Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1402 ลาก่อน ฟงจิวเก้อ

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1402 ลาก่อน ฟงจิวเก้อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภายใต้ผลกระทบของท่าไม้ตายอมตะทาสแห่งชัยชนะทำให้รูปแบบชีวิตที่พ่ายแพ้ต่อฟางหยวนตกเป็นทาสของเขา มีโอกาสสูงที่พวกมันจะถูกสะกดข่ม

 

แกนกลางของท่าไม้ตายนี้คือวิญญาณอมตะระดับเจ็ดดวงใหม่ที่ฟางหยวนพึ่งได้รับมา จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ มันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฎ

 

ท่าไม้ตายอมตะทาสแห่งชัยชนะถูกสร้างขึ้นโดยผีดิบอมตะต้าลี่

 

ผีดิบอมตะต้าลี่เป็นร่างแยกรุ่นที่สองของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งปัญญา เขามีสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง

 

อย่างไรก็ตามหลังจากผู้อมตะลึกลับที่มีสัญลักษณ์รูปดอกบัวอยู่กลางหน้าผากปรากฏตัวและต่อสู้กับเขา เขาพ่ายแพ้และถูกผนึกไว้โดยคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล

 

นี่คือที่มาของท่าไม้ตายอมตะทาสแห่งชัยชนะ มันเป็นท่าไม้ตายที่ผสมผสานระหว่างเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งปัญญา

 

ฟางหยวนได้รับมรดกของราชันภูเขาม่วง ดังนั้นเขาจึงได้เรียนรู้ท่าไม้ตายนี้

 

แน่นอนว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้งานมัน

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนเตรียมตัวมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงใช้มันได้อย่างราบรื่น

 

ท่าไม้ตายอมตะส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้งานได้โดยไม่ฝึกซ้อม มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นการทำร้ายตนเอง

 

ฟางหยวนรู้ว่าวังสวรรค์กำลังไล่ล่าพวกเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้า

 

แม้ฟางหยวนจะอัญเชิญอสูรปีออกมามากมาย แต่มันยังมีข้อบกพร่อง พวกมันจะไม่เสี่ยงชีวิตเพื่อฟางหยวน หากศัตรูแข็งแกร่งเกินไป พวกมันจะล่าถอยทันที

 

สิ่งนี้แตกต่างจากการอัญเชิญอสูรวิญญาณ

 

อสูรวิญญาณที่ถูกอัญเชิญมาโดยสมาชิกนิกายเงาอยู่ภายใต้การควบคุมของเทพปีศาจจิตวิญญาณ พวกมันจะต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตนเองเพื่อคนที่อัญเชิญพวกมันออกมา

 

ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอสูรปีของไห่ฟานเป็นวิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลา นอกจากนั้นเขายังด้อยกว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

แน่นอนว่าประสิทธิภาพในการอัญเชิญอสูรปีของเขาก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับการอัญเชิญอสูรวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญาณ

 

แต่โดยรวมแล้วมันยังมีประโยชน์มาก

 

ด้วยการใช้วิญญาณอมตะระดับแปดปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ มันสามารถอัญเชิญกองทัพอสูรปี จำนวนมากเพื่อสร้างความได้เปรียบ เว้นเพียงศัตรูจะเป็นตัวตนเช่นฟงจิวเก้อหรือผู้อมตะระดับแปด

 

แต่ในโลกของผู้อมตะ ตัวตนเช่นฟงจิวเก้อและผู้อมตะระดับแปดมีอยู่กี่คน?

 

“ปัง ปัง ปัง…”

 

กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนตบอสูรปีที่กำลังล่าถอยลงสู่พื้น

 

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอำนาจของฟงจิวเก้อ อสูรปีเหล่านี้ต้องการล่าถอยกลับสู่สายธารแห่งกาลเวลา

 

แต่ฟางหยวนไม่อนุญาตให้พวกมันหลบหนี เขาใช้กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนกำหราบและทำให้พวกมันตกเป็นทาสของเขา

 

แม้บางส่วนยังพยายามต่อต้าน แต่ฟางหยวนก็ใช้กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนตบพวกมันอีกครั้ง

 

“ปัง ปัง ปัง…”

 

ด้วยการตบหลายครั้ง อสูรปีเหล่านี้จึงอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนักโดยเฉพาะเมื่อพวกมันได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของฟงจิวเก้อมาก่อนแล้ว

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังมีทาสอสูรปีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

เขาเก็บอสูรปีที่ได้รับบาดเจ็บเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

กระทั่งอสูรปีจะตายเพราะการโจมตีที่รุนแรงเกินไป พวกมันก็ถือเป็นทรัพยากรอมตะระดับหกและระดับเจ็ด

 

แน่นอนว่าฟางหยวนจะไม่ปล่อยพวกมันไป

 

ในสนามรบ ฟงจิวเก้อสามารถกำจัดอสูรปีได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ฟางหยวนยังอัญเชิญอสูรปีออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

นี่ทำให้ฟางหยวนสามารถจับอสูรปีและเก็บไว้ในมิติช่องว่างของเขาได้เป็นจำนวนมาก

 

‘ด้วยอัตรานี้ ข้าจะสามารถรวบรวอสูรปีได้หลายร้อยตัวอย่างรวดเร็ว’ ฟางหยวนรู้สึกมีความสุข

 

แม้เขาจะไม่สามารถขายอสูรปีในสวรรค์สีเหลือง แต่เขายังสามารถเก็บพวกมันไว้ใช้งาน

 

‘อย่างไรก็ตาม…ด้วยรากฐานด้านจิตวิญญาณของข้า ข้าสามารถสะกดข่มอสูรปีได้ประมาณหนึ่งร้อยตัวเท่านั้น’ ฟางหยวนประเมิน

 

รากฐานด้านจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่ง แต่อย่าลืมว่าเขามีฝูงอินทรีย์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง

 

‘ข้าควรขายอินทรีย์เหล่านี้ออกไปหรือไม่?’ ฟางหยวนลังเล แต่ในเวลานี้ร่างกายของเขากลับสั่นสะท้านขึ้น

 

กลิ่นอายที่ทรงพลังปะทุออกมาจากสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาที่อยู่ข้างหลังเขา

 

‘อสูรปีแรกกำเนิด! มันถูกดึงดูดมาที่นี่โดยวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ!’ ฟางหยวนเข้าใจทันที

 

ฟางหยวนไม่ได้เก็บวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำไว้ในมิติช่องว่างของเขา ดังนั้นวิญญาณอมตะดวงนี้จึงดึงดูดอสูรปีแรกกำเนิดมาที่นี่

 

หลังจากสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอสูรปีแรกกำเนิด อสูรปีในสนามรบก็เริ่มคลั่ง พวกมันกล้าหาญมากขึ้น

 

ฟงจิวเก้อรู้สึกถึงแรงกดดันและความยากลำบากที่เพิ่มสูงขึ้น

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่กรงเล็กพยัคฆ์ขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา

 

มันสร้างคลื่นลูกใหญ่ขึ้นในแม่น้ำ กรงเล็บพยัคฆ์พุ่งเข้ามาหาฟางหยวน

 

แต่ฟางหยวนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เขาเก็บวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำรวมถึงสมาชิกนิกายเงากลับเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ เมื่อกรงเล็บพยัคฆ์มาถึง เขาก็บินออกไปแล้ว

 

กรงเล็บพยัคฆ์ทำลายค่ายกลวิญญาณที่ฟางหยวนสร้างขึ้นอย่างง่ายดาย

 

“โฮก…”

 

อสูรปีขาลแรกกำเนิดตระหนักว่าวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำกำลังจะจากไป ดังนั้นมันจึงส่งเสียงคำรามราวกับเสียงฟ้าร้องออกมา

 

คลื่นขนาดใหญ่ซัดสาดออกมาจากสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา อสูรปีขาลแรกกำเนิดต้องการออกจากสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา แต่ร่างกายของมันใหญ่โตเกินไปขณะที่สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเล็กเกินไปสำหรับมัน

 

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา มันพยายามใช้กรงเล็บพยัคฆ์เพื่อเปิดเส้นทาง

 

สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

จุดทรัพยากรบนเส้นทางแห่งกาลเวลาแห่งนี้ถูกทำลาย แม้ขนาดของมันจะขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า แต่มันก็สูญเสียเสถียรภาพ ไม่นานหลังจากนี้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาแห่งนี้จะไหลกลับไปยังแม่น้ำสายหลัก

 

แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบต่ออสูรปีแรกกำเนิด มันไม่สนใจเรื่องนี้

 

ฟงจิวเก้อเห็นฟางหยวนเข้ามาใกล้และเริ่มระวังตัวมากขึ้น

 

อสูรปีแรกกำเนิดไล่ล่าฟางหยวนมาจากด้านหลัง สถานการณ์ของเขาดูเหมือนอันตรายแต่เขากลับเผยรอยยิ้มมั่นใจ

 

เขาไม่ได้ใช้เกราะหวนคืนแต่กระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะระดับแปดปีไหลผ่านราวกับสายน้ำอีกครั้ง

 

‘ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะระดับแปด!’ รูม่านตาของฟงจิวเก้อหดเล็กลง

 

แต่เขาไม่แปลกใจ ฟางหยวนได้รับมรดกของนิกายเงา เป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีสมบัติเช่นนี้

 

‘ข้าต้องการกำจัดผู้ไล่ล่าจากวังสวรรค์ทั้งหมด แต่น่าเสียดายที่มีเพียงฟงจิวเก้อเท่านั้นที่มาที่นี่!’ ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชาขณะที่แสงสีขาวส่องประกายออกมาจากวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ

 

อุโมงค์ที่มืดมิดถูกเติมเต็มด้วยแสงสว่าง

 

ค่ายกลวิญญาณถูกกระตุ้นใช้งานในที่สุด

 

“นี่คือ?” ฟงจิวเก้อพบว่าเขาติดอยู่ในค่ายกลวิญญาณ ก่อนหน้านี้มันถูกซ่อนไว้อย่างไร้ที่ติ

 

วิญญาณอมตะระดับแปดปีไหลผ่านราวกับสายน้ำเป็นแกนกลางของค่ายกลวิญญาณนี้

 

ฟงจิวเก้อเฝ้าระวังแต่ดูเหมือนพลังอำนาจของค่ายกลวิญญาณนี้จะไม่ได้มุ่งเป้ามาที่เขา

 

ราวกับเขื่อนที่สะสมน้ำมานานหลายปีปล่อยน้ำออกมาอย่างกะทันหัน สาขาของสายธารแห่งกาลเวลากลายเป็นแม่น้ำที่โหมกระหน่ำในเวลาเพียงเสี้ยวพริบตา

 

ปรากฏว่าเป้าหมายที่แท้จริงของค่ายกลวิญญาณนี้คือสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา!

 

ฟงจิวเก้อกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

 

ตอนนี้สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาดูเหมือนแม่น้ำสายหลักเป็นอย่างมาก

 

น้ำในแม่น้ำสร้างคลื่นขนาดใหญ่ขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง

 

คลื่นน้ำพุ่งเข้ากลืนกินฟางหยวนก่อนจะเคลื่อนที่เข้าไปหาฟงจิวเก้อ

 

ฟงจิวเก้อต้องการหลบหนี แม้จะมีอสูรปีอยู่มากมาย แต่พวกมันไม่สามารถกีดขวางเขา

 

อย่างไรก็ตามสายธารแห่งกาลเวลาไม่สามารถทำความเข้าใจได้ด้วยตรรกะทั่วไป

 

‘เร็วมาก!’

 

ฟงจิวเก้อตื่นตระหนก เขาพบว่าคลื่นน้ำอยู่เหนือศีรษะของเขาแล้ว

 

สายธารแห่งกาลเวลาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของสวรรค์พิภพบนเส้นทางแห่งกาลเวลา มันไม่มีแนวคิดเรื่องความเร็วของการไหล มีเพียงเวลาเท่านั้นที่สำคัญ

 

มวลน้ำในสายธารแห่งกาลเวลาต้องการเวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้นเพื่อเดินทางข้ามระยะทางสิบล้านลี้หรืออาจใช้เวลาหนึ่งล้านปีในการเดินทางเพียงหนึ่งนิ้ว

 

‘ข้าไม่สามารถหลบหนีจากมัน…’ ฟงจิวเก้อเข้าใจเรื่องนี้ทันทีและเร่งกระตุ้นใช้วิธีป้องกันตัวของตนเอง

 

ร่างของฟงจิวเก้อจมลงไปใต้น้ำอย่างสมบูรณ์

 

แต่ฟางหยวนสามารถโผล่ขึ้นมาจากแม่น้ำโดยใช้พลังอำนาจของค่ายกลวิญญาณ

 

‘ค่ายกลวิญญาณปล่อยน้ำ หยุด!’

 

ฟางหยวนตะโกนอยู่ในใจขณะที่ค่ายกลวิญญาณแยกออกจากกัน

 

โดยปราศจากค่ายกลวิญญาณปล่อยนน้ำ สายธารแห่งกาลเวลาจะถูกดึงกลับไปยังแม่น้ำสายหลักของมันทันที

 

เนื่องจากก่อนหน้านี้คลื่นน้ำที่ท่วมท้นออกมาเกินขีดจำกัดของแม่น้ำสาขาย่อย ดังนั้นมันจึงดึงมวลน้ำจากแม่น้ำสายหลักออกมา

 

ตอนนี้มันไม่ใช่พลังของค่ายกลวิญญาณอีกต่อไปแต่เป็นพลังอำนาจของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพสายธารแห่งกาลเวลาที่ดึงมวลน้ำกลับสู่สภาพเดิม

 

“ครืน…ครืน…”

 

ด้วยแรงดึงที่รุนแรง ฟงจิวเก้อถูกกวาดไปยังแม่น้ำสายหลัก กระทั่งอสูรปีขาลแรกกำเนิดที่ต้องการออกมายังถูกดึงกลับไปเช่นกัน

 

หลังจากไม่กี่ลมหายใจ สายธารแห่งกาลเวลาก็หายไปอย่างสมบูรณ์ มีเพียงระลอกคลื่นเล็กๆของกาลเวลาเท่านั้นที่ยังสั่นสะเทือนอยู่อย่างเงียบๆและแผ่วเบา

 

กองทัพอสูรปีในสนามรบถูกดึงกลับสู่สายธารแห่งกาลเวลาทั้งหมด

 

“ลาก่อน ฟงจิวเก้อ” ฟางหยวนกล่าวเบาๆก่อนจะบินออกจากสถานที่แห่งนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด