Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1393 กินคน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1393 กินคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พื้นทรายกว้างใหญ่ราวกับไร้ที่สิ้นสุด

 

ท้องฟ้าสีฟ้า ก้อนเมฆสีขาว และแสงแดดที่ร้อนแรง

 

“ในที่สุดข้าก็มาถึงทะเลทรายตะวันตก” ร่างหนึ่งก้าวออกมาจากกำแพงภูมิภาคก่อนจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

เขาเป็นเด็กหนุ่มในชุดคลุมขาว ผมดำ ดวงตาสีเข้ม ใบหน้าราวกับประติมากรรมหยก

 

แน่นอนว่าเขาก็คือฟางหยวน!

 

ฟงจิวเก้อปิดกั้นวูหยงเพื่อให้ฟางหยวนมีเวลาหลบหนี

 

ร่างทารกอมตะสามารถเดินทางผ่านกำแพงภูมิภาค ในความเป็นจริงกำแพงภูมิภาคถือเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเขา มันเหมือนกับปลาที่ว่ายอยู่ในน้ำ

 

ไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน และคนอื่นๆ อยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน นี่ทำให้พวกเขาสามารถเดินทางข้ามกำแพงภูมิภาคมาได้เช่นกัน

 

มิติช่องว่างของฟางหยวนมีรากฐานเพียงพอที่จะเก็บผู้อมตะเหล่านี้

 

หากเป็นผู้อมตะทั่วไป พวกเขาต้องพักรักษาตัวระยะหนึ่งหลังจากข้ามกำแพงภูมิภาค แต่ด้วยร่างทารกอมตะ ฟางหยวนสามารถเดินทางผ่านกำแพงภูมิภาคได้อย่างง่ายดายและไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

 

หลังการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้ ฟางหยวนกลายเป็นผู้นำคนใหม่ของนิกายเงาและได้รับมรดกมากมายจากราชันภูเขาม่วง เขาสูญเสียตัวตนของวูอี้ไห่ ขณะเดียวกันตัวตนของหลิวกวนซื่อก็ถูกเปิดเผย วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดตกอยู่ในกำมือของวังสวรรค์ สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาสูญเสียพลังการต่อสู้ระดับแปดอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด!

 

ระหว่างทางฟางหยวนคิดเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งนี้มาตลอด เขาสรุปว่าครั้งนี้เขาทั้งได้กำไรและขาดทุน

 

‘ผู้ใดจะคิดว่าเจตจำนงสวรรค์จะสามารถแทรกซึมเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน หากข้าไม่ได้สำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน เจตจำนงสวรรค์จะไม่พบข้า’

 

‘อย่างไรก็ตามนิกายเงาจะโจมตีอาณาจักรแห่งความฝันในที่สุด’

 

‘แม้ตอนนี้ข้าจะอยู่ในทะเลทรายตะวันตก แต่ข้าสูญเสียวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดและยังถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบบนเส้นทางแห่งข้อมูลของวังสวรรค์ สิ่งสำคัญที่สุดคือเจตจำนงสวรรค์กำลังเฝ้าดูข้าอยู่ตลอดเวลา ร่องรอยของข้าถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์’

 

การหลบหนีจากภาคใต้มายังทะเลทรายตะวันตกเป็นเพียงการบรรเทาสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น

 

หากวังสวรรค์หรือเจตจำนงสวรรค์มีเวลาเพียงพอในการวางแผน ทะเลทรายตะวันตกจะกลายเป็นสถานที่อันตรายเช่นกัน ฟางหยวนจะถูกโจมตีโดยผู้อมตะจากทุกทิศทาง

 

ดังนั้นความต้องการเร่งด่วนของเขาในเวลานี้ก็คือการกำจักร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่บนร่างกายของพวกเขาออกไปและหาวิธีซ่อนตัวจากเจตจำนงสวรรค์

 

‘กองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลทรายตะวันตกถูกทำลายแต่ทรัพยากรของพวกเขายังคงอยู่’

 

‘นอกจากนั้นยังมีแหล่งทรัพยากรที่สามารถผลิตวิญญาณอมตะ’

 

ทะเลทรายตะวันตกมีทรัพยากรของนิกายเงาเหลืออยู่มากมาย

 

ฟางหยวนต้องรีบไปยังสถานที่เหล่านั้น

 

‘ฟงจิวเก้อช่วยข้าและตอบแทนบุญคุณหมดแล้ว’

 

‘การพบกันของเราบังเอิญเกินไป มันอาจเป็นแผนการส่วนหนึ่งของวังสวรรค์’

 

‘หากเขาไล่ล่าข้า แม้ข้าจะมีเกราะหวนคืน ข้าก็ยังไม่สามารถทำสิ่งใดกับเขา สิ่งสำคัญคือภาคกลางจะส่งผู้เชี่ยวชาญมามากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป’

 

‘ข้าต้องรีบจัดการ!’

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ดวงตาของฟางหยวนก็ส่องประกายขึ้น

 

ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาล!

 

แสงสีขาวส่องประกายขึ้น ในเวลาต่อมาฟางหยวนก็กลายเป็นมังกรดาบบรรพกาล

 

มังกรดาบบรรพกาลเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง

 

นอกจากนั้นเขายังใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติ

 

เขาพุ่งผ่านอากาศไปด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

 

หลายวันต่อมาในทะเลทรายแปรผัน

 

ที่นี่เป็นทะเลทรายที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลทรายตะวันตก

 

เช่นเดียวกับทะเลตะวันออกที่มีทะเลไหลเชี่ยว ทะเลแสงสีรุ้ง ทะเลฉลาม และทะเลอื่นๆ

 

ทะเลทรายตะวันตกมีทะเลทรายที่แตกต่างกันกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป

 

ผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง อี้ฉวน หรือที่รู้จักกันในนาม ยุงอสูร ลอยอยู่เหนือทะเลทรายแห่งนี้

 

เขาสวมชุดเกราะหนังสีดำ เขามีจมูกแหลม ดวงตาเรียวเล็ก เส้นผมสีดำที่ยุ่งเหยิงเหมือนวัชพืช

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ากำลังตามล่าเด็กชายขนนก แต่บางทีข้าอาจพบสุสานผีดิบของกองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลทรายตะวันตก”

 

เขารู้สึกพอใจกับผลงานของตนเองขณะพยายามดมกลิ่น

 

“พบแล้ว” ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้น เขาติดตามกลิ่นสายนั้นลงไปที่ทะเลทรายแปรผัน

 

เมื่อเข้าใกล้พื้นทราย เกราะสีดำของเขาก็ส่องแสงที่น่าขนลุกออกมา

 

“บึม!”

 

ด้วยเสียงระเบิดอันแผ่วเบา เขาทะลวงลงไปในพื้นทรายราวกับกำลังกระโดดลงไปในน้ำ

 

ยุงอสูรปิดเปลือตาลง แม้ทรายจะร้อนมาก แต่พวกมันไม่ส่งผลกระทบต่อเขา

 

แม้เขาจะมองไม่เห็นสิ่งใด แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ยุงอสูรมีวิธีตรวจสอบด้วยการดมกลิ่น เบาะแสชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เขายังมุ่งหน้าต่อไป

 

ทันใดนั้นเขาก็ทะลวงออกมาจากพื้นทรายและพบถ้ำใต้พิภพแห่งหนึ่ง

 

ยุงอสูรไม่แปลกใจ

 

มีถ้ำมากมายซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลทรายแปรผัน

 

ในอดีต สัตว์อสูรแรกกำเนิดสองตัวต่อสู้กันที่นี่ หนึ่งในสอง อูฐค้างคาวปราณพิภพพ่ายแพ้และเสียชีวิตอยู่ที่นี่

 

อูฐค้างคาวปราณพิภพมีสองรูปแบบคือค้างคาวและอูฐ เมื่อมันท่องเที่ยวไปในทะเลทราย มันจะอยู่ในรูปลักษณ์ของอูฐสีน้ำตาลที่เคลื่อยที่ได้ช้า แต่เมื่อมันบิน มันจะกลายเป็นค้างคาวหยกที่มีร่างกายเล็กเท่ากำปั้นมนุษย์และรวดเร็ว

 

หลังจากอูฐค้างคาวปราณพิภพตาย ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนร่างของมันก็กระจาายไปในทะเลทรายและทำให้เกิดเป็นทะเลทรายแปรผัน

 

ที่นี่เต็มไปด้วยถ้ำที่ซ่อนอยู่ใต้ทะเลทราย มันเหมือนฟองอากาศที่อยู่ในน้ำ

 

ยุงอสูรอยู่ที่มุมหนึ่งของถ้ำแห่งนี้

 

ไม่มีอากาศ มนุษย์จะตายทันทีหากพวกเขามาที่นี่ อย่างไรก็ตามพวกเขาจะไม่ตายเพราะขาดอากาศหายใจ แต่ปราณพิภพจะทำให้พวกเขากลายเป็นหิน

 

แน่นอนว่ายุงอสูรสามารถต่อต้านสิ่งนี้

 

เขาดมกลิ่นต่อไปและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเด็กชายขนนก

 

ระหว่างทางเขาเดินผ่านถ้ำหลายแห่ง

 

ถ้ำเหล่านี้มีขนาดแตกต่างกัน บางแห่งมีขนาดเท่าห้องโถง บางแห่งมีขนาดเท่าวัง

 

ในที่สุดเขาก็มาถึงถ้ำที่พิเศษแห่งหนึ่ง

 

“กลิ่นอายนี้เข้มข้นมาก! เด็กชายขนนกต้องอยู่แถวนี้!”

 

ยุงอสูรพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นแต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกตกใจ

 

“ถ้ำแห่งนี้ใหญ่โตเกินไป มันเหมือนเมืองของมนุษย์”

 

“ปราณพิภพของที่นี่หนาแน่นจนทำให้เกิดพายุทรายปราณพิภพ?”

 

ในไม่ช้ายุงอสูรก็พบว่าที่ใจกลางของถ้ำแห่งนี้มีบางสิ่งที่ดูเหมือนทรัพยากรอมตะ

 

“พายุทรายนี้เกิดจากปราณพิภพ มันปกป้องทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดที่ล้ำค่าเอาไว้!”

 

ยุงอสูรมีความสุขแต่ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกกังวล

 

เขามีความสุขที่พบทรัพยากรอมตะ นี่เป็นกำไรมหาศาล

 

ความกังวลของเขาคือพายุทรายที่รุนแรง มันทรงพลังและรับมือได้ยาก

 

“เดี๋ยว!”

 

“กลิ่นอายของเด็กชายขนนกอยู่แถวนี้ นั่นหมายความว่าเขามาที่นี่ เหตุใดเขาถึงไม่นำแก่นแท้ปราณพิภพชิ้นนี้ไป?”

 

รูม่านตาของยุงอสูรหดเล็กลงเมื่อรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงสายหนึ่งดังมาจากด้านหลังของยุงอสูร “ยุงอสูร ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่ ฮ่าฮ่า ข้ากำลังรอเจ้าอยู่ รับท่าไม้ตายของข้า”

 

“โอ้ ไม่!” ยุงอสูรต้องการหลบแต่มันสายเกินไปแล้ว

 

พายุขนนกที่สร้างจากแสงสีฟ้าปะทะร่างของยุงอสูร

 

มันนำยุงอสูรเข้าไปในพายุทราย

 

เสียงกรีดร้องของยุงอสูรดังขึ้น

 

ในที่สุดเด็กชายขนนกก็ปรากฏตัวขึ้น เขาอยู่ในรูปลักษณ์ของเด็กอ้วน ใบหน้าสีดอกกุหลาบและดูอ่อนเยาว์ เขามองพายุทรายและหัวเราะเสียงดัง

 

ในไม่ช้าเสียงของยุงอสูรก็หยุดลง เลือดสีแดงรั่วไหลออกมาจากพายุทรายแต่พื้นทรายก็กลืนกินมันเข้าไปอย่างรวดเร็ว

 

เสียงหัวเราะของเด็กชายขนนกหยุดลงขณะที่ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความกังวล

 

“ทรงพลังนัก!”

 

เขาสูดหายใจลึก “ดังคาด ค่ายกลวิญญาณของกองกำลังพันธมิตรผีดิบทรงพลังจริงๆ ยุงอสูรเป็นผู้อมตะระดับหก แต่เขายังทนได้ไม่นาน หือ ผู้ใด?”

 

เด็กชายขนนกหันหลังกลับและพบร่างหนึ่งปรากฏขึ้น

 

‘บัดซบ! ผู้อมตะระดับเจ็ด!’ เด็กชายขนนกตระหนักถึงกลิ่นอายของคนผู้นี้และรู้สึกขมขื่น

 

เขาสังเกตอย่างระมัดระวังและพบว่าชายผู้นี้มีรูปลักษณ์ที่น่าทึ่งมาก

 

‘ช่างหล่อเหลานัก!’

 

‘จากท่าทางของเขา ดูเหมือนเขาจะเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะ’

 

ขณะที่เด็กชายขนนกกำลังคาดเดา ฟางหยวนก็มองไปที่เขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข “ดี นี่เป็นคนที่สามที่ข้าพบ หลังจากกินเจ้า ความอยากอาหารของข้าจะลดลง”

 

“กระไรนะ!?” เด็กชายขนนกตกใจและรีบล่าถอย “ฝ่ายธรรมะอันใด!? เขาต้องการกินข้างั้นหรือ? ท่านพี่ช่วยข้าด้วย!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด