Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1527 การต่อสู้ของระดับแปด

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1527 การต่อสู้ของระดับแปด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1527 การต่อสู้ของระดับแปด

แปลโดย iPAT  

 

“บึม บึม บึม…”

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลฟางปลดปล่อยพลังของพวกเขาและโจมตีเฉินอี้

 

สายฟ้าแลบลั่น แสงสว่างส่องประกายไปทั่ววังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

กระแสลมกรรโชกแรง แต่เฉินอี้ยังยืนยิ่งโดยไม่ขยับเขยื้อน

 

ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยเปลือกไม้และไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของผู้อมตะตระกูลฟาง

 

“การป้องกันแข็งแกร่งนัก!” ไม่เพียงผู้อมตะระดับเจ็ดที่ตกใจ กระทั่งรูม่านตาของฟางตี้เฉิงยังหดเล็กลง

 

“เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดชั้นแนวหน้า โจมตีต่อไป!” ผู้อมตะตระกูลฟางไม่รู้สึกหดหู่ ฟางฮั่วเฉิงตะโกนและนำสมาชิกตระกูลฟางโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง

 

“บึม บึม บึม”

 

เฉินอี้ไม่สามารถหลบหรือหลีกหนี เขารับการโจมตีทั้งหมดเอาไว้โดยตรง

 

หลังจากการระเบิดจบลง ร่างกายของเขายังถูกปกคลุมไปด้วยเปลือกไม้และกระทั่งแน่นหนากว่าก่อนหน้า

 

ฟางตี้เฉิงหรี่ตามอง ในที่สุดเขาก็จดจำเฉินอี้ได้ “ดังนั้นเจ้าก็คือผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ เฉินอี้ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้ามีวิธีป้องกันที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี้”

 

เฉินอี้ ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งจากหนึ่งในสิบนิกายโบราณของภาคกลาง!

 

แม้ตระกูลฟางจะอยู่ในทะเลทรายตะวันตก แต่พวกเขาก็มีข้อมูลเกี่ยวกับภูมิภาคอื่น

 

เมื่อตระหนักถึงตัวตนของเฉินอี้จากฟางตี้เฉิง หัวใจของผู้อมตะตระกูลฟางก็จมดิ่งลง

 

พวกเขารู้สึกกดดัน

 

ชื่อเสียงของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ทำให้ขวัญกำลังใจของผู้อมตะตระกูลฟางตกต่ำลง

 

“วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เป็นของบรรพชนบัวสวรรค์ แต่ตระกูลฟางกลับต้องการฉกชิงมันโดยไม่แยแสต่อภาคกลางงั้นหรือ?” เฉินอี้กล่าวเย้ยหยัน

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลฟางมองหน้ากัน พวกเขาตกตะลึงกับทัศนคติของเฉินอี้

 

“ฮืม เทพอมตะบัวสวรรค์ทิ้งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ไว้ในทะเลทรายตะวันตก นั่นหมายความว่ามันเป็นของทะเลทรายตะวันตก เจ้าเป็นเพียงผู้สืบทอด เจ้ากล้าดีอย่างไรมาบิดเบือนการตัดสินใจของบรรพชนของตนเอง?” ฟางตี้เฉิงหัวเราะคิกคัก เขามีความเชี่ยวชาญในการโต้เถียงในฐานะปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญา เขาจะไม่พ่ายแพ้ในการต่อสู้เช่นนี้

 

เฉินอี้หัวเราะ “ไร้ประโยชน์ ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันของข้าเรียกว่าเกราะเปลือกไม้ ยิ่งการโจมตีทรงพลังเท่าใด มันก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น หากไม่ทำลายมันในครั้งเดียว มันจะแข็งแกร่งขึ้น!”

 

เฉินอี้เปิดเผยท่าไม้ตายของตนเองออกมาโดยตรงแต่ถ้อยคำของเขาก็ทำให้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของศัตรูลดลง

 

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้กลับเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น

 

เสียงแหบแห้งดังขึ้นอย่างกะทันหัน “ให้ตาแก่ผู้นี้ลองดู”

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดผู้หนึ่งก้าวออกไปข้างหน้า

 

รูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนจากเด็กหนุ่มเป็นชายชรากล้ามโตและมีเส้นผมสีขาว เขายกกำปั้นขึ้นและชกไปที่ใบหน้าของเฉินอี้อย่างรวดเร็ว

 

หัวใจของเฉินอี้เต้นแรงขึ้น เขารู้สึกถึงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งจากหมัดที่พุ่งเข้ามา

 

การแสดงออกของเฉินอี้เปลี่ยนไป เขาไม่สามารถหลบและต้องรับมันไว้เท่านั้น

 

หมัดปะทะใบหน้าของเฉินอี้ด้วยพละกำลังอันน่าสะพรึงกลัว

 

เฉินอี้ถูกส่งลอยออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่และพุ่งชนกำแพงวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่ล้มลงบนพื้นแต่ถูกฝังไว้ในผนัง

 

“พรวด!”

 

เฉินอี้กระอักเลือดออกมา ศีรษะของเขาแทบพังทลาย แต่แสงสีเขียวก็ส่องประกายขึ้นบนร่างของเขาและรักษาอาการบาดเจ็บของเขาอย่างรวดเร็ว

 

สำหรับท่าไม้ตายเกราะเปลือกไม้ มันถูกชายชราผู้นี้ทุบทำลายในหมัดเดียว

 

“ฟางกง ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลฟาง ผู้อมตะระดับแปด เจ้ากลับลอบโจมตี ช่างไร้ยางอายนัก!” เฉินอี้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

 

เขาเปิดเผยตัวตนของชายชราผู้นี้ทันที

 

ฟางกง ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลฟาง!

 

‘ฟางกงบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง ท่ามกลางผู้อมตะระดับแปดของห้าภูมิภาค เขาเป็นตัวตนที่หาได้ยาก’

 

‘คนผู้นี้ปกปิดตัวเองได้อย่างแนบเนียน เขาอยู่กับพวกเรามาตลอด ตระกูลฟางช่างมุ่งมั่นนัก พวกเขากระทั่งนำผู้อมตะระดับแปดมาที่นี่ด้วย!’

 

‘ก่อนหน้านี้การโจมตีระดับเจ็ดเป็นเพียงการล่อลวง นี่ต้องเป็นแผนการของฟางตี้เฉิงอย่างแน่นอน’

 

ฟางหยวนที่เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ค่อนข้างตกใจกับเรื่องนี้

 

ผู้อมตะระดับแปดของตระกูลฟางปดปิดตัวตนและใช้วิธีลอบโจมตี นี่เป็นเรื่องไร้ยางอายเกินไปจริงๆ

 

หากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ชื่อเสียงของพวกเขาจะถูกทำลาย

 

แต่การลอบโจมตีของตระกูลฟางก็มีประสิทธิภาพมาก มันทำให้สถานการณ์พลิกกลับทันที

 

ทางตันถูกทำลาย

 

ตอนนี้ตระกูลฟางกลายเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์

 

เฉินอี้สูญเสียการควบคุมวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ไปครึ่งหนึ่ง นี่ทำให้เขารู้สึกแย่มาก

 

แต่เขายังมีโอกาส อาการบาดเจ็บของเขาไม่รุนแรงนัก

 

เกราะเปลือกไม้ของเฉินอี้พังทลาย แต่เขายังสามารถใช้ท่าไม้ตายของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เพื่อโอนย้ายความเสียหายของตนเองไปที่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

“ครืน…”

 

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เกิดรอยแตกร้าวขึ้นบนผนังและลุกลามไปถึงหลังคา

 

เสาขนาดใหญ่หลายต้นแตกหักและกลายเป็นกองซากศพของวิญญาณจำนวนมาก

 

หัวใจของฟางหยวนเต้นแรงขึ้น เขาคิด ‘การโจมตีของฟางกงช่างทรงพลังนัก แม้มันจะดูเหมือนการชกทั่วไป แต่แท้จริงแล้วมันปกปิดกลิ่นอายเอาไว้ ดังนั้นความเสียหายที่เฉินอี้ได้รับจึงถูกส่งต่อไปยังวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์’

 

ฟางหยวนยังคิดต่อ ‘แน่นอนว่านี่เป็นเพราะวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ใช้วิธีป้องกันตัวใดๆ มันถูกโจมตีจากภายใน ดังนั้นความเสียหายของมันจึงรุนแรงขึ้นระดับนี้’

 

“โฮก…”

 

ขณะที่เสาขนาดใหญ่ของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์พังทลายลง เสียงคำรามของชิงโจวก็ดังขึ้น

 

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ดังนั้นชิงโจวที่ถูกกำหราบจึงได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้เช่นกัน

 

มันเงยหน้าและพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง

 

“หุบปาก!” ฟางกงขมวดคิ้วและกระโดดไปทางชิงโจว

 

ชิงโจวคำรามและเผชิญหน้ากับฟางกง

 

“บึม!”

 

ทั้งสองปะทะกัน ชิงโจวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อร่างที่เหมือนภูเขาของมันถูกส่งลอยห่างออกไปโดยฟางกงที่ดูเหมือนมด

 

ฟางกงสูดหายใจก่อนจะกระโดดไปข้างหน้าอีกครั้ง

 

ชิงโจวเป็นอสูรวิญญาณแรกกำเนิดในตำนาน แต่มันกลับพ่ายแพ้การต่อสู้ทางกายภาพ

 

‘ผู้ใดเป็นสัตว์ประหลาดในตำนานกันแน่?’ ฟางหยวนตกตะลึง

 

เฉินอี้ขมวดคิ้วคิด ‘ฟางกงช่างทรงพลังนัก ข้าไม่สามารถปล่อยให้เขาควบคุมสถานการณ์!’

 

“รับการโจมตีของข้า!” เฉินอี้เข้าร่วมการต่อสู้และสนับสนุนชิงโจว

 

ฟางกงสามารถปราบปรามชิงโจวแต่การแทรกแซงของเฉินอี้ทำให้ความได้เปรียบของเขาหายไป

 

หากเฉินอี้ร่วมมือกับชิงโจว ฟางกงจะไม่สามารถแข่งขันกับพวกเขา

 

‘ฟางกงบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง เขามีข้อได้เปรียบอย่างมากในสนามรบนี้ สำหรับข้า ข้าสามารถปลดปล่อยทักษะของข้าได้เพียงหกสิบส่วนเท่านั้น’

 

เฉินอี้รู้สึกขมขื่น

 

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ในการต่อสู้ของตัวตนระดับแปด ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าแทรกแซง

 

ความแตกต่างระหว่างระดับเจ็ดกับระดับแปดยิ่งใหญ่เกินไป

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลฟางต้องล่าถอยออกมาที่เขาวงกตดอกท้อ

 

ด้านหนึ่งพวกเขาต่อสู้กับผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์ ในทางกลับกันพวกเขายังต้องกำจัดอสูรวิญญาณจำนวนมาก

 

‘สถานการณ์ค่อนข้างเลวร้าย!’ การแสดงออกของฟางตี้เฉิงกลายเป็นน่าเกลียด ‘เขตแดนเขาวงกตดอกท้อกำลังจะพังทลาย อสูรวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังวิ่งมาที่นี่ พวกมันมีมากเกินไป แต่ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งยังต่อสู้อยู่ภายใน ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไร?’

 

แม้ฟางตี้เฉิงจะเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่เขาก็ยังเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด เขาไม่สามารถแก้ปัญหานี้

 

เมื่อเวลาผ่านไป การวิเคราะห์ของฟางตี้เฉิงก็กลายเป็นความจริง

 

เขาวงกตดอกท้ออ่อนแอลงเรื่อยๆ ช่องโหว่เริ่มปรากฏขึ้นในบางพื้นที่และสามารถมองเห็นทะเลทรายที่อยู่ด้านนอก

 

อสูรวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเรียกมาโดยวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปด

 

ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์รู้สึกกดดันมาก พวกเขาไม่กล้าจากไปและทำได้เพียงป้องกันตัวเองเท่านั้น

 

‘สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์’ ฟางหยวนเปิดเปลือกตาและค่อยๆลุกขึ้นยืน เขาเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจน

 

ภายในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ผู้อมตะระดับแปดสมคนกำลังต่อสู้กันอยู่

 

ชิงโจวคำราม ฟางกงเคร่งขรึม เฉินอี้ขมขื่น

 

แม้พวกเขาจะยับยั้งพลังทำลายล้างของตนเองเอาไว้ แต่มันยังส่งผลกระทบต่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และทำให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้กำลังจะแตกสลาย

 

หากวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์พังทลายลง แล้วพวกเขาจะต่อสู้กันเพื่อสิ่งใด? สิ่งที่พวกเขาต้องการมีเพียงวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์!

 

“ข้าจะช่วยตระกูลฟางของเจ้าให้ได้รับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยวนกล่าวกับฟางตี้เฉิง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด