Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1401 ทาสแห่งชัย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1401 ทาสแห่งชัย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อสูรปีหลากหลายชนิดพุ่งเข้าโจมตีฟงจิวเก้อ

 

ฟงจิวเก้อถูกล้อมกรอบเอาไว้ในที่สุด

 

แต่การแสดงออกของเขายังสงบนิ่งและไม่เปลี่ยนแปลง

 

“เข้ามา!” เขาตะโกนและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

“ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง…”

 

เสียงคมชัดดังขึ้นในสนามรบ

 

มันเหมือนไข่มุกจำนวนนับไม่ถ้วนที่หล่นลงบนจานหยก

 

ท่าไม้ตายอมตะเพลงหยกเขียว!

 

ร่างกายของอสูรปีค่อยๆเปลี่ยนเป็นหินหยกสีเขียว

 

การโจมตีที่ดุร้ายของฝูงอสูรปีถูกตอบโต้อย่างรุนแรง

 

แต่ในไม่ช้าอสูรปีบรรพกาลอีกแปดตัวก็ปรากฏขึ้น

 

มังกร อสรพิษ เสือ และวัวพุ่งเข้าโจมตีฟงจิวเก้อจากสี่ทิศทาง

 

ฟงจิวเก้อปลดปล่อยคลื่นเสียงออกไปรอบๆ

 

“บึม บึม บึม…”

 

อสูรปีแปดตัวถูกผลักดันกลับไปโดยคลื่นเสียงที่รุนแรง

 

จากนั้นพวกมันก็กลายเป็นรูปปั้นหยกเขียวก่อนจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“เพลงหยกเขียวช่างทรงพลังนัก!” ผู้อมตะนิกายเงาที่ซุ่มโจมตีอยู่เห็นสิ่งนี้และรู้สึกตกใจมาก

 

การแสดงออกของฟางหยวนยังไม่เปลี่ยน

 

เขารู้ข้อมูลบางอย่าง

 

เขารู้เกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างฉินไป่เฉิงกับฟงจิวเก้อผ่านมรดกของราชันภูเขาม่วง

 

‘เพลงหยกเขียวของฟงจิวเก้อทรงพลังมากตั้งแต่การต่อสู้ที่หุบเขาเหล่าโป แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น’

 

‘เพลงหยกเขียวเป็นเรื่องรองแต่หากเขาใช้เพลงยอมจำจน อสูรปีเหล่านี้จะกลายเป็นศัตรูของข้า’

 

‘แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นแล้วอย่างไร? ฮ่าฮ่า’

 

ฟางหยวนลอบหัวเราะอยู่ภายใน

 

มีบอลวารีอยู่ในฝ่ามือของเขา มันดูเหมือนน้ำจากสายธารแห่งกาลเวลา

 

อย่างไรก็ตามแท้จริงแล้วมันคือวิญญาณอมตะระดับแปด!

 

ปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ!

 

วิญญาณอมตะดวงนี้มาจากมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน เดิมทีมันถูกผนึกเอาไว้

 

แต่ตอนนี้ฟางหยวนเปิดผนึกและใช้งานมันเป็นครั้งแรก

 

ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอสูรปี!

 

มันเป็นชื่อเดียวกันแต่การอัญเชิญอสูรปีในปัจจุบันแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง นี่เป็นเพราะแกนกลางของมันไม่ใช่วิญญาณปีอมตะแต่เป็นวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ

 

วิญญาณปีอมตะสามารถอัญเชิญอสูรปีได้ครั้งละตัวแต่วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำสามารถอัญเชิญกองทัพอสูรปี

 

ท่าไม้ตายอมตะเพลงยอมจำนน!

 

ฟงจิวเก้อยังใช้ท่าไม้ตายที่น่าเหลือเชื่อนี้

 

เพลงนี้ไม่สามารถได้ยินด้วยหูแต่มันส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้อมตะและอสูรปีโดยตรง

 

กองทัพอสูรปีตกสู่ความโกลาหล

 

อสูรปีหลายตัวยอมจำนนต่อฟงจิวเก้อและต่อสู้กับพันธมิตรของพวกมัน

 

การต่อสู้ยิ่งดุเดือดมากขึ้น

 

เทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวที่กำลังเฝ้ามองการต่อสู้อยู่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ

 

แต่ฟางหยวนยังสงบนิ่ง

 

เขายังใช้ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอสูรปีต่อไป

 

วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดแต่ผู้อมตะระดับหกสามารถใช้งานมันได้และฟางหยวนก็มีประสบการณ์ในการใช้ท่าไม้ตายนี้มาแล้ว

 

ฟางหยวนเป็นคนระวังตัว เขาจะเตรียมการล่วงหน้าเสมอ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงไม่พบปัญหาในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายนี้

 

‘อสูรปียังถูกอัญเชิญมาอย่างต่อเนื่อง ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะใช้เพลงยอมจำนนควบคุมพวกมันได้ถึงระดับใด?’

 

‘บางทีกระทั่งอสูรปีแรกกำเนิดก็จะถูกชักนำมาที่นี่’

 

ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอสูรปีเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ส่งผลกระทบบนเส้นทางแห่งทาส

 

และเส้นทางแห่งทาสมีข้อได้เปรียบด้านกำลังรบ

 

ฟงจิวเก้อเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งของฟางหยวน นอกจากนี้เขายังได้รับการสนับสนุนจากวังสวรรค์และอาจมีผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆซ่อนตัวอยู่

 

ด้วยเหตุผลสองประการนี้ ฟางหยวนจึงตัดสินใจซ่อนตัวและใช้อสูรปีโจมตีเพื่อลดพลังงานของฝ่ายตรงข้าม

 

กองทัพอสูรปีปรากฏขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น

 

เพียงไม่นานพวกมันก็เข้าสู่สนามรบมากกว่าร้อย

 

อสูรปีปิดล้อมฟงจิวเก้อเอาไว้ทุกด้าน

 

ฟงจิวเก้อาศัยเพลงยอมจำนนเพื่อควบคุมอสูรปีและหลีกเลี่ยงวิกฤต

 

การต่อสู้ตกสู่สภาวะชะงักงัน

 

ฉากนี้ถูกเฝ้ามองโดยเทพธิดาจื่อเว่ย

 

นางอยู่ในวังสวรรค์แต่ด้วยท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบและกระดานหมากรุกกลุ่มดาว นางสามารถสังเกตสนามรบทั้งหมด

 

ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายขึ้น

 

การสังหารฟางหยวนและการรับสืบทอดหรือทำลายมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงคือเป้าหมายหลักของนางในครั้งนี้

 

นางวางแผนการทั้งหมด ฟงจิวเก้อเป็นเพียงส่วนหนึ่งในแผนการของนางเท่านั้น

 

แม้การต่อสู้จะหยุดชะงักแต่เทพธิดาจื่อเว่ยรู้ว่าฟงจิวเก้อยังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมด สิ่งสำคัญคือเขามีวิญญาณอมตะระดับแปดที่วังสวรรค์ให้ยืม

 

“ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า” เทพธิดาจื่อเว่ยใช้กระดานหมากรุกเพื่อตรวจสอบการต่อสู้ในสนามรบอื่น

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์สองคนกำลังต่อสู้อยู่กับอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดตัวนี้คืออินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดของฟางหยวนที่หลบหนีไป

 

มันกรีดร้องเมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

แม้มันจะเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดแต่เป็นเรื่องยากที่มันจะสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปดสองคนของวังสวรรค์

 

การต่อสู้เป็นไปตามความคาดหมาย

 

“อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดตัวนี้มีความเชื่อมโยงกับฟางหยวน ตราบเท่าที่เราจับมัน ข้าจะสามารถอนุมานตำแหน่งของเขาได้เสมอ”

 

“แน่นอนว่าตอนนี้ฟางหยวนและคนอื่นๆถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบของข้า การจับกุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นเพียงการป้องกันไม่ให้ฟางหยวนกลับมาควบคุมสัตว์อสูรแรกกำเนิดในอนาคตเท่านั้น”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยวางแผน

 

ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์แบบ เขาไม่อยู่ในการควบคุมของโชคชะตาอีกต่อไป เขาคือความไม่แน่นอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้

 

ตอนนี้เขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือดไปแล้ว การรวมกันระหว่างปีศาจต่างโลกและโชค มันจะทำให้ความไม่แน่นอนซับซ้อนมากขึ้นไปอีก

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับกุมแล้ว เวลานี้ฟางหยวนกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวังสวรรค์

 

แต่วังสวรรค์ไม่สามารถใช้กำลังอย่างเต็มที่กับฟางหยวน

 

เหตุผลประการแรกคือฟางหยวนโชคดีมาก หากมีคนตามเขามากเกินไป เขาอาจได้รับผลประโยชน์จากความโชคร้าย มีเพียงคนที่มีโชคสูงทัดเทียมกันเท่านั้นจึงจะสามารถหยุดความได้เปรียบบนเส้นทางแห่งโชคของฟางหยวน

 

นี่คือเหตุผลที่เทพธิดาจื่อเว่ยส่งฟงจิวเก้อออกไปจัดการฟางหยวน

 

ประการที่สอง วังสวรรค์ยังต้องเก็บสะสมความแข็งแกร่ง

 

ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง กำแพงภูมิภาคทั้งหมดจะสลายไป ห้าภูมิภาคจะรวมเป็นหนึ่ง โดยปราศจากอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ ผู้อมตะจะสามารถเดินทางได้อย่างอิสระ ความโกลาหลจะปะทุขึ้นอย่างแน่นอน

 

ในการต่อสู้ที่วุ่นวาย วังสวรรค์จะตกอยู่ในจุดที่น่าอึดอัดใจ

 

เนื่องจากภาคกลางถูกล้อมกรอบด้วยอีกสี่ภูมิภาค

 

เมื่อการต่อสู้ปะทุขึ้น ภาคกลางจะเผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาล

 

ดังนั้นวังสวรรค์จึงต้องเตรียมความพร้อม

 

ในเวลาเดียวกันเจตจำนงของเทพอมตะกลุ่มดาวก็ออกคำสั่งกับราชันมังกรและเทพธิดาจื่อเว่ยว่าพวกเขาต้องปล่อยให้ผู้อมตะของวังสวรรค์จำศีลต่อไป

 

แม้เทพธิดาจื่อเว่ยจะไม่เข้าใจเหตุผล แต่นางก็เชื่อมั่นในเจตจำนงของเทพอมตะกลุ่มดาวและราชันมังกร

 

“ท่านหญิงจื่อเว่ย มีข่าวดี!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะของวังสวรรค์ส่งข้อความมาหาเทพธิดาจื่อเว่ย

 

คนผู้นี้พึ่งเข้าสู่วังสวรรค์ ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของหนึ่งในสิบนิกายโบราณ หยวนเฉียงตู๋

 

หลังการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน เทพธิดาจื่อเว่ยรับสมาชิกใหม่เข้าสู่วังสวรรค์หลายคน

 

ผู้อมตะระดับแปดสองคนที่ไปหาฟงจิวเก้อและตอนนี้กำลังต่อสู้อยู่กับอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดก็เป็นคนใหม่ที่เทพธิดาจื่อเว่ยพึ่งรับเข้ามา

 

“ข่าวใด?” เทพธิดาจื่อเว่ยถาม

 

“ข้าซื้ออสูรปีจำนวนมากมาจากสวรรค์สีเหลือง คนขายอาจไม่รู้แต่อสูรปีเหล่านี้เต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ ข้าสามารถใช้อสูรปีเหล่านี้เพื่อซ่อมแซมวิญญาณชะตากรรม นี่จะช่วยประหวัดเวลาของเรา” หยวนเฉียงตู๋รู้สึกตื่นเต้น

 

“ดีมาก” ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายขึ้น “ทำงานของเจ้าต่อไป”

 

“รับทราบ”

 

นี่เป็นข่าวดีจริงๆ

 

เทพธิดาจื่อเว่ยค่อนข้างมีความสุข

 

“ด้วยวิธีนี้วิญญาณชะตากรรมจะฟื้นตัวเร็วขึ้น”

 

“เมื่อข่าวเรื่องเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับเผยแพร่ออกไป มันจะทำให้โลกและกองกำลังทั้งหมดสั่นสะเทือน”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ช่วยไม่ได้ที่เทพธิดาจื่อเว่ยจะรู้สึกชื่นชมราชันมังกร

 

การโจมตีที่ชาญฉลาดและเด็ดเดี่ยวของราชันมังกรสร้างความได้เปรียบให้กับวังสวรรค์เป็นอย่างมาก

 

เมื่อสงครามห้าภูมิภาคเริ่มขึ้น ภาคกลางจะได้รับประโยชน์สูงสุดในช่วงเริ่มต้นอย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่แท้จริงในการตัดสินผลลัพธ์ของสงครามห้าภูมิภาคคือคนเพียงผู้เดียว

 

เทพอมตะแห่งความฝัน!

 

…..

 

ทะเลทรายตะวันตก

 

ฟางหยวนอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ

 

วิญญาณอมตะจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ถูกกระตุ้นใช้งานพร้อมกับวิญญาณสนับสนุนอีกมากมาย

 

ท่าไม้ตายอมตะทาสแห่งชัยชนะ!

 

ดวงตาของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นเฉียบขาด เขามองไปที่กองทัพอสูรปี

 

กำปั้นยักษ์บนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วนบินออกไปและเอาชนะอสูรปีเหล่านี้

 

อสูรปีที่พ่ายแพ้ไม่ได้หลบหนี ด้วยผลกระทบของท่าไม้ตายอมตะทาสแห่งชัยชนะทำให้พวกมันกลายเป็นทาสของฟางหยวน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด