Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1588 วางกับดักกันเอง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1588 วางกับดักกันเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1588 วางกับดักกันเอง

 

“เขาตายจริงๆงั้นหรือ?” ฟางหยวนรู้สึกตกตะลึงกับผลลัพธ์นี้เล็กน้อย

 

“ดูเหมือนหยางซานมู่จะโชคร้ายจริงๆ เขาถูกขโมยวิญญาณอมตะดวงสําคัญสองครั้งติดต่อกัน” ฟางหยวนสายศีรษะ

 

ผลลัพธ์นี้เกิดจากความแตกต่างของโชค

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่สามารถปราบฟงจิวเก้อเพราะฝ่ายหลังเป็นผู้พิทักษ์เต๋าที่มีโชคใกล้เคียงกับเขา แต่หยางซานมู่เป็นคนธรรมดา ดังนั้นเขาจึงตกตายอยู่ในมือปีศาจปล้นวิญญาณ

 

ฟางหยวนตระหนักทันทีว่าการรวมตัวกันของเส้นทางแห่งโชคและเส้นทางแห่งการโจรกรรมทรงพลังมาก แม้มรดกบนเส้นทางทั้งสองสายของเขาจะไม่สมบูรณ์ แต่มันมีต้นกําเนิดมาจากสองผู้อมตะระดับเก้าที่ยิ่งใหญ่

 

ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะ ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้เต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเห็นหยางซานมู่ติดอยู่ในเขตแดนอมตะ

 

จื่อชิวกระตุ้นเซี่ยฟาน “เร็ว เจ้ายังไม่สามารถอนุมานเขตแดนนี้อีกมั้นหรือ?”

 

เซี่ยฟานกําลังครุ่นคิดโดยไม่สนใจคํากล่าวของจื่อชิว

 

ผู้อมตะคนอื่นๆกําลังพูดคุย

 

“มันคือเขตแดนใด? มันถูกจัดตั้งอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!”

 

“ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้ามายั่วยุพวกเราเพียงลําพัง เขามีท่าไม้ตายที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ”

 

“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่านเซี่ยฟานแล้ว”

 

เซี่ยฟานได้ยินบทสนทนาเหล่านี้ เขากลอกตาและคิดกับตนเอง “คนเหล่านี้ไม่รู้สิ่งใดเลยเกี่ยวกับเส้นทางแห่งปัญญา! พวกเขาคิดว่าเขตแดนอมตะเป็นเรื่องง่ายที่จะคลี่คลายงั้นหรือ?”

 

เซี่ยฟานรู้สึกถึงความยากลําบาก “โอ้ หยางซานมู่ ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถอดทน”

 

แต่เมื่อเวลาผ่านไปแรงกดดันของเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

 

มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว หากเขาไม่สามารถคลี่คลายเขตแดนนี้ แม้ผู้อมตะภาคใต้จะมีมากมายเพียงใด พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าสู่เขตแดนอมตะเพื่อช่วยเหลือสหาย หากเขาล้มเหลว ชื่อเสียงของเขาจะได้รับผลกระทบ แต่นั้นยังไม่ใช่สิ่งใดหากเปรียบเทียบกับข่าวลือที่กระจายออกไปว่าเขาสามารถทําได้แต่ปฏิเสธที่จะทํามันและเพียงเฝ้าดูหยางซานมู่ตายไปต่อหน้าเท่านั้น หากสิ่งนี้เกิดขึ้น ชื่อเสียงของเขาจะพังทลายลงอย่างสมบูรณ์

 

แต่เขตแดนอมตะสนามรบราชันภูตของฟางหยวนจะถูกอนุมานและทําลายอย่างง่ายดายได้อย่างไร?

 

เทพธิดาจื่อเว่ยสามารถทําได้เพราะนางเป็นหนึ่งในสามผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกยุคปัจจุบันแต่เซี่ยฟานไม่ใช่!

 

“ข้าไม่สามารถอนุมานสิ่งใดเลย! รากฐานของมันลึกเกินไป ดูเหมือนมันจะมีต้นกําเนิดที่น่ากลัว!” หลังจากชั่วครู่ ร่างกายของเซี่ยฟานก็เต็มไปด้วยเหงื่อ

 

ผู้อมตะภาคใต้ยังวิพากษ์วิจารณ์ต่อไปและทําให้เซี่ยฟานรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น

 

เขาเปิดเปลือกตาขึ้นและตะโกนด้วยความโกรธ “ พวกเจ้าหุบปาก!”

 

กลุ่มผู้อมตะปิดปากลงทันที

 

จื่อชิงกระแอมไอก่อนกล่าว “ถูกต้อง ทุกคนอยู่ในความสงบ อย่ารบกวนท่านเซี่ยฟาน ด้วยความสามารถของเขา ข้าเชื่อว่าเขาจะไม่ทําให้พวกเราผิดหวัง!”

 

คํากล่าวเหล่านี้บังคับให้เซี่ยฟานไม่มีทางเลือก

 

เขามองจื่อชิวด้วยสายตามืดครึมขณะที่คนหลังแสดงท่าที่สนับสนุนราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา

 

เซี่ยฟานกัดฟันด้วยความโกรธ

 

แต่เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา หลังจากเปลี่ยนวิธีคิด เขาก็เผยรอยยิ้ม “ทุกคนโปรดสงบจิตใจ พวกเจ้าคงลืมไปแล้วท่านหยางซานมู่มีทักษะในการตรวจสอบมากที่สุด เขาออกไปต่อสู้เพราะเขามีความมั่นใจ เขาต้องได้รับข้อมูลหรือค้นพบความจริงบางอย่างที่พวกเราไม่รู้”

 

เซี่ยฟานและหยางซานมู่ไม่ได้รักกัน พวกเขาเกลียดกัน!

 

แต่ตอนนี้เซี่ยฟานกลับยกย่องหยางซานมู่และวางเขาไว้บนที่สูง

 

นี่ทําให้ทุกคนตกตะลึงก่อนที่จะตระหนักถึงบางสิ่ง

 

หากมันเป็นเช่นที่เซี่ยฟานกล่าว มันหมายความว่าหยางซานม่ต้องการสร้างชื่อเสียงและรับผลประโยชน์เพียงผู้เดียวโดยทิ้งพวกเขาไว้เบื้องหลัง

 

ตอนนี้เส้นโลหิตปฐพีกําลังเคลื่อนไหว ทรัพยากรอมตะและวิญญาณอมตะปรากฏขึ้นทุกหนทุกแห่ง แล้วผู้ใดจะต้องการอยู่ปกป้องสถานที่แห่งนี้? ผู้ใดจะไม่ต้องการออกไปแสวงหาโชคลาภ?

 

หากหยางซานมู่ได้รับความดีความชอบจากเรื่องนี้ เขาจะสามารถปลดประจําการและออกจากที่นี่!

 

ในความเป็นจริงไม่เพียงหยางซานมู่แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างต้องการจากไป

 

ไม่นานหลังจากนั้นกลุ่มผู้อมตะก็เริ่มเปลี่ยนคําพูด

 

พวกเขาเห็นด้วยกับคํากล่าวของเซี่ยฟาน

 

“ท่านเซี่ยฟานกล่าวได้ถูกต้องแล้ว วิธีตรวจสอบของท่านหยางซานมู่มีชื่อเสียงโด่งดังในภาคใต้ ทุกคนรู้ดี”

 

“ถูกต้อง ถูกต้อง ข้าจําช่วงเวลาที่สวรรค์สีดําเกิดความปั่นป่วนได้อย่างชัดเจน หลังจากเขารายงานไปยังตระกูลหยาง พวกเขาก็เดินทางไปยังจุดหมายล่วงหน้าและได้รับผลประโยชน์ครั้งใหญ่เพียงฝ่ายเดียว”

 

“ท่านหยางซานมู่เคยไล่ล่าปีศาจอมตะเหนียงหวางฮวยมาก่อน ชายผู้นั้นทั้งเจ้าเล่ห์และชั่วร้าย เขาซ่อนตัวอยู่เป็นเวลานานและสามารถหลบหนีจากจับกุมของตระกูลไท่ แต่สุดท้ายเขากลับจบลงในเงื้อมมือของท่านหยางซานมู่”

 

“ในความคิดเห็นของข้า ครั้งนี้ท่านหยางซานมู่ต้องมั่นใจมาก เราต้องเชื่อมั่นในการตัดสินใจของเขา เราต้องไม่หวั่นไหว ข้ายังต้องเตือนทุกคน หลังจากที่ท่านหยางซานมู่ได้รับชัยชนะ เราต้องให้เขาอยู่ที่นี่ต่อเพื่อตรวจสอบเขาอย่างระมัดระวัง พวกเจ้าจําเรื่องของฟางหยวนเมื่อไม่นานมานี้ได้หรือไม่?”

 

ฟางหยวนใช้ใบหน้าที่คุ้นเคยปลอมตัวเป็นวอี้ให้และแฝงตัวอยู่ในกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้เป็นเวลานาน นั่นทําให้ผู้อมตะภาคใต้สูญเสียชื่อเสียงและรู้สึกโกรธมาก

 

“ฮืม ฟางหยวนเป็นวายร้ายปีศาจที่แทรกซึมเข้ามาในฝ่ายธรรมะ วันหนึ่งเขาต้องถูกลงโทษ!”

 

“ฝายปีศาจไม่มีวันชนะฝ่ายธรรมะ นี่คือกฎของโลกใบนี้ ปีศาจอาจหยิ่งยโสในเวลานี้ แต่เขาต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นในวันหนึ่ง กระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณยังถูกวังสวรรค์จับกุมหลังจากความตาย แล้วเขาเป็นผู้ใด?”

 

“ข้าต้องการฆ่าปีศาจตนนี้ด้วยตัวเอง เห้อ…น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถเข้าร่วมในการต่

อสู้ครั้งนั้น”

 

จื่อชิวไม่พูด เขามองเซี่ยฟานด้วยสายตาลึกล้ำ

 

เซี่ยฟานปิดเปลือกตาลงและเริ่มอนุมานอีกครั้ง

 

จื่อชิงลอบถอนหายใจอยู่ภายใน ดังคาด สมกับเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

 

ก่อนหน้านี้เขาวางกับดักเซี่ยฟานแต่ตอนนี้เซี่ยฟานกลับสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างง่ายดายด้วยคําพูดเพียงไม่กี่คํา

 

เซี่ยฟานบอกเป็นนัยว่าหยางซานมู่โลภมากและต้องการความดีความชอบเพื่อฉกชิงผลประโยชน์จากทุกคนที่นี่ หลังจากไม่นานทุกคนที่เข้าใจความหมายของเขา

 

เขาหมายความว่าหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ หยางซานมู่จะโง่เขลาและวิ่งเข้าสู่กับดักของศัตรูงั้นหรือ? แล้วพวกเขาจะทําอย่างไรหากเขาตายในเขตแดนอมตะ? ทุกคนจะมีส่วนเกี่ยวข้อง พวกเขาจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลวที่เฝ้ามองสหายเสียชีวิตในสนามรบขณะที่ตนเองซ่อนตัวอยู่ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ดังนั้นผู้อมตะเหล่านี้จึงต้องสรรเสริญหยางซานมู่และเชิดชูเขาขึ้นสู่ท้องฟ้า เซี่ยฟานใช้ความคิดของพวกเขาเพื่อทําลายกับดักของชื่อชิวได้อย่างง่ายดาย

 

แต่ตอนนี้อารมณ์ของเซี่ยฟานกลับแย่มาก “ข้าไม่สามารถคลี่คลายเขตแดนอมตะนี้ บัดซบ! เราต้องขอความช่วยเหลือ แต่ก่อนหน้านั้นข้าต้องบอกบางสิ่ง ข้าไม่สามารถเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ คือ?”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เขตแดนอมตะของฟางหยวนหายไป ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นแต่ไม่มีหยางซานมู่

 

“นี่ นี่ นี่”

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

ผู้อมตะภาคใต้สูดหายใจลึก การแสดงออกของผู้อมตะระดับเจ็ดเซี่ยฟานและจื่อชิวเปลี่ยนไปเช่นกัน

 

สถานการณ์ชัดเจนมาก ศัตรูยังอยู่แต่หยางซานมู่หายไป

 

แต่เหตุใดถึงเร็วนัก?

 

หยางซานมู่ไม่ใช่คนธรรมดา เขามีพลังการต่อสู้ที่เพียงพอ แต่เขากลับตกตายอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร?

 

เขตแดนอมตะของศัตรูปลดปล่อยกลิ่นอายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณออกมาอย่างชัดเจนแต่ไม่มีร่องรอยของเส้นทางแห่งกาลเวลา ไม่มีความแตกต่างด้านเวลา

 

ดังนั้นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือปีศาจอมตะระดับเจ็ดผู้นี้เหนือกว่าหยางซานมู่อย่างไม่สามารถเปรียบเทียบหรือบางทีเขาอาจมีวิธีการที่แปลกประหลาดและไม่ธรรมดาบางอย่าง?

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ทั้งตกใจและไม่อยากจะเชื่อ

 

ฟางหยวนมองค่ายกลวิญญาณอมตะด้วยสายตาเย็นชา

 

เดิมที่เขาต้องการปลอมตัวเป็นหยางซานมู่เพื่อเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่หลังจากค้นวิญญาณของฝ่ายหลัง เขาพบการเตรียมการของภาคใต้และต้องล้มเลิกแผนการดังกล่าว

 

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้มีรากฐานที่ไม่ธรรมดา การดูแคลนพวกเขาเป็นเรื่องโง่เขลา ใบหน้าที่คุ้นเคยถูกเปิดเผยแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้วิธีการเดิมเป็นครั้งที่สอง

 

แม้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยจะมาจากเทพปีศาจปล้นสวรรค์ แต่ในโลกของผู้ใช้วิญญาณไม่เคยมีท่าไม้ตายที่อยู่ยงคงกระพัน เมื่อเวลาผ่านไป ทุกสิ่งจะพัฒนาขึ้น ท่าไม้ตายในอดีตจะถูกตอบโต้

 

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้อาจไม่สามารถทําลายท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยแต่พวกเขามีวิธีการอื่นในการตรวจสอบตัวตนของผู้อมตะ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชี้นําของวังสวรรค์ที่ทําให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้มีหลายวิธีในการยืนยันตัวตนของคนผู้หนึ่ง ตัวอย่างเช่นโคมไฟวิญญาณ มันเป็นเรื่องยากสําหรับฟางหยวนแม้เขาจะปลอมตัวด้วยใบหน้าที่คุ้นเคยก็ตาม

 

“วายร้ายปีศาจ เจ้าทําสิ่งใดกับท่านหยางซานมู่?”

 

“ปล่อยท่านหยางซานมู่ออกมาอย่างรวดเร็ว!”

 

“ท่านหยางซานม่อาจหนีออกจากเขตแดนอมะตไปแล้วโดยใช้วิธีการบางอย่างของเขา”

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้วิพากษ์วิจารณ์

 

การแสดงออกของฟางหยวนเย็นชาลงเรื่อยๆ

 

“ค่ายกลวิญญาณนี้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยจื่อชิวหยู ข้าไม่มีเวลาอนุมานทีละขั้นตอน ข้าทําได้เพียงใช้กําลังบังคับเพื่อผ่านทางเท่านั้น มาดูกันว่าค่ายกลนี้จะแข็งแกร่งเพียงใด?”

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ฟางหยวนก็เปลี่ยนร่างเป็นมังกรดาบบรรพกาลและกระตุ้นใช้เกราะหวนคืน

 

ต่อมากองทัพมังกรดาบบรรพกาลก็ปรากฏตัวขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างดุเดือด

 

นี่เป็นท่าไม้ตายเฉพาะตัวของฟางหยวน เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้อมตะภาคใต้จึงสามารถระบุตัวตนของฟางหยวนได้ในที่สุด

 

“อา…คนผู้นี้คือฟางหยวน!”

 

“โอ้ สวรรค์ ปีศาจตนนั้นอยู่ที่นี่แล้ว!”

 

“เขามาที่นี่อีกครั้ง เขาช่างกล้าหาญนัก เขาเคลื่อนไหวอย่างอิสระ เขากําลังดูถูกฝายธรรมะของภาคใต้!”

 

ผู้อมตะภาคใต้กรีดร้องออกมาทีละคนโดยไม่สามารถปกปิดความตกใจบนใบหน้า

 

นอกจากความตกใจยังมีความหวาดกลัวซ่อนอยู่

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1588 วางกับดักกันเอง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1588 วางกับดักกันเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1588 วางกับดักกันเอง

 

“เขาตายจริงๆงั้นหรือ?” ฟางหยวนรู้สึกตกตะลึงกับผลลัพธ์นี้เล็กน้อย

 

“ดูเหมือนหยางซานมู่จะโชคร้ายจริงๆ เขาถูกขโมยวิญญาณอมตะดวงสําคัญสองครั้งติดต่อกัน” ฟางหยวนสายศีรษะ

 

ผลลัพธ์นี้เกิดจากความแตกต่างของโชค

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่สามารถปราบฟงจิวเก้อเพราะฝ่ายหลังเป็นผู้พิทักษ์เต๋าที่มีโชคใกล้เคียงกับเขา แต่หยางซานมู่เป็นคนธรรมดา ดังนั้นเขาจึงตกตายอยู่ในมือปีศาจปล้นวิญญาณ

 

ฟางหยวนตระหนักทันทีว่าการรวมตัวกันของเส้นทางแห่งโชคและเส้นทางแห่งการโจรกรรมทรงพลังมาก แม้มรดกบนเส้นทางทั้งสองสายของเขาจะไม่สมบูรณ์ แต่มันมีต้นกําเนิดมาจากสองผู้อมตะระดับเก้าที่ยิ่งใหญ่

 

ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะ ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้เต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเห็นหยางซานมู่ติดอยู่ในเขตแดนอมตะ

 

จื่อชิวกระตุ้นเซี่ยฟาน “เร็ว เจ้ายังไม่สามารถอนุมานเขตแดนนี้อีกมั้นหรือ?”

 

เซี่ยฟานกําลังครุ่นคิดโดยไม่สนใจคํากล่าวของจื่อชิว

 

ผู้อมตะคนอื่นๆกําลังพูดคุย

 

“มันคือเขตแดนใด? มันถูกจัดตั้งอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!”

 

“ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้ามายั่วยุพวกเราเพียงลําพัง เขามีท่าไม้ตายที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ”

 

“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่านเซี่ยฟานแล้ว”

 

เซี่ยฟานได้ยินบทสนทนาเหล่านี้ เขากลอกตาและคิดกับตนเอง “คนเหล่านี้ไม่รู้สิ่งใดเลยเกี่ยวกับเส้นทางแห่งปัญญา! พวกเขาคิดว่าเขตแดนอมตะเป็นเรื่องง่ายที่จะคลี่คลายงั้นหรือ?”

 

เซี่ยฟานรู้สึกถึงความยากลําบาก “โอ้ หยางซานมู่ ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถอดทน”

 

แต่เมื่อเวลาผ่านไปแรงกดดันของเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

 

มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว หากเขาไม่สามารถคลี่คลายเขตแดนนี้ แม้ผู้อมตะภาคใต้จะมีมากมายเพียงใด พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าสู่เขตแดนอมตะเพื่อช่วยเหลือสหาย หากเขาล้มเหลว ชื่อเสียงของเขาจะได้รับผลกระทบ แต่นั้นยังไม่ใช่สิ่งใดหากเปรียบเทียบกับข่าวลือที่กระจายออกไปว่าเขาสามารถทําได้แต่ปฏิเสธที่จะทํามันและเพียงเฝ้าดูหยางซานมู่ตายไปต่อหน้าเท่านั้น หากสิ่งนี้เกิดขึ้น ชื่อเสียงของเขาจะพังทลายลงอย่างสมบูรณ์

 

แต่เขตแดนอมตะสนามรบราชันภูตของฟางหยวนจะถูกอนุมานและทําลายอย่างง่ายดายได้อย่างไร?

 

เทพธิดาจื่อเว่ยสามารถทําได้เพราะนางเป็นหนึ่งในสามผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกยุคปัจจุบันแต่เซี่ยฟานไม่ใช่!

 

“ข้าไม่สามารถอนุมานสิ่งใดเลย! รากฐานของมันลึกเกินไป ดูเหมือนมันจะมีต้นกําเนิดที่น่ากลัว!” หลังจากชั่วครู่ ร่างกายของเซี่ยฟานก็เต็มไปด้วยเหงื่อ

 

ผู้อมตะภาคใต้ยังวิพากษ์วิจารณ์ต่อไปและทําให้เซี่ยฟานรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น

 

เขาเปิดเปลือกตาขึ้นและตะโกนด้วยความโกรธ “ พวกเจ้าหุบปาก!”

 

กลุ่มผู้อมตะปิดปากลงทันที

 

จื่อชิงกระแอมไอก่อนกล่าว “ถูกต้อง ทุกคนอยู่ในความสงบ อย่ารบกวนท่านเซี่ยฟาน ด้วยความสามารถของเขา ข้าเชื่อว่าเขาจะไม่ทําให้พวกเราผิดหวัง!”

 

คํากล่าวเหล่านี้บังคับให้เซี่ยฟานไม่มีทางเลือก

 

เขามองจื่อชิวด้วยสายตามืดครึมขณะที่คนหลังแสดงท่าที่สนับสนุนราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา

 

เซี่ยฟานกัดฟันด้วยความโกรธ

 

แต่เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา หลังจากเปลี่ยนวิธีคิด เขาก็เผยรอยยิ้ม “ทุกคนโปรดสงบจิตใจ พวกเจ้าคงลืมไปแล้วท่านหยางซานมู่มีทักษะในการตรวจสอบมากที่สุด เขาออกไปต่อสู้เพราะเขามีความมั่นใจ เขาต้องได้รับข้อมูลหรือค้นพบความจริงบางอย่างที่พวกเราไม่รู้”

 

เซี่ยฟานและหยางซานมู่ไม่ได้รักกัน พวกเขาเกลียดกัน!

 

แต่ตอนนี้เซี่ยฟานกลับยกย่องหยางซานมู่และวางเขาไว้บนที่สูง

 

นี่ทําให้ทุกคนตกตะลึงก่อนที่จะตระหนักถึงบางสิ่ง

 

หากมันเป็นเช่นที่เซี่ยฟานกล่าว มันหมายความว่าหยางซานม่ต้องการสร้างชื่อเสียงและรับผลประโยชน์เพียงผู้เดียวโดยทิ้งพวกเขาไว้เบื้องหลัง

 

ตอนนี้เส้นโลหิตปฐพีกําลังเคลื่อนไหว ทรัพยากรอมตะและวิญญาณอมตะปรากฏขึ้นทุกหนทุกแห่ง แล้วผู้ใดจะต้องการอยู่ปกป้องสถานที่แห่งนี้? ผู้ใดจะไม่ต้องการออกไปแสวงหาโชคลาภ?

 

หากหยางซานมู่ได้รับความดีความชอบจากเรื่องนี้ เขาจะสามารถปลดประจําการและออกจากที่นี่!

 

ในความเป็นจริงไม่เพียงหยางซานมู่แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างต้องการจากไป

 

ไม่นานหลังจากนั้นกลุ่มผู้อมตะก็เริ่มเปลี่ยนคําพูด

 

พวกเขาเห็นด้วยกับคํากล่าวของเซี่ยฟาน

 

“ท่านเซี่ยฟานกล่าวได้ถูกต้องแล้ว วิธีตรวจสอบของท่านหยางซานมู่มีชื่อเสียงโด่งดังในภาคใต้ ทุกคนรู้ดี”

 

“ถูกต้อง ถูกต้อง ข้าจําช่วงเวลาที่สวรรค์สีดําเกิดความปั่นป่วนได้อย่างชัดเจน หลังจากเขารายงานไปยังตระกูลหยาง พวกเขาก็เดินทางไปยังจุดหมายล่วงหน้าและได้รับผลประโยชน์ครั้งใหญ่เพียงฝ่ายเดียว”

 

“ท่านหยางซานมู่เคยไล่ล่าปีศาจอมตะเหนียงหวางฮวยมาก่อน ชายผู้นั้นทั้งเจ้าเล่ห์และชั่วร้าย เขาซ่อนตัวอยู่เป็นเวลานานและสามารถหลบหนีจากจับกุมของตระกูลไท่ แต่สุดท้ายเขากลับจบลงในเงื้อมมือของท่านหยางซานมู่”

 

“ในความคิดเห็นของข้า ครั้งนี้ท่านหยางซานมู่ต้องมั่นใจมาก เราต้องเชื่อมั่นในการตัดสินใจของเขา เราต้องไม่หวั่นไหว ข้ายังต้องเตือนทุกคน หลังจากที่ท่านหยางซานมู่ได้รับชัยชนะ เราต้องให้เขาอยู่ที่นี่ต่อเพื่อตรวจสอบเขาอย่างระมัดระวัง พวกเจ้าจําเรื่องของฟางหยวนเมื่อไม่นานมานี้ได้หรือไม่?”

 

ฟางหยวนใช้ใบหน้าที่คุ้นเคยปลอมตัวเป็นวอี้ให้และแฝงตัวอยู่ในกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้เป็นเวลานาน นั่นทําให้ผู้อมตะภาคใต้สูญเสียชื่อเสียงและรู้สึกโกรธมาก

 

“ฮืม ฟางหยวนเป็นวายร้ายปีศาจที่แทรกซึมเข้ามาในฝ่ายธรรมะ วันหนึ่งเขาต้องถูกลงโทษ!”

 

“ฝายปีศาจไม่มีวันชนะฝ่ายธรรมะ นี่คือกฎของโลกใบนี้ ปีศาจอาจหยิ่งยโสในเวลานี้ แต่เขาต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นในวันหนึ่ง กระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณยังถูกวังสวรรค์จับกุมหลังจากความตาย แล้วเขาเป็นผู้ใด?”

 

“ข้าต้องการฆ่าปีศาจตนนี้ด้วยตัวเอง เห้อ…น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถเข้าร่วมในการต่

อสู้ครั้งนั้น”

 

จื่อชิวไม่พูด เขามองเซี่ยฟานด้วยสายตาลึกล้ำ

 

เซี่ยฟานปิดเปลือกตาลงและเริ่มอนุมานอีกครั้ง

 

จื่อชิงลอบถอนหายใจอยู่ภายใน ดังคาด สมกับเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

 

ก่อนหน้านี้เขาวางกับดักเซี่ยฟานแต่ตอนนี้เซี่ยฟานกลับสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างง่ายดายด้วยคําพูดเพียงไม่กี่คํา

 

เซี่ยฟานบอกเป็นนัยว่าหยางซานมู่โลภมากและต้องการความดีความชอบเพื่อฉกชิงผลประโยชน์จากทุกคนที่นี่ หลังจากไม่นานทุกคนที่เข้าใจความหมายของเขา

 

เขาหมายความว่าหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ หยางซานมู่จะโง่เขลาและวิ่งเข้าสู่กับดักของศัตรูงั้นหรือ? แล้วพวกเขาจะทําอย่างไรหากเขาตายในเขตแดนอมตะ? ทุกคนจะมีส่วนเกี่ยวข้อง พวกเขาจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลวที่เฝ้ามองสหายเสียชีวิตในสนามรบขณะที่ตนเองซ่อนตัวอยู่ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ดังนั้นผู้อมตะเหล่านี้จึงต้องสรรเสริญหยางซานมู่และเชิดชูเขาขึ้นสู่ท้องฟ้า เซี่ยฟานใช้ความคิดของพวกเขาเพื่อทําลายกับดักของชื่อชิวได้อย่างง่ายดาย

 

แต่ตอนนี้อารมณ์ของเซี่ยฟานกลับแย่มาก “ข้าไม่สามารถคลี่คลายเขตแดนอมตะนี้ บัดซบ! เราต้องขอความช่วยเหลือ แต่ก่อนหน้านั้นข้าต้องบอกบางสิ่ง ข้าไม่สามารถเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ คือ?”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เขตแดนอมตะของฟางหยวนหายไป ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นแต่ไม่มีหยางซานมู่

 

“นี่ นี่ นี่”

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

ผู้อมตะภาคใต้สูดหายใจลึก การแสดงออกของผู้อมตะระดับเจ็ดเซี่ยฟานและจื่อชิวเปลี่ยนไปเช่นกัน

 

สถานการณ์ชัดเจนมาก ศัตรูยังอยู่แต่หยางซานมู่หายไป

 

แต่เหตุใดถึงเร็วนัก?

 

หยางซานมู่ไม่ใช่คนธรรมดา เขามีพลังการต่อสู้ที่เพียงพอ แต่เขากลับตกตายอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร?

 

เขตแดนอมตะของศัตรูปลดปล่อยกลิ่นอายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณออกมาอย่างชัดเจนแต่ไม่มีร่องรอยของเส้นทางแห่งกาลเวลา ไม่มีความแตกต่างด้านเวลา

 

ดังนั้นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือปีศาจอมตะระดับเจ็ดผู้นี้เหนือกว่าหยางซานมู่อย่างไม่สามารถเปรียบเทียบหรือบางทีเขาอาจมีวิธีการที่แปลกประหลาดและไม่ธรรมดาบางอย่าง?

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ทั้งตกใจและไม่อยากจะเชื่อ

 

ฟางหยวนมองค่ายกลวิญญาณอมตะด้วยสายตาเย็นชา

 

เดิมที่เขาต้องการปลอมตัวเป็นหยางซานมู่เพื่อเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่หลังจากค้นวิญญาณของฝ่ายหลัง เขาพบการเตรียมการของภาคใต้และต้องล้มเลิกแผนการดังกล่าว

 

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้มีรากฐานที่ไม่ธรรมดา การดูแคลนพวกเขาเป็นเรื่องโง่เขลา ใบหน้าที่คุ้นเคยถูกเปิดเผยแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้วิธีการเดิมเป็นครั้งที่สอง

 

แม้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยจะมาจากเทพปีศาจปล้นสวรรค์ แต่ในโลกของผู้ใช้วิญญาณไม่เคยมีท่าไม้ตายที่อยู่ยงคงกระพัน เมื่อเวลาผ่านไป ทุกสิ่งจะพัฒนาขึ้น ท่าไม้ตายในอดีตจะถูกตอบโต้

 

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้อาจไม่สามารถทําลายท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยแต่พวกเขามีวิธีการอื่นในการตรวจสอบตัวตนของผู้อมตะ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชี้นําของวังสวรรค์ที่ทําให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้มีหลายวิธีในการยืนยันตัวตนของคนผู้หนึ่ง ตัวอย่างเช่นโคมไฟวิญญาณ มันเป็นเรื่องยากสําหรับฟางหยวนแม้เขาจะปลอมตัวด้วยใบหน้าที่คุ้นเคยก็ตาม

 

“วายร้ายปีศาจ เจ้าทําสิ่งใดกับท่านหยางซานมู่?”

 

“ปล่อยท่านหยางซานมู่ออกมาอย่างรวดเร็ว!”

 

“ท่านหยางซานม่อาจหนีออกจากเขตแดนอมะตไปแล้วโดยใช้วิธีการบางอย่างของเขา”

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้วิพากษ์วิจารณ์

 

การแสดงออกของฟางหยวนเย็นชาลงเรื่อยๆ

 

“ค่ายกลวิญญาณนี้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยจื่อชิวหยู ข้าไม่มีเวลาอนุมานทีละขั้นตอน ข้าทําได้เพียงใช้กําลังบังคับเพื่อผ่านทางเท่านั้น มาดูกันว่าค่ายกลนี้จะแข็งแกร่งเพียงใด?”

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ฟางหยวนก็เปลี่ยนร่างเป็นมังกรดาบบรรพกาลและกระตุ้นใช้เกราะหวนคืน

 

ต่อมากองทัพมังกรดาบบรรพกาลก็ปรากฏตัวขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างดุเดือด

 

นี่เป็นท่าไม้ตายเฉพาะตัวของฟางหยวน เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้อมตะภาคใต้จึงสามารถระบุตัวตนของฟางหยวนได้ในที่สุด

 

“อา…คนผู้นี้คือฟางหยวน!”

 

“โอ้ สวรรค์ ปีศาจตนนั้นอยู่ที่นี่แล้ว!”

 

“เขามาที่นี่อีกครั้ง เขาช่างกล้าหาญนัก เขาเคลื่อนไหวอย่างอิสระ เขากําลังดูถูกฝายธรรมะของภาคใต้!”

 

ผู้อมตะภาคใต้กรีดร้องออกมาทีละคนโดยไม่สามารถปกปิดความตกใจบนใบหน้า

 

นอกจากความตกใจยังมีความหวาดกลัวซ่อนอยู่

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+