Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1543 ฝ่ายธรรมะของมนุษย์

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1543 ฝ่ายธรรมะของมนุษย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1543 ฝ่ายธรรมะของมนุษย์

แปลโดย iPAT  

 

ภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

“หากต้องการฆ่าข้า เจ้าต้องจ่ายค่าตอบแทน!” ผู้อมตะระดับเจ็ดของภาคกลางตะโกน เขารู้ว่าเขาไม่สามารถหลบหนีจากยักษ์สวรรค์ ดังนั้นเขาจึงต้องการต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย

 

ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังทำให้ยักษ์สวรรค์ถอยหลังไปหลายก้าว

 

แต่นั่นคือทั้งหมด

 

“ปัง!”

 

ยักษ์สวรรค์ตบมือและเปลี่ยนผู้อมตะระดับเจ็ดผู้นั้นให้กลายเป็นเนื้อบด

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้อมตะภาคกลางคนที่สามตายไปแล้ว!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะอย่างเต็มที่

 

ยักษ์สวรรค์หันหน้ากับไปเย้ยหยันฟงจิวเก้อ “โอ้ ฟงจิวเก้อ แม้เจ้าจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปดแล้วอย่างไร? เจ้าหยุดข้าจากการฆ่าสหายของเจ้าได้หรือไม่? พวกเจ้ากล้าบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาของข้า ข้าจะเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นสุสานของพวกเจ้า!”

 

ฟงจิวเก้อโกรธจัด ยักษ์สวรรค์มีพลังการต่อสู้ระดับแปดที่แท้จริง แม้เขาจะใช้ท่าไม้ตายอมตะเฉพาะตัวของเขา แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดยักษ์สวรรค์จากการสังหารผู้อมตะคนอื่นๆ

 

“ในกรณีนี้ข้าก็ต้องทำมันตอนนี้” การแสดงออกของฟงจิวเก้อกลายเป็นน่ากลัว

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกสังหรณ์ร้าย “เจ้าพยายามทำสิ่งใด?”

 

ฟงจิวเก้อยิ้ม “ไม่มีสิ่งใดพิเศษ ข้าเพียงเลียนแบบเจ้า”

 

เขาบินลงจากทวีปเมฆาและไปยังทวีปผมดำ

 

มนุษย์ขนจำนวนนับไม่ถ้วนที่อาศัยอยู่ที่นั่นไม่รู้ว่าภัยพิบัติกำลังจะมาเยือน

 

“หยุด!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาบังคับยักษ์สวรรค์พุ่งเข้าไปหาฟงจิวเก้ออย่างรวดเร็ว

 

แต่ฟงจิวเก้อใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาทำลายเมืองของมนุษย์ขนทันที มนุษย์ขนหลายหมื่นคนเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ

 

ดวงตาของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เขากรีดร้อง “ฟงจิวเก้อ! เจ้าเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะ เจ้าทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร?”

 

ฟงจิวเก้อเผยรอยยิ้มเย็นชา “ฝ่ายธรรมะของข้าคือฝ่ายธรรมะของมนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์ ตั้งแต่เมื่อใดที่มนุษย์กลายพันธุ์ถือว่าตนเองเท่าเทียมกับมนุษย์เช่นพวกเรา”

 

ฟงจิวเก้อกล่าวขณะบินไปเมืองอื่น

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพยายามหยุดเขา แต่เช่นเดียวกับที่ฟงจิวเก้อไม่สามารถหยุดจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจากการเข่นฆ่าผู้อมตะภาคกลาง เขาไม่สามารถหยุดฟงจิวเก้อจากการสังหารหมู่เผ่ามนุษย์ขน

 

ฟงจิวเก้อไม่สนใจชีวิตของผู้อมตะภาคกลางเหล่านั้นมากนัก พวกเขามาจากต่างนิกายโดยเฉพาะเมื่อทั้งสิบนิกายมีความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง

 

แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาห่วงใยเผ่ามนุษย์ขน เขามีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ต่อเผ่ามนุษย์ขนและมันคือจุดอ่อนของเขา

 

การโจมตีทั้งหมดของฟงจิวเก้อถูกต่อต้านโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา นั่นทำให้ผู้อมตะภาคกลางคนอื่นๆปลอดภัย

 

ขณะที่สถานการณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยากำลังเลวร้าย ที่ภาคใต้ในเขตแดนเขาวงกตโคลนทราย ลั่วเว่ยหยินรู้สึกประหลาดใจ

 

“หือ แปลก แปลกมาก!” เขารู้สึกไม่แน่ใจ “ท่าไม้ตายของข้าเลียนแบบเขตแดนอมตะสนามรบกลับชาติมาเกิด มันใช้เขาวงกตโคลนทรายเป็นรากฐานเพื่อสร้างอาณาจักรแห่งความฝัน มีผู้คนมากมายเข้าร่วมในอาณาจักรแห่งความฝันนี้และพวกเขาล้วนเป็นตัวตนชั้นสูง ความฝันนี้ทรงพลังมาก ข้าทำได้เพียงส่งอิทธิพลต่อมันแต่ไม่สามารถควบคุมมันได้”

 

“ฟางหยวนผู้นี้มีความรักและความผูกพันของครอบครัวอยู่ภายในใจ นอกจากนั้นเขายังมีความปรารถนาในโชคลาภ อำนาจ และความแข็งแกร่ง แต่เหตุใดอาณาจักรแห่งความฝันถึงล้มเหลวในการยับยั้งเขาในตอนท้าย?”

 

มรดกที่แท้จริงแห่งคุณธรรมในอาณาจักรแห่งความฝันไม่ใช่สิ่งที่สมมติขึ้นแบบสุ่ม แต่มันเป็นการจัดเตรียมของลั่วเว่ยหยิน

 

เป้าหมายหลักของเขาคือการบังคับให้ฟางหยวนทำความดีและสะสมคุณธรรมเพื่อเปลี่ยนเขาจากเส้นทางสายปีศาจสู่เส้นทางของสายธรรมะ

 

กระบวนการทั้งหมดประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เมื่อลั่วเว่ยหยินคิดว่าเขาจะประสบความสำเร็จ ฟางหยวนกลับหลุดพ้นจากอาณาจักรแห่งความฝัน

 

สถานการณ์นี้ทำให้ลั่วเว่ยหยินรู้สึกสับสนมาก

 

เขาคิดเกี่ยวกับมันแต่ยังไม่สามารถทำความเข้าใจ

 

“ลืมมันไปซะ แม้ชีวิตหนึ่งจะจบลง แต่ยังเหลืออีกสองชีวิต ข้าจะแก้ไขเจ้าอีกครั้ง” ลั่วเว่ยหยินสูดหายใจลึกขณะที่การแสดงออกของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

 

ชีวิตที่สองในอาณาจักรแห่งความฝันของฟางหยวน เขากลายเป็นนายน้อย

 

ตระกูลของเขาเป็นมหาอำนาจที่ปกครองอาณาเขตอันกว้างใหญ่ ปู่ของเขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง พ่อแม่ของเขาเป็นผู้อมตะทั้งคู่ พวกเขามีอำนาจสูงสุด

 

ในฐานะบุตรชายคนเดียวของครอบครัว ฟางหยวนได้รับการดูแลเป็นอย่างดีตั้งแต่แรกเกิด

 

เขามีความสุขกับโชคลาภและความหรูหราตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อเขาเติบโตขึ้นเป็นวัยรุ่น เขากลายเป็นนายน้อยที่ไร้ค่าอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง

 

แม้เขาจะขี้เกียจมากและไม่ต้องการฝึกฝน แต่ด้วยการสนับสนุนจากครอบครัว พวกเขาใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลเพื่อยกระดับการบ่มเพาะของเขา

 

เมื่อฟางหยวนอายุสิบหกปี แม้เขาจะใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย แต่เขาก็เป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าขั้นสุดยอดไปแล้ว

 

ฟางหยวนลืมตัวตนของเขา เขาลืมความฝันก่อนหน้านี้ เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและไร้กังวล

 

เมื่อเขาคิดว่าชีวิตของเขาจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป ครอบครัวของเขากลับถูกโจมตีโดยจักรพรรดิปีศาจ

 

จักรพรรดิปีศาจผู้นี้มีพลังการต่อสู้กึ่งระดับเก้า เขาแข็งแกร่งและชั่วร้าย ตระกูลของฟางหยวนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

 

ตระกูลใช้จ่ายทรัพยากรจำนวนมหาศาลเพื่อขอความช่วยเหลือจากกองกำลังฝ่ายธรรมะอื่นๆ

 

ในการต่อสู้ครั้งใหญ่ ปู่และพ่อของเขาเสียชีวิต แต่จักรพรรดิปีศาจก็หายตัวไป มีข่าวลือแพร่กระจายออกมาว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตามมันทำให้ชีวิตของฟางหยวนตกต่ำลงอย่างมาก แม่ของเขาไม่สามารถดูแลฐานที่มั่น ในไม่ช้าทั้งคู่ก็ถูกกองกำลังอื่นกวาดล้าง

 

แต่การเอาตัวรอดไม่ใช่ปัญหา เขามีแม่คอยปกป้อง

 

อย่างไรก็ตามไม่กี่ปีต่อมาจักรพรรดิปีศาจก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง สิ่งแรกที่เขาทำคือตามหาตระกูลของฟางหยวนและสังหารสมาชิกทั้งหมด

 

มันเป็นฉากที่น่าอนาถ ฐานที่มั่นของพวกเขากลายเป็นซากปรักหักพัง ซากศพสามารถพบเห็นได้ทุกหนทุกแห่ง

 

สุดท้ายเหลือฟางหยวนเพียงผู้เดียว

 

“ปีศาจ ข้าจะฆ่าเจ้า!” เขาตั้งใจที่จะตายและโจมตีจักรพรรดิปีศาจโดยไม่ลังเล

 

แต่จักรพรรดิปีศาจกลับหัวเราะเย้ยหยัน เขาเป่าฟางหยวนลงไปนอนอยู่บนพื้นด้วยลมหายใจเดียว

 

เขาเหยียบศีรษะฟางหยวนและหัวเราะ “เจ้าหนู เจ้าเกลียดข้าใช่หรือไม่? ข้าสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังอันยิ่งใหญ่ของเจ้า เพราะการเผชิญหน้าของเจ้าในวันนี้เหมือนกับข้าในเวลานั้น ข้าเป็นเพียงมนุษย์ที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของข้า แม้ชีวิตจะยากลำบาก แต่เราก็มีความสุข อย่างไรก็ตามผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลของเจ้ากลับเข่นฆ่าครอบครัวของข้า ข้ารอดชีวิตมาได้และสาบานว่าจะแก้แค้น โชคดีที่สวรรค์ไม่ได้ตาบอด ข้าพบการเผชิญหน้าโดยบังเอิญและกลายเป็นผู้อมตะ ในที่สุดข้าก็สามารถแก้แค้นได้ในวันนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

ฟางหยวนดิ้นรนอย่างหนัก จักรพรรดิปีศาจหัวเราะอย่างมีความสุข ในที่สุดเขาก็เหยียบกะโหลกของฟางหยวนและระเบิดมัน

 

สามวันต่อมา ในถ้ำอันเงียบสงบ ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้น

 

“ข้าไม่ได้ตายไปแล้วงั้นหรือ?” เมื่อเขาตระหนักว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่ เขารู้สึกตกใจมาก

 

แต่ไม่นานภาพบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

 

แม่ของเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะกับเขาอย่างลับๆ ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องนี้

 

“บุตรของข้า ท่าไม้ตายนี้สามารถปกป้องดวงวิญญาณของเจ้าและทำให้เจ้าฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ในอนาคต หากท่าไม้ตายนี้ทำงาน แม่อยากให้เจ้ามีชีวิตที่ดี อย่าแก้แค้นเพื่อพวกเรา” แม่ของเขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น

 

เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนก็หลั่งน้ำตาออกมา

 

เขาเข้าใจแล้วว่าเข้าฟื้นขึ้นมาเพราะแม่ของเขา

 

เขาฟื้นคืนชีพ แต่แม่ของเขาไม่สามารถ นางใช้โอกาสเดียวของนางเพื่อฟางหยวน

 

นี่คือความรักอันยิ่งใหญ่ของผู้เป็นมารดา

 

ฟางหยวนรู้สึกปวดร้าว ความเกลียดชังในหัวใจของเขาสะสมเป็นคลื่นทะเลที่โหมกระหน่ำ

 

หลังจากร้องไห้อยู่ชั่วครู่ ฟางหยวนก็คุกเข่าลงบนพื้น เขาสาบานว่าจะใช้เวลาทั้งชีวิตไม่ว่าเขาจะต้องจ่ายด้วยราคาเท่าใด เขาก็จะกำจัดปีศาจตนนั้นและแก้แค้นให้กับพ่อแม่ พรรคพวก และเพื่อตัวเขาเอง

 

ฟางหยวนเริ่มฝึกฝนตนเองอย่างจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

เขาทำงานหนัก เขานอนหลับน้อยมากและยังกินอาหารอย่างเร่งรีบ

 

หลังจากฟื้นคืนชีพ แม้ร่างกายของเขาจะเปลี่ยนไป แต่พรสวรรค์ของเขาก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถเปรียบเทียบ

 

เขามีมรดกของตระกูลและรากฐานที่อุดมสมบูรณ์

 

ในสถานที่ที่เขาฟื้นคืนชีพ แม่ของเขาทิ้งวิญญาณ์จำนวนมากเอาไว้

 

เขาบ่มเพาะอยู่ในถ้ำอย่างสันโดษ แปดปีต่อมาเขาประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะและได้รับมิติช่องว่างระดับสูง

 

แต่การบ่มเพาะระดับหกยังไม่เพียงพอต่อการกำจัดจักรพรรดิปีศาจ

 

ความปรารถนาที่จะแก้แค้นทำให้เขาเดินหน้าต่อไปด้วยความมุ่งมั่น

 

เขาใช้ทรัพยากรที่แม่ของเขาทิ้งไว้เบื้องหลังและออกผจญภัยไปทั่วโลก

 

ในช่วงเวลานี้เกือบทั้งโลกได้ยอมจำนนต่ออำนาจของจักรพรรดิปีศาจตนนั้นไปแล้ว ในกรณีที่ไม่มีผู้อมตะระดับเก้า เขาก็คือตัวตนอันดับหนึ่ง

 

ฟางหยวนเข้าร่วมกองกำลังต่อต้านปีศาจ

 

แต่จักรพรรดิปีศาจตนนั้นทรงพลังเกินไป ไม่ว่ากองกำลังต่อต้านปีศาจจะมีจำนวนมากเพียงใด พวกเขาก็ยังถูกกวาดล้างไปอย่างรวดเร็ว

 

สถานการณ์ค่อยๆเลวร้ายลง ผู้อมตะจำนวนมากยอมจำนนต่อจักรพรรดิปีศาจและกลายเป็นลูกน้องของเขา

 

ความแข็งแกร่งของฟางหยวนเพิ่มขึ้น แต่กระทั่งเขาจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิปีศาจ

 

เขายังต้องเผชิญหน้ากับลูกน้องของจักรพรรดิปีศาจ เส้นทางการบ่มเพาะของเขายากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ เขาได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง ในหลายสถานการณ์เขาต้องพึ่งพาโชคเพื่อเอาชีวิตรอด เขาผ่านความยากลำบากและความเจ็บปวดมากมาย นั่นทำให้ความเกลียดชังในหัวใจของเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

เมื่อเขามีประสบการณ์มากขึ้น เขาก็เริ่มพูดน้อยลง

 

“อายุขัยของข้าเหลือไม่มากแล้ว” ฟางหยวนมองใบหน้าแก่ชราของเขาที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำและกล่าวด้วยความกังวล

 

“โปรดขายวิญญาณอายุยืนให้ข้า ข้าจะจ่ายด้วยวิญญาณอมตะระดับเจ็ดสามดวง!” เขาพบผู้อมตะผู้หนึ่งที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้

 

แต่ผู้อมตะผู้นี้ส่ายศีรษะ “วิญญาณอายุยืนหายากมาก ข้ามีมันน้อยเกินไป ไม่ว่าเจ้าจะเสนอวิญญาณอมตะมากมายเพียงใด แต่ข้าจะใช้พวกมันได้อย่างไรหากข้าตายไปแล้ว เชิญกลับไป”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด