Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1626 ความพ่ายแพ้ของวูหยง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1626 ความพ่ายแพ้ของวูหยง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1626 ความพ่ายแพ้ของวูหยง

การกระทําของฟางหยวนทําให้เจตจํานงของเต๋าจูตกใจมาก

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณผู้นี้มาจากที่ใด? เขาทําให้ผู้อมตะระดับแปดได้รับบาดเจ็บสาหัสในการโจมตีเดียว! พลังที่น่าเกรงขามเช่นนี้ กระทั้งเทพปีศาจจิตวิญญาณในระดับเดียวกันนี้ยังไม่สามารถทําได้

“เด็กผู้นี้ดูบอบบางแต่เขากลับใช้วิธีการที่โหดเหี้ยม เขาต้องทําชั่วมากมา มิฉะนั้นเหตุใดฝ่ายธรรมะของภาคใต้จึงโจมตีเขาถึงระดับนี้”

เมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เจตจํานงของเต๋าจูรู้สึกหวาดกลัวมาก

“ร่างหลักของข้าเตรียมสิ่งนี้ไว้เพื่อผู้สืบทอด แต่ผู้ใดจะคิดว่าสถานการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้”

“เหตุใดข้าต้องมาพบกับเรื่องนี้? มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดเตรียมมรดกนี้!”

เจตจํานงของเต๋าจูรู้สึกโดดเดี่ยวและหมดหนทาง ในสถานการณ์นี้ไม่จําเป็นต้องกล่าวถึงเจตจํานงของเต๋าจู กระทั่งร่างหลักของเขาก็ยังต้องถอยห่างจากความขัดแย้งดังกล่าว

เจตจํานงของเต๋าจูที่ตกใจและหวาดกลัวหลบอยู่ในเสาแสงด้วยความโศกเศร้า เขาพึมพํา “อย่ามองมาที่ข้า อย่ามองมาที่ข้า…”

แต่กลุ่มผู้อมตะจะมีเวลาหรืออารมณ์มองดูเขางั้นหรือ?

ฟางหยวนโจมตีและจับผู้อมตะระดับแปดจวินเฉินกวงต่อหน้าทุกคน พลังการต่อสู้ของเขาน่าสะพรึงกลัวมาก ผู้อมตะระดับเจ็ดรู้สึกปากแห้ง กระทั่งผู้อมตะระดับแปดยังรู้สึกมึนงง

“เราจะเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?

“หากข้าเดิมพันชีวิตและเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น ตระกูลของข้าจะทําอย่างไร? ผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆอาจรอดชีวิตขณะที่ข้าต้องเสียสละตนเอง

ฟางหยวนในระดับเจ็ดสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดด้วยเกราะหวนคืน ผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้สามารถยอมรับพลังการต่อสู้นี้

แต่ตอนนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

นอกจากฟางหยวนจะกลายเป็นผู้อมตะระดับแปด เขายังมีท่าไม้ตายอมตะลึกลับที่ทรงพลังบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและสามารถใช้มันร่วมกับท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝันได้อย่างยอดเยี่ยม

จวินเฉินกวงถูกจับ ไม่ใช่เรื่องแปลกหากผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้จะตกลงสู่กับดักที่ชั่วร้ายของฟางหยวนเช่นกัน

ในช่วงเวลาสําคัญ ปัญหาที่ฝังรากลึกมานานของฝ่ายธรรมะของภาคใต้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง พวกเขาเป็นกองกําลังที่ให้ความสําคัญกับตนเองมานานเกินไป ความหวาดระแวงฝังแน่นอยู่ในกระดูกของพวกเขา แม้พวกเขาจะตระหนักถึงความจําเป็นของพันธมิตร แต่เมื่อเผชิญหน้ากับทางเลือกที่ยากลําบาก ผู้อมตะระดับแปดทุกคนยังรู้สึกลังเล

ผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้ลังเลแต่ฟางหยวนไม่

เขาหัวเราะเสียงดังและพุ่งเข้าหาหยง “วูหยง! ก่อนหน้านี้เจ้ากล่าวสิ่งใด? นี่คือสุสานของข้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าคิดตรงข้าม นี่คือสุสานของเจ้า มาเถอะ มาจบเรื่องนี้!”

เสียงของฟางหยวนดังไปทั่วทั้งเทือกเขา เสื้อคลุมสีขาวและเส้นผมสีดําของเขาปลิวไปตามสายลม กลิ่นอายปีศาจและเจตนาสังหารของเขาพุ่งสูงขึ้นทําให้ลื่อชิวหยู เฉิงอี้เจีย และผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆที่มองฟางหยวนพุ่งเข้าโจมตีวูหยงรู้สึกซับซ้อน

พวกเขาเครียดมากแต่ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยด้วยความคิดทุกประเภท

ฟางหยวนอาจทรงพลังแต่เขาไม่มีกองกําลังสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ชื่อชิวหยูยังเคยทําธุรกรรมกับเขามาก่อน

สําหรับกองกําลังพันธมิตรของภาคใต้ในปัจจุบัน ตําแหน่งผู้นํากองกําลังยังว่างเปล่า วูหยงอาจเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง แต่ผู้ใดจะรู้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อกองกําลังอื่นอย่างไรหากเขาได้รับตําแหน่ง

กองกําลังของภาคใต้เป็นอิสระต่อกัน ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการร่วมมือของพวกเขาคืออุปสรรคทางจิตใจ

เมื่อพยัคฆ์สองตัวต่อสู้กัน อย่างน้อยตัวหนึ่งจะได้รับบาดเจ็บ

ไม่ว่าจะเป็นฟางหยวนหรือวุหยงที่ได้รับบาดเจ็บ มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อกองกําลังอื่นทั้งสิ้น

นอกจากนั้นผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆยังสามารถอ้างว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเพราะต่อสู้ติดพันอยู่กับอสูรปีแรกกําเนิด

“พวกไร้ประโยชน์!” วูหยงลอบสาปอยู่ในใจเมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดเข้ามาช่วยเหลือ

แต่เขาไม่กลัวฟางหยวน ตรงข้าม เขาเต็มไปด้วยเจตจํานงแห่งการต่อสู้

“ให้ข้าดูวิธีจับผู้อมตะระดับแปดของเจ้า!” วูหยงควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านไม้ไผ่สายลมพุ่งเข้าหาฟางหยวน

แม้ฟางหยวนจะมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะลึกลับ แต่มันไม่สามารถพุ่งชนบ้านไม้ไผ่สายลมโดยตรง ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นขณะที่เขาเปลี่ยนทิศทางและบินลงไป

นั่นทําให้การพุ่งชนของบ้านไม้ไผ่สายลมพลาดเป้า

“วูหยง เจ้าสามารถหดหัวอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ แต่ในกรณีนี้ข้าจะฆ่าผู้อมตะระดับเจ็ดเหล่านั้น ลองดูว่าเจ้าจะช่วยพวกเขาได้หรือไม่? ฮ่าฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“บัดซบ!” วูหยงรีบเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ของบ้านไม้ไผ่สายลมและไล่ตามฟางหยวน

ฟางหยวนกล่าวต่อ “วูหยง เจ้ามีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ เจ้าก่อตั้งกองกําลังพันธมิตรของภาคใต้เพื่อต้องการเป็นผู้นําสูงสุดของภาคใต้ใช่หรือไม่? มาดูกันว่าเจ้าจะสามารถทําหน้าที่ผู้นำได้อย่างไรหลังจากข้าสังหารผู้คนเหล่านี้!”

ฟางหยวนไม่ได้โจมตีวูหยงแต่คํากล่าวของเขาราวกับใบมีดที่แทงเข้าไปในหัวใจของวูหยงโดยตรง

วูหยงนํากลุ่มผู้อมตะของภาคใต้มาปิดล้อมและสังหารฟางหยวน ด้านหนึ่งเป็นเพราะเขาเกลียดชังฟางหยวนอย่างลึกซึ้ง อีกด้านหนึ่งมันคือการสะสมชื่อเสียงเพื่อปูทางสู่ตําแหน่งผู้นํากองกําลังพันธมิตร

หากเขาปล่อยให้ฟางหยวนฆ่าผู้อมตะระดับเจ็ดเหล่านี้ขณะที่เขาหลบอยู่ในบ้านไม้ไผ่สายลมโดยไม่สามารถทําสิ่งใดฟางหยวน ชื่อเสียงของเขาจะถูกทําลาย ตําแหน่งผู้นํากองกําลังพันธมิตรของภาคใต้จะยิ่งห่างไกลออกไป

วูหยงรู้สึกกังวลและโกรธจัด แม้บ้านไม้ไผ่สายลมจะรวดเร็ว แต่ฟางหยวนเข้าถึงตัวผู้อมตะระดับเจ็ดแล้ว

“เราต้องอดทน!”

“ข้ากําลังจะตายนั้นหรือ?”

“ไม่! มีผู้อมตะมากมายอยู่ที่นี่ เรายังมีความหวัง!”

ฟางหยวนยังไม่ได้โจมตีแต่ขวัญกําลังใจของกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ดก็พังทลายลงแล้ว พวกเขาไม่มีความคิดที่จะต่อต้านและคิดเพียงวิธีรักษาชีวิตของตนเองเท่านั้น

หลังจากทั้งหมดฉากการจับกุมผู้อมตะระดับแปดของฟางหยวนน่ากลัวเกินไป

“ตาย! หือ…” เสียงตะโกนของฟางหยวนหยุดลงอย่างกะทันหัน

ในช่วงเวลาสําคัญ แสงสีน้ำตาลเหลืองปะทุขึ้นและปกป้องกลุ่มผู้อมตะของภาคใต้เอาไว้

นี่คือท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันระดับแปด!

“ฟางหยวน เหตุใดต้องเข่นฆ่ากัน? เจ้าฆ่าข้า ข้าฆ่าเจ้า วัฏจักรนี้น่าเศร้าเกินไป เจ้าเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดของยุคสมัย เหตุใดไม่มองผ่านเรื่องนี้ไป?”

ร่างของลั่วเว่ยหยินปรากฏขึ้น

“ฮืม! เป็นเจ้าอีกครั้ง!” ฟางหยวนมองลั่วเว่ยหยินด้วยสายตาเย็นชา

“บึม!”

เป็นเพียงเวลานี้ที่บ้านไม้ไผ่สายลมพุ่งเข้าปะทะแผ่นหลังของฟางหยวนอย่างรุนแรง

ท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืน!

ฟางหยวนปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ การโจมตีสะท้อนกลับไปที่บ้านไม้ไผ่สายลม

แต่แรงปะทะก็ส่งฟางหยวนบินออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่

วูหยงรู้สึกสบายใจขึ้น อย่างน้อยเขาก็สามารถส่งฟางหยวนออกห่างจากกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ด

แต่ไม่นานเสียงของลั่วเว่ยหยินก็ดังขึ้น “ไม่ดีแล้ว นี่คือแผนการของฟางหยวน เขากําลังจะหนี!”

การแสดงออกของวูหยงเปลี่ยนไปทันที เขาเห็นฟางหยวนพุ่งเข้าไปในมิติช่องว่างที่วางอยู่บนพน

หลังจากเข้าไป มิติช่องว่างก็ปิดตัวลง

“ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป เมื่อเขาวางแผนซุ่มโจมตีที่นี่ เขาจะไม่เตรียมวิธีหลบหนีไว้ได้อย่างไร? เขาเข้าไปในมิติช่องว่างเพราะเขามีวิธีหลบหนีเช่นวิญญาณท่องแดนอมตะ!”

เส้นเลือดบนหน้าผากของวูหยงโปงพองขึ้นด้วยความโกรธขณะที่เขารู้สึกอึดอัดใจ

มิติของว่างแยกออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ไม่สามารถบุกเข้าไปได้อย่างง่ายดาย นั่นทําให้ฟางหยวนมีเวลามากพอที่จะหลบหนี

วูหยงรวบรวมกลุ่มคนจํานวนมากมาที่นี่แต่มันยังล้มเหลว ไม่เพียงเขาจะไม่สามารถทําร้ายฟางหยวน ผู้อมตะระดับแปดของภาคกลางยังถูกฟางหยวนจับกุมต่อหน้าทุกคน

นี่เป็นการตบหน้าของวูหยงอย่างรุนแรง

แต่คนที่น่ารังเกียจที่สุดคือชายผู้นี้ วูหยงมองลั่วเว่ยหยินด้วยสายตามืดครื้ม

เขากล่าวเสียงดัง “ลั่วเว่ยหยิน เหตุใดเจ้าไม่หยุดเขา?”

ลั่วเว่ยหยินตอบอย่างช้าๆ “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ข้าใช้พลังทั้งหมดเพื่อปกป้องสหายภาคใต้เหล่านี้ ข้าไม่เหลือพลังพอที่จะขัดขวางเขาจริงๆ”

กลุ่มผู้อมตะของภาคใต้รู้สึกขอบคุณลั่วเว่ยหยิน

วูหยงสูดหายใจลึกด้วยความโกรธและกําหมัดแน่น แต่เขาไม่สามารถทําสิ่งใดกับลั่วเว่ยหยิน

ลั่วเว่ยหยินมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา เขาเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพและเป็นคู่แข่งที่เป็นภัยคุกคามต่อความฝันของรูหยงมากที่สุด

วูหยงนํากลุ่มผู้อมตะภาคใต้มาปิดล้อมฟางหยวนแต่ทิ้งลั่วเว่ยหยินไว้ข้างหลังเพราะเขาต้องการสะสมชื่อเสียงของตน

แต่ผลลัพธ์คือฟางหยวนสามารถหลบหนีขณะที่วุหยงไม่สามารถทําสิ่งใด ชื่อเสียงของเขาเสียหายขณะที่สถานการณ์ของลั่วเว่ยหยินตรงข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิง

คนผู้นี้ซ่อนตัวมาตลอดโดยไม่ทําสิ่งใดก่อนจะปรากฏตัวขึ้นในเวลาที่เหมาะสมเพื่อปกป้องกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ นี่ทําให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

สายตาของวูหยงส่องประกายแหลมคมราวกับมีประกายไฟแลบลั่นอยู่ภายใน

หลังจากไม่นานเขาก็ถอนหายใจและสงบจิตใจลง เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของเขาพลุ่งพล่านอยู่ภายในขณะที่เขาเผยรอยยิ้มบาง เขาคิด “ฟางหยวน ลั่วเว่ยหยิน พวกเจ้าต่างมีบางสิ่ง ข้าพ่ายแพ้ครั้งนี้เพราะพวกเจ้าทั้งสอง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1626 ความพ่ายแพ้ของวูหยง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1626 ความพ่ายแพ้ของวูหยง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1626 ความพ่ายแพ้ของวูหยง

การกระทําของฟางหยวนทําให้เจตจํานงของเต๋าจูตกใจมาก

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณผู้นี้มาจากที่ใด? เขาทําให้ผู้อมตะระดับแปดได้รับบาดเจ็บสาหัสในการโจมตีเดียว! พลังที่น่าเกรงขามเช่นนี้ กระทั้งเทพปีศาจจิตวิญญาณในระดับเดียวกันนี้ยังไม่สามารถทําได้

“เด็กผู้นี้ดูบอบบางแต่เขากลับใช้วิธีการที่โหดเหี้ยม เขาต้องทําชั่วมากมา มิฉะนั้นเหตุใดฝ่ายธรรมะของภาคใต้จึงโจมตีเขาถึงระดับนี้”

เมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เจตจํานงของเต๋าจูรู้สึกหวาดกลัวมาก

“ร่างหลักของข้าเตรียมสิ่งนี้ไว้เพื่อผู้สืบทอด แต่ผู้ใดจะคิดว่าสถานการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้”

“เหตุใดข้าต้องมาพบกับเรื่องนี้? มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดเตรียมมรดกนี้!”

เจตจํานงของเต๋าจูรู้สึกโดดเดี่ยวและหมดหนทาง ในสถานการณ์นี้ไม่จําเป็นต้องกล่าวถึงเจตจํานงของเต๋าจู กระทั่งร่างหลักของเขาก็ยังต้องถอยห่างจากความขัดแย้งดังกล่าว

เจตจํานงของเต๋าจูที่ตกใจและหวาดกลัวหลบอยู่ในเสาแสงด้วยความโศกเศร้า เขาพึมพํา “อย่ามองมาที่ข้า อย่ามองมาที่ข้า…”

แต่กลุ่มผู้อมตะจะมีเวลาหรืออารมณ์มองดูเขางั้นหรือ?

ฟางหยวนโจมตีและจับผู้อมตะระดับแปดจวินเฉินกวงต่อหน้าทุกคน พลังการต่อสู้ของเขาน่าสะพรึงกลัวมาก ผู้อมตะระดับเจ็ดรู้สึกปากแห้ง กระทั่งผู้อมตะระดับแปดยังรู้สึกมึนงง

“เราจะเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?

“หากข้าเดิมพันชีวิตและเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น ตระกูลของข้าจะทําอย่างไร? ผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆอาจรอดชีวิตขณะที่ข้าต้องเสียสละตนเอง

ฟางหยวนในระดับเจ็ดสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดด้วยเกราะหวนคืน ผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้สามารถยอมรับพลังการต่อสู้นี้

แต่ตอนนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

นอกจากฟางหยวนจะกลายเป็นผู้อมตะระดับแปด เขายังมีท่าไม้ตายอมตะลึกลับที่ทรงพลังบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและสามารถใช้มันร่วมกับท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝันได้อย่างยอดเยี่ยม

จวินเฉินกวงถูกจับ ไม่ใช่เรื่องแปลกหากผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้จะตกลงสู่กับดักที่ชั่วร้ายของฟางหยวนเช่นกัน

ในช่วงเวลาสําคัญ ปัญหาที่ฝังรากลึกมานานของฝ่ายธรรมะของภาคใต้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง พวกเขาเป็นกองกําลังที่ให้ความสําคัญกับตนเองมานานเกินไป ความหวาดระแวงฝังแน่นอยู่ในกระดูกของพวกเขา แม้พวกเขาจะตระหนักถึงความจําเป็นของพันธมิตร แต่เมื่อเผชิญหน้ากับทางเลือกที่ยากลําบาก ผู้อมตะระดับแปดทุกคนยังรู้สึกลังเล

ผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้ลังเลแต่ฟางหยวนไม่

เขาหัวเราะเสียงดังและพุ่งเข้าหาหยง “วูหยง! ก่อนหน้านี้เจ้ากล่าวสิ่งใด? นี่คือสุสานของข้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าคิดตรงข้าม นี่คือสุสานของเจ้า มาเถอะ มาจบเรื่องนี้!”

เสียงของฟางหยวนดังไปทั่วทั้งเทือกเขา เสื้อคลุมสีขาวและเส้นผมสีดําของเขาปลิวไปตามสายลม กลิ่นอายปีศาจและเจตนาสังหารของเขาพุ่งสูงขึ้นทําให้ลื่อชิวหยู เฉิงอี้เจีย และผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆที่มองฟางหยวนพุ่งเข้าโจมตีวูหยงรู้สึกซับซ้อน

พวกเขาเครียดมากแต่ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยด้วยความคิดทุกประเภท

ฟางหยวนอาจทรงพลังแต่เขาไม่มีกองกําลังสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ชื่อชิวหยูยังเคยทําธุรกรรมกับเขามาก่อน

สําหรับกองกําลังพันธมิตรของภาคใต้ในปัจจุบัน ตําแหน่งผู้นํากองกําลังยังว่างเปล่า วูหยงอาจเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง แต่ผู้ใดจะรู้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อกองกําลังอื่นอย่างไรหากเขาได้รับตําแหน่ง

กองกําลังของภาคใต้เป็นอิสระต่อกัน ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการร่วมมือของพวกเขาคืออุปสรรคทางจิตใจ

เมื่อพยัคฆ์สองตัวต่อสู้กัน อย่างน้อยตัวหนึ่งจะได้รับบาดเจ็บ

ไม่ว่าจะเป็นฟางหยวนหรือวุหยงที่ได้รับบาดเจ็บ มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อกองกําลังอื่นทั้งสิ้น

นอกจากนั้นผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆยังสามารถอ้างว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเพราะต่อสู้ติดพันอยู่กับอสูรปีแรกกําเนิด

“พวกไร้ประโยชน์!” วูหยงลอบสาปอยู่ในใจเมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดเข้ามาช่วยเหลือ

แต่เขาไม่กลัวฟางหยวน ตรงข้าม เขาเต็มไปด้วยเจตจํานงแห่งการต่อสู้

“ให้ข้าดูวิธีจับผู้อมตะระดับแปดของเจ้า!” วูหยงควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านไม้ไผ่สายลมพุ่งเข้าหาฟางหยวน

แม้ฟางหยวนจะมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะลึกลับ แต่มันไม่สามารถพุ่งชนบ้านไม้ไผ่สายลมโดยตรง ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นขณะที่เขาเปลี่ยนทิศทางและบินลงไป

นั่นทําให้การพุ่งชนของบ้านไม้ไผ่สายลมพลาดเป้า

“วูหยง เจ้าสามารถหดหัวอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ แต่ในกรณีนี้ข้าจะฆ่าผู้อมตะระดับเจ็ดเหล่านั้น ลองดูว่าเจ้าจะช่วยพวกเขาได้หรือไม่? ฮ่าฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“บัดซบ!” วูหยงรีบเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ของบ้านไม้ไผ่สายลมและไล่ตามฟางหยวน

ฟางหยวนกล่าวต่อ “วูหยง เจ้ามีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ เจ้าก่อตั้งกองกําลังพันธมิตรของภาคใต้เพื่อต้องการเป็นผู้นําสูงสุดของภาคใต้ใช่หรือไม่? มาดูกันว่าเจ้าจะสามารถทําหน้าที่ผู้นำได้อย่างไรหลังจากข้าสังหารผู้คนเหล่านี้!”

ฟางหยวนไม่ได้โจมตีวูหยงแต่คํากล่าวของเขาราวกับใบมีดที่แทงเข้าไปในหัวใจของวูหยงโดยตรง

วูหยงนํากลุ่มผู้อมตะของภาคใต้มาปิดล้อมและสังหารฟางหยวน ด้านหนึ่งเป็นเพราะเขาเกลียดชังฟางหยวนอย่างลึกซึ้ง อีกด้านหนึ่งมันคือการสะสมชื่อเสียงเพื่อปูทางสู่ตําแหน่งผู้นํากองกําลังพันธมิตร

หากเขาปล่อยให้ฟางหยวนฆ่าผู้อมตะระดับเจ็ดเหล่านี้ขณะที่เขาหลบอยู่ในบ้านไม้ไผ่สายลมโดยไม่สามารถทําสิ่งใดฟางหยวน ชื่อเสียงของเขาจะถูกทําลาย ตําแหน่งผู้นํากองกําลังพันธมิตรของภาคใต้จะยิ่งห่างไกลออกไป

วูหยงรู้สึกกังวลและโกรธจัด แม้บ้านไม้ไผ่สายลมจะรวดเร็ว แต่ฟางหยวนเข้าถึงตัวผู้อมตะระดับเจ็ดแล้ว

“เราต้องอดทน!”

“ข้ากําลังจะตายนั้นหรือ?”

“ไม่! มีผู้อมตะมากมายอยู่ที่นี่ เรายังมีความหวัง!”

ฟางหยวนยังไม่ได้โจมตีแต่ขวัญกําลังใจของกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ดก็พังทลายลงแล้ว พวกเขาไม่มีความคิดที่จะต่อต้านและคิดเพียงวิธีรักษาชีวิตของตนเองเท่านั้น

หลังจากทั้งหมดฉากการจับกุมผู้อมตะระดับแปดของฟางหยวนน่ากลัวเกินไป

“ตาย! หือ…” เสียงตะโกนของฟางหยวนหยุดลงอย่างกะทันหัน

ในช่วงเวลาสําคัญ แสงสีน้ำตาลเหลืองปะทุขึ้นและปกป้องกลุ่มผู้อมตะของภาคใต้เอาไว้

นี่คือท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันระดับแปด!

“ฟางหยวน เหตุใดต้องเข่นฆ่ากัน? เจ้าฆ่าข้า ข้าฆ่าเจ้า วัฏจักรนี้น่าเศร้าเกินไป เจ้าเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดของยุคสมัย เหตุใดไม่มองผ่านเรื่องนี้ไป?”

ร่างของลั่วเว่ยหยินปรากฏขึ้น

“ฮืม! เป็นเจ้าอีกครั้ง!” ฟางหยวนมองลั่วเว่ยหยินด้วยสายตาเย็นชา

“บึม!”

เป็นเพียงเวลานี้ที่บ้านไม้ไผ่สายลมพุ่งเข้าปะทะแผ่นหลังของฟางหยวนอย่างรุนแรง

ท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืน!

ฟางหยวนปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ การโจมตีสะท้อนกลับไปที่บ้านไม้ไผ่สายลม

แต่แรงปะทะก็ส่งฟางหยวนบินออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่

วูหยงรู้สึกสบายใจขึ้น อย่างน้อยเขาก็สามารถส่งฟางหยวนออกห่างจากกลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ด

แต่ไม่นานเสียงของลั่วเว่ยหยินก็ดังขึ้น “ไม่ดีแล้ว นี่คือแผนการของฟางหยวน เขากําลังจะหนี!”

การแสดงออกของวูหยงเปลี่ยนไปทันที เขาเห็นฟางหยวนพุ่งเข้าไปในมิติช่องว่างที่วางอยู่บนพน

หลังจากเข้าไป มิติช่องว่างก็ปิดตัวลง

“ฟางหยวนเจ้าเล่ห์เกินไป เมื่อเขาวางแผนซุ่มโจมตีที่นี่ เขาจะไม่เตรียมวิธีหลบหนีไว้ได้อย่างไร? เขาเข้าไปในมิติช่องว่างเพราะเขามีวิธีหลบหนีเช่นวิญญาณท่องแดนอมตะ!”

เส้นเลือดบนหน้าผากของวูหยงโปงพองขึ้นด้วยความโกรธขณะที่เขารู้สึกอึดอัดใจ

มิติของว่างแยกออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ไม่สามารถบุกเข้าไปได้อย่างง่ายดาย นั่นทําให้ฟางหยวนมีเวลามากพอที่จะหลบหนี

วูหยงรวบรวมกลุ่มคนจํานวนมากมาที่นี่แต่มันยังล้มเหลว ไม่เพียงเขาจะไม่สามารถทําร้ายฟางหยวน ผู้อมตะระดับแปดของภาคกลางยังถูกฟางหยวนจับกุมต่อหน้าทุกคน

นี่เป็นการตบหน้าของวูหยงอย่างรุนแรง

แต่คนที่น่ารังเกียจที่สุดคือชายผู้นี้ วูหยงมองลั่วเว่ยหยินด้วยสายตามืดครื้ม

เขากล่าวเสียงดัง “ลั่วเว่ยหยิน เหตุใดเจ้าไม่หยุดเขา?”

ลั่วเว่ยหยินตอบอย่างช้าๆ “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ข้าใช้พลังทั้งหมดเพื่อปกป้องสหายภาคใต้เหล่านี้ ข้าไม่เหลือพลังพอที่จะขัดขวางเขาจริงๆ”

กลุ่มผู้อมตะของภาคใต้รู้สึกขอบคุณลั่วเว่ยหยิน

วูหยงสูดหายใจลึกด้วยความโกรธและกําหมัดแน่น แต่เขาไม่สามารถทําสิ่งใดกับลั่วเว่ยหยิน

ลั่วเว่ยหยินมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา เขาเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพและเป็นคู่แข่งที่เป็นภัยคุกคามต่อความฝันของรูหยงมากที่สุด

วูหยงนํากลุ่มผู้อมตะภาคใต้มาปิดล้อมฟางหยวนแต่ทิ้งลั่วเว่ยหยินไว้ข้างหลังเพราะเขาต้องการสะสมชื่อเสียงของตน

แต่ผลลัพธ์คือฟางหยวนสามารถหลบหนีขณะที่วุหยงไม่สามารถทําสิ่งใด ชื่อเสียงของเขาเสียหายขณะที่สถานการณ์ของลั่วเว่ยหยินตรงข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิง

คนผู้นี้ซ่อนตัวมาตลอดโดยไม่ทําสิ่งใดก่อนจะปรากฏตัวขึ้นในเวลาที่เหมาะสมเพื่อปกป้องกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ นี่ทําให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

สายตาของวูหยงส่องประกายแหลมคมราวกับมีประกายไฟแลบลั่นอยู่ภายใน

หลังจากไม่นานเขาก็ถอนหายใจและสงบจิตใจลง เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของเขาพลุ่งพล่านอยู่ภายในขณะที่เขาเผยรอยยิ้มบาง เขาคิด “ฟางหยวน ลั่วเว่ยหยิน พวกเจ้าต่างมีบางสิ่ง ข้าพ่ายแพ้ครั้งนี้เพราะพวกเจ้าทั้งสอง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+