Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1604 เชลย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1604 เชลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1604 เชลย

 

ภูเขาเต็มไปด้วยปาสีเขียว ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆ

 

ทันใดนั้นแสงลึกลับพลันส่องประกายขึ้นก่อนที่มันจะกลายเป็นชายร่างสูงผู้หนึ่ง

 

คนผู้นี้มีคิ้วสีขาวบางและยาว เส้นผมส่องประกาย ดวงตาปิดสนิท เขาอยู่ในชุดคลุมสีขาวบริสุทธิ์ที่ไม่มีคราบฝุ่นแม้แต่จุดเดียว

 

กลิ่นอายของเขาไม่ยิ่งใหญ่มากนักแต่รูปลักษณ์ทําให้เขาดูราวกับเทพเจ้า

 

นี่คือจวินเฉินกวง ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งแสงและเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของหนึ่งในสิบนิกายโบราณ เขาพึ่งถูกคัดเลือกเข้าสู่วังสวรรค์โดยเทพธิดาจื่อเว่ย

 

“หลิวห่าวหายตัวไปที่นี่” ดวงตาของจวินเฉินกวงปิดแต่ราวกับเขาสามารถมองเห็นโลกทั้งใบได้อย่างชัดเจน

 

ไม่นานเขาก็พบร่องรอยของการต่อสู้

 

“มันดูไม่ดีสําหรับหลิวห่าว มีการต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นที่นี่ โชคไม่ดีที่หลิวห่าวไม่ได้ส่งข้อความขอกําลังเสริมใดๆ มันอาจเป็นเพราะค่ายกลวิญญาณอมตะหรือเขตแดนอมตะ”

 

จวินเฉินกวงขมวดคิ้วลึก

 

หลิวห่าวเป็นสายลับของวังสวรรค์ที่แฝงตัวเข้าสู่ภาคใต้โดยความช่วยเหลือของวูหยง เขานําวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติมาด้วยโดยมีวิญญาณท่องแดนอมตะของฟางหยวนวนเป็นเป้าหมาย

 

สําหรับจวินเฉินกวง เขาได้รับภารกิจจากเทพธิดาจื่อเว่ยให้ซุ่มดูอยู่ห่างๆ หากฟางหยวนได้รับบาดเจ็บและพยายามหลบหนี จวินเฉินกวงต้องไล่ล่าและลอบสังหารฟางหยวน

 

“กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ที่ไล่ล่าฟางหยวนเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ จากกองกําลังต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขาสามารถรักษาชีวิตของตนแม้ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรแรกกําเนิด”

 

ไท่ชิวจงของตระกูลไท่มีความสําเร็จที่น่าประทับใจ เขาจับและสังหารปีศาจอมตะของภาคใต้มามากกว่าสิบคน ปีศาจอมตะของภาคใต้จะสั่นกลัวเพียงเมื่อได้ยินชื่อของเขา

 

เฉิงหูจางของตระกูลเฉิงบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและเส้นทางแห่งไม้ เขามีวิธีบ่มเพาะสองเส้นทางที่ไม่ขัดแย้งกันเช่นเดียวกับจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเจ็ดชั้นแนวหน้าของตระกูลเฉิง

 

หยางกู่ของตระกูลหยางเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับสูงบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของภาคใต้ ครั้งหนึ่งเขาเคยทําลายรังของสัตว์อสูรบรรพกาลด้วยตัวเขาเพียงลําพัง เขายังประสบความสําเร็จในการหลบหนีจากการไล่ล่าของสัตว์อสูรแรกกําเนิด

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดเหล่านี้ถือเป็นชนชั้นสูงของภาคใต้ ทุกคนล้วนเป็นไพ่ตายของกองกําลังของตนทั้งสิ้น

 

“ยังไม่ต้องกล่าวถึงคนกลุ่มนี้แต่ยังมีผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพและผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซี่ย เซี่ยชา!”

 

คนทั้งสองเป็นผู้อมตะระดับแปด!

 

จวินเฉินกวงถอนหายใจ

 

ชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ของคนกลุ่มนี้ทําให้จวินเฉินกวงรู้สึกไว้วางใจขณะที่เขาลอบเข้าใกล้อย่างเงียบๆ

 

จวินเฉินกวงต้องระวังการตรวจสอบของถั่วเว่ยหยินและเซี่ยชา หากเขาถูกค้นพบ มันจะสร้างความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจึงต้องติดตามอยู่ในระยะไกล

 

“สองผู้อมตะระดับแปดและผู้อมตะระดับเจ็ดอีกหลายคน พวกเขาเตรียมตัวมาอย่างเพียงพอและมีวิธีการมากมายในการต่อสู้กับฟางหยวน แต่พวกเขากลับแพ้! มันไม่ได้เป็นเพียงการสูญเสียแต่มันเป็นความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!”

 

จวินเฉินกวงส่ายศีรษะซ้ำๆ

 

“ฟางหยวนน่าจะใช้ประโยชน์จากอาณาจักรแห่งความฝัน” ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบร่องรอยของอาณาจักรแห่งความฝัน นั่นทําให้เขายิ่งมั่นใจในการคาดเดาของตนมากขึ้น “นอกจากอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนไม่มีวิธีอื่นที่จะทําให้เกิดผลลัพธ์นี้ คือ?”

 

ขณะที่จวินเฉินกวงกําลังตรวจสอบสนามรบอย่างระมัดระวัง เขากลับหันหน้าไปทางทิศใต้อย่างกะทันหัน

 

จากการตรวจสอบ เขาพบคฤหาสน์วิญญาณอมตะกําลังพุ่งเข้ามา

 

จวินเฉินกวงไม่จําเป็นต้องตรวจสอบกลิ่นอาย เขาแน่ใจว่ามันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะของคนใต้

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้รวดเร็วมากแต่มันยังต้องใช้เวลาอีกนานก่อนจะมาถึงที่นี่ จวินเฉินกวงรู้ว่าตนเองต้องออกจากสถานที่แห่งนี้ทันที

 

หากเขาถูกค้นพบ มันจะเกิดความเข้าใจผิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

หลังจากจวินเฉินกวงจากไป คฤหาสน์วิญญาณอมตะก็มาถึง

 

มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณที่ดูเหมือนบ้านหลังเล็กๆ

 

บ้านสองชั้นสร้างขึ้นจากไม่ไผ่ มีน้ำค้างหยดลงมาจากใบไผ่สีเขียว

 

มันก็คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดบ้านไม่ไผ่สายลม!

 

วูหยงใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตระกูลวูและทําให้พวกเขาสามารถยึดครองตําแหน่งกองกําลังอันดับหนึ่งของภาคใต้ต่อไป

 

ประตูบ้านไม้ไผ่สายลมเปิดออกขณะที่ผู้อมตะระดับแปดบินออกมา

 

เขาเป็นชายวัยกลางคนหน้าตาธรรมดา คิ้วของเขาเชิดขึ้นเล็กน้อยทําให้เขาดูดุดันและมืดมน

 

เขาคือผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวคนปัจจุบัน วูหยง หลังจากนั้นอีกคนก็บินตามวูหยงออกมา

 

คนผู้นี้เป็นชายชราที่มีโหนกแก้มสูง เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดเช่นกันและยังเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือ จื่อชิวหยู

 

นอกจากนั้นยังมีกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ดอีกหลายคนตามออกมาจากบ้านไม่ไผ่สายลม พวกเขามาจากตระกูลต่างๆ ทุกคนล้วนแสดงออกด้วยความกังวล

 

“พวกเขาหายไปที่นี่!” ใบหน้าของผู้อมตะตระกูลปากลายเป็นมืดครื้ม

 

“ตรวจสอบที่เกิดเหตุเร็วเข้า ตระกูลของข้าไม่สามารถติดต่อผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเรา” ผู้อมตะตระกูลเซี่ยรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก

 

จากนั้นท่าไม้ตายสายตรวจสอบทุกชนิดก็ถูกกระตุ้นใช้งาน สถานที่แห่งนี้ถูกค้นหลายสิบรอบ

 

ทุกคนรวมถึงสองผู้อมตะระดับแปดมีการแสดงออกที่เคร่งเครียด

 

“มีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาอยู่ที่นี่”

 

“มีร่องรอยของค่ายกลวิญญาณอมตะและเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด

 

“มีอาณาจักรแห่งความฝันเช่นกัน” บางคนค้นพบร่องรอยของอาณาจักรแห่งความฝัน 

 

เช่นเดียวกับจวินเฉินกวง กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ถูกดึงดูดโดยอาณาจักรแห่งความฝัน นอกจากอาณาจักรแห่งความฝัน ร่องรอยอื่นไม่มีคุณค่าให้กล่าวถึง เบาะแสเดียวที่พวกเขามีคืออาณาจักรแห่งความฝัน

 

“ระวังตัวด้วย” กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ค่อยๆแยกย้ายกันออกไปปิดล้อมอาณาจักรแห่งความฝันเล็กๆแห่งนี้

 

“อาณาจักรแห่งความฝันกําลังหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง” บางคนอุทาน

 

ทุกคนสังเกตเห็นเช่นเดียวกัน

 

ไม่นานหลังจากนั้นวิญญาณหลายดวงก็หลุดออกมาจากอาณาจักรแห่งความฝันที่หดตัวลง

 

ผู้อมตะภาคใต้จับพวกมันและตรวจสอบอย่างระมัดระวัง

 

พวกมันเป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ มีข้อความบางอย่างถูกทิ้งไว้ภายใน

 

มันเป็นเนื้อหาที่เรียบง่ายแต่มันทําให้การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้เปลี่ยนไปทันที

 

“สหายคนใต้ ข้าขอแจ้งให้พวกเจ้าทราบว่าตอนนี้ผู้อมตะของพวกเจ้าอยู่ในมือข้า ฟางหยวน หากพวกเจ้าต้องการไถ่ตัวพวกเขา โปรดรอการติดต่อกลับจากข้า”

 

“นี่ นี่ นี่” บางคนรู้สึกพูดไม่ออก ร่างกายของเขาเริ่มสั่นขณะถือวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเอาไว้ในมือ

 

“ หลอกลวง! นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? กองกําลังที่เราจัดตั้งขึ้นถูกฟางหยวนจับงั้นหรือ? ยืม!” บางคนส่ายศีรษะและปฏิเสธที่จะเชื่อ “นี่เป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่!”

 

“แต่พวกเราไม่สามารถติดต่อพวกเขา” บางคนโต้แย้ง

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกอยู่ในความเงียบ

 

พวกเขาหยุดนิ่งราวกับรูปปั้น “นิ้ว…”

 

สายลมทําให้หนวดสีขาวของชื่อชิวหยูสั่นเล็กน้อย

 

ใบหน้าของวูหยงกลายเป็นซีดขาว เขาปิดเปลือกตาลงก่อนจะเปิดขึ้นอย่างช้าๆ

 

มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ แต่ความจริงก็อยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

 

และความจริงก็บังคับให้พวกเขาต้องยอมรับ

 

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ส่งผู้อมตะจํานวนมากออกไล่ล่าฟางหยวน อย่างไรก็ตามนอกจากพวกเขาจะไม่สามารถสังหารฟางหยวน พวกเขายังถูกฟางหยวนจับเป็นเชลย!

 

นี่เป็นการตบหน้าฝ่ายธรรมะของภาคใต้ครั้งใหญ่

 

การตบนี้ทําให้พวกเขารู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

 

“เมื่อเราไม่สามารถติดต่อเซี่ยชาและคนอื่นๆ เขารีบรวบรวมกําลังเสริมและออกเดินทางมาที่นี่ทันที ท่านจื่อ ท่านคิดว่านี่เป็นค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหรือไม่?” วูหยงทําลายความเงียบด้วยเสียงที่แหบแห้งเล็กน้อย

 

คํากล่าวของเขาค่อนข้างคลุมเครือแต่ทุกคนเข้าใจว่าวูหยงหมายถึงสิ่งใด

 

จื่อชิวหยูพยักหน้าช้าๆและกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เรารู้จักความแข็งแกร่งของฟางหยวนและสมาชิกนิกายเงาเป็นอย่างดี เรายังประเมินพวกเขาอย่างระมัดระวัง ด้วยความแข็งแกร่งของเซี่ยซาและคนอื่นๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะถูกจับโดยฟางหยวนภายในระยะเวลาสั้นๆ มีร่องรอยของค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ซับซ้อนจนน่าตกใจอยู่ที่นี่จริงๆ”

 

จื่อชิวหยูเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลที่สามารถจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะได้ด้วยการหยิบยืมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่อยู่ในสภาพแวดล้อม ฟางหยวนเก็บกวาดสนามรบแล้วแต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทําความสะอาดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าในระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจํานวนมากจึงถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

 

พิจารณาการเคลื่อนไหวและจํานวนร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ถูกทิ้งไว้ จื่อชิวหยูแน่ใจว่าเคยมีค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาถูกจัดตั้งไว้ที่นี่

 

วูหยงพยักหน้าเล็กน้อย “ควรจะเป็นเช่นนั้น ถั่วเว่ยหยินและเซี่ยชาเป็นผู้อมตะระดับแปด มันไม่ง่ายที่จะจัดการคนทั้งสอง เว้นเพียงมันจะเป็นเขตแดนอมตะระดับเก้าหรือค่ายกลวิญญาณอมตะระดับแปด แม้เราจะรีบมาที่นี่แต่เวลาในค่ายกลวิญญาณอมตะอาจผ่านไปนานแล้ว”

 

ผู้อมตะตระกูลเฉิงเปิดปากกล่าวในเวลานี้ “จากข้อมูลที่วังสวรรค์เปิดเผยในสวรรค์สีเหลือง ข้าจําได้ว่าฟางหยวนเคยใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะที่สามารถเชื่อมต่อกับสายธารแห่งกาลเวลาและล่อลวงอสูรปีให้เข้าสู่สนามรบ”

 

การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะภาตใต้กลายเป็นมืดครึมเมื่อได้ยินถ้อยคําเหล่านี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1604 เชลย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1604 เชลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1604 เชลย

 

ภูเขาเต็มไปด้วยปาสีเขียว ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆ

 

ทันใดนั้นแสงลึกลับพลันส่องประกายขึ้นก่อนที่มันจะกลายเป็นชายร่างสูงผู้หนึ่ง

 

คนผู้นี้มีคิ้วสีขาวบางและยาว เส้นผมส่องประกาย ดวงตาปิดสนิท เขาอยู่ในชุดคลุมสีขาวบริสุทธิ์ที่ไม่มีคราบฝุ่นแม้แต่จุดเดียว

 

กลิ่นอายของเขาไม่ยิ่งใหญ่มากนักแต่รูปลักษณ์ทําให้เขาดูราวกับเทพเจ้า

 

นี่คือจวินเฉินกวง ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งแสงและเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของหนึ่งในสิบนิกายโบราณ เขาพึ่งถูกคัดเลือกเข้าสู่วังสวรรค์โดยเทพธิดาจื่อเว่ย

 

“หลิวห่าวหายตัวไปที่นี่” ดวงตาของจวินเฉินกวงปิดแต่ราวกับเขาสามารถมองเห็นโลกทั้งใบได้อย่างชัดเจน

 

ไม่นานเขาก็พบร่องรอยของการต่อสู้

 

“มันดูไม่ดีสําหรับหลิวห่าว มีการต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นที่นี่ โชคไม่ดีที่หลิวห่าวไม่ได้ส่งข้อความขอกําลังเสริมใดๆ มันอาจเป็นเพราะค่ายกลวิญญาณอมตะหรือเขตแดนอมตะ”

 

จวินเฉินกวงขมวดคิ้วลึก

 

หลิวห่าวเป็นสายลับของวังสวรรค์ที่แฝงตัวเข้าสู่ภาคใต้โดยความช่วยเหลือของวูหยง เขานําวิญญาณอมตะผนึกห้วงมิติมาด้วยโดยมีวิญญาณท่องแดนอมตะของฟางหยวนวนเป็นเป้าหมาย

 

สําหรับจวินเฉินกวง เขาได้รับภารกิจจากเทพธิดาจื่อเว่ยให้ซุ่มดูอยู่ห่างๆ หากฟางหยวนได้รับบาดเจ็บและพยายามหลบหนี จวินเฉินกวงต้องไล่ล่าและลอบสังหารฟางหยวน

 

“กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ที่ไล่ล่าฟางหยวนเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ จากกองกําลังต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขาสามารถรักษาชีวิตของตนแม้ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรแรกกําเนิด”

 

ไท่ชิวจงของตระกูลไท่มีความสําเร็จที่น่าประทับใจ เขาจับและสังหารปีศาจอมตะของภาคใต้มามากกว่าสิบคน ปีศาจอมตะของภาคใต้จะสั่นกลัวเพียงเมื่อได้ยินชื่อของเขา

 

เฉิงหูจางของตระกูลเฉิงบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและเส้นทางแห่งไม้ เขามีวิธีบ่มเพาะสองเส้นทางที่ไม่ขัดแย้งกันเช่นเดียวกับจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเจ็ดชั้นแนวหน้าของตระกูลเฉิง

 

หยางกู่ของตระกูลหยางเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับสูงบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของภาคใต้ ครั้งหนึ่งเขาเคยทําลายรังของสัตว์อสูรบรรพกาลด้วยตัวเขาเพียงลําพัง เขายังประสบความสําเร็จในการหลบหนีจากการไล่ล่าของสัตว์อสูรแรกกําเนิด

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดเหล่านี้ถือเป็นชนชั้นสูงของภาคใต้ ทุกคนล้วนเป็นไพ่ตายของกองกําลังของตนทั้งสิ้น

 

“ยังไม่ต้องกล่าวถึงคนกลุ่มนี้แต่ยังมีผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพและผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซี่ย เซี่ยชา!”

 

คนทั้งสองเป็นผู้อมตะระดับแปด!

 

จวินเฉินกวงถอนหายใจ

 

ชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ของคนกลุ่มนี้ทําให้จวินเฉินกวงรู้สึกไว้วางใจขณะที่เขาลอบเข้าใกล้อย่างเงียบๆ

 

จวินเฉินกวงต้องระวังการตรวจสอบของถั่วเว่ยหยินและเซี่ยชา หากเขาถูกค้นพบ มันจะสร้างความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจึงต้องติดตามอยู่ในระยะไกล

 

“สองผู้อมตะระดับแปดและผู้อมตะระดับเจ็ดอีกหลายคน พวกเขาเตรียมตัวมาอย่างเพียงพอและมีวิธีการมากมายในการต่อสู้กับฟางหยวน แต่พวกเขากลับแพ้! มันไม่ได้เป็นเพียงการสูญเสียแต่มันเป็นความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!”

 

จวินเฉินกวงส่ายศีรษะซ้ำๆ

 

“ฟางหยวนน่าจะใช้ประโยชน์จากอาณาจักรแห่งความฝัน” ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบร่องรอยของอาณาจักรแห่งความฝัน นั่นทําให้เขายิ่งมั่นใจในการคาดเดาของตนมากขึ้น “นอกจากอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนไม่มีวิธีอื่นที่จะทําให้เกิดผลลัพธ์นี้ คือ?”

 

ขณะที่จวินเฉินกวงกําลังตรวจสอบสนามรบอย่างระมัดระวัง เขากลับหันหน้าไปทางทิศใต้อย่างกะทันหัน

 

จากการตรวจสอบ เขาพบคฤหาสน์วิญญาณอมตะกําลังพุ่งเข้ามา

 

จวินเฉินกวงไม่จําเป็นต้องตรวจสอบกลิ่นอาย เขาแน่ใจว่ามันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะของคนใต้

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้รวดเร็วมากแต่มันยังต้องใช้เวลาอีกนานก่อนจะมาถึงที่นี่ จวินเฉินกวงรู้ว่าตนเองต้องออกจากสถานที่แห่งนี้ทันที

 

หากเขาถูกค้นพบ มันจะเกิดความเข้าใจผิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

หลังจากจวินเฉินกวงจากไป คฤหาสน์วิญญาณอมตะก็มาถึง

 

มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณที่ดูเหมือนบ้านหลังเล็กๆ

 

บ้านสองชั้นสร้างขึ้นจากไม่ไผ่ มีน้ำค้างหยดลงมาจากใบไผ่สีเขียว

 

มันก็คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดบ้านไม่ไผ่สายลม!

 

วูหยงใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตระกูลวูและทําให้พวกเขาสามารถยึดครองตําแหน่งกองกําลังอันดับหนึ่งของภาคใต้ต่อไป

 

ประตูบ้านไม้ไผ่สายลมเปิดออกขณะที่ผู้อมตะระดับแปดบินออกมา

 

เขาเป็นชายวัยกลางคนหน้าตาธรรมดา คิ้วของเขาเชิดขึ้นเล็กน้อยทําให้เขาดูดุดันและมืดมน

 

เขาคือผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวคนปัจจุบัน วูหยง หลังจากนั้นอีกคนก็บินตามวูหยงออกมา

 

คนผู้นี้เป็นชายชราที่มีโหนกแก้มสูง เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดเช่นกันและยังเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือ จื่อชิวหยู

 

นอกจากนั้นยังมีกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ดอีกหลายคนตามออกมาจากบ้านไม่ไผ่สายลม พวกเขามาจากตระกูลต่างๆ ทุกคนล้วนแสดงออกด้วยความกังวล

 

“พวกเขาหายไปที่นี่!” ใบหน้าของผู้อมตะตระกูลปากลายเป็นมืดครื้ม

 

“ตรวจสอบที่เกิดเหตุเร็วเข้า ตระกูลของข้าไม่สามารถติดต่อผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเรา” ผู้อมตะตระกูลเซี่ยรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก

 

จากนั้นท่าไม้ตายสายตรวจสอบทุกชนิดก็ถูกกระตุ้นใช้งาน สถานที่แห่งนี้ถูกค้นหลายสิบรอบ

 

ทุกคนรวมถึงสองผู้อมตะระดับแปดมีการแสดงออกที่เคร่งเครียด

 

“มีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาอยู่ที่นี่”

 

“มีร่องรอยของค่ายกลวิญญาณอมตะและเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด

 

“มีอาณาจักรแห่งความฝันเช่นกัน” บางคนค้นพบร่องรอยของอาณาจักรแห่งความฝัน 

 

เช่นเดียวกับจวินเฉินกวง กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ถูกดึงดูดโดยอาณาจักรแห่งความฝัน นอกจากอาณาจักรแห่งความฝัน ร่องรอยอื่นไม่มีคุณค่าให้กล่าวถึง เบาะแสเดียวที่พวกเขามีคืออาณาจักรแห่งความฝัน

 

“ระวังตัวด้วย” กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ค่อยๆแยกย้ายกันออกไปปิดล้อมอาณาจักรแห่งความฝันเล็กๆแห่งนี้

 

“อาณาจักรแห่งความฝันกําลังหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง” บางคนอุทาน

 

ทุกคนสังเกตเห็นเช่นเดียวกัน

 

ไม่นานหลังจากนั้นวิญญาณหลายดวงก็หลุดออกมาจากอาณาจักรแห่งความฝันที่หดตัวลง

 

ผู้อมตะภาคใต้จับพวกมันและตรวจสอบอย่างระมัดระวัง

 

พวกมันเป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ มีข้อความบางอย่างถูกทิ้งไว้ภายใน

 

มันเป็นเนื้อหาที่เรียบง่ายแต่มันทําให้การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้เปลี่ยนไปทันที

 

“สหายคนใต้ ข้าขอแจ้งให้พวกเจ้าทราบว่าตอนนี้ผู้อมตะของพวกเจ้าอยู่ในมือข้า ฟางหยวน หากพวกเจ้าต้องการไถ่ตัวพวกเขา โปรดรอการติดต่อกลับจากข้า”

 

“นี่ นี่ นี่” บางคนรู้สึกพูดไม่ออก ร่างกายของเขาเริ่มสั่นขณะถือวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเอาไว้ในมือ

 

“ หลอกลวง! นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? กองกําลังที่เราจัดตั้งขึ้นถูกฟางหยวนจับงั้นหรือ? ยืม!” บางคนส่ายศีรษะและปฏิเสธที่จะเชื่อ “นี่เป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่!”

 

“แต่พวกเราไม่สามารถติดต่อพวกเขา” บางคนโต้แย้ง

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกอยู่ในความเงียบ

 

พวกเขาหยุดนิ่งราวกับรูปปั้น “นิ้ว…”

 

สายลมทําให้หนวดสีขาวของชื่อชิวหยูสั่นเล็กน้อย

 

ใบหน้าของวูหยงกลายเป็นซีดขาว เขาปิดเปลือกตาลงก่อนจะเปิดขึ้นอย่างช้าๆ

 

มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ แต่ความจริงก็อยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

 

และความจริงก็บังคับให้พวกเขาต้องยอมรับ

 

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ส่งผู้อมตะจํานวนมากออกไล่ล่าฟางหยวน อย่างไรก็ตามนอกจากพวกเขาจะไม่สามารถสังหารฟางหยวน พวกเขายังถูกฟางหยวนจับเป็นเชลย!

 

นี่เป็นการตบหน้าฝ่ายธรรมะของภาคใต้ครั้งใหญ่

 

การตบนี้ทําให้พวกเขารู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

 

“เมื่อเราไม่สามารถติดต่อเซี่ยชาและคนอื่นๆ เขารีบรวบรวมกําลังเสริมและออกเดินทางมาที่นี่ทันที ท่านจื่อ ท่านคิดว่านี่เป็นค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหรือไม่?” วูหยงทําลายความเงียบด้วยเสียงที่แหบแห้งเล็กน้อย

 

คํากล่าวของเขาค่อนข้างคลุมเครือแต่ทุกคนเข้าใจว่าวูหยงหมายถึงสิ่งใด

 

จื่อชิวหยูพยักหน้าช้าๆและกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เรารู้จักความแข็งแกร่งของฟางหยวนและสมาชิกนิกายเงาเป็นอย่างดี เรายังประเมินพวกเขาอย่างระมัดระวัง ด้วยความแข็งแกร่งของเซี่ยซาและคนอื่นๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะถูกจับโดยฟางหยวนภายในระยะเวลาสั้นๆ มีร่องรอยของค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ซับซ้อนจนน่าตกใจอยู่ที่นี่จริงๆ”

 

จื่อชิวหยูเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลที่สามารถจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะได้ด้วยการหยิบยืมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่อยู่ในสภาพแวดล้อม ฟางหยวนเก็บกวาดสนามรบแล้วแต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทําความสะอาดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าในระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจํานวนมากจึงถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

 

พิจารณาการเคลื่อนไหวและจํานวนร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ถูกทิ้งไว้ จื่อชิวหยูแน่ใจว่าเคยมีค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาถูกจัดตั้งไว้ที่นี่

 

วูหยงพยักหน้าเล็กน้อย “ควรจะเป็นเช่นนั้น ถั่วเว่ยหยินและเซี่ยชาเป็นผู้อมตะระดับแปด มันไม่ง่ายที่จะจัดการคนทั้งสอง เว้นเพียงมันจะเป็นเขตแดนอมตะระดับเก้าหรือค่ายกลวิญญาณอมตะระดับแปด แม้เราจะรีบมาที่นี่แต่เวลาในค่ายกลวิญญาณอมตะอาจผ่านไปนานแล้ว”

 

ผู้อมตะตระกูลเฉิงเปิดปากกล่าวในเวลานี้ “จากข้อมูลที่วังสวรรค์เปิดเผยในสวรรค์สีเหลือง ข้าจําได้ว่าฟางหยวนเคยใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะที่สามารถเชื่อมต่อกับสายธารแห่งกาลเวลาและล่อลวงอสูรปีให้เข้าสู่สนามรบ”

 

การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะภาตใต้กลายเป็นมืดครึมเมื่อได้ยินถ้อยคําเหล่านี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+