Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1605 กักขังเชลย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1605 กักขังเชลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1605 กักขังเชลย

 

เค้าโครงคร่าวๆของความจริงปรากฏขึ้นในใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้

 

“ ท่ามกลางอสูรเหล่านี้ เป็นไปได้ที่จะมีอสูรปีแรกกําเนิดและไม่ใช่จํานวนน้อยๆ ฟางหยวนสามารถใช้ประโยชน์จากพวกมัน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีมรดกที่แท้จริงของนิกายเงา ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ดักจับสมาชิกตระกูลของพวกเราเป็นหนึ่งในความสามารถของเขา”

 

จื่อชิวหยูหยุดก่อนกล่าวต่อด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น “ข้าเพียงไม่เข้าใจบางสิ่ง หากมิติช่องว่างถูกวางลง เป็นธรรมดาที่คนนอกจะไม่สามารถตรวจสอบ แต่ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ซ่อนอยู่ เซี่ยชาและลั่วเว่ยหยินจะไม่ตระหนักถึงมันได้อย่างไร?”

 

ความสามารถในการปกปิดของค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาด้อยกว่าเส้นทางแห่งภูตผี เส้นทางแห่งห้วงมิติ หรือเส้นทางแห่งการโจรกรรม

 

เซี่ยชาตกลงสู่กับดักและต้องต่อสู้กับฝูงอสูรปีก่อนจะถูกจับเป็นเชลยเพราะอาณาจักรแห่งความฝัน สิ่งนี้สามารถเข้าใจได้

 

อย่างไรก็ตาม..

 

สิ่งที่ผิดปกติที่สุดคือเหตุใดพวกเขาถึงไม่พบสิ่งใดและตกลงสู่กับดักของฟางหยวนตั้งแต่แรก

 

กระทั่งจื่อชิวหยูปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลยังรู้สึกสับสน

 

ไม่ใช่ว่าไม่มีวิธีปกปิดค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่มันเป็นเรื่องยาก

 

จื่อชิวหยูไม่เคยได้ยินว่ามีค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่สามารถซ่อนตัวจากผู้อมตะระดับแปดถึงสองคน

 

“อาณาจักรแห่งความฝันกําลังสลายไป มีบางคนอยู่ข้างใน!” บางคนอุทาน

 

การเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรแห่งความฝันดึงดูดความสนใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ทันที 

 

ในไม่ช้าร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น เขาก็คือลั่วเว่ยหยิน!

 

เขาวางมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าอก ดวงตาปิดสนิทและไม่เคลื่อนไหว

 

แต่หลังจากอาณาจักรแห่งความฝันสลายไปจนหมด เขาก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

 

“พวกเจ้า” การแสดงออกของลั่วเว่ยหยินเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นวูหยงและคนอื่นๆ จากนั้นเขาก็กวาดตามองไปรอบๆและอุทาน “โอ้ ไม่!”

 

“ท่านลั่วเว่ยหยิน โปรดอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย!”

 

“ถูกต้อง ผู้อมตะของตระกูลข้าตกอยู่ในมือของฟางหยวนจริงๆงั้นหรือ?”

 

“เดี๋ยว! เรายังไม่สามารถยืนยันตัวตนของเขา!”

 

“เรามาพิสูจน์ตัวตนของเขากันก่อน ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยและวิธีหลบหนีจากอาณาจักรแห่งความฝัน” วูหยงกล่าวขณะที่จื่อชิวหยูเงียบ

 

จากนั้นวูหยงกับจื่อชิวหยูก็ปิดล้อมลั่วเว่ยหยินเอาไว้

 

ลั่วเว่ยหยินตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า “เชิญ”

 

ผู้อมตะภาคใต้มีวิธีการตรวจสอบเฉพาะตัว นอกจากนั้นพวกเขายังไม่ได้ใช้เพียงวิธีเดียว

 

หลังจากไม่นานการแสดงออกของวูหยงและคนอื่นๆก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย พวกเขาสามารถยืนยันว่าลัวเว่ยหยินผู้นี้ไม่ใช่ฟางหยวนที่ปลอมตัวมา

 

หลังจากนั้นยั่วเว่ยหยินก็เล่าสิ่งที่เขารู้ให้ทุกคนทราบ

 

เมื่อเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้น ใบหน้าของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้กลายเป็นซีดเผือด พวกเขาตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

 

ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจ “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ข้าไม่มีท่าไม้ตายสายโจมตีและทําได้เพียงเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น หากข้าไม่มีวิธีปกป้องตนเองจากอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าอาจตกอยู่ในมือของฟางหยวนเช่นกัน”

 

“ลืมมันไปเถอะ เราจะกลับกันก่อน” จูหยงชําเลืองตามองลั่วเว่ยหยินอย่างลึกซึ้งก่อนที่เขาจะสะบัดแขนเสื้อและเข้าไปในบ้านไม้ไผ่สายลม

 

ไม่นานหลังจากกลุ่มผู้อมตะภาคใต้จากไป แสงลึกลับก็พุ่งเข้ามาและกลายเป็นจวินเฉินกวงแห่งวังสวรรค์

 

จวินเฉินกวงตรวจสอบร่องรอยในสนามรบและขมวดคิ้วพึมพํา “ค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ลึกลับมาก มันไม่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งภูตผี เส้นทางแห่งห้วงมิติ หรือ เส้นทางแห่งการโจรกรรม มันไม่ใช่ค่ายกลวิญญาณอมตะที่หลอมรวมหลายเส้นทางแต่เป็นเส้นทางแห่งกาลเวลาเท่านั้น อย่างไรก็ตามมันกลับสามารถปกปิดตัวเองจนถึงระดับที่เซี่ยชาและลั่วเว่ยหยินไม่สามารถสัมผัสได้”

 

ผู้อมตะระดับแปดล้วนมีรากฐานที่ลึกล้ำ

 

ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซี่ย เซี่ยชาย่อมมีวิธีการมากมาย ขณะที่ลั่วเว่ยหยินเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ แต่ทั้งคู่กลับไม่ตระหนักถึงการคงอยู่ของค่ายกลวิญญาณอมตะและทําให้กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกลงสู่กับดัก

 

จวินเฉินกวงตรวจสอบหลายครั้งและยืนยันว่าไม่มีเบาะแสอื่นก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะในรูปลักษณ์ของปราสาทขนาดใหญ่ที่เรืองแสงสีเงินลอยอยู่ในสวรรค์เขียวน้อย

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนและสมาชิกนิกายเงาลอยอยู่รอบๆค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ พวกเขากําลังเฝ้ามองเชลยที่อยู่ภายในอย่างใกล้ชิด

 

เชลยเหล่านี้คือกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ที่ถูกฟางหยวนซุ่มโจมตีและจับกุม ไม่ว่าจะเป็นเฉิงหูจาง ไท่ชิวจง หยางกู่ และผู้อมตะระดับเจ็ดคนอื่นๆ พวกเขาถูกพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนา ดวงตาของพวกเขาปิดขณะที่พวกเขาติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

เชลยที่แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อมตะระดับแปดเซี่ยชา

 

กายาแห่งความฝันจะถูกกัดกร่อนเมื่อพวกมันอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน แต่เมื่อพวกมันออกมา พวกมันสามารถฟื้นตัวทันที แต่ร่างกายของผู้อมตะแตกต่างออกไป แม้ร่างกายของพวกเขาจะออกมาจากอาณาจักรแห่งความฝันเรียบร้อยแล้วแต่ดวงวิญญาณของพวกเขาอาจยังไม่สามารถออกมา

 

นี่เป็นเหตุผลที่ฟางหยวนสามารถจับเชลยเหล่านี้และนําพวกเขาเข้ามาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ในยุคปัจจุบันท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางสายเก่าไม่ส่งผลกระทบต่ออาณาจักรแห่งความฝัน กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะหอคอยดวงตาสวรรค์ยังสลายตัวเมื่อมันติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ผู้อมตะจะพบกับความยากลําบากหากต้องเผชิญหน้ากับอาณาจักรแห่งความฝัน

 

แต่ฟางหยวนมีวิธีพิเศษ นั่นคือกายาแห่งความฝัน

 

เขาใช้กายาแห่งความฝันเพื่อเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันและนําร่างของผู้อมตะภาคใต้ออกมาก่อนจะเก็บไว้ในมิติช่องว่างของเขา

 

จากนั้นอาณาจักรแห่งความฝันในสนามรบก็ถูกเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝันอีกครั้งและถูกนํากลับมา

 

นี่ทําให้เขาสามารถเก็บกวาดสนามรบได้อย่างรวดเร็วก่อนจะจากมา

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาขมวดคิ้วเล็กน้อย “แม้เราจะใช้อาณาจักรแห่งความฝันกักขังผู้อมตะเหล่านี้ มันก็ยังมีความเสี่ยงสูง หากบางคนตื่นขึ้นและสร้างความเสียหายให้กับมิติช่องว่างจักรพรรดิ มันจะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่

 

สําหรับผู้อมตะ มิติช่องว่างของพวกเขาเป็นรากฐานที่สําคัญ การนําผู้อมตะเหล่านี้เข้ามามีความเสี่ยงสูงมาก

 

“ทักษะหนึ่งปกครองโลก ในปัจจุบันผู้อมตะส่วนใหญ่ไม่สามารถต่อต้านอาณาจักรแห่งความฝัน กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ยังพบกับหายนะหากเผชิญหน้ากับอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าต้องฉวยโอกาสนี้ขโมยวิญญาณอมตะและทรัพยากรของพวกเขา จากนั้นข้าจะใช้วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณแยกดวงวิญญาณของพวกเขาออกจากร่าง มีเพียงวิธีนี้ข้าถึงจะปลอดภัย”

 

ฟางหยวนคิดต่อไปถึงลั่วเว่ยหยิน

 

คนผู้นี้ติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันแต่กายาแห่งความฝันกลับไม่สามารถเข้าใกล้เขาและนําร่างของเขาออกมา

 

ชัดเจนว่าเขามีทักษะบางอย่างบนเส้นทางแห่งความฝัน!

 

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ฟางหยวนถูกลั่วเว่ยหยินซุ่มโจมตีและตกลงสู่กับดักสามชาติภพ นั่นเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งความฝันเช่นกัน

 

ลั่วเว่ยหยินไม่ได้เป็นเพียงผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพแต่เขายังมีความสามารถล้ำยุคและมีวิธีบนเส้นทางแห่งความฝันอย่างน้อยสองวิธี นี่เกือบเท่ากับฟางหยวน

 

วิธีบนเส้นทางแห่งความฝันของฟางหยวนมีเพียงท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน ท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝัน และท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนวิญญาณในความฝัน

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงต้องยอมแพ้ในการจับกุมลั่วเว่ยหยิน แม้เขาจะสามารถนําร่างของลั่วเว่ยหยินออกมา แต่เขาก็ไม่กล้าเสี่ยง ผู้ใดจะรู้ว่าคนผู้นี้ยังมีวิธีการบนเส้นทางแห่งความฝันใดอยู่อีก ในกรณีที่เขาตื่นขึ้นในมิติช่องว่างจักรพรรดิ มันจะกลายเป็นการนําหมาป่าเข้าบ้านและไม่สามารถขับไล่ออกไป

 

“เห้อ…ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าวันหนึ่งผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังเหล่านี้จะกลายเป็นเชลยของเรา” เทพธิดาเมี่ยวหยินถอนหายใจ

 

แม้นางจะเป็นหนึ่งในเทพธิดาที่งดงามที่สุดของภาคใต้แต่นางก็เป็นผู้บ่มเพาะสันโดษและถูกคุกคามโดยฝ่ายธรรมะมาตลอด นางมีความเกลียดชังอย่างลึกซึ้งต่อผู้คนเหล่านี้

 

“น่าเสียดายที่น้องสาวกระต่ายขาวเสียชีวิต เห้อ…” เทพธิดาเมี่ยวหยินกล่าวด้วยความโศกเศร้า

 

หลังจากเข้าร่วมกับนิกายเงา นางสนิทกับเทพธิดากระต่ายขาวมากเพราะนางชอบความตรงไปตรงมาของฝ่ายหลัง

 

เทพธิดากระต่ายขาวได้รับมรดกเสือดําและจะกลายเป็นนางเสือดําที่มีการบ่มเพาะระดับเจ็ดในสถานการณ์คับขัน น่าเสียดายที่นางเผชิญหน้ากับท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อนของเซี่ยชา นางไม่มีเวลาตอบสนองและเสียชีวิตทันที

 

ฟางหยวนไม่สามารถช่วยนาง หลังจากทั้งหมดวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้าก็เป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหกและไม่สามารถกู้คืนชีวิต

 

กระทั่งร่างหลักของฟางหยวนก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในขณะนี้

 

มีเพียงไป่หนิงปิงที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

ในช่วงเวลาสําคัญนางกลายร่างเป็นไปเซียง แม้ร่างกายของนางจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแต่ร่างไปเซียงสามารถฟื้นฟูตัวเองจากเศษชิ้นส่วนที่เหลืออยู่

 

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่เคยสั่นคลอนภาคใต้มาแล้ว

 

อย่างไรก็ตามการแสดงออกในปัจจุบันของไป่หนิงปิงก็ไม่น่าดูนัก

 

นางมองเชลยและคิดกับตนเอง กระทั่งข้าจะใช้ร่างไปเซียง ข้าก็ยังไม่สามารถหลบหนีจากอาณาจักรแห่งความฝัน แปลก เหตุใดฟางหยวนไม่ใช้วิธีนี้จัดการข้า เขามีวิธีจัดการข้อตกลงพันธมิตรแล้วงั้นหรือ? หากข้าเป็นเขา…”

 

ไป่หนิงปิงรู้สึกถึงแรงกดดัน

 

ท้ายที่สุดนางก็ไม่ใช่สมาชิกนิกายเงา นอกจากนั้นตอนนี้นางยังอยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน นี่เหมือนกับอยู่ในฐานทัพใหญ่ของผู้อื่น

 

โดยเฉพาะพลังการต่อสู้และวิธีการต่างๆที่ทรงพลังของฟางหยวน มันยิ่งกดดันไป่หนิงปิงมากขึ้นไปอีก

 

“เอาล่ะ อิงอู๋เซี่ย เจ้าจะอยู่ที่นี่ ข้าจะให้เจ้ายืมวิญญาณ ช่วงนี้เจ้าจะเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นรีบใช้กายาแห่งความฝันและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝันเพื่อทําให้คนเหล่านี้นอนหลับต่อไป”

 

“จิตวิญญาณค่ายกลปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้ดี หากเกิดเหตุร้ายขึ้นกับค่ายกลวิญญาณอมตะ แจ้งข้าทันที”

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนออกคําสั่ง

 

“รับทราบ ท่านผู้นํา”

 

“เข้าใจแล้ว นายท่าน”

 

ด้วยการดูแลของอิงอู๋เซี่ยและจิตวิญญาณค่ายกล มันเพียงพอแล้วที่จะทําให้ฟางหยวนรู้สึกผ่อนคลายลง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1605 กักขังเชลย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1605 กักขังเชลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1605 กักขังเชลย

 

เค้าโครงคร่าวๆของความจริงปรากฏขึ้นในใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้

 

“ ท่ามกลางอสูรเหล่านี้ เป็นไปได้ที่จะมีอสูรปีแรกกําเนิดและไม่ใช่จํานวนน้อยๆ ฟางหยวนสามารถใช้ประโยชน์จากพวกมัน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีมรดกที่แท้จริงของนิกายเงา ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ดักจับสมาชิกตระกูลของพวกเราเป็นหนึ่งในความสามารถของเขา”

 

จื่อชิวหยูหยุดก่อนกล่าวต่อด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น “ข้าเพียงไม่เข้าใจบางสิ่ง หากมิติช่องว่างถูกวางลง เป็นธรรมดาที่คนนอกจะไม่สามารถตรวจสอบ แต่ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ซ่อนอยู่ เซี่ยชาและลั่วเว่ยหยินจะไม่ตระหนักถึงมันได้อย่างไร?”

 

ความสามารถในการปกปิดของค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาด้อยกว่าเส้นทางแห่งภูตผี เส้นทางแห่งห้วงมิติ หรือเส้นทางแห่งการโจรกรรม

 

เซี่ยชาตกลงสู่กับดักและต้องต่อสู้กับฝูงอสูรปีก่อนจะถูกจับเป็นเชลยเพราะอาณาจักรแห่งความฝัน สิ่งนี้สามารถเข้าใจได้

 

อย่างไรก็ตาม..

 

สิ่งที่ผิดปกติที่สุดคือเหตุใดพวกเขาถึงไม่พบสิ่งใดและตกลงสู่กับดักของฟางหยวนตั้งแต่แรก

 

กระทั่งจื่อชิวหยูปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลยังรู้สึกสับสน

 

ไม่ใช่ว่าไม่มีวิธีปกปิดค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่มันเป็นเรื่องยาก

 

จื่อชิวหยูไม่เคยได้ยินว่ามีค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่สามารถซ่อนตัวจากผู้อมตะระดับแปดถึงสองคน

 

“อาณาจักรแห่งความฝันกําลังสลายไป มีบางคนอยู่ข้างใน!” บางคนอุทาน

 

การเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรแห่งความฝันดึงดูดความสนใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ทันที 

 

ในไม่ช้าร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น เขาก็คือลั่วเว่ยหยิน!

 

เขาวางมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าอก ดวงตาปิดสนิทและไม่เคลื่อนไหว

 

แต่หลังจากอาณาจักรแห่งความฝันสลายไปจนหมด เขาก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

 

“พวกเจ้า” การแสดงออกของลั่วเว่ยหยินเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นวูหยงและคนอื่นๆ จากนั้นเขาก็กวาดตามองไปรอบๆและอุทาน “โอ้ ไม่!”

 

“ท่านลั่วเว่ยหยิน โปรดอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย!”

 

“ถูกต้อง ผู้อมตะของตระกูลข้าตกอยู่ในมือของฟางหยวนจริงๆงั้นหรือ?”

 

“เดี๋ยว! เรายังไม่สามารถยืนยันตัวตนของเขา!”

 

“เรามาพิสูจน์ตัวตนของเขากันก่อน ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยและวิธีหลบหนีจากอาณาจักรแห่งความฝัน” วูหยงกล่าวขณะที่จื่อชิวหยูเงียบ

 

จากนั้นวูหยงกับจื่อชิวหยูก็ปิดล้อมลั่วเว่ยหยินเอาไว้

 

ลั่วเว่ยหยินตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า “เชิญ”

 

ผู้อมตะภาคใต้มีวิธีการตรวจสอบเฉพาะตัว นอกจากนั้นพวกเขายังไม่ได้ใช้เพียงวิธีเดียว

 

หลังจากไม่นานการแสดงออกของวูหยงและคนอื่นๆก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย พวกเขาสามารถยืนยันว่าลัวเว่ยหยินผู้นี้ไม่ใช่ฟางหยวนที่ปลอมตัวมา

 

หลังจากนั้นยั่วเว่ยหยินก็เล่าสิ่งที่เขารู้ให้ทุกคนทราบ

 

เมื่อเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้น ใบหน้าของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้กลายเป็นซีดเผือด พวกเขาตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

 

ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจ “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ข้าไม่มีท่าไม้ตายสายโจมตีและทําได้เพียงเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น หากข้าไม่มีวิธีปกป้องตนเองจากอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าอาจตกอยู่ในมือของฟางหยวนเช่นกัน”

 

“ลืมมันไปเถอะ เราจะกลับกันก่อน” จูหยงชําเลืองตามองลั่วเว่ยหยินอย่างลึกซึ้งก่อนที่เขาจะสะบัดแขนเสื้อและเข้าไปในบ้านไม้ไผ่สายลม

 

ไม่นานหลังจากกลุ่มผู้อมตะภาคใต้จากไป แสงลึกลับก็พุ่งเข้ามาและกลายเป็นจวินเฉินกวงแห่งวังสวรรค์

 

จวินเฉินกวงตรวจสอบร่องรอยในสนามรบและขมวดคิ้วพึมพํา “ค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ลึกลับมาก มันไม่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งภูตผี เส้นทางแห่งห้วงมิติ หรือ เส้นทางแห่งการโจรกรรม มันไม่ใช่ค่ายกลวิญญาณอมตะที่หลอมรวมหลายเส้นทางแต่เป็นเส้นทางแห่งกาลเวลาเท่านั้น อย่างไรก็ตามมันกลับสามารถปกปิดตัวเองจนถึงระดับที่เซี่ยชาและลั่วเว่ยหยินไม่สามารถสัมผัสได้”

 

ผู้อมตะระดับแปดล้วนมีรากฐานที่ลึกล้ำ

 

ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซี่ย เซี่ยชาย่อมมีวิธีการมากมาย ขณะที่ลั่วเว่ยหยินเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ แต่ทั้งคู่กลับไม่ตระหนักถึงการคงอยู่ของค่ายกลวิญญาณอมตะและทําให้กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกลงสู่กับดัก

 

จวินเฉินกวงตรวจสอบหลายครั้งและยืนยันว่าไม่มีเบาะแสอื่นก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะในรูปลักษณ์ของปราสาทขนาดใหญ่ที่เรืองแสงสีเงินลอยอยู่ในสวรรค์เขียวน้อย

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนและสมาชิกนิกายเงาลอยอยู่รอบๆค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ พวกเขากําลังเฝ้ามองเชลยที่อยู่ภายในอย่างใกล้ชิด

 

เชลยเหล่านี้คือกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ที่ถูกฟางหยวนซุ่มโจมตีและจับกุม ไม่ว่าจะเป็นเฉิงหูจาง ไท่ชิวจง หยางกู่ และผู้อมตะระดับเจ็ดคนอื่นๆ พวกเขาถูกพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนา ดวงตาของพวกเขาปิดขณะที่พวกเขาติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

เชลยที่แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อมตะระดับแปดเซี่ยชา

 

กายาแห่งความฝันจะถูกกัดกร่อนเมื่อพวกมันอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน แต่เมื่อพวกมันออกมา พวกมันสามารถฟื้นตัวทันที แต่ร่างกายของผู้อมตะแตกต่างออกไป แม้ร่างกายของพวกเขาจะออกมาจากอาณาจักรแห่งความฝันเรียบร้อยแล้วแต่ดวงวิญญาณของพวกเขาอาจยังไม่สามารถออกมา

 

นี่เป็นเหตุผลที่ฟางหยวนสามารถจับเชลยเหล่านี้และนําพวกเขาเข้ามาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ในยุคปัจจุบันท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางสายเก่าไม่ส่งผลกระทบต่ออาณาจักรแห่งความฝัน กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะหอคอยดวงตาสวรรค์ยังสลายตัวเมื่อมันติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ผู้อมตะจะพบกับความยากลําบากหากต้องเผชิญหน้ากับอาณาจักรแห่งความฝัน

 

แต่ฟางหยวนมีวิธีพิเศษ นั่นคือกายาแห่งความฝัน

 

เขาใช้กายาแห่งความฝันเพื่อเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันและนําร่างของผู้อมตะภาคใต้ออกมาก่อนจะเก็บไว้ในมิติช่องว่างของเขา

 

จากนั้นอาณาจักรแห่งความฝันในสนามรบก็ถูกเปลี่ยนเป็นกายาแห่งความฝันอีกครั้งและถูกนํากลับมา

 

นี่ทําให้เขาสามารถเก็บกวาดสนามรบได้อย่างรวดเร็วก่อนจะจากมา

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาขมวดคิ้วเล็กน้อย “แม้เราจะใช้อาณาจักรแห่งความฝันกักขังผู้อมตะเหล่านี้ มันก็ยังมีความเสี่ยงสูง หากบางคนตื่นขึ้นและสร้างความเสียหายให้กับมิติช่องว่างจักรพรรดิ มันจะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่

 

สําหรับผู้อมตะ มิติช่องว่างของพวกเขาเป็นรากฐานที่สําคัญ การนําผู้อมตะเหล่านี้เข้ามามีความเสี่ยงสูงมาก

 

“ทักษะหนึ่งปกครองโลก ในปัจจุบันผู้อมตะส่วนใหญ่ไม่สามารถต่อต้านอาณาจักรแห่งความฝัน กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ยังพบกับหายนะหากเผชิญหน้ากับอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าต้องฉวยโอกาสนี้ขโมยวิญญาณอมตะและทรัพยากรของพวกเขา จากนั้นข้าจะใช้วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณแยกดวงวิญญาณของพวกเขาออกจากร่าง มีเพียงวิธีนี้ข้าถึงจะปลอดภัย”

 

ฟางหยวนคิดต่อไปถึงลั่วเว่ยหยิน

 

คนผู้นี้ติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันแต่กายาแห่งความฝันกลับไม่สามารถเข้าใกล้เขาและนําร่างของเขาออกมา

 

ชัดเจนว่าเขามีทักษะบางอย่างบนเส้นทางแห่งความฝัน!

 

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ฟางหยวนถูกลั่วเว่ยหยินซุ่มโจมตีและตกลงสู่กับดักสามชาติภพ นั่นเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งความฝันเช่นกัน

 

ลั่วเว่ยหยินไม่ได้เป็นเพียงผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพแต่เขายังมีความสามารถล้ำยุคและมีวิธีบนเส้นทางแห่งความฝันอย่างน้อยสองวิธี นี่เกือบเท่ากับฟางหยวน

 

วิธีบนเส้นทางแห่งความฝันของฟางหยวนมีเพียงท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน ท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝัน และท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนวิญญาณในความฝัน

 

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงต้องยอมแพ้ในการจับกุมลั่วเว่ยหยิน แม้เขาจะสามารถนําร่างของลั่วเว่ยหยินออกมา แต่เขาก็ไม่กล้าเสี่ยง ผู้ใดจะรู้ว่าคนผู้นี้ยังมีวิธีการบนเส้นทางแห่งความฝันใดอยู่อีก ในกรณีที่เขาตื่นขึ้นในมิติช่องว่างจักรพรรดิ มันจะกลายเป็นการนําหมาป่าเข้าบ้านและไม่สามารถขับไล่ออกไป

 

“เห้อ…ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าวันหนึ่งผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังเหล่านี้จะกลายเป็นเชลยของเรา” เทพธิดาเมี่ยวหยินถอนหายใจ

 

แม้นางจะเป็นหนึ่งในเทพธิดาที่งดงามที่สุดของภาคใต้แต่นางก็เป็นผู้บ่มเพาะสันโดษและถูกคุกคามโดยฝ่ายธรรมะมาตลอด นางมีความเกลียดชังอย่างลึกซึ้งต่อผู้คนเหล่านี้

 

“น่าเสียดายที่น้องสาวกระต่ายขาวเสียชีวิต เห้อ…” เทพธิดาเมี่ยวหยินกล่าวด้วยความโศกเศร้า

 

หลังจากเข้าร่วมกับนิกายเงา นางสนิทกับเทพธิดากระต่ายขาวมากเพราะนางชอบความตรงไปตรงมาของฝ่ายหลัง

 

เทพธิดากระต่ายขาวได้รับมรดกเสือดําและจะกลายเป็นนางเสือดําที่มีการบ่มเพาะระดับเจ็ดในสถานการณ์คับขัน น่าเสียดายที่นางเผชิญหน้ากับท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อนของเซี่ยชา นางไม่มีเวลาตอบสนองและเสียชีวิตทันที

 

ฟางหยวนไม่สามารถช่วยนาง หลังจากทั้งหมดวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้าก็เป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหกและไม่สามารถกู้คืนชีวิต

 

กระทั่งร่างหลักของฟางหยวนก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในขณะนี้

 

มีเพียงไป่หนิงปิงที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

ในช่วงเวลาสําคัญนางกลายร่างเป็นไปเซียง แม้ร่างกายของนางจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแต่ร่างไปเซียงสามารถฟื้นฟูตัวเองจากเศษชิ้นส่วนที่เหลืออยู่

 

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่เคยสั่นคลอนภาคใต้มาแล้ว

 

อย่างไรก็ตามการแสดงออกในปัจจุบันของไป่หนิงปิงก็ไม่น่าดูนัก

 

นางมองเชลยและคิดกับตนเอง กระทั่งข้าจะใช้ร่างไปเซียง ข้าก็ยังไม่สามารถหลบหนีจากอาณาจักรแห่งความฝัน แปลก เหตุใดฟางหยวนไม่ใช้วิธีนี้จัดการข้า เขามีวิธีจัดการข้อตกลงพันธมิตรแล้วงั้นหรือ? หากข้าเป็นเขา…”

 

ไป่หนิงปิงรู้สึกถึงแรงกดดัน

 

ท้ายที่สุดนางก็ไม่ใช่สมาชิกนิกายเงา นอกจากนั้นตอนนี้นางยังอยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน นี่เหมือนกับอยู่ในฐานทัพใหญ่ของผู้อื่น

 

โดยเฉพาะพลังการต่อสู้และวิธีการต่างๆที่ทรงพลังของฟางหยวน มันยิ่งกดดันไป่หนิงปิงมากขึ้นไปอีก

 

“เอาล่ะ อิงอู๋เซี่ย เจ้าจะอยู่ที่นี่ ข้าจะให้เจ้ายืมวิญญาณ ช่วงนี้เจ้าจะเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นรีบใช้กายาแห่งความฝันและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝันเพื่อทําให้คนเหล่านี้นอนหลับต่อไป”

 

“จิตวิญญาณค่ายกลปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้ดี หากเกิดเหตุร้ายขึ้นกับค่ายกลวิญญาณอมตะ แจ้งข้าทันที”

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนออกคําสั่ง

 

“รับทราบ ท่านผู้นํา”

 

“เข้าใจแล้ว นายท่าน”

 

ด้วยการดูแลของอิงอู๋เซี่ยและจิตวิญญาณค่ายกล มันเพียงพอแล้วที่จะทําให้ฟางหยวนรู้สึกผ่อนคลายลง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+