Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1299 ธุรกรรมที่สอง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1299 ธุรกรรมที่สอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1299 ธุรกรรมที่สอง

แปลโดย  iPAT

การหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับเจ็ดยากลำบากกว่าการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับหกเป็นอย่างมาก

หากฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะระดับหกแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะระดับเจ็ด  มันจะถือว่าเขาเอาเปรียบและโลภมากเกินไป

มันเป็นการเอาเปรียบที่ทำให้ทุกคนดูแคลน

‘เขาคิดว่าเมี่ยวหมิงเฉินเป็นผู้ใด ?’

‘เมี่ยวหมิงเฉินจะถูกเอาเปรียบง่ายๆได้อย่างไร ?’

‘เขาคิดว่าผู้อื่นโง่เง่างั้นหรือ ?’

กลุ่มผู้อมตะแสดงออกด้วยความไม่พอใจ

แต่ฟางหยวนยังยิ้ม

เขาเข้าใจอารมณ์ของผู้คนเหล่านี้

เขากล่าวต่อ  “ท่านจะแลกเปลี่ยนกับข้าหรือไม่ ?”

เมี่ยวหมิงเฉินพยักหน้าและตอบด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ  “แน่นอน  เจ้าช่วยข้าไว้สองครั้ง  สิ่งเหล่านี้เพียงพอแล้ว ”

ได้ยินคำตอบนี้  กลุ่มผู้อมตะต้องมองเมี่ยวหมิงเฉินในมุมที่แตกต่างออกไปขณะที่รังเกียจฟางหยวนมากขึ้น

หนึ่งในนั้นก่นเสียงเย็นด้วยความไม่พอใจ

ฟางหยวนหัวเราะ

เขากล่าว  “ทุกคนต่างบอกว่าท่านเมี่ยวหมิงเฉินเป็นคนที่น่ายกย่อง  เดิมทีข้ายังไม่เชื่อ  แต่หลังจากวันนี้ข้าเห็นด้วยกับพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง  ข้าจะกล้าเอาเปรียบท่านได้อย่างไร ? ข้าจะชดเชยอย่างอื่นให้ท่านและเชื่อว่าท่านต้องพอใจอย่างแน่นอน !”

หลังกล่าวจบคำ  ฟางหยวนส่งมอบบางสิ่งให้เมี่ยวหมิงเฉินอย่างลับๆ

การแสดงออกของเมี่ยวหมิงเฉินเปลี่ยนไป  เขารู้สึกตื่นเต้นมาก  “ชูอิง  เจ้าจริงจังหรือไม่ ?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า  หลังจากทำข้อตกลง  ท่านจะรู้ว่าข้าจริงจังหรือไม่ ?” ฟางหยวนหัวเราะอีกครั้ง

“ขออภัยทุกท่านด้วย  เราต้องทำธุรกรรมกันเดี๋ยวนี้ ” เมี่ยวหมิงเฉินกล่าวและนำฟางหยวนออกไปจากถ้ำ

พวกเขาออกไปข้างนอกเพื่อทำธุรกรรม  หลังจากนั้นทั้งสองก็กลับเข้ามาอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม

ฟางหยวนแสดงออกด้วยความผ่อนคลายขณะที่เมี่ยวหมิงเฉินเผยรอยยิ้มพึงพอใจมาก

ทั้งสองเดินมาด้วยกันและแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้น

หลังจากนั่งลง  เมี่ยวหมิงเฉินก็ปรบมือให้ฟางหยวน  “ข้าติดหนี้บุญคุณเจ้าเป็นครั้งที่สามแล้ว ”

“อย่าได้กล่าวเช่นนั้น  นี่เป็นการทำธุรกรรม  ไม่ใช่บุญคุณใดๆทั้งสิ้น ” ฟางหยวนกล่าวอย่างสุภาพ

ถ้อยคำเหล่านี้ทำให้กลุ่มผู้อมตะรู้สึกมึนงงมาก

พวกเขาเริ่มคาดเดา  ชูอิงใช้สิ่งใดชดเชยและทำให้เมี่ยวหมิงเฉินมีความสุขถึงเพียงนี้ ?

เมี่ยวหมิงเฉินนั่งลงแต่ฟางหยวนไม่

ครั้งนี้เป็นรอบของฟางหยวน  เขาเดินไปที่แท่น

สายตาของกลุ่มผู้อมตะที่มองฟางหยวนเปลี่ยนไปจากก่อนหน้า  พวกเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ฟางหยวนจะนำเสนอสิ่งใด ?

หลังจากทั้งหมดฟางหยวนเป็นคนแปลกหน้า

จากข้อเสนอก่อนหน้า  ฟางหยวนสามารถเดาข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับพวกเขา  ทรัพยากรอมตะที่พวกเขามีมักถูกผลิตขึ้นในมิติช่องว่างของพวกเขาเอง

ด้วยวิธีนี้คนฉลาดย่อมสามารถคาดเดาบางสิ่ง  ตัวอย่างเช่นทรัพยากรในมิติช่องว่าง  ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่พวกเขามีอยู่  หากเป็นซากศพของสัตว์อสูรที่ได้รับความเสียหาย  พวกมันมักมาจากการต่อสู้  หากเป็นซากศพสัตว์อสูรที่สมบูรณ์  พวกมันมักมาจากมิติช่องว่างของพวกเขา  สิ่งเหล่านี้สามารถประเมินพลังการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสิ้น

นี่เป็นข้อมูลที่ทุกคนพยายามรวบรวม

ในแง่มุมนี้ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลจะมีความได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฟางหยวนนำออกมากลับทำให้พวกเขาประหลาดใจ

“ทุกท่าน  นี่คือวิญญาณอมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งกระดูก  หนามกระดูก  ข้าได้มันมาโดยบังเอิญ  แต่ข้าไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกระดูก  ข้าต้องการแลกเปลี่ยนมัน  มีผู้ใดต้องการสิ่งนี้หรือไม่ ? สิ่งที่ข้าต้องการเหมือนท่านเมี่ยวหมิงเฉิน  ข้าไม่มีข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง ” ฟางหยวนยิ้ม

“วิญญาณอมตะอีกดวง !”

“นี่พึ่งรอบแรกแต่มีวิญญาณอมตะออกมาแล้วถึงสองดวง ”

“ชูอิงผู้นี้ค่อนข้างร่ำรวย  เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงแต่เขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางสายอื่นถึงสองดวง”

“ธุรกรรมแรกประสบความสำเร็จแต่ครั้งนี้อาจไม่  ไม่มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกระดูกอยู่ที่นี่ ”

กลุ่มผู้อมตะลอบพูดคุยกันอย่างลับๆ

“ไม่มีงั้นหรือ ?” ฟางหยวนรออยู่ชั่วครู่แต่ยังไม่มีผู้ใดตอบสนอง

เขาไม่รู้สึกผิดหวัง

มีเพียงวิญญาณอมตะระดับเจ็ดเช่นวิญญาณเต่าพยากรณ์เท่านั้นที่มีค่าพอสำหรับงานประชุมการค้าครั้งนี้

เมื่อฟางหยวนกำลังจะลงจากแท่น  เสียงสายหนึ่งกลับดังขึ้น  “เดี๋ยว  ข้าคิดว่า …เราสามารถแลกเปลี่ยนด้วยวิญญาณอมตะดวงนี้ ”

กลุ่มผู้อมตะหันหน้าไปทางต้นเสียงเพื่อพบกับอู๋หม่าหยาง

‘แปลก  เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งความมืด  เหตุใดเขาจึงต้องการวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกระดูก ?’ คำถามนี้ปรากฏขึ้นในใจของทุกคน

วิญญาณอมตะหนามกระดูกไม่มีความสัมพันธ์กับเส้นทางแห่งความมืด

แต่ในกรณีที่อู๋หม่าหยางมีท่าไม้ตายอมตะที่ต้องใช้วิญญาณอมตะหนามกระดูกก็เป็นไปได้ที่เขาจะต้องการวิญญาณอมตะดวงนี้้

ทุกคนต่างมีความลับเป็นของตนเอง  แม้กลุ่มผู้อมตะจะรู้สึกงุนงง  แต่พวกเขาก็ไม่ได้ตั้งคำถามและเพียงมองดูอยู่อย่างเงียบๆเท่านั้น

“ท่านต้องการวิญญาณอมตะหนามกระดูกงั้นหรือ ?” ฟางหยวนอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

เขาถาม  “ข้าอยากรู้ว่าท่านจะใช้สิ่งใดในการแลกเปลี่ยน ?”

วูหม่าหยางกัดฟันกล่าว  “ข้าจะแลกเปลี่ยนกับวิญญาณดวงนี้ ”

เขานำวิญญาณอมตะออกมา

มันเป็นวิญญาณอมตะระดับหกในระดับเดียวกับวิญญาณอมตะหนามกระดูก

ผู้อมตะบางคนอุทาน  “โอ้  นี่คือวิญญาณวันอมตะ !”

ฟางหยวนตะลึง

‘ข้าไม่คาดหวังกับสิ่งนี้  งานประชุมการค้าครั้งนี้ช่างคุ้มค่านัก !’ ฟางหยวนรู้สึกยินดีอยู่ภายในแต่ภายนอกเขาแสดงออกราวกับกำลังครุ่นคิด

ไม่จำเป็นต้องคิด !

ทันทีที่ฟางหยวนเห็นวิญญาณอมตะดวงนี้  เขาก็ตัดสินใจไปแล้ว

เหตุผล ?

เนื่องจากมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน  เขามีวิญญาณปีอมตะ  วิญญาณอมตะราชินีมด  และวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ  ตลอดไปถึงท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอีกมากมาย

เขาจำได้ว่าในมรดกที่แท้จริง  ไห่ฟานกล่าวถึงวิญญาณวันอมตะและวิญญาณเดือนอมตะอยู่บ่อยครั้ง

หากผู้สืบทอดสามารถครอบครองวิญญาณวันอมตะหรือวิญญาณเดือนอมตะ  ท่าไม้ตายอมตะเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องใช้วิญญาณวันหรือวิญญาณเดือนระดับมนุษย์ขณะที่ประสิทธิภาพของมันจะเพิ่มสูงขึ้น

นี่เป็นถ้อยคำที่ปรากฏอยู่ในมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน

ฟางหยวนเห็นสิ่งนี้และไม่จำเป็นต้องคิดมาก

ในความเป็นจริงฟางหยวนพอใจกับวิญญาณปีอมตะอยู่แล้ว

แต่โชคชะตาเป็นเรื่องลึกลับ  เมื่อฟางหยวนไม่สนใจวิญญาณวันอมตะและวิญญาณเดือนอมตะ  พวกมันกลับปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาโดยไม่คาดคิด

‘มาแลกเปลี่ยนกันเถอะ ’

“แม้ข้าจะไม่คุ้นเคยกับเส้นทางแห่งกาลเวลา  แต่การให้อาหารวิญญาณอมตะหนามกระดูกเป็นภาระสำหรับข้า ” ฟางหยวนกล่าว

“วิญญาณวันอมตะกินสายธารแห่งกาลเวลาเป็นอาหาร  มันไม่มีปัญหาในการให้อาหาร  อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถใช้วิญญาณอมตะดวงนี้  ข้าต้องการแลกเปลี่ยนมันกับวิญญาณอมตะหนามกระดูกเพื่อใช้มันสนับสนุนท่าไม้ตายอมตะของข้า” อู๋หม่าหยางกล่าว

ทั้งสองทำการแลกเปลี่ยนกันอย่างรวดเร็ว

เจตจำนงเดิมที่อยู่ภายในวิญญาณอมตะจะถูกปัดเป่าออกไปขณะที่เจตจำนงใหม่เข้าแทนที่

นี่คือกุญแจสำคัญในการปรับแต่งวิญญาณ

สำหรับวิญญาณป่า  พวกมันมีเจตจำนงเป็นของตนเอง  ผู้ใช้วิญญาณต้องลบเจตจำนงของพวกมันและเติมเจตจำนงของตนเองเข้าไป

เจตจำนงป่ามีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด  พวกมันจะไม่ทำลายตนเอง  ดังนั้นแม้การปรับแต่งพวกมันจะค่อนข้างยากแต่มันไม่มีความเสี่ยง

สิ่งนี้แตกต่างจากวิญญาณของผู้อื่น

เจตจำนงของผู้ใช้วิญญาณแตกต่างจากเจตจำนงป่า

หากบางคนฝืนปรับแต่งวิญญาณของผู้อื่น  เจตจำนงของผู้ใช้วิญญาณที่อยู่ภายในอาจระเบิดทำลายตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นปรับแต่งวิญญาณดวงนั้น

เว้นเพียงผู้ใช้วิญญาณจะมีวิธีผนึกเจตจำนงที่อยู่ภายใน  แต่โดยทั่วไปแล้วมันเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นและยังมีข้อบกพร่องมากมาย

ด้วยเหตุนี้แม้ฟางหยวนจะสามารถจับกุมไห่เจิ้ง  เขาก็ยังไม่ได้รับวิญญาณอมตะศรทมิฬ

และด้วยเหตุนี้แม้ข้อตกลงพันธมิตรระหว่างฟางหยวนกับไห่ลั่วหลันจะหายไป แต่เขาก็ไม่สามารถปรับแต่งวิญญาณทัศนคติได้โดยตรง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด