Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1584 สังหารหมู่

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1584 สังหารหมู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1584 สังหารหมู่

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

“เขตแดนอมตะ…นี่ไม่ใช่เรื่องตลก!”

 

“ท่านฟางหยวน เราอยู่ฝ่ายเดียวกัน!”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก

 

ในโลกยุคปัจจุบัน มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีอํานาจเหนือเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ เผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะเหล่านี้อาศัยอยู่ในแดนน้ําแข็งอย่างสิ้นหวัง พวกเขามีแรงกดดันมหาศาลในการเอาชีวิตรอด ท่ามกลางสภาพแวดล้อมนี้มนุษย์กลายพันธุ์ที่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะถือว่าไม่ใช่คนไร้ประโยชน์

 

หากไม่ใช่เพราะกลิ่นอายระดับเจ็ดและพลังการต่อสู้ระดับแปดของฟางหยวนผู้อมตะ เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ระดับหกเหล่านี้อาจโจมตีไปแล้ว

 

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไป เขามองผู้อมตะระดับเจ็ดคนเดียวที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์และถอนหายใจ “อย่าตกใจ ข้าเป็นพันธมิตรของพวกเจ้า ข้าจะทําร้ายพวกเจ้าได้อย่างไร? แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาแพ้การต่อสู้ มีเพียงข้าที่สามารถหลบหนี เราแพ้เพราะมีคนทรยศในหมู่พวกเรา!”

 

“กระไรนะ!? เราแพ้!?”

 

“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกวังสวรรค์ยึดครองงั้นหรือ?”

 

“เรามีคนทรยศงั้นหรือ?”

 

คํากล่าวของฟางหยวนทําให้กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ตกตะลึง

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดเผ่ามนุษย์หิมะขมวดคิ้วลึก “ท่านฟางหยวน โปรดเปิดเขตแดนอมตะให้พวกเราสื่อสารกับเผ่าของเรา!”

 

แต่ก่อนที่เขาจะกล่าวจบ ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านขึ้น เขากรีดร้อง “วิญญาณอมตะของข้า!”

 

มันเป็นมือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนอีกครั้ง

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆรู้สึกสับสน พวกเขาถามด้วยความเป็นห่วง “ท่านปิงเจา เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

ถูกต้อง ผู้อมตะระดับเจ็ดเผ่ามนุษย์หิมะที่อยู่ดูแลฐานทัพของพวกเขาก็คือปิงเจา เขามีความสัมพันธุ์ที่ค่อนข้างดีกับฟางหยวน ครั้งหนึ่งเขาเคยเชิญฟางหยวนดื่มสุราหมาป่าน้ําแข็งของเขา

 

ปิงเจามองฟางหยวนด้วยความโกรธ เขากําลังจะกรีดร้องแต่ฟางหยวนกลับชี้นิ้วมาที่เขาและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่จริงจัง “เจ้าคือคนทรยศ!”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์รู้สึกตกใจอีกครั้ง

 

“ข้าไม่ใช่คนทรยศ! ฟางหยวน เจ้าขโมยวิญญาณอมตะของข้าและกล่าวหาข้า เจ้ามีเจตนาใด?” ปิงเจาโกรธจัด เขาคว้าอากาศและสร้างหอกน้ําแข็งเอาไว้ในมือ

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชาและกล่าวด้วยความโกรธและโศกเศร้า “ข้ากล่าวความจริง พวกเจ้าได้ยินถูกต้องแล้ว ดูข้อตกลงพันธมิตรไม่ได้ทําสิ่งใดข้า ปิงเจาผู้นี้คือสายลับของวังสวรรค์! ปิงเจาตัวจริงเสียชีวิตไปนานแล้ว!”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆมองหน้ากัน เซี่ยเอ๋อคู่หมั้นของฟางหยวนถาม “มีเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่? ท่านปิงเจาอยู่กับเรามาตลอด”

 

“ข้าไม่ใช่คนทรยศ! ต้องมีเรื่องเข้าใจผิด ท่านฟางหยวน ท่านอาจตกลงสู่หลุมพรางของศัตรู รีบคืนวิญญาณอมตะให้ข้า!” ปิงเจากล่าวด้วยการแสดงออกที่เย็นชา

 

แต่ในเวลาต่อมาร่างของเซี่ยเอ๋อก็สั่นสะท้านขึ้นขณะที่นางแสดงออกด้วยความหวาดกลัว “วิญญาณอมตะของข้า!”

 

ปิงเจาป้องกันตัวเองเป็นอย่างดี มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้อีก ขณะที่เซียเอ๋อเป็นเป้าหมายที่ง่ายกว่า

 

“ฟางหยวน!” เชี่ยเอ้อมองฟางหยวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

ปิงเจาพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนและตะโกนด้วยความโกรธ “ข้ารู้ว่ามนุษย์เช่นเจ้าไม่สามารถเชื่อถือ!”

 

ฟางหยวนเย้ยหยัน “น่าขัน”

 

หลังกล่าวจบคํา กองทัพบุตรแห่งภูตก็ปรากฏขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีปิงเปารวมถึงผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมดทันที

 

ฟางหยวนเผยเจตนาร้ายออกมาในที่สุด ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ไม่ลังเลอีกต่อไป พวกเขาพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนหลังจากหายตกใจ

 

แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเปรียบเทียบกับบุตรแห่งภูตที่มีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ดได้อย่างไร?

 

หลังการปะทะครั้งแรก กองกําลังผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ก็แตกพ่ายและถูกบังคับให้ตกสู่ความสิ้นหวังไปแล้ว

 

ฟางหยวนในร่างราชันภูตยืนควบคุมสถานการณ์อยู่ห่างๆและปล่อยให้กองทัพบุตรแห่งภูต โจมตีฝ่ายตรงข้าม

 

บุตรแห่งภูตไร้ประโยชน์ต่อฟังจิวเก้อและผู้อมตะวังสวรรค์ แต่สําหรับผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ มันเพียงพอแล้ว

 

หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนตั้งใจถ่วงเวลา ผู้อมตะระดับหกเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คงตายไปนานแล้ว

 

มีเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดปิงเจาที่ยังดิ้นรนต่อสู้อย่างยากลําบากแต่เขาก็ไม่สามารถหลบหนี

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

ฟางหยวนใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณอย่างต่อเนื่องและค่อยๆขโมยวิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้ามที่ละดวง

 

นี่คือเหตุผลที่ฟางหยวนถ่วงเวลาเอาไว้ หากเขาบังคับศัตรูมากเกินไป พวกเขาอาจสิ้นหวังและทําลายวิญญาณอมตะรวมถึงทรัพยากรทั้งหมดของตนเอง หากเป็นเช่นนั้นฟางหยวนจะสูญเสียผลประโยชน์

 

แต่ตอนนี้พวกเขายังมีความหวัง ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ต้องการต่อสู้จนถึงที่สุด มีเพียงไม่กี่คนที่จะมีความเด็ดเดี่ยวและระเบิดตัวเองเช่นเฉิงตู

 

นอกจากนี้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ยังใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษ พวกเขามีประสบการณ์การต่อสู้เพียงเล็กน้อยและไม่ได้ข้อมรบมากนัก

 

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญา ฟางหยวนเข้าใจความคิดของพวกเขาเป็นอย่างดี แม้กลยุทธ์ของเขาจะเรียบง่าย แต่มันมีประสิทธิภาพอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

เมื่อวิญญาณอมตะของพวกเขาถูกขโมย ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยิ่งลดลง

 

“ฟางหยวน ข้าคิดผิดเกี่ยวกับเจ้า! เหตุใดเจ้าจึงไร้ยางอายถึงเพียงนี้ เจ้าทําร้ายพันธมิตรของเจ้าเอง!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินตะโกนด้วยความโกรธ

 

ปิงเจาเผยรอยยิ้มเย็นชา “เจ้าไม่รู้งั้นหรือว่าคนผู้นี้กําจัดข้อตกลงพันธมิตรไปแล้ว เขาไม่ใช่พันธมิตร เขาเป็นศัตรู!”

 

“เห้อ…พวกเจ้าช่างพูดมากนัก” ฟางหยวนถอนหายใจเบาๆและทําให้บุตรแห่งภูตระเบิดตัวเอง

 

ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!

 

ปิงเจาเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด แต่บุตรแห่งภูตมีมากเกินไป เขาไม่สามารถหลบเลี่ยง หลังจากถูกโจมตี เขาก็กลายเป็นซากศพไปในที่สุด

 

“ท่านปิงเจา!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น

 

เซี่ยเอ้อเกือบเป็นลม

 

ฟางหยวนแสดงออกอย่างเย็นชา เขาขโมยวิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้ามได้เกือบทั้งหมด แล้วสําหรับบางคนที่มีวิธีป้องกันที่ดี มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขา ขณะเดียวกันฟางหยวนก็มีเวลาจํากัด เขาไม่สามารถยื้อเวลานานเกินไป ดังนั้นเขาจึงต้องเริ่มต้นการสังหารหมู่

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เสียชีวิตทีละคน มีเพียงเซี่ยเอ๋อเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้เป็นคนสุดท้าย

 

“เจ้าปีศาจ ข้าจะไม่ยอมจํานนต่อเจ้าแม้จะกลายเป็นผี!” เชี่ยเอ๋อกล่าวประโยคสุดท้ายของนางด้วยความเกลียดชัง

 

ทันใดนั้นกองทัพบุตรแห่งภูตก็พุ่งเข้าฉีกกระชากร่างของนางออกเป็นชิ้นๆ

 

สําหรับดวงวิญญาณของนาง มันถูกเก็บรักษาไว้ในสนามรบราชันภูตรวมกับดวงวิญญาณของผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆ

 

คันวิญญาณ!

 

ด้วยการค้นวิญญาณ ฟางหยวนจึงเข้าใจรายละเอียดต่างๆของเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะ

 

ฟางหยวนเก็บเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูตก่อนจะไปยังแดนน้ําแข็ง

 

การสังหารหมู่ครั้งนี้ใช้เวลาพอสมควร แต่กระบวนการนี้ไม่ถูกขัดขวางโดยกองกําลังภายนอก ไม่มีการอนุมานหรือการโจมตีสนามรบราชันภูต สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านั้นคือผู้อมตะกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ที่นี่

 

ฟางหยวนเดินทางไปยังที่อยู่อาศัยของเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะ

 

ต่อมาเขาก็ย้ายเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะทั้งหมดเข้าไปในมิติของว่างของเขา

 

เขายังขุดค้นคลังสมบัติของทั้งสองเผ่าและเก็บพวกมันไว้เช่นกัน

 

ทรัพยากรเหล่านี้ต่างเป็นสมบัติล้ําค่าจากยุคโบราณ กระทั่งสวรรค์สีเหลืองก็ไม่มีขาย

 

สําหรับมิติช่องว่างของผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่ตายแล้ว ฟางหยวนปิดผนึกพวกมันไว้ชั่วคราว เขาไม่ต้องการวางพวกมันลงที่นี่

 

วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ด!

 

ด้วยการใช้วิญญาณอมตะดวงนี้ ฟางหยวนทิ้งบ้านเดิมของเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะที่ถูกทําลายเอาไว้เบื้องหลัง

 

ในเวลาต่อมาเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ภาคใต้

 

“ผู้ใด?” ผู้อมตะภาคใต้สองคนตะโกนขณะที่ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะราชันภูต

 

เขาชี้นิ้วออกไปด้วยรอยยิ้มเย็นชา

 

ระเบิดวิญญาณ!

 

ระเบิดวิญญาณ!

 

ระเบิดวิญญาณ!

 

หลังจากระเบิดวิญญาณถึงหกครั้ง ผู้อมตะภาคใต้ทั้งสองก็วิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่รู้ว่าคนบ้าผู้นี้เป็นผู้ใดแต่เขาโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง

 

ผู้อมตะภาคใต้สองคนจากไปด้วยความช่วยเหลือจากค่ายกลวิญญาณอมตะ ฟางหยวนไม่ได้ขัดขวางพวกเขา

 

หลังจากนั้นเขาก็ทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะดังกล่าวลงอย่างง่ายดาย

 

เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะถูกทําลาย สิ่งที่อยู่ภายในก็เผยตัวออกมา

 

ฟางหยวนยิ้มเมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มหมอกควันที่ส่องประกายระยิบระยับ

 

อาณาจักรแห่งความฝัน!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1584 สังหารหมู่

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1584 สังหารหมู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1584 สังหารหมู่

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

“เขตแดนอมตะ…นี่ไม่ใช่เรื่องตลก!”

 

“ท่านฟางหยวน เราอยู่ฝ่ายเดียวกัน!”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก

 

ในโลกยุคปัจจุบัน มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีอํานาจเหนือเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ เผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะเหล่านี้อาศัยอยู่ในแดนน้ําแข็งอย่างสิ้นหวัง พวกเขามีแรงกดดันมหาศาลในการเอาชีวิตรอด ท่ามกลางสภาพแวดล้อมนี้มนุษย์กลายพันธุ์ที่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะถือว่าไม่ใช่คนไร้ประโยชน์

 

หากไม่ใช่เพราะกลิ่นอายระดับเจ็ดและพลังการต่อสู้ระดับแปดของฟางหยวนผู้อมตะ เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ระดับหกเหล่านี้อาจโจมตีไปแล้ว

 

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไป เขามองผู้อมตะระดับเจ็ดคนเดียวที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์และถอนหายใจ “อย่าตกใจ ข้าเป็นพันธมิตรของพวกเจ้า ข้าจะทําร้ายพวกเจ้าได้อย่างไร? แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาแพ้การต่อสู้ มีเพียงข้าที่สามารถหลบหนี เราแพ้เพราะมีคนทรยศในหมู่พวกเรา!”

 

“กระไรนะ!? เราแพ้!?”

 

“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกวังสวรรค์ยึดครองงั้นหรือ?”

 

“เรามีคนทรยศงั้นหรือ?”

 

คํากล่าวของฟางหยวนทําให้กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ตกตะลึง

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดเผ่ามนุษย์หิมะขมวดคิ้วลึก “ท่านฟางหยวน โปรดเปิดเขตแดนอมตะให้พวกเราสื่อสารกับเผ่าของเรา!”

 

แต่ก่อนที่เขาจะกล่าวจบ ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านขึ้น เขากรีดร้อง “วิญญาณอมตะของข้า!”

 

มันเป็นมือปีศาจปล้นวิญญาณของฟางหยวนอีกครั้ง

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆรู้สึกสับสน พวกเขาถามด้วยความเป็นห่วง “ท่านปิงเจา เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

ถูกต้อง ผู้อมตะระดับเจ็ดเผ่ามนุษย์หิมะที่อยู่ดูแลฐานทัพของพวกเขาก็คือปิงเจา เขามีความสัมพันธุ์ที่ค่อนข้างดีกับฟางหยวน ครั้งหนึ่งเขาเคยเชิญฟางหยวนดื่มสุราหมาป่าน้ําแข็งของเขา

 

ปิงเจามองฟางหยวนด้วยความโกรธ เขากําลังจะกรีดร้องแต่ฟางหยวนกลับชี้นิ้วมาที่เขาและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่จริงจัง “เจ้าคือคนทรยศ!”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์รู้สึกตกใจอีกครั้ง

 

“ข้าไม่ใช่คนทรยศ! ฟางหยวน เจ้าขโมยวิญญาณอมตะของข้าและกล่าวหาข้า เจ้ามีเจตนาใด?” ปิงเจาโกรธจัด เขาคว้าอากาศและสร้างหอกน้ําแข็งเอาไว้ในมือ

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชาและกล่าวด้วยความโกรธและโศกเศร้า “ข้ากล่าวความจริง พวกเจ้าได้ยินถูกต้องแล้ว ดูข้อตกลงพันธมิตรไม่ได้ทําสิ่งใดข้า ปิงเจาผู้นี้คือสายลับของวังสวรรค์! ปิงเจาตัวจริงเสียชีวิตไปนานแล้ว!”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆมองหน้ากัน เซี่ยเอ๋อคู่หมั้นของฟางหยวนถาม “มีเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่? ท่านปิงเจาอยู่กับเรามาตลอด”

 

“ข้าไม่ใช่คนทรยศ! ต้องมีเรื่องเข้าใจผิด ท่านฟางหยวน ท่านอาจตกลงสู่หลุมพรางของศัตรู รีบคืนวิญญาณอมตะให้ข้า!” ปิงเจากล่าวด้วยการแสดงออกที่เย็นชา

 

แต่ในเวลาต่อมาร่างของเซี่ยเอ๋อก็สั่นสะท้านขึ้นขณะที่นางแสดงออกด้วยความหวาดกลัว “วิญญาณอมตะของข้า!”

 

ปิงเจาป้องกันตัวเองเป็นอย่างดี มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้อีก ขณะที่เซียเอ๋อเป็นเป้าหมายที่ง่ายกว่า

 

“ฟางหยวน!” เชี่ยเอ้อมองฟางหยวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

ปิงเจาพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนและตะโกนด้วยความโกรธ “ข้ารู้ว่ามนุษย์เช่นเจ้าไม่สามารถเชื่อถือ!”

 

ฟางหยวนเย้ยหยัน “น่าขัน”

 

หลังกล่าวจบคํา กองทัพบุตรแห่งภูตก็ปรากฏขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีปิงเปารวมถึงผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมดทันที

 

ฟางหยวนเผยเจตนาร้ายออกมาในที่สุด ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ไม่ลังเลอีกต่อไป พวกเขาพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนหลังจากหายตกใจ

 

แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเปรียบเทียบกับบุตรแห่งภูตที่มีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ดได้อย่างไร?

 

หลังการปะทะครั้งแรก กองกําลังผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ก็แตกพ่ายและถูกบังคับให้ตกสู่ความสิ้นหวังไปแล้ว

 

ฟางหยวนในร่างราชันภูตยืนควบคุมสถานการณ์อยู่ห่างๆและปล่อยให้กองทัพบุตรแห่งภูต โจมตีฝ่ายตรงข้าม

 

บุตรแห่งภูตไร้ประโยชน์ต่อฟังจิวเก้อและผู้อมตะวังสวรรค์ แต่สําหรับผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ มันเพียงพอแล้ว

 

หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนตั้งใจถ่วงเวลา ผู้อมตะระดับหกเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คงตายไปนานแล้ว

 

มีเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดปิงเจาที่ยังดิ้นรนต่อสู้อย่างยากลําบากแต่เขาก็ไม่สามารถหลบหนี

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

มือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

ฟางหยวนใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณอย่างต่อเนื่องและค่อยๆขโมยวิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้ามที่ละดวง

 

นี่คือเหตุผลที่ฟางหยวนถ่วงเวลาเอาไว้ หากเขาบังคับศัตรูมากเกินไป พวกเขาอาจสิ้นหวังและทําลายวิญญาณอมตะรวมถึงทรัพยากรทั้งหมดของตนเอง หากเป็นเช่นนั้นฟางหยวนจะสูญเสียผลประโยชน์

 

แต่ตอนนี้พวกเขายังมีความหวัง ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ต้องการต่อสู้จนถึงที่สุด มีเพียงไม่กี่คนที่จะมีความเด็ดเดี่ยวและระเบิดตัวเองเช่นเฉิงตู

 

นอกจากนี้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ยังใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษ พวกเขามีประสบการณ์การต่อสู้เพียงเล็กน้อยและไม่ได้ข้อมรบมากนัก

 

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญา ฟางหยวนเข้าใจความคิดของพวกเขาเป็นอย่างดี แม้กลยุทธ์ของเขาจะเรียบง่าย แต่มันมีประสิทธิภาพอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

เมื่อวิญญาณอมตะของพวกเขาถูกขโมย ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยิ่งลดลง

 

“ฟางหยวน ข้าคิดผิดเกี่ยวกับเจ้า! เหตุใดเจ้าจึงไร้ยางอายถึงเพียงนี้ เจ้าทําร้ายพันธมิตรของเจ้าเอง!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินตะโกนด้วยความโกรธ

 

ปิงเจาเผยรอยยิ้มเย็นชา “เจ้าไม่รู้งั้นหรือว่าคนผู้นี้กําจัดข้อตกลงพันธมิตรไปแล้ว เขาไม่ใช่พันธมิตร เขาเป็นศัตรู!”

 

“เห้อ…พวกเจ้าช่างพูดมากนัก” ฟางหยวนถอนหายใจเบาๆและทําให้บุตรแห่งภูตระเบิดตัวเอง

 

ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!

 

ปิงเจาเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด แต่บุตรแห่งภูตมีมากเกินไป เขาไม่สามารถหลบเลี่ยง หลังจากถูกโจมตี เขาก็กลายเป็นซากศพไปในที่สุด

 

“ท่านปิงเจา!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น

 

เซี่ยเอ้อเกือบเป็นลม

 

ฟางหยวนแสดงออกอย่างเย็นชา เขาขโมยวิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้ามได้เกือบทั้งหมด แล้วสําหรับบางคนที่มีวิธีป้องกันที่ดี มือปีศาจปล้นวิญญาณไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขา ขณะเดียวกันฟางหยวนก็มีเวลาจํากัด เขาไม่สามารถยื้อเวลานานเกินไป ดังนั้นเขาจึงต้องเริ่มต้นการสังหารหมู่

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เสียชีวิตทีละคน มีเพียงเซี่ยเอ๋อเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้เป็นคนสุดท้าย

 

“เจ้าปีศาจ ข้าจะไม่ยอมจํานนต่อเจ้าแม้จะกลายเป็นผี!” เชี่ยเอ๋อกล่าวประโยคสุดท้ายของนางด้วยความเกลียดชัง

 

ทันใดนั้นกองทัพบุตรแห่งภูตก็พุ่งเข้าฉีกกระชากร่างของนางออกเป็นชิ้นๆ

 

สําหรับดวงวิญญาณของนาง มันถูกเก็บรักษาไว้ในสนามรบราชันภูตรวมกับดวงวิญญาณของผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆ

 

คันวิญญาณ!

 

ด้วยการค้นวิญญาณ ฟางหยวนจึงเข้าใจรายละเอียดต่างๆของเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะ

 

ฟางหยวนเก็บเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูตก่อนจะไปยังแดนน้ําแข็ง

 

การสังหารหมู่ครั้งนี้ใช้เวลาพอสมควร แต่กระบวนการนี้ไม่ถูกขัดขวางโดยกองกําลังภายนอก ไม่มีการอนุมานหรือการโจมตีสนามรบราชันภูต สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านั้นคือผู้อมตะกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ที่นี่

 

ฟางหยวนเดินทางไปยังที่อยู่อาศัยของเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะ

 

ต่อมาเขาก็ย้ายเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะทั้งหมดเข้าไปในมิติของว่างของเขา

 

เขายังขุดค้นคลังสมบัติของทั้งสองเผ่าและเก็บพวกมันไว้เช่นกัน

 

ทรัพยากรเหล่านี้ต่างเป็นสมบัติล้ําค่าจากยุคโบราณ กระทั่งสวรรค์สีเหลืองก็ไม่มีขาย

 

สําหรับมิติช่องว่างของผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่ตายแล้ว ฟางหยวนปิดผนึกพวกมันไว้ชั่วคราว เขาไม่ต้องการวางพวกมันลงที่นี่

 

วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ด!

 

ด้วยการใช้วิญญาณอมตะดวงนี้ ฟางหยวนทิ้งบ้านเดิมของเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะที่ถูกทําลายเอาไว้เบื้องหลัง

 

ในเวลาต่อมาเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ภาคใต้

 

“ผู้ใด?” ผู้อมตะภาคใต้สองคนตะโกนขณะที่ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะราชันภูต

 

เขาชี้นิ้วออกไปด้วยรอยยิ้มเย็นชา

 

ระเบิดวิญญาณ!

 

ระเบิดวิญญาณ!

 

ระเบิดวิญญาณ!

 

หลังจากระเบิดวิญญาณถึงหกครั้ง ผู้อมตะภาคใต้ทั้งสองก็วิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่รู้ว่าคนบ้าผู้นี้เป็นผู้ใดแต่เขาโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง

 

ผู้อมตะภาคใต้สองคนจากไปด้วยความช่วยเหลือจากค่ายกลวิญญาณอมตะ ฟางหยวนไม่ได้ขัดขวางพวกเขา

 

หลังจากนั้นเขาก็ทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะดังกล่าวลงอย่างง่ายดาย

 

เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะถูกทําลาย สิ่งที่อยู่ภายในก็เผยตัวออกมา

 

ฟางหยวนยิ้มเมื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มหมอกควันที่ส่องประกายระยิบระยับ

 

อาณาจักรแห่งความฝัน!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+