Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1282 เหนือกว่ามนุษย์คนแรก

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1282 เหนือกว่ามนุษย์คนแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1282 เหนือกว่ามนุษย์คนแรก

แปลโดย  iPAT  

เหตุผลสำคัญที่สุดคือการต่อสู้ในแม่น้ำหวนคืนส่งผลต่อความสามารถในการต่อสู้ของฟางหยวน

เพราะเขาจำเป็นต้องว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อหายใจเป็นครั้งคราว

ในแง่นี้ฟางหยวนยังด้อยกว่ามู่หลิงหลานที่ตายไปก่อนหน้า  เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งวารีที่สามารถหายใจใต้น้ำ

ในทางกลับกันผีดิบอมตะไม่จำเป็นต้องหายใจเพราะมันตายไปแล้วตั้งแต่แรก

“ฮืม !” ฟางหยวนไม่สามารถสังหารอิงอู๋เซี่ย  ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ราชันภูเขาม่วง

อิงอู๋เซี่ยกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของราชันภูเขาม่วงและพยายามช่วยเขา

แต่ฟางหยวนก็เปลี่ยนเป้าหมายอีกครั้งและเล็งไปที่ดวงตาของอิงอู๋เซี่ย

นี่เป็นการโจมตี่ที่โหดเหี้ยม

ตราบเท่าที่เขาทำสำเร็จ  ฟางหยวนจะสามารถแทงทะลุเข้าไปถึงสมองของอิงอู๋เซี่ยและจบชีวิตของฝ่ายหลัง

หัวใจของอิงอู๋เซี่ยเต้นแรงแต่มันสายเกินไปที่จะป้องกันตัวและทำให้เขาตกสู่ความสิ้นหวัง

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้ราชันภูเขาม่วงกลับลุกขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนโดยไม่คาดคิด

ฟางหยวนสามารถป้องกันตัว  นอกจากนั้นเขายังคว้าร่างของราชันภูเขาม่วงเอาไว้โดยหวังจะบีบทำลายในครั้งเดียว

แต่ราชันภูเขาม่วงก็ไม่ธรรมดาและสามารถดิ้นรนออกจากกำมือของฟางหยวน

ราชันภูเขาม่วงกระโดดลงไปในแม่น้ำทำให้การโจมตีทั้งหมดของฟางหยวนพลาดเป้า

ต่อมาราชันภูเขาม่วงก็บินเข้าไปหาอิงอู๋เซี่ยที่ลอยไปตามกระแสน้ำและคว้าคอเสื้อของเขาเอาไว้

อิงอู๋เซี่ยทั้งตกใจและดีใจมากเมื่อเห็นราชันภูเขาม่วงได้สติ

“เยี่ยมมาก !” อิงอู๋เซี่ยมีความสุข  หากราชันภูเขาม่วงกลับมามีสติ  พวกเขาจะสามารถจับหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุน

“ออกไปเร็วเข้า !” อย่างไรก็ตามราชันภูเขาม่วงกลับพาอิงอู๋เซี่ยลอยไปตามกระแสน้ำ

เขาตัวเล็กแต่กลับมีพละกำลังมหาศาล

“ท่านสีม่วง !” อิงอู๋เซี่ยตกใจแต่เขาก็เข้าใจบางสิ่งทันที  หลังจากนี้ราชันภูเขาม่วงจะกลับไปวิกลจริตอีกครั้ง

อิงอู๋เซี่ยลอบถอนหายใจและเข้าใจว่าพวกเขาต้องล่าถอย

การคงอยู่ราชันภูเขาม่วงทำให้ฟางหยวนไม่สามารถกำจัดอิงอู๋เซี่ย

นอกจากนี้เขายังอยู่ไกลจากหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนมากขึ้น

ปีศาจอมตะเซี่ยหูแสดงออกอย่างไม่มีความสุขเนื่องจากอิงอู๋เซี่ยและราชันภูเขาม่วงออกจากการแข่งขันเรียบร้อยแล้ว

ในแม่น้ำหวนคืนเหลือเพียงหม่าหงหยุน  จ้าวเหลียนหยุน  และฟางหยวน

“เขาคือผู้ใด ? เขาเป็นผู้อมตะภาคเหนือแต่เขากล้าทำลายแผนการของข้างั้นหรือ ?” ปีศาจอมตะเซี่ยหูปลดปล่อยเจตนาสังหารออกมา

หัวใจของไห่ลั่วหลันเต้นแรงมากเมื่อได้ยินคำถามนี้  เห็นได้ชัดว่าฟางหยวนเป็นศัตรูกับอิงอู๋เซี่ย  ดังนั้นนางจึงต้องเป็นคนตอบคำถามนี้

ตอนนี้ไห่ลั่วหลันเป็นสมาชิกนิกายเงา  นางไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของฟางหยวน  แต่โชคดีที่เขามีตัวตนอื่น  ดังนั้นนางจึงเปิดปากกล่าว  “เขาคือหลิวกวนซื่อ ”

“หลิวกวนซื่อ ? ปีศาจอมตะที่ใช้ร่างมังกรดาบบรรพกาลสังหารเย่หลิวชุนซิงงั้นหรือ ?” ปีศาจอมตะเซี่ยหูตกตะลึง

เขารู้เรื่องหลิวกวนซื่อ

แม้เขาจะหลอมรวมวิญญาณอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะแต่เขายังให้ความสนใจกับสถานการณ์ของภาคเหนือ

เนื่องจากผู้อมตะระดับแปดของภาคเหนือล้วนเป็นอุปสรรคของเขา  สำหรับหลิวกวนซื่อและชูตู๋  ปีศาจอมตะเซี่ยหูไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพวกเขามากนัก

แต่ผู้ใดจะคิดว่าตัวละครที่ไร้นัยสำคัญกำลังขัดขวางแผนการของเขาอยู่ในขณะนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่า  โชคเข้าข้างเราจริงๆ ” พังพอนหางสุนัขหัวเราะเสียงดัง

กลุ่มของไป่เฉินเทียนและเว่ยหลิงหยางเฝ้ามองด้วยความเคร่งเครียด

ปีศาจอมตะเซี่ยหู  ไห่ลั่วหลัน  และไป่หนิงปิงยืนอยู่ด้วยกัน

ทั้งสามฝ่ายอยู่ที่จุดเริ่มต้นของแม่น้ำและรอให้หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนถูกกวาดออกมา

“เทพธิดาจ้าว  หม่าหงหยุน  ตอนนี้พวกเจ้าสามารถออกมาได้แล้ว  แม้พวกเราต้องสละชีวิต  พวกเราก็จะปกป้องพวกเจ้า ” เว่ยหลิงหยางเรียก

“น่าขัน ! คนภาคกลางคิดว่าสามารถแย่งพวกเขาไปจากท่านปู่ผู้นี้งั้นหรือ !?” พังพอนหางสุนัขเหมาหลี่ชิวตะโกนด้วยความโกรธ

ผู้อมตะดำเกรงว่ารูปลักษณ์ที่น่ากลัวของเหมาหลี่ชิวจะทำให้หม่าหงหยุนหวาดกลัว ดังนั้นเขาจึงเร่งกล่าว  “หม่าหงหยุน  เจ้าได้รับการยอมรับจากวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์และมีสายเลือดของบรรพชนตะวันเดือด เจ้าเป็นสมาชิกของถ้ำสวรรค์นิรันดร  พวกเรามาที่นี่เพื่อพาเจ้ากลับบ้าน !”

ปีศาจอมตะเซี่ยหูกดดันฟางหยวน  “หลิวกวนซื่อ  หากเจ้าสามารถจับหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุน  ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเป็นผู้นำยอดเขาหิมะที่สาม  ข้า  เซี่ยหู  เป็นคนรักษาคำพูด  หากเจ้าทำสำเร็จ  ข้าจะสนับสนุนเจ้า  การบ่มเพาะในอนาคตของเจ้าจะราบรื่น !”

เมื่อได้ยินเช่นนี้  ผู้อมตะคนอื่นจึงเริ่มมองไปที่ฟางหยวน

ฟางหยวนเสียโอกาสสังหารอิงอู๋เซี่ยไปแล้ว  แต่นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะเขาทำอย่างดีที่สุดแล้ว

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของเขายังน่าอึดอัดใจ

‘ข้าพลาดอีกครั้ง !’

ผู้อมตะระดับแปดสามคนรออยู่นอกแม่น้ำ  เขาทำได้เพียงให้ความร่วมมือกับปีศาจอมตะเซี่ยหู

แต่ปีศาจอมตะเซี่ยหูอยู่ฝ่ายเดียวกับนิกายเงา

‘หากข้าออกจากแม่น้ำหวนคืน  ผู้อมตะระดับแปดทั้งสามจะโจมตีข้า  ความเร็วของข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับฮุ้ยฟงซื่อ  ความหวังที่จะหลบหนีจากพวกเขามีน้อยมาก ’

ฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์ของตนเองอย่างชันเจน

‘อย่างไรก็ตามหากข้าสามารถจับหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุน  ข้าจะมีเครื่องมือที่ใช้ต่อรอง  ไม่ว่าจะเป็นผู้อมตะภาคกลางหรือถ้ำสวรรค์นิรันดร  พวกเขาจะเต็มใจทำธุรกรรมกับข้า  เมื่อเวลานั้นมาถึง  ข้าจะสามารถยืมมือพวกเขาเพื่อกำจัดนิกายเงา !’

เมื่อคิดได้เช่นนี้ฟางหยวนก็มองไปที่หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุน

เขาว่ายทวนกระแสน้ำและพุ่งข้าหาคนทั้งสอง

เมื่อหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนเห็นการเคลื่อนไหวของฟางหยวน  พวกเขาทำได้เพียงกัดฟันว่ายน้ำต่อไปเท่านั้น

‘อดทนไว้ !’

‘ข้าพึ่งหลบหนีออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ  แล้วข้าจะถูกจับอีกครั้งได้อย่างไร ?’

‘ยังมีคุณหนูเสี่ยวหยุน  นางกลายเป็นเช่นนี้เพราะข้า  ข้าต้องช่วยนาง !’

‘ฉะนั้นข้าต้องอดทน !’

‘หม่าหงหยุน  เจ้าทำได้  เจ้าต้องทำงานอย่างหนัก !’

หม่าหงหยุนกัดฟันว่ายไปข้างหน้า  แม้เขาจะเหนื่อยมาก  แต่เขามีแรงผลักดันที่แข็งแกร่ง

ความเร็วของฟางหยวนเหนือกว่าหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุน

แต่เพราะการต่อสู้กับอิงอู๋เซี่ย  มันทำให้เขาถูกผลักกลับไประยะหนึ่ง

ดังนั้นตอนนี้หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนจึงถือว่าปลอดภัยมาก  เว้นเพียงพวกเขาจะไม่สามารถอดทนต่อ

เมื่อเวลาผ่านไป  การแข่งขันที่ลึกลับนี้ก็กำลังจะสิ้นสุดลง

ด้านนอกแม่น้ำ  ผู้อมตะจำนวนมากกำลังเฝ้ามองคนทั้งสาม

“หือ ?” เป็นเพียงเวลานี้ที่การแสดงออกของจ้าวเหลียนหยุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน

นางรู้สึกว่าเท้าของนางสัมผัสพื้น

ต่อมานางก็สามารถเหยียบพื้นและลุกขึ้นจากแม่น้ำ  ศีรษะและไหล่ของนางโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำ

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้นางและหม่าหงหยุนมีความสุขมาก

“สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ?” ผู้อมตะคลื่นสมุทรตะลึง

พังพอนหางสุนัขสบถ  “เจ้าโง่  ต้นแม่น้ำหวนคืนจะตื่นขึ้นเรื่อยๆ  เจ้าไม่เคยอ่านตำนานมนุษย์คนแรกงั้นหรือ ? ย้อนกลับไปมนุษย์คนแรกต้องการเดินออกจากแม่น้ำหวนคืนแต่เขาล้มเหลวในก้าวสุดท้าย!”

“เป็นเช่นนี้ !” ได้ยินคำกล่าวของเหมาหลี่ชิว  ผู้อมตะภาคกลางได้รับความเข้าใจเช่นกัน

“โดยไม่รู้ตัว  พวกเขาไปถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ”

“ดู  พวกเขาอยู่ห่างจากชายฝังเพียงร้อยก้าวเท่านั้น !”

“นี่หมายความว่าหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนจะสามารถทำสิ่งที่มนุษย์คนแรกไม่สามารถทำได้โดยการออกจากแม่น้ำหวนคืนจากด้านหน้างั้นหรือ!?”

“ไม่ถูก  มนุษย์คนแรกว่ายน้ำจากจุดเริ่มต้นแต่หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนมีช่วงเวลาที่ค่อนข้างง่ายดายกว่ามาก”

“ถึงกระนั้นนี่ก็เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ !”

“ถูกต้อง  พลังใจของพวกเขาช่างน่าตกตะลึงนัก !”

กลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์

กระทั่งเหมาหลี่ชิวยังต้องเคลื่อนไหว  “นี่เป็นความจริง  หม่าหงหยุนไม่ธรรมดาจริงๆ  เขาอาจสามารถออกจากแม่น้ำหวนคืน  ฮ่าฮ่า ”

ผู้อมตะดำและผู้อมตะคลื่นสมุทรมองหน้ากันและกล่าว  “ดังคาด  เขาคือคนที่ได้รับเลือกจากวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์ ”

ฟางหยวนยังว่ายน้ำต่อไปข้างหน้าขณะที่หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนเดินอยู่ในแม่น้ำ

ผู้อมตะเกือบทั้งหมดกำลังมองหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุน

พวกเขาอยากรู้ว่าคนทั้งสองจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของมนุษย์ชาติหรือไม่

หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนสนับสนุนซึ่งกันและกัน  พวกเขาเดินไปข้างหน้าด้วยร่างกายสั่นคลอนแต่ยังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

แม้ทั้งสองจะเหนื่อยมาก  กระทั่ง ร่างกายของพวกเขากลายเป็นไร้ความรู้สึก  แต่พวกเขายังมีความพากเพียร

ทุกย่างก้าว  ร่างกายของพวกเขาจะสั่นสะท้านราวกับกิ่งไม้ท่ามกลางสายลมกรรโชกแรง  ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคนใดคนหนึ่งจะล้มลงในวินาทีถัดไป

แต่ด้วยสภาพนี้พวกเขายังคงเดินไปข้างหน้า

สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อหัวใจของกลุ่มผู้อมตะ

“พลังใจชนิดใด !?”

“มันคือพลังแห่งความรัก !?”

“ทั้งสองพยุงซึ่งกันและกัน  พวกเขาเดินเคียงข้างกัน  ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร  ข้าก็รู้สึกชื่นชมพวกเขาอย่างสุดซึ้ง ”

เมื่อหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของแม่น้ำ  ทุกคนต่างกลั้นหายใจด้วยความคาดหวัง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด