Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1637 เขาโกง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1637 เขาโกง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1637 เขาโกง

 

“ทุกคนอย่าตกใจ” ฉีปากล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง ร่างสูงราวกับต้นไผ่ของเขาแกว่งไปมาเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้ใดหัวเราะ

 

ตระกูลนี้มีผู้อมตะระดับเจ็ดสามคนและผู้อมตะระดับหกอีกสองคน พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวน แม้พวกเขาจะร่วมมือกัน พวกเขาก็เป็นเพียงเนื้อที่วางอยู่บนเขียง

 

หลังจากชั่วครู่ ฉีฟาก็รวบรวมความกล้ากล่าวต่อ “เราได้รับการยอมรับจากประตูเมือง แล้ว เราสามารถสํารวจถ้ําสวรรค์ที่อยู่ภายใน เราได้รับการปกป้องจากประตูเมืองเช่นกัน หากฟางหยวนต้องการฆ่าพวกเรา เขาต้องผ่านการทดสอบของประตูเมืองเป็นอันดับแรก หากเขาทําลายมัน เขาจะฝ่าฝืนกฎของการเดิมพันและไม่สามารถเข้าไปภายใน”

 

คํากล่าวของฉีฟาทําให้ทุกคนสงบลง

 

ฟางหยวนมองฉีฟาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เขาเผยรอยยิ้มชื่นชม “เขาค่อนข้างฉลาด”

 

ฉีปากล่าวกับผู้อมตะตระกูลฉีแต่ความหมายของมันมีไว้สําหรับฟางหยวน ตระกูลฉีสามารถมาถึงจุดนี้ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล ตระกูลนี้เติบโตขึ้นขณะเดียวกันก็สามารถกดขี่ตระกูลอื่น พวกเขายังซ่อนตัวอยู่อย่างลับๆ กระทั่งกองกําลังใหญ่ของภาคใต้ก็ไม่รู้รายละเอียดและไม่พยายามค้นหาสมบัติห้าเซียง ทั้งหมดเป็นเพราะความสามารถของผู้อมตะตระกูลฉี

 

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะน่ายกย่องเพียงใด ต่อหน้าฟางหยวน พวกเขาก็ไม่ถือเป็นสิ่งใด

 

รอยยิ้มของฟางหยวนน่ากลัวมากสําหรับพวกเขา ฟันสีขาวของเขาเหมือนใบมีดอันแหลมคมที่เล็งมาที่พวกเขา

 

ฟางหยวนมองผู้อมตะตระกูลฉีก่อนจะหันหน้ากลับมาทางไป่หนิงปิง

 

ทั้งสองเจรจากันมาแล้ว ไป่หนิงปิงพยักหน้าให้ฟางหยวนก่อนจะบินไปที่ประตูเมือง

 

ผู้อมตะตระกูลนี้ไม่สามารถทําสิ่งใดนอกจากเฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆ

 

เมื่อไป่หนิงปิงเข้าสู่อาณาเขตของแสงสีฟ้า แสงสีฟ้าตอบสนองทันที

 

ฟางหยวนพยักหน้ากับตนเอง ก่อนหน้านี้เขาเกรงว่าสถานะมนุษย์มังกรของไป่หนิงบิงจะส่งผลกระทบต่อเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามมนุษย์มังกรไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์ตามธรรมชาติ นอกจากนั้นดูเหมือนประตูเมืองจะสนใจเพียงสายเลือดของไป่หนิงปิงโดยไม่คํานึงถึงสถานะมนุษย์มังกรของนาง

 

หลังจากชั่วครู่ไป่หนิงปิงก็ได้รับการยอมรับจากประตูเมืองและถูกส่งขึ้นไปอยู่บนก้อนเมฆ

 

ผู้อมตะตระกูลแสดงออกด้วยความเสียใจ

 

“ดูเหมือนไป่หนิงปิงไม่ได้เป็นทาสของฟางหยวน มิฉะนั้นประตูเมืองจะไม่ยอมรับนาง”

 

“น่าเสียดาย…”

 

“บัดซบ! ไป่หนิงปิงได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมจริงๆ!”

 

ไป่หนิงปิงเคยอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อมตะเฆ่าม่านเยี่ยนชื่อ แต่นางไม่เคยตกเป็นทาสพวกเขาเพียงสร้างความร่วมมือเท่านั้น

 

หลังจากเข้าร่วมกับฟางหยวน ไป่หนิงปิงไม่เคยเคยตกเป็นทาสของฟางหยวนเช่นกัน ดังนั้นประตูเมืองจึงยอมรับสถานะของนาง

 

ไป่หนิงปิงหันหน้ากลับไปทางฟางหยวน “การขึ้นมาบนก้อนเมฆคือการยอมรับจากประตูเมือง ผู้อมตะไม่สามารถต่อสู้กันที่นี่”

 

“อืม” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

การเคลื่อนไหวต่อไปของเขาทําให้ผู้อมตะตระกูลฉีอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

 

ฟางหยวนบินเข้าไปในอาณาเขตของแสงสีฟ้า

 

แสงสีฟ้ากะพริบอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกลับสู่เสถียรภาพ

 

แม้ฟางหยวนจะอยู่ในรูปลักษณ์ดั้งเดิมของเขา แต่เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยตลอดเวลา ครั้งนี้เขาพัฒนามันขึ้นไปอีกขั้นโดยเพิ่มวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดเข้าไปเพื่ออําพรางสายเลือดของเขา เขาเคยใช้สิ่งนี้เพื่อปลอมตัวเป็นวูอี้ไฟแทรกซึมเข้าสู่ตระกูลวูมาแล้ว

 

แต่ก่อนที่ฟางหยวนจะแสดงออกอย่างมีความสุข แสงอีกสี่สีก็ปรากฏขึ้นบนประตูเมือง

 

ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาให้ไป่หนิงปิงเข้ามาก่อนเพื่อตรวจสอบแสงสีฟ้า หลังจากเขาบินเข้ามา เขาสามารถหลอกลวงแสงสีฟ้า แต่ผู้ใดจะคิดว่าอีกสี่เซียงจะปลดปล่อยพลังออกมา

 

“บึม!”

 

ประตูเมืองสั่นสะเทือน ฟางหยวนถูกผลักออกไป

 

“ใบหน้าที่คุ้นเคยไม่สามารถหลอกลวงงั้นหรือ?” หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นเล็กน้อย

 

นักสํารวจห้าเซียง!

 

กองกําลังที่แข็งแกร่งที่เคยปกครองภาคใต้ในอดีตแสดงพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ของมันออกมา

 

กลุ่มผู้อมตะตระกูลฉีถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความปิติยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา

 

การกระทําของฟางหยวนน่าตกใจเกินไป แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นผลดีต่อพวกเขา

 

“เกือบแล้ว ฟางหยวนไม่สามารถเข้าไป!”

 

“เรายังมีความหวัง! ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจะถูกหยุดอยู่ข้างนอก เราต้องจัดการไปหนิงปิงเท่านั้น”

 

“ท่าไม้ตายอมตะไป่เซียงของนางรับมือได้ยาก แต่มรดกที่แท้จริงของฉีเซียงก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน!”

 

ฟางหยวนมอง

 

เขาประเมินมันต่ําเกินไปหรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือข้อมูลของนิกายเงา และไป่หนิงปิงไม่เพียงพอ

 

ใบหน้าที่คุ้นเคยไม่สามารถหลอกลวงมัน

 

ฟางหยวนไม่ต้องการให้ไป่หนิงปิงเข้าไปสํารวจถ้ําสวรรค์ห้าเซียงเพียงผู้เดียว

 

นางไม่น่าเชื่อถือ แม้นางจะเชื่อถือได้ แต่นางจะไม่สามารถต่อต้านตระกูล

 

แม้ฟางหยวนจะพบอุปสรรคก่อนหน้านี้ ความมุ่งมั่นของเขาที่จะเข้าไปข้างในก็ยังไม่สั่นคลอน

 

“ฉีเซียง ไป่เซียง เสวี่ยเซียง หนี่เซียง ซื่อเซียง พวกเขาคือนักสํารวจห้าเซียง ประตูบานนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพวกเขา พลังของพวกเขาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

 

ฟางหยวนมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งเลือดและเส้นทางแห่งปฐพี เขามีความมั่นใจในด้านนี้

 

ในแง่ของเส้นทางอาหาร แม้ความสําเร็จของเขาจะไม่สูง แต่ฟางหยวนมีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณและมันเป็นมรดกบนเส้นทางอาหารดั้งเดิมของโลกใบนี้ ด้วยรากฐานดังกล่าว ฟางหยวนมีข้อมูลอ้างอิงมากมาย

 

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งพลังปราณและเส้นทางแห่งน้ําแข็งของเขาค่อนข้างต่ํา แต่เส้นทางแห่งน้ําแข็งไม่ใช่ปัญหา เขามีมรดกที่แท้จริงไป่เซียงของไป่หนิงปิงซึ่งสามารถหลอกแสงสีฟ้ามาแล้ว

 

“ดังนั้นอุปสรรคเดียวของข้าก็คือพลังของฉีเซียง” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

ฟางหยวนไม่มีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งพลังปราณและไม่มีมรดกบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่เพียงพอ

 

“แต่ข้ามีแสงแห่งปัญญา

 

ฟางหยวนต้องใช้แสงแห่งปัญญาบังคับเปิดเส้นทาง!

 

ผู้อมตะตระกูลฉีลอบสนทนา

 

“เขากําลังทําสิ่งใด?”

 

“ดูเหมือนเขากําลังอนุมาน.วังสวรรค์กล่าวไว้ว่าปีศาจตนนี้มีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่ธรรมดา”

 

“ฮ่าฮ่า ไร้ประโยชน์ เขาจะอนุมานการจัดเตรียมของนักสํารวจห้าเซียงในเวลาสั้นๆได้อย่างไร?”

 

ผู้อมตะตระกูลฉีมั่นใจมาก

 

พวกเขาพยายามทําลายการจัดเตรียมของนักสํารวจห้าเซียงมานานแล้ว แต่พวกเขาไม่ประสบความสําเร็จ

 

พวกเขาล้มเหลวมาหลายครั้ง แล้วฟางหยวนจะประสบความสําเร็จได้อย่างไร?

 

“บางที่ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนอาจเหนือกว่าพวกเรา แต่เขากําลังฝันไป หากต้องการอนุมานบางสิ่งในเวลานี้ ความยากลําบากของมันไม่ต่างจากการอนุมานท่าไม้ตายอมตะที่ไม่รู้จักและพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก เขาต้องการอนุมานและคลี่คลายมัน เขาไร้เดียงสาเกินไป” ฉีฟาส่ายศีราะ

 

“บึม!”

 

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับโจมตีประตูเมืองโดยไม่คาดคิด

 

ประตูเมืองสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะตระกูลฉีเปลี่ยนไปเช่นกัน

 

“นี่ นี่”

 

“ปีศาจตนนี้โจมตีประตูเมืองจริงๆ เขาต้องการทําลายทางเข้า เขาไม่ต้องการเข้าไปงั้นหรือ?”

 

“เขาไม่สามารถอนุมานและรู้สึกโกรธงั้นหรือ?”

 

“บึม บึม บึม…”

 

ฟางหยวนโจมตีประตูเมืองอย่างดุเดือด

 

ใบหน้าของผู้อมตะตระกูลฉีเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว

 

หากประตูเมืองถูกทําลาย พวกเขาจะสูญเสียการปกป้อง หลังจากนั้นมันจะขึ้นอยู่กับฟางหยวนว่าจะฆ่าหรือจับพวกเขา

 

“หยุดเขา!” ผู้อมตะตระกูลฉีกรีดร้องอยู่ในใจ

 

ฟางหยวนหยุดโจมตีในที่สุด

 

ผู้อมตะตระกูลฉีหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างกายของพวกเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ พวกเขาไม่เคยรู้สึกกังวลใจเท่าครั้งนี้มาก่อน

 

อย่างไรก็ตามประตูเมืองยังยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคง

 

“ปีศาจไม่ประสบความสําเร็จ เยี่ยม!” ฉีจินแสดงออกอย่างมีความสุข

 

ฟางหยวนชาเลืองมองพวกเขาและเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน “โอ้ เหตุใดพวกเจ้าถึงคิดว่าข้าจะหยุดเพียงเท่านี้?”

 

หลังกล่าวจบคํา เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะทันที

 

กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนไป ขณะที่เขาบินเข้าไป แสงสีฟ้าอีกครั้งและได้รับการยอมรับอย่างง่ายดาย สุดท้ายเขาถูกส่งขึ้นไปอยู่บนก้อนเมฆด้านข้างไป่หนิงปิง

 

ผู้อมตะตระกูลฉีตกตะลึง บางคนอ้าปากค้างด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ

 

ความเชื่อบางอย่างในจิตใจของพวกเขาถูกทําลายลงโดยความสําเร็จของฟางหยวน

“นี่ ปีศาจตนนี้ประสบความสําเร็จจริงๆ!”

 

“ข้ากําลังฝันไปหรือไม่? เป็นไปได้อย่างไร?”

 

“เขาประสบความสําเร็จในระยะเวลาสั้นๆเช่นนี้ได้อย่างไร?”

 

ผู้อมตะตระกูลนี้รู้สึกสับสน

 

พลังการต่อสู้ของฟางหยวนสูงจนน่าขันแต่ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขากลับ เหนือความเข้าใจของผู้อมตะตระกูลฉีไปไกลมาก

 

สัตว์ประหลาดตัวนี้ทําให้วังสวรรค์ไม่มีทางเลือก แล้วพวกเขาจะจัดการกับตัวตนเช่นนี้ได้อย่างไร?

 

“ประตูเมือง! บรรพชน! ฟางหยวนเป็นคนนอก เขาโกง!” ฉีไค่กรีดร้องด้วยใบหน้าสีแดงก่ํา

 

แต่ประตูเมืองตอบกลับด้วยความเงียบ

 

ในไม่ช้ามันก็ระเบิดแสงห้าสีออกมา

 

ผู้อมตะตระกูลฉีเห็นสิ่งนี้และรู้สึกสิ้นหวัง

 

พวกเขารู้ว่ามันไม่ใช่การค้นพบตัวตนของฟางหยวนแต่มันกําลังจะเคลื่อนย้ายพวกเขาเข้าไปภายใน

 

การเดิมพันห้าเซียงกําลังจะเริ่มต้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1637 เขาโกง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1637 เขาโกง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1637 เขาโกง

 

“ทุกคนอย่าตกใจ” ฉีปากล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง ร่างสูงราวกับต้นไผ่ของเขาแกว่งไปมาเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้ใดหัวเราะ

 

ตระกูลนี้มีผู้อมตะระดับเจ็ดสามคนและผู้อมตะระดับหกอีกสองคน พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวน แม้พวกเขาจะร่วมมือกัน พวกเขาก็เป็นเพียงเนื้อที่วางอยู่บนเขียง

 

หลังจากชั่วครู่ ฉีฟาก็รวบรวมความกล้ากล่าวต่อ “เราได้รับการยอมรับจากประตูเมือง แล้ว เราสามารถสํารวจถ้ําสวรรค์ที่อยู่ภายใน เราได้รับการปกป้องจากประตูเมืองเช่นกัน หากฟางหยวนต้องการฆ่าพวกเรา เขาต้องผ่านการทดสอบของประตูเมืองเป็นอันดับแรก หากเขาทําลายมัน เขาจะฝ่าฝืนกฎของการเดิมพันและไม่สามารถเข้าไปภายใน”

 

คํากล่าวของฉีฟาทําให้ทุกคนสงบลง

 

ฟางหยวนมองฉีฟาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เขาเผยรอยยิ้มชื่นชม “เขาค่อนข้างฉลาด”

 

ฉีปากล่าวกับผู้อมตะตระกูลฉีแต่ความหมายของมันมีไว้สําหรับฟางหยวน ตระกูลฉีสามารถมาถึงจุดนี้ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล ตระกูลนี้เติบโตขึ้นขณะเดียวกันก็สามารถกดขี่ตระกูลอื่น พวกเขายังซ่อนตัวอยู่อย่างลับๆ กระทั่งกองกําลังใหญ่ของภาคใต้ก็ไม่รู้รายละเอียดและไม่พยายามค้นหาสมบัติห้าเซียง ทั้งหมดเป็นเพราะความสามารถของผู้อมตะตระกูลฉี

 

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะน่ายกย่องเพียงใด ต่อหน้าฟางหยวน พวกเขาก็ไม่ถือเป็นสิ่งใด

 

รอยยิ้มของฟางหยวนน่ากลัวมากสําหรับพวกเขา ฟันสีขาวของเขาเหมือนใบมีดอันแหลมคมที่เล็งมาที่พวกเขา

 

ฟางหยวนมองผู้อมตะตระกูลฉีก่อนจะหันหน้ากลับมาทางไป่หนิงปิง

 

ทั้งสองเจรจากันมาแล้ว ไป่หนิงปิงพยักหน้าให้ฟางหยวนก่อนจะบินไปที่ประตูเมือง

 

ผู้อมตะตระกูลนี้ไม่สามารถทําสิ่งใดนอกจากเฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆ

 

เมื่อไป่หนิงปิงเข้าสู่อาณาเขตของแสงสีฟ้า แสงสีฟ้าตอบสนองทันที

 

ฟางหยวนพยักหน้ากับตนเอง ก่อนหน้านี้เขาเกรงว่าสถานะมนุษย์มังกรของไป่หนิงบิงจะส่งผลกระทบต่อเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามมนุษย์มังกรไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์ตามธรรมชาติ นอกจากนั้นดูเหมือนประตูเมืองจะสนใจเพียงสายเลือดของไป่หนิงปิงโดยไม่คํานึงถึงสถานะมนุษย์มังกรของนาง

 

หลังจากชั่วครู่ไป่หนิงปิงก็ได้รับการยอมรับจากประตูเมืองและถูกส่งขึ้นไปอยู่บนก้อนเมฆ

 

ผู้อมตะตระกูลแสดงออกด้วยความเสียใจ

 

“ดูเหมือนไป่หนิงปิงไม่ได้เป็นทาสของฟางหยวน มิฉะนั้นประตูเมืองจะไม่ยอมรับนาง”

 

“น่าเสียดาย…”

 

“บัดซบ! ไป่หนิงปิงได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมจริงๆ!”

 

ไป่หนิงปิงเคยอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อมตะเฆ่าม่านเยี่ยนชื่อ แต่นางไม่เคยตกเป็นทาสพวกเขาเพียงสร้างความร่วมมือเท่านั้น

 

หลังจากเข้าร่วมกับฟางหยวน ไป่หนิงปิงไม่เคยเคยตกเป็นทาสของฟางหยวนเช่นกัน ดังนั้นประตูเมืองจึงยอมรับสถานะของนาง

 

ไป่หนิงปิงหันหน้ากลับไปทางฟางหยวน “การขึ้นมาบนก้อนเมฆคือการยอมรับจากประตูเมือง ผู้อมตะไม่สามารถต่อสู้กันที่นี่”

 

“อืม” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

การเคลื่อนไหวต่อไปของเขาทําให้ผู้อมตะตระกูลฉีอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

 

ฟางหยวนบินเข้าไปในอาณาเขตของแสงสีฟ้า

 

แสงสีฟ้ากะพริบอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกลับสู่เสถียรภาพ

 

แม้ฟางหยวนจะอยู่ในรูปลักษณ์ดั้งเดิมของเขา แต่เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยตลอดเวลา ครั้งนี้เขาพัฒนามันขึ้นไปอีกขั้นโดยเพิ่มวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดเข้าไปเพื่ออําพรางสายเลือดของเขา เขาเคยใช้สิ่งนี้เพื่อปลอมตัวเป็นวูอี้ไฟแทรกซึมเข้าสู่ตระกูลวูมาแล้ว

 

แต่ก่อนที่ฟางหยวนจะแสดงออกอย่างมีความสุข แสงอีกสี่สีก็ปรากฏขึ้นบนประตูเมือง

 

ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาให้ไป่หนิงปิงเข้ามาก่อนเพื่อตรวจสอบแสงสีฟ้า หลังจากเขาบินเข้ามา เขาสามารถหลอกลวงแสงสีฟ้า แต่ผู้ใดจะคิดว่าอีกสี่เซียงจะปลดปล่อยพลังออกมา

 

“บึม!”

 

ประตูเมืองสั่นสะเทือน ฟางหยวนถูกผลักออกไป

 

“ใบหน้าที่คุ้นเคยไม่สามารถหลอกลวงงั้นหรือ?” หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นเล็กน้อย

 

นักสํารวจห้าเซียง!

 

กองกําลังที่แข็งแกร่งที่เคยปกครองภาคใต้ในอดีตแสดงพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ของมันออกมา

 

กลุ่มผู้อมตะตระกูลฉีถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความปิติยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา

 

การกระทําของฟางหยวนน่าตกใจเกินไป แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นผลดีต่อพวกเขา

 

“เกือบแล้ว ฟางหยวนไม่สามารถเข้าไป!”

 

“เรายังมีความหวัง! ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจะถูกหยุดอยู่ข้างนอก เราต้องจัดการไปหนิงปิงเท่านั้น”

 

“ท่าไม้ตายอมตะไป่เซียงของนางรับมือได้ยาก แต่มรดกที่แท้จริงของฉีเซียงก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน!”

 

ฟางหยวนมอง

 

เขาประเมินมันต่ําเกินไปหรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือข้อมูลของนิกายเงา และไป่หนิงปิงไม่เพียงพอ

 

ใบหน้าที่คุ้นเคยไม่สามารถหลอกลวงมัน

 

ฟางหยวนไม่ต้องการให้ไป่หนิงปิงเข้าไปสํารวจถ้ําสวรรค์ห้าเซียงเพียงผู้เดียว

 

นางไม่น่าเชื่อถือ แม้นางจะเชื่อถือได้ แต่นางจะไม่สามารถต่อต้านตระกูล

 

แม้ฟางหยวนจะพบอุปสรรคก่อนหน้านี้ ความมุ่งมั่นของเขาที่จะเข้าไปข้างในก็ยังไม่สั่นคลอน

 

“ฉีเซียง ไป่เซียง เสวี่ยเซียง หนี่เซียง ซื่อเซียง พวกเขาคือนักสํารวจห้าเซียง ประตูบานนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพวกเขา พลังของพวกเขาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

 

ฟางหยวนมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งเลือดและเส้นทางแห่งปฐพี เขามีความมั่นใจในด้านนี้

 

ในแง่ของเส้นทางอาหาร แม้ความสําเร็จของเขาจะไม่สูง แต่ฟางหยวนมีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณและมันเป็นมรดกบนเส้นทางอาหารดั้งเดิมของโลกใบนี้ ด้วยรากฐานดังกล่าว ฟางหยวนมีข้อมูลอ้างอิงมากมาย

 

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งพลังปราณและเส้นทางแห่งน้ําแข็งของเขาค่อนข้างต่ํา แต่เส้นทางแห่งน้ําแข็งไม่ใช่ปัญหา เขามีมรดกที่แท้จริงไป่เซียงของไป่หนิงปิงซึ่งสามารถหลอกแสงสีฟ้ามาแล้ว

 

“ดังนั้นอุปสรรคเดียวของข้าก็คือพลังของฉีเซียง” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

ฟางหยวนไม่มีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งพลังปราณและไม่มีมรดกบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่เพียงพอ

 

“แต่ข้ามีแสงแห่งปัญญา

 

ฟางหยวนต้องใช้แสงแห่งปัญญาบังคับเปิดเส้นทาง!

 

ผู้อมตะตระกูลฉีลอบสนทนา

 

“เขากําลังทําสิ่งใด?”

 

“ดูเหมือนเขากําลังอนุมาน.วังสวรรค์กล่าวไว้ว่าปีศาจตนนี้มีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่ธรรมดา”

 

“ฮ่าฮ่า ไร้ประโยชน์ เขาจะอนุมานการจัดเตรียมของนักสํารวจห้าเซียงในเวลาสั้นๆได้อย่างไร?”

 

ผู้อมตะตระกูลฉีมั่นใจมาก

 

พวกเขาพยายามทําลายการจัดเตรียมของนักสํารวจห้าเซียงมานานแล้ว แต่พวกเขาไม่ประสบความสําเร็จ

 

พวกเขาล้มเหลวมาหลายครั้ง แล้วฟางหยวนจะประสบความสําเร็จได้อย่างไร?

 

“บางที่ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนอาจเหนือกว่าพวกเรา แต่เขากําลังฝันไป หากต้องการอนุมานบางสิ่งในเวลานี้ ความยากลําบากของมันไม่ต่างจากการอนุมานท่าไม้ตายอมตะที่ไม่รู้จักและพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก เขาต้องการอนุมานและคลี่คลายมัน เขาไร้เดียงสาเกินไป” ฉีฟาส่ายศีราะ

 

“บึม!”

 

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับโจมตีประตูเมืองโดยไม่คาดคิด

 

ประตูเมืองสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะตระกูลฉีเปลี่ยนไปเช่นกัน

 

“นี่ นี่”

 

“ปีศาจตนนี้โจมตีประตูเมืองจริงๆ เขาต้องการทําลายทางเข้า เขาไม่ต้องการเข้าไปงั้นหรือ?”

 

“เขาไม่สามารถอนุมานและรู้สึกโกรธงั้นหรือ?”

 

“บึม บึม บึม…”

 

ฟางหยวนโจมตีประตูเมืองอย่างดุเดือด

 

ใบหน้าของผู้อมตะตระกูลฉีเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว

 

หากประตูเมืองถูกทําลาย พวกเขาจะสูญเสียการปกป้อง หลังจากนั้นมันจะขึ้นอยู่กับฟางหยวนว่าจะฆ่าหรือจับพวกเขา

 

“หยุดเขา!” ผู้อมตะตระกูลฉีกรีดร้องอยู่ในใจ

 

ฟางหยวนหยุดโจมตีในที่สุด

 

ผู้อมตะตระกูลฉีหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างกายของพวกเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ พวกเขาไม่เคยรู้สึกกังวลใจเท่าครั้งนี้มาก่อน

 

อย่างไรก็ตามประตูเมืองยังยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคง

 

“ปีศาจไม่ประสบความสําเร็จ เยี่ยม!” ฉีจินแสดงออกอย่างมีความสุข

 

ฟางหยวนชาเลืองมองพวกเขาและเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน “โอ้ เหตุใดพวกเจ้าถึงคิดว่าข้าจะหยุดเพียงเท่านี้?”

 

หลังกล่าวจบคํา เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะทันที

 

กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนไป ขณะที่เขาบินเข้าไป แสงสีฟ้าอีกครั้งและได้รับการยอมรับอย่างง่ายดาย สุดท้ายเขาถูกส่งขึ้นไปอยู่บนก้อนเมฆด้านข้างไป่หนิงปิง

 

ผู้อมตะตระกูลฉีตกตะลึง บางคนอ้าปากค้างด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ

 

ความเชื่อบางอย่างในจิตใจของพวกเขาถูกทําลายลงโดยความสําเร็จของฟางหยวน

“นี่ ปีศาจตนนี้ประสบความสําเร็จจริงๆ!”

 

“ข้ากําลังฝันไปหรือไม่? เป็นไปได้อย่างไร?”

 

“เขาประสบความสําเร็จในระยะเวลาสั้นๆเช่นนี้ได้อย่างไร?”

 

ผู้อมตะตระกูลนี้รู้สึกสับสน

 

พลังการต่อสู้ของฟางหยวนสูงจนน่าขันแต่ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขากลับ เหนือความเข้าใจของผู้อมตะตระกูลฉีไปไกลมาก

 

สัตว์ประหลาดตัวนี้ทําให้วังสวรรค์ไม่มีทางเลือก แล้วพวกเขาจะจัดการกับตัวตนเช่นนี้ได้อย่างไร?

 

“ประตูเมือง! บรรพชน! ฟางหยวนเป็นคนนอก เขาโกง!” ฉีไค่กรีดร้องด้วยใบหน้าสีแดงก่ํา

 

แต่ประตูเมืองตอบกลับด้วยความเงียบ

 

ในไม่ช้ามันก็ระเบิดแสงห้าสีออกมา

 

ผู้อมตะตระกูลฉีเห็นสิ่งนี้และรู้สึกสิ้นหวัง

 

พวกเขารู้ว่ามันไม่ใช่การค้นพบตัวตนของฟางหยวนแต่มันกําลังจะเคลื่อนย้ายพวกเขาเข้าไปภายใน

 

การเดิมพันห้าเซียงกําลังจะเริ่มต้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+