Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1629 พลังอํานาจบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1629 พลังอํานาจบนเส้นทางแห่งกาลเวลา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1629 พลังอํานาจบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

ตามข้อมูลที่ได้รับจากจวินเฉินกวง สี่ซุนจือมีการบ่มเพาะระดับเจ็ดเท่านั้น แต่พวกเขามีทักษะผสานพลังและสามารถรับมือผู้อมตะระดับแปด

 

แน่นอนว่าพวกเขาสามารถต่อสู้ได้เพียงกระบวนท่าเดียว หลังจากนั้นพวกเขาจะแพ้

 

พวกเขาไม่เหมือนฟางหยวนหรือฟงจิวเก้อที่สามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดได้อย่างแท้จริง

 

แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังน่าประทับใจ พวกเขาเป็นไพ่ตายของนิกายผีเสื้อจิตวิญญาณและจะไม่ถูกใช้งานโดยง่าย

 

วังสวรรค์ต้องการวางกับดักในสายธารแห่งกาลเวลา นิกายผีเสื้อจิตวิญญาณไม่สามารถปฏิเสธและต้องส่งสี่ซุนจือออกมา คนเหล่านี้เหมาะสมที่สุดในการควบคุมวิหารอดีตปัจจุบัน

 

ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

สี่ซุนจือและวิหารอดีตปัจจุบันไม่ได้เกินความคาดหมายของเขา

 

ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหาได้ยาก วังสวรรค์เคยมีหงชื่อ แต่เขาเสียชีวิตในการต่อสู้ครั้งก่อนหลังจากฟางหยวนใช้พลังอํานาจของเกราะบัวหิน

 

เพื่อจัดการฟางหยวน วังสวรรค์ต้องส่งผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาออกมา เว้นเพียงผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจากสุสานอมตะจะตื่นขึ้น

 

สิ่งที่ทําให้ฟางหยวนกังวลคือนอกจากวิหารอดีตปัจจุบัน วังสวรรค์ยังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะนาวานิรันดร์

 

“วิหารอดีตปัจจุบันมีความสามารถโดดเด่นด้านการตรวจสอบ ดังนั้นมันจึงพบข้าอย่างรวดเร็ว ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ หากสีซุนจือสามารถยื่อเวลา นาวานิรันดร์จะมาถึง ข้าจะเสียเปรียบหากต้องเผชิญหน้ากับคฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังพร้อมกัน

 

วังสวรรค์มีข้อได้เปรียบอย่างมากในเรื่องนี้ แม้พวกเขาจะไม่มีผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่พวกเขามีสมาชิกมากมายพร้อมกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสองหลัง

 

ในทางตรงข้าม ฟางหยวนมีเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่ไหลั่วหลัน ไปหนิงปิง และคนอื่นๆยังอ่อนแอมาก

 

ฟางหยวนเปิดมิติช่องว่างและปล่อยกองทัพอสูรปีชุดที่สองออกมา

 

กองทัพอสูรปีชุดแรกถูกใช้บนเทือกเขาห้าภูมิภาค

 

หลังจากกลืนกินมิติของว่างของเซี่ยชา ฟางหยวนได้รับสระแก่นแท้ปีสระที่สอง มีอสูรปีแรกกําเนิดอยู่ภายในสองตัว นอกจากนี้หลายเดือนที่ผ่านมาฟางหยวนยังใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะตกอสูรปีจับพวกมันมาไว้ในสระแก่นแท้ปีมากขึ้น

 

ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันฟางหยวนจึงมีอสูรปีแรกกําเนิดทั้งหมดเก้าตัว

 

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือฟางหยวนไม่สามารถรวบรวมอสูรปีแรกกําเนิดสิบสองประเภทเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะสนามรบสิบสองราศี

 

แม้เขาจะพยายามแล้ว แต่เขาพบว่ามันยากเกินไปที่จะรวบรวมอสูรปีแรกกําเนิดให้ครบสิบสองประเภท โดยเฉพาะเมื่อสายธารแห่งกาลเวลาจะให้กําเนิดอสูรปีแรกกําเนิดบางประเภทมากขึ้นในแต่ละปีและปีนี้เป็นปีระกา

 

อสูรปีแรกกําเนิดในกองทัพของเขามีอสูรประกาแรกกําเนิดถึงห้าตัว มันมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด

 

อสูรปีแรกกําเนิดเก้าตัวคํารามและพุ่งเข้าโจมตีวิหารอดีตปัจจุบัน

 

ใบหน้าของสี่ซุนจือกลายเป็นมืดครึ้ม พวกเขากระตุ้นใช้พลังอํานาจของวิหารอดีตปัจจุบันทันที

 

“ครืน…”

 

คลื่นยักษ์สูงสิบเมตรพุ่งเข้าโจมตีอสูรปีแรกกําเนิดทั้งเก้า

 

แต่อสูรปีแรกกําเนิดเป็นสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา คลื่นน้ำดังกล่าวไม่สามารถกีดขวางพวกมันขณะที่พวกมันเคลื่อนที่เข้าใกล้วิหารอดีตปัจจุบันมากขึ้นเรื่อยๆ

 

วิหารอดีตปัจจุบันระเบิดแสงระยิบระยับออกมา

 

“ครืน ครืน ”

 

คลื่นน้ำจํานวนมากก่อตัวขึ้นราวกับกําแพงขนาดใหญ่ที่สามารถโจมตีและป้องกันในเวลาเดียวกัน

 

ฟางหยวนออกคําสั่งให้อสูรปีแรกกําเนิดร่วมมือกัน พวกมันพุ่งไปข้างหน้าราวกับลูกศรและทะลวงผ่านกําแพงคลื่นตรงไปยังวิหารอดีตปัจจุบัน

 

สี่ชุนจือตะโกนเสียงดังและปลดปล่อยหมอกสีเขียวออกมาปกคลุมสนามรบ อสูรปีแรกกําเนิดได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ ความเร็วของพวกมันลดลงอย่างมาก

 

ขณะเดียวกันคลื่นน้ำก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า ตอนนี้พวกมันสูงถึงสามสิบเมตร

 

เดิมที่กองทัพอสูรปีแรกกําเนิดอยู่รวมกลุ่มกัน แต่หลังจากถูกกีดขวางโดยคลื่นยักษ์จํานวนนับไม่ถ้วน รูปแบบของพวกมันก็พังทลายลง พวกมันถูกแยกออกและเข้าสู่การต่อสู้ของตนเอง

 

วิหารอดีตปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ อสูรปีแรกกําเนิดของฟางหยวนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

การแสดงออกของสี่ซุนจือผ่อนคลายลง

 

จางซุนจือสูดหายใจลึก “ในที่สุดเราก็ผ่านช่วงเริ่มต้นมาได้ ปีศาจตนนี้ไม่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันของพวกเรา”

 

เกาซุนจือยิ้ม “วิหารอดีตปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แม้ฟางหยวนจะมีอสูรปีแรกกําเนิดมากมาย แต่เขาก็ไม่สามารถรวมพลังพวกมัน เขาไม่ใช่ภัยคุกคาม”

 

“ถูกต้อง” เซียซุนจือลูบเคราของตน “แม้วิหารอดีตปัจจุบันจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่ตราบเท่าที่เราสามารถยื้อเวลาจนกว่านาวานิรันดร์จะมาถึง เมื่อนั้นเราจะได้รับชัยชนะ”

 

จงซุนจือหรี่ตามอง “ปีศาจตนนี้เจ้าเล่ห์มาก เราไม่สามารถประมาท”

 

เขาพึ่งกล่าวจบประโยคขณะที่อสูรปีวอกแรกกําเนิดกระโดดขึ้นมาจากผิวน้ำและใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

มันสะบัดพัดขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือ

 

ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดพัดฤดูร้อน!

 

สายลมกรรโชกแรงทําลายคลื่นยักษ์ทั้งหมดลงในพริบตา

 

สี่ซุนจือตกใจมาก พวกเขาตระหนักว่ามันเป็นฟางหยวนที่ปลอมตัวเป็นอสูรปีวอกแรกกําเนิด

 

“ปีศาจเข้าสู่การต่อสู้แล้ว!”

 

“เป็นไปไม่ได้! เรามีท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบที่ได้รับมาจากท่านหญิงจื่อเว่ย เราสามารถเปิดเผยท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย แล้วเขาจะหลอกลวงพวกเราได้อย่างไร?”

 

ฟางหยวนลอบเย้ยหยันอยู่ภายใน เขาใช้เวลาสองสามเดือนที่ผ่านมาอย่างเต็มที่ เป็นธรรมดาที่เขาจะสามารถพัฒนาท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย

 

ในที่สุดฟางหยวนก็มาถึง

 

วิหารอดีตปัจจุบันระเบิดแสงสว่างออกมาขณะที่ฟางหยวนอาศัยร่างกายที่แข็งแกร่งของอสูรปีวอกแรกกําเนิดชกคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้โดยตรง

 

“ไร้ประโยชน์! ตอนนี้วิหารอดีตปัจจุบันทอดสมออยู่ที่นี่ เจ้าไม่สามารถเคลื่อนย้ายมัน!” เกาซุนจือกล่าวด้วยความกังวล

 

“เช่นนั้นหรือ…” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาใช้กรรไกรฤดูใบไม้ผลิในวินาทีต่อมา

 

“ฉับ ฉับ”

 

กรรไกรฤดูใบไม้ผลิโจมตีวิหารอดีตปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้าขอบมุมของคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็ถูกตัดออกไปห้าถึงหกครั้ง

 

“นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด ช่างทรงพลังนัก!”

 

“กระทั่งวิหารอดีตปัจจุบันก็ยังไม่สามารถต่อต้าน นี่เป็นไปได้อย่างไร?”

 

สี่ซุนจือกรีดร้อง

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายเย็นชา

 

เดิมที่เขามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากกว่าเจ็ดหมื่นร่องรอย ตอนนี้เขาอยู่ในร่างอสูรปีวอกแรกกําเนิด ดังนั้นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกห้าหมื่นร่องรอยจึงเปลี่ยนเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากกว่าหนึ่งแสนสองหมื่นร่องรอย!

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าน้อยกว่าสามหมื่นร่องรอย ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจํานวนหนึ่งแสนสองหมื่นร่องรอยไม่ใช่เรื่องปกติสําหรับผู้อมตะระดับแปด พวกเขาต้องผ่านหมื่นภัยพิบัติหนึ่งครั้งก่อนจะบรรลุระดับนี้

 

นี่หมายความว่าท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนจะถูกขยายพลังอํานาจขึ้นถึงหนึ่งร้อยยี่สิบเท่า!

 

แม้วิหารอดีตปัจจุบันจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดของฟางหยวนยังได้รับแรงหนุนเสริมจากสภาพแวดล้อม

 

ดังนั้นพลังการต่อสู้บนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนจึงพุ่งสูงขึ้นถึงจุดที่วิหารอดีตปัจจุบันไม่สามารถต่อต้าน!

 

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาทั้งสองของฟางหยวนบังคับให้วิหารอดีตปัจจุบันล่าถอยไปซ้ำแล้วซ้ำอีก

 

สี่ชุนจือพยายามรักษาเสถียรภาพและโจมตีเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่จําเป็น แม้แต่ต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะเสื้อคลุมฤดูหนาว เพียงร่างกายของอสูรปีวอกแรกกําเนิดก็สามารถต่อต้านการโจมตีเหล่านั้นได้ทั้งหมด

 

“อดทนไว้” สู่ซุนจือตะโกนเมื่อเห็นนาวานิรันดร์เคลื่อนที่ใกล้เข้ามา

 

นาวานิรันดร์

 

“สายไปแล้ว!” ฟางหยวนหัวเราะคิกคัก เขาสะบัดพัดฤดูร้อนส่งพายุหมุนขนาดใหญ่ออกไปและทําให้วิหารอดีตปัจจุบันแทบพังทลายลงทันที

 

กรรไกรฤดูใบไม้ผลิพุ่งตามมาอย่างกระชั้นชิด

 

ด้วยการโจมตีนี้ วิหารอดีตปัจจุบันจึงพังทลายลงอย่างสมบูรณ์

 

ฟางหยวนหัวเราะและใช้เท้าของลิงยักษ์กระทุบเศษซากของวิหารอดีตปัจจุบัน

 

“บึม!”

 

สี่ขุนจือได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาถูกส่งลงไปในสายธารแห่งกาลเวลา

 

ฟางหยวนและคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์จากไปอย่างง่ายดาย

 

เมื่อนาวานิรันดร์มาถึง มันก็สายไปแล้ว ผู้อมตะที่อยู่ภายในนาวานิรันดร์ลังเลใจว่าพวกเขาควรช่วยสี่ซุนจือหรือไล่ล่าฟางหยวน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1629 พลังอํานาจบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1629 พลังอํานาจบนเส้นทางแห่งกาลเวลา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1629 พลังอํานาจบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

ตามข้อมูลที่ได้รับจากจวินเฉินกวง สี่ซุนจือมีการบ่มเพาะระดับเจ็ดเท่านั้น แต่พวกเขามีทักษะผสานพลังและสามารถรับมือผู้อมตะระดับแปด

 

แน่นอนว่าพวกเขาสามารถต่อสู้ได้เพียงกระบวนท่าเดียว หลังจากนั้นพวกเขาจะแพ้

 

พวกเขาไม่เหมือนฟางหยวนหรือฟงจิวเก้อที่สามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดได้อย่างแท้จริง

 

แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังน่าประทับใจ พวกเขาเป็นไพ่ตายของนิกายผีเสื้อจิตวิญญาณและจะไม่ถูกใช้งานโดยง่าย

 

วังสวรรค์ต้องการวางกับดักในสายธารแห่งกาลเวลา นิกายผีเสื้อจิตวิญญาณไม่สามารถปฏิเสธและต้องส่งสี่ซุนจือออกมา คนเหล่านี้เหมาะสมที่สุดในการควบคุมวิหารอดีตปัจจุบัน

 

ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

สี่ซุนจือและวิหารอดีตปัจจุบันไม่ได้เกินความคาดหมายของเขา

 

ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหาได้ยาก วังสวรรค์เคยมีหงชื่อ แต่เขาเสียชีวิตในการต่อสู้ครั้งก่อนหลังจากฟางหยวนใช้พลังอํานาจของเกราะบัวหิน

 

เพื่อจัดการฟางหยวน วังสวรรค์ต้องส่งผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาออกมา เว้นเพียงผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจากสุสานอมตะจะตื่นขึ้น

 

สิ่งที่ทําให้ฟางหยวนกังวลคือนอกจากวิหารอดีตปัจจุบัน วังสวรรค์ยังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะนาวานิรันดร์

 

“วิหารอดีตปัจจุบันมีความสามารถโดดเด่นด้านการตรวจสอบ ดังนั้นมันจึงพบข้าอย่างรวดเร็ว ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ หากสีซุนจือสามารถยื่อเวลา นาวานิรันดร์จะมาถึง ข้าจะเสียเปรียบหากต้องเผชิญหน้ากับคฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังพร้อมกัน

 

วังสวรรค์มีข้อได้เปรียบอย่างมากในเรื่องนี้ แม้พวกเขาจะไม่มีผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่พวกเขามีสมาชิกมากมายพร้อมกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสองหลัง

 

ในทางตรงข้าม ฟางหยวนมีเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่ไหลั่วหลัน ไปหนิงปิง และคนอื่นๆยังอ่อนแอมาก

 

ฟางหยวนเปิดมิติช่องว่างและปล่อยกองทัพอสูรปีชุดที่สองออกมา

 

กองทัพอสูรปีชุดแรกถูกใช้บนเทือกเขาห้าภูมิภาค

 

หลังจากกลืนกินมิติของว่างของเซี่ยชา ฟางหยวนได้รับสระแก่นแท้ปีสระที่สอง มีอสูรปีแรกกําเนิดอยู่ภายในสองตัว นอกจากนี้หลายเดือนที่ผ่านมาฟางหยวนยังใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะตกอสูรปีจับพวกมันมาไว้ในสระแก่นแท้ปีมากขึ้น

 

ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันฟางหยวนจึงมีอสูรปีแรกกําเนิดทั้งหมดเก้าตัว

 

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือฟางหยวนไม่สามารถรวบรวมอสูรปีแรกกําเนิดสิบสองประเภทเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะสนามรบสิบสองราศี

 

แม้เขาจะพยายามแล้ว แต่เขาพบว่ามันยากเกินไปที่จะรวบรวมอสูรปีแรกกําเนิดให้ครบสิบสองประเภท โดยเฉพาะเมื่อสายธารแห่งกาลเวลาจะให้กําเนิดอสูรปีแรกกําเนิดบางประเภทมากขึ้นในแต่ละปีและปีนี้เป็นปีระกา

 

อสูรปีแรกกําเนิดในกองทัพของเขามีอสูรประกาแรกกําเนิดถึงห้าตัว มันมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด

 

อสูรปีแรกกําเนิดเก้าตัวคํารามและพุ่งเข้าโจมตีวิหารอดีตปัจจุบัน

 

ใบหน้าของสี่ซุนจือกลายเป็นมืดครึ้ม พวกเขากระตุ้นใช้พลังอํานาจของวิหารอดีตปัจจุบันทันที

 

“ครืน…”

 

คลื่นยักษ์สูงสิบเมตรพุ่งเข้าโจมตีอสูรปีแรกกําเนิดทั้งเก้า

 

แต่อสูรปีแรกกําเนิดเป็นสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา คลื่นน้ำดังกล่าวไม่สามารถกีดขวางพวกมันขณะที่พวกมันเคลื่อนที่เข้าใกล้วิหารอดีตปัจจุบันมากขึ้นเรื่อยๆ

 

วิหารอดีตปัจจุบันระเบิดแสงระยิบระยับออกมา

 

“ครืน ครืน ”

 

คลื่นน้ำจํานวนมากก่อตัวขึ้นราวกับกําแพงขนาดใหญ่ที่สามารถโจมตีและป้องกันในเวลาเดียวกัน

 

ฟางหยวนออกคําสั่งให้อสูรปีแรกกําเนิดร่วมมือกัน พวกมันพุ่งไปข้างหน้าราวกับลูกศรและทะลวงผ่านกําแพงคลื่นตรงไปยังวิหารอดีตปัจจุบัน

 

สี่ชุนจือตะโกนเสียงดังและปลดปล่อยหมอกสีเขียวออกมาปกคลุมสนามรบ อสูรปีแรกกําเนิดได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ ความเร็วของพวกมันลดลงอย่างมาก

 

ขณะเดียวกันคลื่นน้ำก็ขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า ตอนนี้พวกมันสูงถึงสามสิบเมตร

 

เดิมที่กองทัพอสูรปีแรกกําเนิดอยู่รวมกลุ่มกัน แต่หลังจากถูกกีดขวางโดยคลื่นยักษ์จํานวนนับไม่ถ้วน รูปแบบของพวกมันก็พังทลายลง พวกมันถูกแยกออกและเข้าสู่การต่อสู้ของตนเอง

 

วิหารอดีตปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ อสูรปีแรกกําเนิดของฟางหยวนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

 

การแสดงออกของสี่ซุนจือผ่อนคลายลง

 

จางซุนจือสูดหายใจลึก “ในที่สุดเราก็ผ่านช่วงเริ่มต้นมาได้ ปีศาจตนนี้ไม่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันของพวกเรา”

 

เกาซุนจือยิ้ม “วิหารอดีตปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แม้ฟางหยวนจะมีอสูรปีแรกกําเนิดมากมาย แต่เขาก็ไม่สามารถรวมพลังพวกมัน เขาไม่ใช่ภัยคุกคาม”

 

“ถูกต้อง” เซียซุนจือลูบเคราของตน “แม้วิหารอดีตปัจจุบันจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่ตราบเท่าที่เราสามารถยื้อเวลาจนกว่านาวานิรันดร์จะมาถึง เมื่อนั้นเราจะได้รับชัยชนะ”

 

จงซุนจือหรี่ตามอง “ปีศาจตนนี้เจ้าเล่ห์มาก เราไม่สามารถประมาท”

 

เขาพึ่งกล่าวจบประโยคขณะที่อสูรปีวอกแรกกําเนิดกระโดดขึ้นมาจากผิวน้ำและใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

มันสะบัดพัดขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือ

 

ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดพัดฤดูร้อน!

 

สายลมกรรโชกแรงทําลายคลื่นยักษ์ทั้งหมดลงในพริบตา

 

สี่ซุนจือตกใจมาก พวกเขาตระหนักว่ามันเป็นฟางหยวนที่ปลอมตัวเป็นอสูรปีวอกแรกกําเนิด

 

“ปีศาจเข้าสู่การต่อสู้แล้ว!”

 

“เป็นไปไม่ได้! เรามีท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบที่ได้รับมาจากท่านหญิงจื่อเว่ย เราสามารถเปิดเผยท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย แล้วเขาจะหลอกลวงพวกเราได้อย่างไร?”

 

ฟางหยวนลอบเย้ยหยันอยู่ภายใน เขาใช้เวลาสองสามเดือนที่ผ่านมาอย่างเต็มที่ เป็นธรรมดาที่เขาจะสามารถพัฒนาท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย

 

ในที่สุดฟางหยวนก็มาถึง

 

วิหารอดีตปัจจุบันระเบิดแสงสว่างออกมาขณะที่ฟางหยวนอาศัยร่างกายที่แข็งแกร่งของอสูรปีวอกแรกกําเนิดชกคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้โดยตรง

 

“ไร้ประโยชน์! ตอนนี้วิหารอดีตปัจจุบันทอดสมออยู่ที่นี่ เจ้าไม่สามารถเคลื่อนย้ายมัน!” เกาซุนจือกล่าวด้วยความกังวล

 

“เช่นนั้นหรือ…” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาใช้กรรไกรฤดูใบไม้ผลิในวินาทีต่อมา

 

“ฉับ ฉับ”

 

กรรไกรฤดูใบไม้ผลิโจมตีวิหารอดีตปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้าขอบมุมของคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็ถูกตัดออกไปห้าถึงหกครั้ง

 

“นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด ช่างทรงพลังนัก!”

 

“กระทั่งวิหารอดีตปัจจุบันก็ยังไม่สามารถต่อต้าน นี่เป็นไปได้อย่างไร?”

 

สี่ซุนจือกรีดร้อง

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายเย็นชา

 

เดิมที่เขามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากกว่าเจ็ดหมื่นร่องรอย ตอนนี้เขาอยู่ในร่างอสูรปีวอกแรกกําเนิด ดังนั้นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกห้าหมื่นร่องรอยจึงเปลี่ยนเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากกว่าหนึ่งแสนสองหมื่นร่องรอย!

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าน้อยกว่าสามหมื่นร่องรอย ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจํานวนหนึ่งแสนสองหมื่นร่องรอยไม่ใช่เรื่องปกติสําหรับผู้อมตะระดับแปด พวกเขาต้องผ่านหมื่นภัยพิบัติหนึ่งครั้งก่อนจะบรรลุระดับนี้

 

นี่หมายความว่าท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนจะถูกขยายพลังอํานาจขึ้นถึงหนึ่งร้อยยี่สิบเท่า!

 

แม้วิหารอดีตปัจจุบันจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดของฟางหยวนยังได้รับแรงหนุนเสริมจากสภาพแวดล้อม

 

ดังนั้นพลังการต่อสู้บนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนจึงพุ่งสูงขึ้นถึงจุดที่วิหารอดีตปัจจุบันไม่สามารถต่อต้าน!

 

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาทั้งสองของฟางหยวนบังคับให้วิหารอดีตปัจจุบันล่าถอยไปซ้ำแล้วซ้ำอีก

 

สี่ชุนจือพยายามรักษาเสถียรภาพและโจมตีเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่จําเป็น แม้แต่ต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะเสื้อคลุมฤดูหนาว เพียงร่างกายของอสูรปีวอกแรกกําเนิดก็สามารถต่อต้านการโจมตีเหล่านั้นได้ทั้งหมด

 

“อดทนไว้” สู่ซุนจือตะโกนเมื่อเห็นนาวานิรันดร์เคลื่อนที่ใกล้เข้ามา

 

นาวานิรันดร์

 

“สายไปแล้ว!” ฟางหยวนหัวเราะคิกคัก เขาสะบัดพัดฤดูร้อนส่งพายุหมุนขนาดใหญ่ออกไปและทําให้วิหารอดีตปัจจุบันแทบพังทลายลงทันที

 

กรรไกรฤดูใบไม้ผลิพุ่งตามมาอย่างกระชั้นชิด

 

ด้วยการโจมตีนี้ วิหารอดีตปัจจุบันจึงพังทลายลงอย่างสมบูรณ์

 

ฟางหยวนหัวเราะและใช้เท้าของลิงยักษ์กระทุบเศษซากของวิหารอดีตปัจจุบัน

 

“บึม!”

 

สี่ขุนจือได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาถูกส่งลงไปในสายธารแห่งกาลเวลา

 

ฟางหยวนและคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์จากไปอย่างง่ายดาย

 

เมื่อนาวานิรันดร์มาถึง มันก็สายไปแล้ว ผู้อมตะที่อยู่ภายในนาวานิรันดร์ลังเลใจว่าพวกเขาควรช่วยสี่ซุนจือหรือไล่ล่าฟางหยวน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+