ถอนหายใจ  เขาไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาอีกและทำได้เพียงปล่อยให้จ้าวเหลียนหยุนทำตามความปรารถนาของนางเท่านั้น

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจ้าวเหลียนหยุนจะกรีดร้องอย่างไร  วิญญาณแห่งความรักก็ยังไม่ขยับเขยื้อน

จ้าวเหลียนหยุนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปและสามารถเพียงเดินออกไปจากยอดเขาที่สิบสองพร้อมกับซือเจิ้งอี้เท่านั้น

เมื่อพวกเขาเดินออกจากยอดเขา  จ้าวเหลียนหยุนถูกส่งไปยังยอดเขาอีกแห่งและถูกแยกจากซือเจิ้งอี้

ต่างจากครั้งก่อนหน้า  มีเสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดดังขึ้นที่นี่

‘ผู้ใดกำลังต่อสู้กัน  อวี๋อี้เย่ซือ  ปู้เจิ้งซือ  หรือมู่หลิงหลาน ?’ จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกประหลาดใจและมีความสุขในเวลาเดียวกัน  นางรีบขึ้นไปบนยอดเขา

ในไม่ช้านางก็เข้าไปห้องโถงบนยอดเขา

กลิ่นคาวเลือดพุ่งเข้าโจมตีจมูกของนางทันที

ฉากต่อมานางเห็นผู้อมตะหนุ่มที่งดงามราวกับผู้หญิงกำลังต่อสู้อย่างยากลำบากอยู่กับปีศาจอมตะผู้หนึ่ง

แน่นอนว่าเขาก็คืออวี๋อี้เย่ซือ

“อวี๋อี้เย่ซืออดทนไว้  ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว !” จ้าวเหลียนหยุนใช้วิญญาณส่งเสียง

อวี๋อี้เย่ซือทั้งประหลาดใจและมีความสุข  เขาเร่งตอบ  “ระวัง ! ศัตรูเป็นปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือด !”

“กระไรนะ !? เส้นทางแห่งเลือด !?” จ้าวเหลียนหยุนตกใจมาก  นางมองศัตรูด้วยความหวาดกลัวและระแวดระวัง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด