Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1603 พัดฤดูร้อน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1603 พัดฤดูร้อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1603 พัดฤดูร้อน

 

อสูรปีจํานวนมากเข้าสู่สนามรบและต่อสู้กับกลุ่มผู้อมตะภาคใต้

 

เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มผู้อมตะภาคใต้แทบอาเจียนจากการฆ่าอสูรปีที่ไหลบ่าออกมาจากราวเขื่อนแตก ท่าไม้ตายที่พวกเขาเตรียมไว้ใช้กับฟางหยวนถูกนํามาใช้กับอสูรปีเหล่านี้ขณะที่พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้ามาก

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายสร้างขึ้นจากสามค่ายกลวิญญาณอมตะขณะเดียวกันมันก็ได้รับการสนับสนุนจากสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาและอยู่ภายใต้การควบคุมของฟางหยวนกับคนอื่นๆ พลังอํานาจอันยิ่งใหญ่นี้ทําให้กลุ่มผู้อมตะภาคใต้รู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก

 

ครู่ต่อมากระทั่งลั่วเว่ยหยินยังหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ไม่เพียงเขาต้องต่อสู้กับอสูรปีแรกกําเนิดสองตัวแต่เขายังต้องช่วยกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ดเป็นครั้งคราวอีกด้วย

 

ทุกครั้งที่อสูรปีแรกกําเนิดได้รับบาดเจ็บสาหัส ฟางหยวนจะนํามันออกมาและกดขี่มัน หลังจากนั้นอสูรปีแรกกําเนิดตัวใหม่ก็จะถูกล่อลวงเข้าสู่สนามรบ

 

ลั่วเว่ยหยินและเซี่ยชาเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ขณะที่การต่อสู้ดําเนินไปอย่างดุเดือด

 

แต่พวกเขายังมีความคืบหน้า ในช่วงเวลานี้เซี่ยชาพบแกนกลางอีกสองแกนและสามารถทําลายพวกมัน แกนกลางทั้งสองไม่ได้เปลี่ยนเป็นเกลียวแสง หลังจากทั้งหมดค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายในปัจจุบันสามารถรักษาเกลียวแสงเอาไว้เพียงสามแห่งเท่านั้น นี่คือขีดจํากัดของมัน

 

การต่อสู้ดําเนินไปตลอดทั้งวัน

 

ฟางหยวนได้รับทาสอสูรปีแรกกําเนิดเจ็ดตัวขณะที่เซี่ยชาทําลายแกนกลางของค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าแกน

 

ตอนนี้ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายไม่แข็งแรงเหมือนก่อนหน้าอีกต่อไป

 

“ถึงเวลาแล้ว” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน

 

ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

มือปีศาจพุ่งออกจากปากของอสูรบีบรรพกาล ไปชิวจงถูกขโมยวิญญาณอมตะโดยไม่ทันตั้งตัว

 

“วิญญาณอมตะระดับเจ็ดของข้า!” เขากระอักเลือดคําโตออกมาและได้รับบาดเจ็บสาหัสทันทีเนื่องจากการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะล้มเหลว อย่างไรก็ตามเขารู้สึกเจ็บปวดมากกว่าที่ถูกฟางหยวนขโมยวิญญาณอมตะระดับเจ็ด

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เลว ไม่เลว วิญญาณอมตะใบมีดระดับเจ็ด” ฟางหยวนหัวเราะอย่างมีความสุข วิญญาณอมตะใบมีดเป็นวิญญาณที่เขาต้องการในเวลานี้เพราะมันเป็นหนึ่งในแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะตัดเวลา

 

“สหายตระกูลไท อดทนไว้ ข้ากําลังจะไปช่วย!” เฉิงหูจางและคนอื่นๆเห็นไท่ชิวจงถูกโจมตีและต้องการเข้าไปช่วย

 

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็น

 

เขาไม่ได้ฆ่าไท่ชิวจงเพราะเขาต้องการเห็นสิ่งนี้

 

“โอ้ ไม่!”

 

“นี่คือการซุ่มโจมตี!”

 

“ พวกเราถูกหลอก!”

 

ผู้อมตะภาคใต้ทั้งหมดที่เข้ามาช่วยไท่ชิวจงถูกขโมยวิญญาณอมตะ

 

“ทุกคนระวังให้ดี อสูรปบางตัวตกเป็นทาสของฟางหยวนแล้ว พวกมันอันตรายมาก!” เฉิงหูจางตะโกนเตือนคนอื่นๆโดยไม่มีเวลาคร่ำครวญถึงการสูญเสียวิญญาณอมตะของตน

 

หากสิ่งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่การต่อสู้พึ่งเริ่มต้น ในช่วงเวลานั้นกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ยังเต็มไปด้วยพลังงาน มือปีศาจปล้นวิญญาณจะไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขา แต่ตอนนี้พลังการต่อสู้และสมาธิของทุกคนลดลงอย่างมาก ดังนั้นมือปีศาจปล้นวิญญาณจึงสามารถโจมตีพวกเขา

 

ฟางหยวนวางแผน ปกปิด และซ่อนมือปีศาจปล้นวิญญาณไว้ในปากของอสูรปบรรพกาลตั้งแต่แรก

 

เหตุการณ์นี้ทําให้กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตื่นตระหนกและระวังตัวมากขึ้น นั่นทําให้พวกเขากลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบอีกครั้ง

 

ฟางหยวนยังสงบนิ่งและดําเนินการตามแผนของเขาต่อไป

 

ในไม่ช้ากลุ่มผู้อมตะภาคใต้ก็เข้าสู่การต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้ง พวกเขาต่อสู้มาอย่างยาวนานและแทบจะไม่สามารถรักษาพลังการต่อสู้ของตนเองเอาไว้

 

ฟางหยวนรอโอกาสของเขาอยู่อย่างเงียบๆ

 

เมื่อผู้อมตะภาคใต้อ่อนแอลง พวกเขาจะถูกขโมยวิญญาณอมตะอีกครั้ง

 

เดิมทีฟางหยวนสามารถใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณได้ครั้งละมือเท่านั้น แต่หลังจากฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เขาสามารถใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณสามมือพร้อมกัน

 

ต่างจากเขตแดนอมตะเช่นดวงดาวสีม่วงแห่งชีวิตที่พังทลายที่พลังอํานาจของมือปีศาจปล้นวิญญาณจะถูกสะกดข่ม ค่ายกลวิญญาณนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อมือปีศาจปล้นวิญญาณ แม้มันจะไม่แข็งแกร่งขึ้น แต่พลังอํานาจของมันก็ไม่ลดลง

 

ท่าไม้ตายอมตะปีแห่งโชคร้ายถูกนํามาใช้ในค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตาย ขณะเดียวกันโชคของฟางหยวนก็ยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นผู้อมตะภาคใต้เหล่านี้จึงถูกขโมยวิญญาณอมตะดวงสําคัญที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะของพวกเขาหรือเป็นวิญญาณอมตะที่ฟางหยวนต้องการ

 

หลังจากถูกขโมยวิญญาณอมตะอีกครั้ง กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ต้องเผชิญหน้ากับฟันเฟืองที่รุนแรงและได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง

 

น่าเสียดายที่ลั่วเว่ยหยินและเซี่ยชามีการป้องกันที่ไร้ที่ติ พวกเขาสามารถทําลายมือปีศาจปล้นวิญญาณที่พุ่งเข้ามาหา ทั้งสองกระทั่งมีพลังงานเหลือพอที่จะยื่นมือเข้าช่วยผู้อมตะระดับเจ็บคนอื่นๆ โดยเฉพาะลั่วเว่ยหยิน แม้เขาจะไม่มีท่าไม้ตายสายโจมตีแต่เขามีทักษะในการป้องกันที่ยอดเยี่ยม หากไม่ใช่เพราะเขา ผู้อมตะหลายคนอาจตายไปแล้ว

 

ฟางหยวนยังไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝัน

 

ท่าไม้ตายนี้ถูกเปิดเผยมานานแล้ว ผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคมีวิธีป้องกันมัน สิ่งสําคัญที่สุดคือหากมันล้มเหลว ฟางหยวนจะถูกลากเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวังในการใช้งานมัน

 

เว้นเพียงเขาจะเลียนแบบอิงอู่เซียโดยพึ่งพากายาแห่งความฝันเพื่อกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายนี้ ในกรณีนั้นแม้เขาจะล้มเหลว มันก็ไม่เป็นปัญหา

 

ไม่มีท่าไม้ตายที่อยู่ยงคงกระพัน เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนจะสามารถตอบโต้ มือปีศาจปล้นวิญญาณจะพบปัญหานี้ในที่สุด เว้นเพียงฟางหยวนจะพัฒนามันในอนาคต

 

ด้วยความช่วยเหลือจากท่าไม้ตายอมตะปีแห่งโชคร้าย สถานการณ์จึงผลิกกลับไปทางฟางหยวน

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เซี่ยชาตะโกนเสียงดัง “พังพินาศไปซะ!”

 

สายลมกรรโชกแรงหมุนวนขึ้นรอบตัวนางพร้อมกับสายฟ้า ที่แลบลั่น ทั้งสองหลอมรวมกันและก่อตัวเป็นพัดขนาดใหญ่อยู่ในมือของนาง

 

เซี่ยชาสะบัดพัดที่อยู่ในมือและทําลายแกนกลางที่ฟางหยวนดูแลอยู่ ตําแหน่งของเขาถูกเปิดเผยทันที แม้เขาจะอยู่ภายใต้การปกป้องของทาสอสูรปีแรกกําเนิดสามตัวและกองทัพอสูรปี แต่ความคิดที่เหลืออยู่ของเขาไม่เพียงพอให้เขากระตุ้นใช้เกราะหวนคืน นั่นทําให้เขาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีนี้

 

เซี่ยชาสะบัดพัดไปทางซ้าย ไปหนิงปิงตระหนักถึงภัยคุกคามร้ายแรง นางเปลี่ยนร่างเป็นไป่เซียงก่อนที่ร่างของนางจะถูกทําลายลงในพริบตา

 

เซี่ยชาสะบัดพัดไปทางขวา เทพธิดากระต่ายขาวไม่สามารถหลบได้ทันเวลา แกนกลางที่นางดูแลอยู่ถูกทําลายขณะที่ร่างกายของนางระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

เทพธิดากระต่ายขาวตาย ณ จุดเกิดเหตุ!

 

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทําให้ขวัญกําลังใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้พุ่งสูงขึ้น

 

ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน!

 

การโจมตีสามครั้งของพัดฤดูร้อนทําให้ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายแทบพังทลายลงขณะที่กลุ่มของฟางหยวนได้รับบาดเจ็บและล้มตาย

 

เซี่ยชาสูดหายใจอย่างหนักหน่วงก่อนที่พัดในมือของนางจะสว่างไสวขึ้นอีกครั้ง

 

หากถูกโจมตีด้วยพัดฤดูร้อนต่อไป กลุ่มของฟางหยวนจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

 

“ผู้ใดจะคิดว่าเซี่ยชาจะสามารถอนุมานค่ายกลวิญญาณปีแห่งความตายได้อย่างรวดเร็ว นางทําลายแกนกลางสามแกนได้ในครั้งเดียว หากข้าไม่ใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณสร้างแรงกดดันให้กับพวกนาง นางอาจไม่ใช้วิธีที่รุนแรงเช่นนี้!” หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น

 

พลังการต่อสู้ของเซี่ยชาเหนือกว่าข้อมูลของนิกายเงา ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของนางอาจไม่ได้อยู่ในระดับปรมาจารย์เอกเท่านั้นและยังมีความเป็นไปได้ที่นางจะมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลเช่นกัน แต่ผู้ใดจะรู้เกี่ยวกับมัน หลังจากทั้งหมดผู้อมตะระดับแปดจะถูกเปิดเผยโดยง่ายได้อย่างไร?

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะระดับแปดที่แท้จริง ฟางหยวนสามารถใช้มันดักจับกลุ่มผู้อมตะภาคใต้รวมถึงผู้อมตะระดับแปดลั่วเว่ยหยินและเซี่ยชา

 

นี่คือความพิเศษบนเส้นทางแห่งค่ายกล

 

ตราบเท่าที่ค่ายกลวิญญาณถูกจัดตั้ง มันจะสามารถต่อต้านศัตรูจํานวนมากและอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าออกมา

 

แต่จุดอ่อนของค่ายกลวิญญาณก็คือเมื่อศัตรูเข้าใจมัน พวกเขาจะสามารถทําลายมันได้อย่างง่ายดาย

 

ตอนนี้มิติพิเศษเริ่มพังทําลายลงแล้ว กลุ่มผู้อมตะภาคใต้สามารถมองเห็นวิญญาณที่อยู่รอบๆ ได้ด้วยตาเปล่า

 

“ฟางหยวน ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!” หลิวห่าวตะโกนด้วยความตื่นเต้นขณะที่เขากระตุ้นใช้วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ

 

ด้วยพลังอํานาจของวิญญาณอมตะดวงนี้ ฟางหยวนจะไม่สามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะได้ในบริเวณนี้

 

“ตอนนี้แม้เจ้าจะหลบหนีไปยังสายธารแห่งกาลเวลา ข้าก็สามารถตามไปฆ่าเจ้าที่นั่น!” เซี่ยชาสะบัดพัดในมือและเผยรอยยิ้มภาคภูมิใจ

 

“หลบหนีงั้นหรือ? เหตุใดข้าต้องหลบหนี?” กระทั่งในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ดวงตาของฟางหยวนก็ยังส่องประกายสว่างไสว

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกตะลึงเมื่ออสูรบีบรรพกาลที่อยู่รอบๆแข็งค้างราวกับประติมากรรมหินขณะที่อาณาจักรแห่งความฝันราวกับสายลมพัดออกมาจากร่างของพวกมันและปกคลุมพื้นที่เอาไว้อย่างรวดเร็ว

 

ทุกคนพยายามหลบเลี่ยง

 

เปลือกตาของเซี่ยชากระตุก นางเร่งโบกพัดที่อยู่ในมือ

 

แต่ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังของนางกลับไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงต่อหน้าอาณาจักรแห่งความฝัน

 

บางคนพยายามหลบหนีด้วยความตื่นตระหนกแต่ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายยังไม่พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ พวกเขายังติดอยู่ที่นี่

 

อาณาจักรแห่งความฝันปิดล้อมเซี่ยชาและคนอื่นๆเอาไว้ขณะที่ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายก็ถูกมันกัดกร่อนไปพร้อมกัน

 

ในไม่ช้าค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายก็จมอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

สนามรบที่เคยเสียงดังเงียบลงทันที

 

กระทั่งกองทัพอสูรปีก็ผล็อยหลับไปเช่นกัน

 

“นี่คือพลังอํานาจของเส้นทางแห่งความฝัน!” เทพธิดาเมี่ยวหยินอ้าปากค้าง

 

“ไม่แปลกใจเลยที่กองกําลังทั้งหมดต้องการสํารวจและค้นคว้าเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝัน” ไปหนิงบิงที่ฟื้นขึ้นในร่างของไปเชียงกล่าว

 

แต่น่าเสียดายที่เทพธิดากระต่ายขาวเสียชีวิตในการต่อสู้

 

ทักษะเดียวปกครองโลก!

 

เส้นทางแห่งความฝันเป็นเส้นทางใหม่เช่นเดียวกับเส้นทางแห่งการโจรกรรม เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง และเส้นทางแห่งโชคในอดีต ปัจจุบันยังมีไม่ผู้ใดสามารถตอบโต้หรือต่อต้านมัน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1603 พัดฤดูร้อน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1603 พัดฤดูร้อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1603 พัดฤดูร้อน

 

อสูรปีจํานวนมากเข้าสู่สนามรบและต่อสู้กับกลุ่มผู้อมตะภาคใต้

 

เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มผู้อมตะภาคใต้แทบอาเจียนจากการฆ่าอสูรปีที่ไหลบ่าออกมาจากราวเขื่อนแตก ท่าไม้ตายที่พวกเขาเตรียมไว้ใช้กับฟางหยวนถูกนํามาใช้กับอสูรปีเหล่านี้ขณะที่พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้ามาก

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายสร้างขึ้นจากสามค่ายกลวิญญาณอมตะขณะเดียวกันมันก็ได้รับการสนับสนุนจากสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาและอยู่ภายใต้การควบคุมของฟางหยวนกับคนอื่นๆ พลังอํานาจอันยิ่งใหญ่นี้ทําให้กลุ่มผู้อมตะภาคใต้รู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก

 

ครู่ต่อมากระทั่งลั่วเว่ยหยินยังหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ไม่เพียงเขาต้องต่อสู้กับอสูรปีแรกกําเนิดสองตัวแต่เขายังต้องช่วยกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ดเป็นครั้งคราวอีกด้วย

 

ทุกครั้งที่อสูรปีแรกกําเนิดได้รับบาดเจ็บสาหัส ฟางหยวนจะนํามันออกมาและกดขี่มัน หลังจากนั้นอสูรปีแรกกําเนิดตัวใหม่ก็จะถูกล่อลวงเข้าสู่สนามรบ

 

ลั่วเว่ยหยินและเซี่ยชาเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ขณะที่การต่อสู้ดําเนินไปอย่างดุเดือด

 

แต่พวกเขายังมีความคืบหน้า ในช่วงเวลานี้เซี่ยชาพบแกนกลางอีกสองแกนและสามารถทําลายพวกมัน แกนกลางทั้งสองไม่ได้เปลี่ยนเป็นเกลียวแสง หลังจากทั้งหมดค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายในปัจจุบันสามารถรักษาเกลียวแสงเอาไว้เพียงสามแห่งเท่านั้น นี่คือขีดจํากัดของมัน

 

การต่อสู้ดําเนินไปตลอดทั้งวัน

 

ฟางหยวนได้รับทาสอสูรปีแรกกําเนิดเจ็ดตัวขณะที่เซี่ยชาทําลายแกนกลางของค่ายกลวิญญาณอมตะเก้าแกน

 

ตอนนี้ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายไม่แข็งแรงเหมือนก่อนหน้าอีกต่อไป

 

“ถึงเวลาแล้ว” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน

 

ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ!

 

มือปีศาจพุ่งออกจากปากของอสูรบีบรรพกาล ไปชิวจงถูกขโมยวิญญาณอมตะโดยไม่ทันตั้งตัว

 

“วิญญาณอมตะระดับเจ็ดของข้า!” เขากระอักเลือดคําโตออกมาและได้รับบาดเจ็บสาหัสทันทีเนื่องจากการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะล้มเหลว อย่างไรก็ตามเขารู้สึกเจ็บปวดมากกว่าที่ถูกฟางหยวนขโมยวิญญาณอมตะระดับเจ็ด

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เลว ไม่เลว วิญญาณอมตะใบมีดระดับเจ็ด” ฟางหยวนหัวเราะอย่างมีความสุข วิญญาณอมตะใบมีดเป็นวิญญาณที่เขาต้องการในเวลานี้เพราะมันเป็นหนึ่งในแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะตัดเวลา

 

“สหายตระกูลไท อดทนไว้ ข้ากําลังจะไปช่วย!” เฉิงหูจางและคนอื่นๆเห็นไท่ชิวจงถูกโจมตีและต้องการเข้าไปช่วย

 

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็น

 

เขาไม่ได้ฆ่าไท่ชิวจงเพราะเขาต้องการเห็นสิ่งนี้

 

“โอ้ ไม่!”

 

“นี่คือการซุ่มโจมตี!”

 

“ พวกเราถูกหลอก!”

 

ผู้อมตะภาคใต้ทั้งหมดที่เข้ามาช่วยไท่ชิวจงถูกขโมยวิญญาณอมตะ

 

“ทุกคนระวังให้ดี อสูรปบางตัวตกเป็นทาสของฟางหยวนแล้ว พวกมันอันตรายมาก!” เฉิงหูจางตะโกนเตือนคนอื่นๆโดยไม่มีเวลาคร่ำครวญถึงการสูญเสียวิญญาณอมตะของตน

 

หากสิ่งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่การต่อสู้พึ่งเริ่มต้น ในช่วงเวลานั้นกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ยังเต็มไปด้วยพลังงาน มือปีศาจปล้นวิญญาณจะไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขา แต่ตอนนี้พลังการต่อสู้และสมาธิของทุกคนลดลงอย่างมาก ดังนั้นมือปีศาจปล้นวิญญาณจึงสามารถโจมตีพวกเขา

 

ฟางหยวนวางแผน ปกปิด และซ่อนมือปีศาจปล้นวิญญาณไว้ในปากของอสูรปบรรพกาลตั้งแต่แรก

 

เหตุการณ์นี้ทําให้กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตื่นตระหนกและระวังตัวมากขึ้น นั่นทําให้พวกเขากลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบอีกครั้ง

 

ฟางหยวนยังสงบนิ่งและดําเนินการตามแผนของเขาต่อไป

 

ในไม่ช้ากลุ่มผู้อมตะภาคใต้ก็เข้าสู่การต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้ง พวกเขาต่อสู้มาอย่างยาวนานและแทบจะไม่สามารถรักษาพลังการต่อสู้ของตนเองเอาไว้

 

ฟางหยวนรอโอกาสของเขาอยู่อย่างเงียบๆ

 

เมื่อผู้อมตะภาคใต้อ่อนแอลง พวกเขาจะถูกขโมยวิญญาณอมตะอีกครั้ง

 

เดิมทีฟางหยวนสามารถใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณได้ครั้งละมือเท่านั้น แต่หลังจากฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เขาสามารถใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณสามมือพร้อมกัน

 

ต่างจากเขตแดนอมตะเช่นดวงดาวสีม่วงแห่งชีวิตที่พังทลายที่พลังอํานาจของมือปีศาจปล้นวิญญาณจะถูกสะกดข่ม ค่ายกลวิญญาณนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อมือปีศาจปล้นวิญญาณ แม้มันจะไม่แข็งแกร่งขึ้น แต่พลังอํานาจของมันก็ไม่ลดลง

 

ท่าไม้ตายอมตะปีแห่งโชคร้ายถูกนํามาใช้ในค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตาย ขณะเดียวกันโชคของฟางหยวนก็ยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นผู้อมตะภาคใต้เหล่านี้จึงถูกขโมยวิญญาณอมตะดวงสําคัญที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะของพวกเขาหรือเป็นวิญญาณอมตะที่ฟางหยวนต้องการ

 

หลังจากถูกขโมยวิญญาณอมตะอีกครั้ง กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ต้องเผชิญหน้ากับฟันเฟืองที่รุนแรงและได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง

 

น่าเสียดายที่ลั่วเว่ยหยินและเซี่ยชามีการป้องกันที่ไร้ที่ติ พวกเขาสามารถทําลายมือปีศาจปล้นวิญญาณที่พุ่งเข้ามาหา ทั้งสองกระทั่งมีพลังงานเหลือพอที่จะยื่นมือเข้าช่วยผู้อมตะระดับเจ็บคนอื่นๆ โดยเฉพาะลั่วเว่ยหยิน แม้เขาจะไม่มีท่าไม้ตายสายโจมตีแต่เขามีทักษะในการป้องกันที่ยอดเยี่ยม หากไม่ใช่เพราะเขา ผู้อมตะหลายคนอาจตายไปแล้ว

 

ฟางหยวนยังไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝัน

 

ท่าไม้ตายนี้ถูกเปิดเผยมานานแล้ว ผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคมีวิธีป้องกันมัน สิ่งสําคัญที่สุดคือหากมันล้มเหลว ฟางหยวนจะถูกลากเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวังในการใช้งานมัน

 

เว้นเพียงเขาจะเลียนแบบอิงอู่เซียโดยพึ่งพากายาแห่งความฝันเพื่อกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายนี้ ในกรณีนั้นแม้เขาจะล้มเหลว มันก็ไม่เป็นปัญหา

 

ไม่มีท่าไม้ตายที่อยู่ยงคงกระพัน เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนจะสามารถตอบโต้ มือปีศาจปล้นวิญญาณจะพบปัญหานี้ในที่สุด เว้นเพียงฟางหยวนจะพัฒนามันในอนาคต

 

ด้วยความช่วยเหลือจากท่าไม้ตายอมตะปีแห่งโชคร้าย สถานการณ์จึงผลิกกลับไปทางฟางหยวน

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เซี่ยชาตะโกนเสียงดัง “พังพินาศไปซะ!”

 

สายลมกรรโชกแรงหมุนวนขึ้นรอบตัวนางพร้อมกับสายฟ้า ที่แลบลั่น ทั้งสองหลอมรวมกันและก่อตัวเป็นพัดขนาดใหญ่อยู่ในมือของนาง

 

เซี่ยชาสะบัดพัดที่อยู่ในมือและทําลายแกนกลางที่ฟางหยวนดูแลอยู่ ตําแหน่งของเขาถูกเปิดเผยทันที แม้เขาจะอยู่ภายใต้การปกป้องของทาสอสูรปีแรกกําเนิดสามตัวและกองทัพอสูรปี แต่ความคิดที่เหลืออยู่ของเขาไม่เพียงพอให้เขากระตุ้นใช้เกราะหวนคืน นั่นทําให้เขาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีนี้

 

เซี่ยชาสะบัดพัดไปทางซ้าย ไปหนิงปิงตระหนักถึงภัยคุกคามร้ายแรง นางเปลี่ยนร่างเป็นไป่เซียงก่อนที่ร่างของนางจะถูกทําลายลงในพริบตา

 

เซี่ยชาสะบัดพัดไปทางขวา เทพธิดากระต่ายขาวไม่สามารถหลบได้ทันเวลา แกนกลางที่นางดูแลอยู่ถูกทําลายขณะที่ร่างกายของนางระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

เทพธิดากระต่ายขาวตาย ณ จุดเกิดเหตุ!

 

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทําให้ขวัญกําลังใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้พุ่งสูงขึ้น

 

ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน!

 

การโจมตีสามครั้งของพัดฤดูร้อนทําให้ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายแทบพังทลายลงขณะที่กลุ่มของฟางหยวนได้รับบาดเจ็บและล้มตาย

 

เซี่ยชาสูดหายใจอย่างหนักหน่วงก่อนที่พัดในมือของนางจะสว่างไสวขึ้นอีกครั้ง

 

หากถูกโจมตีด้วยพัดฤดูร้อนต่อไป กลุ่มของฟางหยวนจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

 

“ผู้ใดจะคิดว่าเซี่ยชาจะสามารถอนุมานค่ายกลวิญญาณปีแห่งความตายได้อย่างรวดเร็ว นางทําลายแกนกลางสามแกนได้ในครั้งเดียว หากข้าไม่ใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณสร้างแรงกดดันให้กับพวกนาง นางอาจไม่ใช้วิธีที่รุนแรงเช่นนี้!” หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น

 

พลังการต่อสู้ของเซี่ยชาเหนือกว่าข้อมูลของนิกายเงา ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของนางอาจไม่ได้อยู่ในระดับปรมาจารย์เอกเท่านั้นและยังมีความเป็นไปได้ที่นางจะมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลเช่นกัน แต่ผู้ใดจะรู้เกี่ยวกับมัน หลังจากทั้งหมดผู้อมตะระดับแปดจะถูกเปิดเผยโดยง่ายได้อย่างไร?

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะระดับแปดที่แท้จริง ฟางหยวนสามารถใช้มันดักจับกลุ่มผู้อมตะภาคใต้รวมถึงผู้อมตะระดับแปดลั่วเว่ยหยินและเซี่ยชา

 

นี่คือความพิเศษบนเส้นทางแห่งค่ายกล

 

ตราบเท่าที่ค่ายกลวิญญาณถูกจัดตั้ง มันจะสามารถต่อต้านศัตรูจํานวนมากและอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าออกมา

 

แต่จุดอ่อนของค่ายกลวิญญาณก็คือเมื่อศัตรูเข้าใจมัน พวกเขาจะสามารถทําลายมันได้อย่างง่ายดาย

 

ตอนนี้มิติพิเศษเริ่มพังทําลายลงแล้ว กลุ่มผู้อมตะภาคใต้สามารถมองเห็นวิญญาณที่อยู่รอบๆ ได้ด้วยตาเปล่า

 

“ฟางหยวน ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!” หลิวห่าวตะโกนด้วยความตื่นเต้นขณะที่เขากระตุ้นใช้วิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติ

 

ด้วยพลังอํานาจของวิญญาณอมตะดวงนี้ ฟางหยวนจะไม่สามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะได้ในบริเวณนี้

 

“ตอนนี้แม้เจ้าจะหลบหนีไปยังสายธารแห่งกาลเวลา ข้าก็สามารถตามไปฆ่าเจ้าที่นั่น!” เซี่ยชาสะบัดพัดในมือและเผยรอยยิ้มภาคภูมิใจ

 

“หลบหนีงั้นหรือ? เหตุใดข้าต้องหลบหนี?” กระทั่งในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ดวงตาของฟางหยวนก็ยังส่องประกายสว่างไสว

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกตะลึงเมื่ออสูรบีบรรพกาลที่อยู่รอบๆแข็งค้างราวกับประติมากรรมหินขณะที่อาณาจักรแห่งความฝันราวกับสายลมพัดออกมาจากร่างของพวกมันและปกคลุมพื้นที่เอาไว้อย่างรวดเร็ว

 

ทุกคนพยายามหลบเลี่ยง

 

เปลือกตาของเซี่ยชากระตุก นางเร่งโบกพัดที่อยู่ในมือ

 

แต่ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังของนางกลับไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงต่อหน้าอาณาจักรแห่งความฝัน

 

บางคนพยายามหลบหนีด้วยความตื่นตระหนกแต่ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายยังไม่พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ พวกเขายังติดอยู่ที่นี่

 

อาณาจักรแห่งความฝันปิดล้อมเซี่ยชาและคนอื่นๆเอาไว้ขณะที่ค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายก็ถูกมันกัดกร่อนไปพร้อมกัน

 

ในไม่ช้าค่ายกลวิญญาณอมตะปีแห่งความตายก็จมอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

สนามรบที่เคยเสียงดังเงียบลงทันที

 

กระทั่งกองทัพอสูรปีก็ผล็อยหลับไปเช่นกัน

 

“นี่คือพลังอํานาจของเส้นทางแห่งความฝัน!” เทพธิดาเมี่ยวหยินอ้าปากค้าง

 

“ไม่แปลกใจเลยที่กองกําลังทั้งหมดต้องการสํารวจและค้นคว้าเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝัน” ไปหนิงบิงที่ฟื้นขึ้นในร่างของไปเชียงกล่าว

 

แต่น่าเสียดายที่เทพธิดากระต่ายขาวเสียชีวิตในการต่อสู้

 

ทักษะเดียวปกครองโลก!

 

เส้นทางแห่งความฝันเป็นเส้นทางใหม่เช่นเดียวกับเส้นทางแห่งการโจรกรรม เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง และเส้นทางแห่งโชคในอดีต ปัจจุบันยังมีไม่ผู้ใดสามารถตอบโต้หรือต่อต้านมัน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+