Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1489 เลี้ยงดูมนุษย์กลายพันธุ์

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1489 เลี้ยงดูมนุษย์กลายพันธุ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1489 เลี้ยงดูมนุษย์กลายพันธุ์

แปลโดย iPAT  

 

บ่อน้ำแห่งหนึ่ง

 

เมืองจิ๋ว!

 

ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับมันและวางเมืองจิ๋วไว้ในภาคกลางน้อย

 

หลังจากภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และแม่น้ำหวนคืน เมืองจิ๋วคือแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพลำดับที่สี่ของฟางหยวน

 

ตลอดระยะเวลาอันยาวนานในประวัติศาสตร์ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถรวบรวมแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพทั้งสี่

 

เมืองจิ๋วปรากฏอยู่ในตำนานมนุษย์คนแรก มันเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่ามนุษย์จิ๋ว

 

ตอนนี้เมืองเล็กๆที่อยู่ในบ่อน้ำถูกทำลายไปแล้วโดยฟางหยวน เดิมทีมีภูเขาน้อยอยู่ภายใน แต่มันถูกนำออกจากเมืองจิ๋วและถูกทำลายที่ภาคเหนือ

 

อย่างไรก็ตามภายในบ่อน้ำไม่ได้ว่างเปล่า มันเต็มไปด้วยแดนศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก

 

เจ้าของแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้คือผู้คนที่ฟางหยวนสังหารโดยใช้ประโยชน์จากเมืองจิ๋ว

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งถูกฟางหยวนปล้นสะดมทรัพยากรไปแล้ว แต่ยังมีอีกหลายแห่งที่เหลืออยู่

 

‘ตอนนี้ข้ามีท่าไม้ตายอมตะแสงโลหิตปราบวิญญาณ ข้าสามารถกำหราบจิตวิญญาณแผ่นดิน แต่โดยปราศจากอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด ข้าก็ไม่สามารถเข้าไปได้’

 

ฟางหยวนไม่สามารถเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นในขณะนี้

 

‘หากข้าสามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้และนำทรัพยากรออกมา ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของข้าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มิติช่องว่างจักรพรรดิจะพัฒนาขึ้นเช่นกัน’

 

นี่เป็นผลประโยชน์มหาศาลที่ฟางหยวนยังไม่สามารถกลืนกิน แต่มันเป็นของเขาแล้ว มีโอกาสน้อยมากที่พวกมันจะถูกขโมยไป

 

‘นอกจากแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เมืองจิ๋วก็เป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถประเมิน’

 

ด้วยการคงอยู่ของเมืองจิ๋ว ฟางหยวนสามารถเลี้ยงดูมนุษย์กลายพันธุ์หรือกระทั่งมนุษย์

 

นี่เป็นสิ่งที่ดี

 

การพัฒนามิติช่องว่างมีเจ็ดขั้นตอน

 

ขั้นตอนที่หนึ่งคือการผลิตทรัพยากรระดับมนุษย์ สัตว์ และพืชทั่วไป

 

ขั้นตอนที่สองคือการผลิตทรัพยากรอมตะเพื่อเลี้ยงดูวิญญาณอมตะ

 

ขั้นตอนที่สามคือการเพาะเลี้ยงสัตว์อสูรหรือพืชอสูรเพื่อสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์

 

ขั้นตอนที่สี่คือการผลิตทรัพยากรอมตะ สัตว์อสูร หรือพืชอสูรเพื่อค้าขายทำกำไร

 

ขั้นตอนที่ห้าคือการสร้างวิญญาณอมตะตามธรรมชาติขึ้นในมิติช่องว่าง

 

ขั้นตอนที่หกคือการเลี้ยงดูมนุษย์กลายพันธุ์หรือมนุษย์และผลิตผู้อมตะ

 

ขั้นตอนที่เจ็ดคือการสร้างวิญญาณอายุยืน

 

เจ็ดขั้นตอนเกิดจากการรวบรวมประสบการณ์ของผู้อมตะจากอดีตจนถึงปัจจุบัน มันเป็นกฎทองคำในการบ่มเพาะของผู้อมตะ

 

ไม่ใช่ว่าผู้อมตะจะไม่สามารถเลี้ยงดูมนุษย์กลายพันธุ์หรือมนุษย์ในมิติช่องว่างได้ตั้งแต่เริ่มต้น แต่หากพวกเขาทำเช่นนั้น ผลลัพธ์จะไม่ดีที่สุดและจะทำให้พวกเขาสูญเสียรากฐานของตนเอง

 

การพัฒนามิติช่องว่างควรเป็นไปตามขั้นตอนทั้งเจ็ดตามลำดับ มันถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยอัจฉริยะในแต่ละรุ่น หากปฏิบัติตามแผนการนี้ มิติช่องว่างของพวกเขาจะมั่นคงแข็งแรง

 

ฟางหยวนอยู่ในขั้นตอนที่สามและสี่ เขายังห่างไกลจากขั้นตอนที่ห้า

 

แต่ตอนนี้เขามีเมืองจิ๋ว เขาสามารถก้าวเข้าสู่ขั้นตอนที่หกได้โดยตรง

 

เมืองจิ๋วทำให้ผู้อมตะสามารถก้าวเข้าสู่ขั้นตอนการเลี้ยงดูมนุษย์กลายพันธุ์หรือมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย

 

ข้อดีของการเลี้ยงมนุษย์กลายพันธุ์หรือมนุษย์มีมากมาย

 

ผลประโยชน์ของมันมหาศาลเกินไป

 

เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์หรือเผ่ามนุษย์ล้วนมีทรัพยากรเฉพาะตัวของตนเอง

 

ตัวอย่างเช่น เผ่ามนุษย์หิมะมีไข่มุกน้ำแข็ง แก่นแท้บัวหิมะ เผ่ามนุษย์หินมีมังกรหิน ขณะที่เผ่ามนุษย์วิหคมีวิญญาณอิสรภาพ

 

หากทรัพยากรเหล่านี้ถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ผู้อมตะสามารถขายพวกมันในตลาดเพื่อทำกำไร

 

นอกจากทรัพยากรพิเศษเหล่านี้ยังมีทรัพยากรทั่วไป

 

นั่นคือปราณมนุษย์!

 

ปราณสวรรค์ ปราณพิภพ ปราณมนุษย์

 

การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะต้องสร้างสมดุลระหว่างปราณทั้งสาม

 

ยิ่งมีปราณมนุษย์มากเท่าใด รากฐานและคุณภาพของมิติช่องว่างของผู้อมตะก็ยิ่งดีมากเท่านั้น

 

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ ปราณทั้งสามจะลดลงอย่างมาก ผู้อมตะจำเป็นต้องสร้างสมดุลให้พวกมันเพื่อรักษาเสถียรภาพของมิติช่องว่างเป็นครั้งคราว

 

อาจกล่าวได้ว่าปราณมนุษย์มีความสำคัญสำหรับผู้อมตะมากที่สุด

 

ผู้อมตะสามารถดูดซับปราณสวรรค์พิภพได้ด้วยการวางมิติช่องว่างลง แต่ปราณมนุษย์เป็นเรื่องยากที่จะได้รับ

 

ปราณมนุษย์ยังสามารถใช้เป็นวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณโดยเฉพาะวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ

 

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์หรือมนุษย์ พวกเขาล้วนสามารถผลิตปราณมนุษย์

 

ยิ่งจำนวนและความแข็งแกร่งของพวกเขาสูงเท่าใด พวกเขาก็สามารถผลิตปราณมนุษย์ได้มากเท่านั้น

 

แน่นอนว่าในสถานการณ์เดียวกันมนุษย์กลายพันธุ์จะผลิตปราณมนุษย์ได้น้อยกว่ามนุษย์ที่แท้จริง

 

นอกจากปราณมนุษย์ มนุษย์กลายพันธุ์และมนุษย์ยังสามารถผลิตทรัพยากรอมตะชนิดพิเศษเช่นประตูวายุ

 

ประตูวายุเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดที่จะเติบโตขึ้นบนประตูบ้านของมนุษย์เท่านั้น เมื่อใดก็ตามที่ทรัพยากรอมตะชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้น ประตูบ้านของมนุษย์จะไม่สามารถปิดได้ มันจะเปิดอยู่เสมอ

 

ทรัพยากรชนิดนี้จะไม่สามารถพบเห็นได้ในถิ่นทุรกันดารที่ปราศจากการดำรงอยู่ของมนุษย์

 

‘มีสมมติฐานในมรดกของนิกายเงา’

 

‘ยิ่งมีปราณมนุษย์สะสมอยู่มากเท่าใด โอกาสที่ผู้อมตะจะสามารถเข้าใจความหมายอันลึกซึ้งบนเส้นทางมนุษย์ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น’

 

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ดวงตาของฟางหยวนก็ส่องประกายขึ้น

 

เส้นทางมนุษย์!

 

นี่คือเส้นทางที่มนุษย์คนแรกสร้างขึ้น

 

ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานมีผู้อมตะระดับแปดหรือระดับเก้าบางคนเข้าใจความหมายบางอย่างที่แฝงอยู่ในตำนานมนุษย์คนแรก

 

ตัวอย่างเช่น เทพอมตะตะวันเดือดศึกษาตำนานมนุษย์คนแรกกระทั่งสามารถสร้างมรดกโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและโชคแห่งสวรรค์พิภพ

 

ช่ายฝูบรรพบุรุษของตระกูลช่ายแห่งภาคใต้สามารถสร้างท่าไม้ตายบนเส้นทางมนุษย์จากการอ่านตำนานมนุษย์คนแรกและทำให้ตระกูลช่ายกลายเป็นกองกำลังใหญ่ที่ทรงอิทธิพลมาจนถึงปัจจุบัน

 

กรณีดังกล่าวพบเห็นได้ทั่วไป

 

‘ในสถานการณ์ของข้า หากข้าเริ่มเลี้ยงดูมนุษย์กลายพันธุ์หรือมนุษย์ มันจะทำลายสภาพแวดล้อมในมิติช่องว่างของข้า ข้าจะสูญเสียรากฐาน’

 

‘แต่ด้วยการคงอยู่ของเมืองจิ๋ว ข้าสามารถเลี้ยงดูพวกเขาแยกออกจากมิติช่องว่างของข้า นอกจากนี้การเลี้ยงดูมนุษย์กลายพันธุ์หรือมนุษย์ในเมืองจิ๋วยังมีประสิทธิภาพมากกว่าปกติเพราะมันเป็นสภาพแวดล้อมพิเศษ’

 

‘ลืมมนุษย์ไปก่อน สติปัญญาของพวกเขาสูงเกินไป นอกจากนั้นพวกเขายังใช้ทรัพยากรมากเกินไป ตอนนี้ข้าควรเลือกเลี้ยงมนุษย์กลายพันธุ์’

 

มีมนุษย์กลายพันธุ์มากกว่าสิบชนิดอยู่บนโลกใบนี้

 

ตัวอย่างเช่น มนุษย์ขน มนุษย์หิน มนุษย์หิมะ มนุษย์วิหค มนุษย์เงือก มนุษย์หมึก มนุษย์ไข่ มนุษย์อสูร และมนุษย์เห็ด

 

แต่ละชนิดมีความพิเศษเฉพาะตัวของพวกมันเอง

 

‘ข้าควรเลือกเผ่าพันธุ์ใด?’ ฟางหยวนยังไม่ได้ตัดสินใจ

 

มีเมืองจิ๋วเพียงเมืองเดียว ดังนัน้เขาจึงสามารถเลือกเลี้ยงดูได้เพียงเผ่าพันธุ์เดียว เนื่องจากมนุษย์กลายพันธุ์แต่ละเผ่าพันธุ์ต้องการสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตที่แตกต่างกัน การเลี้ยงดูมากกว่าหนึ่งเผ่าพันธุ์ในสถานที่เดียวกันจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี

 

‘ลืมมนุษย์อสูรไปได้เลย พวกมันสูญพันธุ์ไปแล้ว’

 

‘มนุษย์ขน? มนุษย์ขนสามารถหลอมรวมวิญญาณให้ข้า’

 

‘มนุษย์หิน? ข้าเคยเลี้ยงดูมนุษย์หินมาก่อน ด้วยวิญญาณความเด็ดเดี่ยว ข้าสามารถเลี้ยงพวกมันได้อย่างง่ายดาย’

 

‘มนุษย์หิมะก็ดีเช่นกัน ตอนนี้ข้ามีความสัมพันธ์กับพวกเขาผ่านการแต่งงาน เผ่ามนุษย์หิมะกำลังสนับสนุนข้า’

 

‘สำหรับเผ่ามนุษย์จิ๋ว พวกเขาเหมาะสมกับเมืองจิ๋วตั้งแต่เริ่มต้น พวกเขาจะทำให้พืชพรรณในมิติช่องว่างของข้าเจริญเติบโตได้ดี’

 

‘ส่วนมนุษย์วิหค มนุษย์เงือก มนุษย์หมึก และมนุษย์เห็ด ทุกเผ่าพันธุ์ล้วนมีประโยชน์ต่อข้าทั้งสิ้น’

 

ฟางหยวนคิดและยังไม่มีคำตอบให้กับตนเอง

 

แต่ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนน

 

เพราะกระทั่งเขาจะต้องการทำ เขาก็ยังไม่มีเงินทุนที่จะเริ่มต้นโครงการขนาดใหญ่ในตอนนี้

 

คลังเก็บหินวิญญาณอมตะของเขายังอยู่ในระดับต่ำ

 

โชคดีที่เขามีลูกพลัมแดงอมตะมากมาย

 

นี่เป็นเพราะเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิที่ไหลเร็วขึ้น

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถสะสมลูกพลัมแดงอมตะได้อย่างรวดเร็ว

 

‘ในการเดินทางไปยังทะเลตะวันออกครั้งนี้ ข้าได้รับเมืองจิ๋วและสามารถกำจัดโหยว่ชาน ข้าไม่มีคู่แข่งในธุรกิจปลามังกรอีกต่อไป ตราบเท่าที่ข้ายังสามารถขายปลามังกร ปัญหาทางการเงินของข้าจะคลี่คลายลงในไม่ช้า’

 

‘สิ่งสำคัญในตอนนี้คืออาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์!’

 

ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับมันและบินลงบนพื้นทราย

 

กลางทะเลทรายที่ร้อนระอุ ผู้อมตะผู้หนึ่งกำลังยืนรออยู่

 

เขาเผยรอยยิ้มและป้องหมัดขึ้นทักทายฟางหยวน “ถังฟางหมิงคารวะท่านฟางหยวน”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด