Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1301 มหายุคที่ใกล้เข้ามา

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1301 มหายุคที่ใกล้เข้ามา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1301 มหายุคที่ใกล้เข้ามา

แปลโดย  iPAT  

ภาคกลาง  ถ้ำมังกรเร้น

“คารวะท่านเจ้าวัง ” ผู้อมตะสองคนคุกเข่าลงบนพื้น

หนึ่งแก่และหนึ่งหนุ่ม

ปู่และหลานชาย

พวกเขาคือผู้อมตะจากนิกายเมฆาวายุ

ผู้อมตะวัยเยาว์คือฟงเฉินซื่อ  ผู้อมตะชราคือเฒ่าไป่เฟิง  คนผู้นี้เป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงของภาคกลางและมีโอกาสเข้าสู่วังสวรรค์

การเป็นสมาชิกวังสวรรค์ไม่ใช่เรื่องง่าย

การบ่มเพาะระดับแปดยังไม่เพียงพอ  พวกเขายังต้องเป็นชนชั้นสูงในระดับแปด  มาตรฐานนี้ไม่เคยลดลงตั้งแต่วังสวรรค์ถูกสร้างขึ้น

เฒ่าไป่เฟิงกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าชายชราที่ดูอ่อนแอมาก

แต่ชายชราผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา  เขามีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่

เพราะเขาคือราชันมังกร !

“ลุกขึ้น  พาข้าเข้าไปข้างใน ” ราชันมังกรกล่าว

“รับทราบ ” เฒ่าไป่เฟิงตอบรับ

ครู่ต่อมาราชันมังกรก็ไปถึงส่วนลึกที่สุดของถ้ำมังกรเร้น

มันเป็นรอยแยกใต้พิภพที่มีความลึกยิ่งกว่าโลกใต้บาดาลของภาคเหนือ

มันสามารถบรรจุเมืองขนาดใหญ่หลายพันเมืองได้อย่างไม่มีปัญหา

ราชันมังกรและเฒ่าไป่เฟิงราวกับฝุ่นละอองเมื่อเปรียบเทียบกับมัน

จากมุมมองของพวกเขา  รอยแยกใต้พิภพถูกปกคลุมไปด้วยความมืดที่ไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด

“ครืน …”

ทันใดนั้นรอยแยกใต้พิภพแห่งนี้กลับเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง

เศษหินร่วงหล่นลงจากที่สูง

แผ่นดินไหวทำให้เกิดคลื่นเสียงที่ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตระหนก

การแสดงออกของเฒ่าไป่เฟิงเปลี่ยนไป  เขาเร่งกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะในมิติช่องว่างของเขา  จากนั้นแสงสว่างจึงปรากฏขึ้น

แท้จริงแล้วมีค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่อยู่ที่นี่

เปรียบเทียบกับค่ายกลวิญญาณของภาคใต้ที่ปิดผนึกอาณาจักรแห่งความฝันเอาไว้ ค่ายกลวิญญาณของที่นี่เหมือนช้างขณะที่ค่ายกลวิญญาณของภาคใต้เหมือนลูกแมว

เฒ่าไป่เฟิงควบคุมค่ายกลวิญาณด้วยเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผาก

“รุนแรงมาก ” ในฐานะผู้อมตะระดับแปดชั้นยอด  เขากลับรู้สึกถึงความยากลำบาก

ค่ายกลวิญญาณนี้ผนึกรูปแบบชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวเอาไว้  เฒ่าไป่เฟิงแทบไม่สามารถจัดการกับมัน

“ฮ่าฮ่าฮ่า  ผ่านไปหลายปี  เจ้ายังมีชีวิตอยู่อีกงั้นหรือ ? ไต่เจิ้งเฉิง ” ราชันมังกรกล่าว

“โฮก …” เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นจากส่วนลึกของรอยแยกใต้พิภพ

แสงระยิบระยับจากค่ายกลวิญญาณค่อยๆลดความสว่างไสวลง  หน้าผากของเฒ่าไป่เฟิงเต็มไปด้วยเหงื่อ  เขาคิด  ‘กระทั่งมีค่ายกลวิญญาณ  เสียงของมันก็ยังดังมาก  หากข้าต้องเผชิญหน้ากับมังกรปีศาจตัวนี้โดยตรง  ข้าเกรงว่า …’

ราชันมังกรไม่หวั่นไหว  เขาประเมิน  “ดูเหมือนอารมณ์ของเจ้าจะไม่เปลี่ยนแปลง  เจ้ายังอารมณ์ร้อนเหมือนเดิม ”

“เจ้าแก่ต้องสาป !” ครั้งนี้เป็นเสียงของมนุษย์ที่ดังออกมาจากค่ายกลวิญญาณ

ในเวลาต่อมา  ศีรษะมังกรขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางแสงระยิบระยับ

มันคือมังกรปีศาจ  ไต่เจิ้งเฉิง !

สัตว์อสูรแรกกำเนิดในตำนานที่ถูกสร้างขึ้นจากความโกรธ  ความเกลียดชัง  และความแค้นอันไร้ที่สิ้นสุด

มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากอารมณ์ด้านลบของมนุษย์และมีสติปัญญาเทียบเท่ากับมนุษย์

แรกเริ่มมันทำได้เพียงคำราม  แต่หลังจากเรียนรู้  มันสามารถปลุกทะเลวิญญาณ  พูดภาษามนุษย์  และบ่มเพาะจนบรรลุสู่ขอบเขตอมตะ

มันเคยสร้างหายนะให้กับภาคกลาง  แต่สุดท้ายราชันมังกรก็สามารถกำหราบมันและผนึกไว้ที่นี่

วังสวรรค์ไม่สามารถสังหารมันเพราะมันเกิดจากอารมณ์ด้านลบของมนุษย์  ตราบเท่าที่ยังมีมนุษย์อยู่บนโลกใบนี้  มังกรปีศาจก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

นั่นเป็นเหตุผลที่วังสวรรค์ต้องใช้ค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่เพื่อกำหราบมัน

วังสวรรค์จะส่งผู้อมตะหมุนเวียนมาดูแลสถานที่แห่งนี้ตลอดเวลา  ครั้งนี้เป็นฟงเฉินซื่อที่ลอบขายทรัพยากรอมตะและถูกลงโทษให้มาปกป้องถ้ำมังกรเร้นแห่งนี้ อย่างไรก็ตามปู่ของฟงเฉินซื่อรู้ว่าหลานชายของเขาไม่สามารถทำเรื่องนี้เพียงลำพัง ดังนั้นเขาจึงสละโอกาสที่จะเข้าร่วมวังสวรรค์เพื่อมาดูแลมังกรปีศาจตนนี้

หลังจากมังกรปีศาจเห็นราชันมังกร  มันโกรธมาก

ทั้งสองเป็นศัตรูเก่าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“แม้เจ้าจะคำรามเท่าใด  เจ้าก็ไม่สามารถหลบหนีจากที่นี่ ” ราชันมังกรกล่าว

ไต่เจิ้งเฉิงหัวเราะ  “ฮ่าฮ่าฮ่า  ข้าเกือบลืมไปแล้ว  เจ้าแก่ต้องสาป  เจ้ากำลังจะตายในไม่ช้า  อายุขัยของเจ้ากำลังจะสิ้นสุดลง  วิญญาณอายุยืนไม่สามารถช่วยเจ้าได้อีกต่อไป  ฮ่าฮ่าฮ่า  ช่างน่าขันนัก  เจ้ากดขี่ข่มเหงข้า  แต่ข้ายังมีชีวิตขณะที่เจ้ากำลังจะตาย ”

ราชันมังกรพยักหน้า  “เจ้าพูดถูก  บางครั้งข้าก็อิจฉาเจ้า  เจ้ามีอายุยืนยาวโดยธรรมชาติ  นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้พบกัน  ให้ข้ายืมอายุขัยของเจ้าสักสิบปี ”

ราชันมังกรถอนหายใจ

เฒ่าไป่เฟิงตกใจเมื่อเขาสูญเสียการควบคุมค่ายกลวิญญาณอย่างกะทันหัน

ไต่เจิ้งเฉิงถูกปราบปรามโดยราชันมังกร  ค่ายกลวิญญาณนี้ก็ถูกสร้างขึ้นโดยเขาเช่นกัน

กล่าวให้ถูกต้องมากขึ้น  ราชันมังกรคือเจ้าของที่แท้จริงของค่ายกลวิญญาณนี้

“โฮก …” ไต่เจิ้งเฉินกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

ราชันมังกรดูดกลืนพลังชีวิตของมันเข้าไป

‘ดูเหมือนค่ายกลวิญญาณนี้จะไม่ได้มีไว้เพื่อกำหราบไต่เจิ้งเฉินเพียงอย่างเดียว แต่มันยังมีความสามารถเช่นนี้ ’ เฒ่าไป่เฟิงคิด

ระหว่างการดูดพลังชีวิต  ร่างของราชันมังกรเริ่มโป่งพองขึ้นราวกับบอลลูนที่มีกิ่งก้านสาขา  ใบหน้าสีขาวซีดของเขากลับสู่สภาพปกติ  ผมสีขาวของเขาเปลี่ยนเป็นสีเข้ม  หลังค่อมค่อยๆยืดตรง

ติ่งเนื้อบนศีรษะของเขาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและส่องแสงแวววาวราวกับโลหะ

“บึม !”

กลิ่นอายของผู้อมตะระดับแปดปะทุขึ้น

เฒ่าไป่เฟิงก้าวถอยหลังกลับไปอย่างไม่สามารถต่อต้าน

เห็นแผ่นหลังอันสง่างามของราชันมังกร  เฒ่าไป่เฟิงรู้สึกยกย่องอยู่ภายใน

ในทางตรงข้าม  มังกรปีศาจไต่เจิ้งเฉินกลายเป็นอ่อนแอลง

มันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า  “เจ้าแก่บัดซบ  อายุขัยเพียงสิบปี  มันเหมือนข้าฉี่รดตัวเจ้า  ฮ่าฮ่าฮ่า ”

ราชันมังกรกล่าวอย่างเฉยเมย  “มังกรปีศาจ  เจ้าไม่เข้าใจข้า  ราชันมังกรจะเกรงกลัวต่อความตายได้อย่างไร ? ข้าตื่นขึ้นมาคราวนี้เพื่อชดเชยความผิดพลาดครั้งก่อน  สิบปีก็เพียงพอแล้ว ”

“พอแล้วงั้นหรือ ? เจ้าพยายามทำสิ่งใด ?” มังกรปีศาจถาม

“มันจะเป็นสิ่งใดได้  ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง ” ราชันมังกรกล่าวอย่างมีความหมาย

“ยุคที่ยิ่งใหญ่ ? มหายุคงั้นหรือ ? อย่าบอกว่ารอยแยกใต้พิภพกำลังจะหลอมรวมกัน  กำแพงภูมิภาคกำลังจะพังทลายลงและรวมห้าภูมิภาคให้เป็นหนึ่ง …เดี๋ยว ! เจ้าแก่ต้องสาป  อย่าพึ่งไป  บอกข้าทุกสิ่ง !” ไต่เจิ้งเฉินตะโกน

แต่ราชันมังกรเพียงก่นเสียงเย็นเย้ยหยัน  เหตุใดเขาต้องสนใจเชลย ? เขาหันหลังกลับและออกจากถ้ำมังกรเร้นไปโดยไม่ลังเล

…..

ภาคใต้

สถานกที่ไร้นาม

แม่น้ำแห่งหนึ่ง

นี่คือสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา !

กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยรออยู่ที่ริมแม่น้ำเป็นเวลานาน

เป็นเพียงเวลานี้ที่ร่างหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากสายธารแห่งกาลเวลา

“เร็ว  ช่วยนายท่าน !” อิงอู๋เซี่ยตะโกน

ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงร่วมมือกับอิงอู๋เซี่ยเพื่อกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณ

ภายใต้พลังอำนาจของค่ายกลวิญญาณ  ราชันภูเขาม่วงสามารถหลบหนีออกจากสายธารแห่งกาลเวลาได้ในที่สุด

‘ราชันภูเขาม่วงสามารถเข้าออกสายธารแห่งกาลเวลาได้อย่างปลอดภัย !’ ไป่หนิงปงลอบตกตะลึงอยู่ภายใน

“นายท่าน  ท่านทำสำเร็จหรือไม่ ?” อิงอู่เซี่ยเร่งถาม

ราชันภูเขาม่วงพยักหน้า  “ข้าพบเจตจำนงของร่างหลักแล้ว ”

“แล้วเป็นอย่างไร ?” อิงอู๋เซี่ยมีความสุขมาก

แต่ราชันภูเขาม่วงกลับแสดงออกอย่างเคร่งขรึม  “ข้าใช้มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงเพื่อตรวจสอบอดีตและอนาคต  ก่อนที่ฟางหยวนจะเกิดใหม่  นิกายเงาของเราประสบความสำเร็จ  พวกเราสามารถเลื่อนยุคที่ยิ่งใหญ่ออกไปห้าร้อยปี  พวกเราทำลายเทพอมตะแห่งความฝันก่อนที่นางจะสามารถเติบโต  กระทั่งวังสวรรค์ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเรา  น่าเสียดายที่ฟางหยวนเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง  นิกายเงาไม่สามารถหยุดมัน  ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง !”

อิงอู๋เซี่ยตกใจมาก

ไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลันมองหน้ากันด้วยความงุนงง

ไป่หนิงปิงถาม  “ยุคที่ยิ่งใหญ่หมายถึงสิ่งใด ?”

อิงอู๋เซี่ยสูดหายใจลึกก่อนตอบ  “รอยแยกใต้พิภพจะหลอมรวมกัน  กำแพงภูมิภาคจะหายไป  ห้าภูมิภาคจะกลายเป็นหนึ่งและเทพอมตะแห่งความฝันจะถือกำเนิดขึ้น !”

ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงตะลึง

ในเวลาเดียวกัน

ฟางหยวนกลับไปยังภาคใต้ภายใต้รูปลักษณ์ของวูอี้ไห่

‘ในที่สุดข้าก็กลับมาแล้ว ’

‘คราวนี้ข้าต้องคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝันอย่างสุดกำลังเพื่อเพิ่มระดับความสำเร็จของข้า!’

‘ยังพอมีเวลา ’

‘หลังจากห้าร้อยปี  ในสงครามห้าภูมิภาค  ข้าอาจกลายเป็นปรมาจารย์เอกบนทุกเส้นทาง !’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด