Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1656 ถูกช่วยชีวิต

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1656 ถูกช่วยชีวิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1656 ถูกช่วยชีวิต

 

ใต้ทะเลลึกที่มืดมิด

 

วิสัยทัศน์ของฟางหยวนกลายเป็นสีเขียวเข้ม

 

“เอาล่ะ วิญญาณดวงใหม่ที่ข้าแลกมามีประโยชน์มาก ด้วยสิ่งนี้ ข้าสามารถมองเห็นในทะเลลึกได้เล็กน้อย” ฟางหยวนค่อนข้างมีความสุข

 

ทะเลลึกไร้แสง ผู้ล่าอาจถูกล่าโดยไม่รู้ตัว

 

ท่ามกลางแสงสีเขียวเข้มมีจุดสีดําอยู่บ้าง มันคือน้ํามันดิบ

 

น้ํามันดิบราวกับอสรพิษขนาดใหญ่ที่เลื้อยคลานไปทั่ว พวกมันแทบหยุดนิ่งแต่กลับส่งผลกระทบต่อภาพใหญ่

 

ฟางหยวนสูดหายใจลึก เหงือกบนใบหน้าของเขาขยับและรับอากาศเข้าไป

 

หลังจากสงบจิตใจ เขาเคลื่อนที่ต่อไปและหยุดเมื่ออยู่ห่างจากน้ํามันดิบไม่กี่เมตร 

 

ต่อมาเขากระตุ้นใช้วิญญาณแสงสีฟ้าส่องประกายขึ้นบนฝ่ามือของเขาก่อนจะดูดน้ํามันดิบเข้าไป

 

ฟางหยวนระวังตัวและตรวจสอบพื้นที่รอบๆตลอดเวลา

 

การใช้วิญญาณหลายดวงพร้อมกันทําให้เขาสูญเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อย หลังจากชั่วครู่เขาก็ถึงขีดจํากัด

 

‘ถึงเวลากลับสู่ผิวทะเลแล้ว เห้อ.พรสวรรค์ของข้าต่ําเกินไป หากข้ามีพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง ข้าจะอยู่ได้นานขึ้น’

 

ฟางหยวนถอนหายใจอยู่ภายใน เขาหยุดใช้วิญญาณและเตรียมตัวจากไป

 

แต่ก่อนที่เขาจะจากไป กระแสน้ําที่เชี่ยวกรากกลับส่งเขาลอยออกไป

 

‘โอ้ ไม่ กระแสน้ํากระแทก!’

 

หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น เขาต้องใช้วิญญาณเพื่อหลบหนี

 

กระแสน้ําสายนี้ไม่ต่างจากกระแสน้ําทั่วไป แต่เมื่อสิ่งมีชีวิตเข้ามา มันจะระเบิดแรงดัน ที่ทรงพลังออกมา

 

ฟางหยวนถูกกระแสน้ํากระแทกอย่างรุนแรง กระดูกของเขาหัก เลือดไหลออกจากจมูกและปากของเขา

 

ฟางหยวนกัดฟันและพยายามหลบหนีจากสถานการณ์เลวร้ายด้วยดวงตาแดงก่ํา

 

แต่เขาไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เขาใช้พลังวิญญาณไปมากแล้ว เขาทําได้เพียงหลบเลี่ยงโดยอาศัยโชคเท่านั้น

 

ในไม่ช้าพลังวิญญาณของเขาก็หมดลง กระแสน้ําผลักเขาเข้าไปในน้ํามันดิบ

 

“ข้าจะตายที่นั่งั้นหรือ?” ฟางหยวนไม่สามารถหลบหนี เขาทําได้เพียงมองดูน้ํามันดิบกลืนกินเขาเข้าไป

 

พลังวิญญาณของเขาหมดแล้ว โชคดีที่เหงือกถูกสร้างขึ้นจากวิญญาณบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง พวกมันสามารถคงอยู่ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

แต่นี้เป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเขาอย่างแท้จริง

 

‘นี่เป็นช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของข้า…เห้อ…ข้าต้องการรวบรวมน้ํามันดิบเพื่อสะสมความมั่งคั่งและแลกเปลี่ยนวิธีกําจัดน้ํามันดิบ แต่ตอนนี้ข้าไม่ต้องกังวลเรื่องเหล่านี้อีกต่อไป ฮ่าฮ่าฮ่า’

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขึ้นและตกอยู่ในความสิ้นหวัง

 

ในที่สุดน้ํามันดิบก็กลืนกินร่างกายทั้งหมดของเขาเข้าไป

 

‘ข้ากําลังจะตาย…’ แม้ความตายจะใกล้เข้ามาแต่หัวใจของฟางหยวนยังสงบ

 

หรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นคือเขาไม่แยแส

 

‘เช่นนั้นข้าก็จะตาย’

 

‘หลังจากมาที่โลกใบนี้ หลายปีผ่านไปข้าเร่ร่อนจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เหนื่อยเหลือเกิน…’

 

‘ผู้ใดจะหลีกหนีความตายได้’

 

‘ตอนนี้ข้าจะได้พักผ่อนแล้ว’

 

ฟางหยวนปิดเปลือกตาลง

 

เมื่อเวลาผ่านไป เขาค่อยๆฟื้นคืนสติ

 

ท่ามกลางความงุนงง เขาได้ยินเสียงพูดคุยดังขึ้นรอบตัว

 

“ท่านหญิง เหตุใดท่านถึงช่วยผู้ใช้วิญญาณมนุษย์ผู้นี้ หลายปีที่ผ่านมามนุษย์ยังรังแกพวกเราไม่พองั้นหรือ?”

 

“ถูกต้อง ท่านหญิง น้ํามันดิบที่อยู่ในบริเวณนี้เป็นของพวกเราเผ่ามนุษย์เงือก เขาเป็นหัวขโมย เขาเป็นคนไร้ยางอาย”

 

เสียงที่อ่อนโยนดังขึ้น “ตั้งแต่เราพบเขา เราจะทิ้งเขาได้อย่างไร ข้ารู้ว่าเขาเป็นมนุษย์ไม่ใช่มนุษย์เงือก แต่เขายังมีชีวิต มนุษย์รังแกพวกเรา แต่ผู้ใช้วิญญาณเข้ามาขโมยน้ํามันดิบเพียงลําพัง นี่แสดงให้เห็นว่าเขาถูกเนรเทศและอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบาก เหตุใดเราต้องใจร้ายและทอดทิ้งเขา?”

 

“ท่านหญิง ท่านใจดีเกินไป”

 

“เขาเป็นเพียงคนต่ําต้อย ไม่มีประโยชน์ที่จะช่วยเขา”

 

ฟางหยวนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

 

วิสัยทัศน์ของเขายังพร่ามัว เขาเห็นเพียงร่างที่คลุมเครือสามร่าง

 

สีขาว สีฟ้า และสีแดง

 

ร่างส่วนบนเป็นมนุษย์ แต่ส่วนล่างเป็นหางปล จากภาพอันพร่ามัว เขาสามารถบอกได้ว่าทั้งสามเป็นมนุษย์เงือก

 

มนุษย์เงือกเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ประเภทหนึ่ง พวกเขาสามารถหายใจใต้น้ําและใช้ชีวิตอยู่ในน้ํา พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งวารี ไม่ว่าชายหรือหญิง พวกเขาล้วนมีรูปลักษณ์ที่งดงาม

 

“ขอบคุณ….ขอบคุณข้าจะตอบแทนความเมตตานี้ ขอทราบชื่อของท่านได้หรือไม่?” ฟางหยวนกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง

 

เขาอ่อนแอเกินไป คํากล่าวเหล่านี้คือทั้งหมดที่เขาทําได้

 

“เราไม่ต้องการสิ่งใดจากเจ้า หากไม่ใช่เพราะท่านหญิง เราจะไม่ช่วยมนุษย์โสโครกเช่นเจ้า”

 

“เจ้าไม่จําเป็นต้องรู้ชื่อของพวกเรา แต่ท่านหญิงคือเทพธิดาเชี่ยฮันโม่ เจ้าจงจดจําไว้ตลอดไป! เจ้าโชคดีมากที่ได้รับความเมตตาจากท่านหญิง”

 

“เอาล่ะ พวกเจ้าพอได้แล้ว” ร่างสีขาวถอนหายใจ นางกล่าวกับฟางหยวนด้วยน้ําเสียงที่อ่อนโยน “ตอนนี้เจ้าอาจรู้สึกอ่อนล้า แต่ข้ารักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าแล้ว ข้าไม่สามารถรักษาการกัดกร่อนของน้ํามันดิบได้ในครั้งเดียว แต่ข้าจะมอบวิญญาณให้เจ้า ด้วยวิญญาณดวงนี้ เจ้าจะสามารถรักษาตัวเองต่อไป”

 

หลังจากนั้นร่างสีขาวก็จากไปพร้อมกับองค์รักษ์ทั้งสองของนาง

 

ฟางหยวนต้องการกล่าวบางคําแต่เขาไม่สามารถ

 

ความอ่อนล้าทําให้เขาหมดสติลงอีกครั้ง

 

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตแรกของฟางหยวน

 

สายตาของเขากลับมากระจ่างชัด เขากลับมาจากความทรงจําในที่สุด

 

ตอนนี้เขานํากลุ่มผู้ใช้วิญญาณกลับมายังหมู่บ้านบนเกาะเรียบร้อยแล้ว

 

เขาอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ในยามพลบค่ํา แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาผ่านช่องหน้าต่าง

 

นอกหน้าต่างนกนางนวลบินอยู่รอบๆชายหาด

 

มนุษย์เงือกที่ได้รับการช่วยชีวิตเป็นหญิงสาว ตอนนี้นางยังไม่ฟื้น หลังจากฟางหยวนช่วยชีวิตนาง ใบหน้าของนางก็กลับมาเป็นสีกุหลาบอีกครั้ง

 

ฟางหยวนไม่สนใจเงือกสาวผู้นี้มากนัก

 

ในความเป็นจริงนางไม่เหมือนเซียอันโม่จากความทรงจําของเขา รูปลักษณ์ของทั้งสองแตกต่างกันเป็นอย่างมาก แม้พวกนางจะมีความงามที่ไม่ด้อยกว่ากันมานักก็ตาม

 

‘ทั้งสองดูคล้ายกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น…’

 

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือสีเกล็ดของพวกนาง

 

หางปลาของมนุษย์เงือกมีสีที่แตกต่างกัน มนุษย์เงือกเกล็ดสีฟ้าและเกล็ดสีแดงพบเห็นได้ทั่วไป มนุษย์เงือกเกล็ดสีขาวและสีดําหายากมาก

 

มนุษย์เงือกเกล็ดขาวมีสถานะสูงส่ง ขณะที่มนุษย์เงือกเกล็ดดําถูกมองว่าเป็นคําสาป เงือกเกล็ดดําจะถูกสังหารทันที่ที่ถือกําเนิด

 

เชี่ยฮันโม่เป็นนางเงือกเกล็ดขาว นางเป็นตัวตนระดับสูงของเผ่ามนุษย์เงือก สําหรับเงือกสาวที่ฟางหยวนช่วยชีวิต นางเป็นมนุษย์เงือกเกล็ดฟ้าซึ่งพบเห็นได้บ่อยที่สุด

 

“ท่านชู” เป็นเพียงเวลานี้ที่หัวหน้าหมู่บ้านชราและผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนเข้ามาในห้อง

 

ฟางหยวนพยักหน้าเบาๆ

 

หลังจากรวบรวมน้ํามันดิบ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านชราหรือผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคน พวกเขาต่างมองฟางหยวนด้วยความเคารพอย่างสูงสุด

 

ด้านหนึ่งฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ที่ไม่อาจหยั่งรู้ อีกด้านหนึ่งฟางหยวนมอบผลประโยชน์มหาศาลให้กับพวกเขา วิญญาณเปลือกหอยวารีมีประโยชน์มาก พวกเขาได้รับประสบการณ์ตรงในการเดินทางครั้งนี้

 

สิ่งสําคัญที่สุดคือฟางหยวนสัญญาว่าจะหลอมรวมวิญญาณให้กับพวกเขามากขึ้น

 

“ท่านชู อาหารเตรียมพร้อมแล้ว” หัวหน้าหมู่บ้านชรายิ้ม

 

“ข้าจะดูแลนาง ท่านชูอย่ากังวล เมื่อนางตื่น ข้าจะพานางไปพบท่าน” ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนกล่าวเสริม

 

ฟางหยวนมองเงือกสาวอีกครั้งก่อนจะส่ายศีรษะ “ไม่จําเป็นต้องพานางมาพบข้า เมื่อนางอื่น ส่งนางกลับทะเล แม้ที่นี่จะเป็นอาณาเขตของมนุษย์และการกระทําของนางไม่ต่างจากการขโมย แต่ในความคิดของข้า นางคงมีชีวิตที่ยากลําบาก เพียงปล่อยนางไป”

 

“ท่านชูอย่ากังวล เราจะไม่สร้างปัญหาให้นาง”

 

“ถูกต้อง หลายปีที่ผ่านมามีมนุษย์เงือกหลายคนมาที่นี่เพื่อขโมยน้ํามันดิบ เราไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ พวกเราไม่สามารถสกัดน้ํามันดิบทั้งหมดออกมา มันไม่เป็นไรหากเราจะแบ่งปันพวกเขา” หัวหน้าหมู่บ้านชราหัวเราะ

 

ฟางหยวนพยักหน้า

 

เขาได้รับข้อมูลทุกอย่างที่เขาต้องการจากหัวหน้าหมู่บ้านผ่านการค้นวิญญาณมาแล้ว

 

มีบางอย่างที่น่าสนใจ

 

โลกภายนอกเผ่ามนุษย์เงือกมีสถานะต่ํากว่ามนุษย์ ทั้งสองเผ่าพันธุ์มีความขัดแย้งและมักต่อสู้กัน แต่ที่นี่มนุษย์เงือกและมนุษย์มีความสัมพันธ์ที่ดี พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบ มีกระทั้งกรณีที่สองเผ่าพันธุ์แต่งงานกัน

 

‘ดูเหมือนถ้ําสวรรค์แห่งนี้จะเป็นสวรรค์สําหรับมนุษย์และมนุษย์เงือกอย่างแท้จริง’

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1656 ถูกช่วยชีวิต

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1656 ถูกช่วยชีวิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1656 ถูกช่วยชีวิต

 

ใต้ทะเลลึกที่มืดมิด

 

วิสัยทัศน์ของฟางหยวนกลายเป็นสีเขียวเข้ม

 

“เอาล่ะ วิญญาณดวงใหม่ที่ข้าแลกมามีประโยชน์มาก ด้วยสิ่งนี้ ข้าสามารถมองเห็นในทะเลลึกได้เล็กน้อย” ฟางหยวนค่อนข้างมีความสุข

 

ทะเลลึกไร้แสง ผู้ล่าอาจถูกล่าโดยไม่รู้ตัว

 

ท่ามกลางแสงสีเขียวเข้มมีจุดสีดําอยู่บ้าง มันคือน้ํามันดิบ

 

น้ํามันดิบราวกับอสรพิษขนาดใหญ่ที่เลื้อยคลานไปทั่ว พวกมันแทบหยุดนิ่งแต่กลับส่งผลกระทบต่อภาพใหญ่

 

ฟางหยวนสูดหายใจลึก เหงือกบนใบหน้าของเขาขยับและรับอากาศเข้าไป

 

หลังจากสงบจิตใจ เขาเคลื่อนที่ต่อไปและหยุดเมื่ออยู่ห่างจากน้ํามันดิบไม่กี่เมตร 

 

ต่อมาเขากระตุ้นใช้วิญญาณแสงสีฟ้าส่องประกายขึ้นบนฝ่ามือของเขาก่อนจะดูดน้ํามันดิบเข้าไป

 

ฟางหยวนระวังตัวและตรวจสอบพื้นที่รอบๆตลอดเวลา

 

การใช้วิญญาณหลายดวงพร้อมกันทําให้เขาสูญเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อย หลังจากชั่วครู่เขาก็ถึงขีดจํากัด

 

‘ถึงเวลากลับสู่ผิวทะเลแล้ว เห้อ.พรสวรรค์ของข้าต่ําเกินไป หากข้ามีพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง ข้าจะอยู่ได้นานขึ้น’

 

ฟางหยวนถอนหายใจอยู่ภายใน เขาหยุดใช้วิญญาณและเตรียมตัวจากไป

 

แต่ก่อนที่เขาจะจากไป กระแสน้ําที่เชี่ยวกรากกลับส่งเขาลอยออกไป

 

‘โอ้ ไม่ กระแสน้ํากระแทก!’

 

หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น เขาต้องใช้วิญญาณเพื่อหลบหนี

 

กระแสน้ําสายนี้ไม่ต่างจากกระแสน้ําทั่วไป แต่เมื่อสิ่งมีชีวิตเข้ามา มันจะระเบิดแรงดัน ที่ทรงพลังออกมา

 

ฟางหยวนถูกกระแสน้ํากระแทกอย่างรุนแรง กระดูกของเขาหัก เลือดไหลออกจากจมูกและปากของเขา

 

ฟางหยวนกัดฟันและพยายามหลบหนีจากสถานการณ์เลวร้ายด้วยดวงตาแดงก่ํา

 

แต่เขาไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เขาใช้พลังวิญญาณไปมากแล้ว เขาทําได้เพียงหลบเลี่ยงโดยอาศัยโชคเท่านั้น

 

ในไม่ช้าพลังวิญญาณของเขาก็หมดลง กระแสน้ําผลักเขาเข้าไปในน้ํามันดิบ

 

“ข้าจะตายที่นั่งั้นหรือ?” ฟางหยวนไม่สามารถหลบหนี เขาทําได้เพียงมองดูน้ํามันดิบกลืนกินเขาเข้าไป

 

พลังวิญญาณของเขาหมดแล้ว โชคดีที่เหงือกถูกสร้างขึ้นจากวิญญาณบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง พวกมันสามารถคงอยู่ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

แต่นี้เป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเขาอย่างแท้จริง

 

‘นี่เป็นช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของข้า…เห้อ…ข้าต้องการรวบรวมน้ํามันดิบเพื่อสะสมความมั่งคั่งและแลกเปลี่ยนวิธีกําจัดน้ํามันดิบ แต่ตอนนี้ข้าไม่ต้องกังวลเรื่องเหล่านี้อีกต่อไป ฮ่าฮ่าฮ่า’

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขึ้นและตกอยู่ในความสิ้นหวัง

 

ในที่สุดน้ํามันดิบก็กลืนกินร่างกายทั้งหมดของเขาเข้าไป

 

‘ข้ากําลังจะตาย…’ แม้ความตายจะใกล้เข้ามาแต่หัวใจของฟางหยวนยังสงบ

 

หรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นคือเขาไม่แยแส

 

‘เช่นนั้นข้าก็จะตาย’

 

‘หลังจากมาที่โลกใบนี้ หลายปีผ่านไปข้าเร่ร่อนจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เหนื่อยเหลือเกิน…’

 

‘ผู้ใดจะหลีกหนีความตายได้’

 

‘ตอนนี้ข้าจะได้พักผ่อนแล้ว’

 

ฟางหยวนปิดเปลือกตาลง

 

เมื่อเวลาผ่านไป เขาค่อยๆฟื้นคืนสติ

 

ท่ามกลางความงุนงง เขาได้ยินเสียงพูดคุยดังขึ้นรอบตัว

 

“ท่านหญิง เหตุใดท่านถึงช่วยผู้ใช้วิญญาณมนุษย์ผู้นี้ หลายปีที่ผ่านมามนุษย์ยังรังแกพวกเราไม่พองั้นหรือ?”

 

“ถูกต้อง ท่านหญิง น้ํามันดิบที่อยู่ในบริเวณนี้เป็นของพวกเราเผ่ามนุษย์เงือก เขาเป็นหัวขโมย เขาเป็นคนไร้ยางอาย”

 

เสียงที่อ่อนโยนดังขึ้น “ตั้งแต่เราพบเขา เราจะทิ้งเขาได้อย่างไร ข้ารู้ว่าเขาเป็นมนุษย์ไม่ใช่มนุษย์เงือก แต่เขายังมีชีวิต มนุษย์รังแกพวกเรา แต่ผู้ใช้วิญญาณเข้ามาขโมยน้ํามันดิบเพียงลําพัง นี่แสดงให้เห็นว่าเขาถูกเนรเทศและอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบาก เหตุใดเราต้องใจร้ายและทอดทิ้งเขา?”

 

“ท่านหญิง ท่านใจดีเกินไป”

 

“เขาเป็นเพียงคนต่ําต้อย ไม่มีประโยชน์ที่จะช่วยเขา”

 

ฟางหยวนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

 

วิสัยทัศน์ของเขายังพร่ามัว เขาเห็นเพียงร่างที่คลุมเครือสามร่าง

 

สีขาว สีฟ้า และสีแดง

 

ร่างส่วนบนเป็นมนุษย์ แต่ส่วนล่างเป็นหางปล จากภาพอันพร่ามัว เขาสามารถบอกได้ว่าทั้งสามเป็นมนุษย์เงือก

 

มนุษย์เงือกเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ประเภทหนึ่ง พวกเขาสามารถหายใจใต้น้ําและใช้ชีวิตอยู่ในน้ํา พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งวารี ไม่ว่าชายหรือหญิง พวกเขาล้วนมีรูปลักษณ์ที่งดงาม

 

“ขอบคุณ….ขอบคุณข้าจะตอบแทนความเมตตานี้ ขอทราบชื่อของท่านได้หรือไม่?” ฟางหยวนกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง

 

เขาอ่อนแอเกินไป คํากล่าวเหล่านี้คือทั้งหมดที่เขาทําได้

 

“เราไม่ต้องการสิ่งใดจากเจ้า หากไม่ใช่เพราะท่านหญิง เราจะไม่ช่วยมนุษย์โสโครกเช่นเจ้า”

 

“เจ้าไม่จําเป็นต้องรู้ชื่อของพวกเรา แต่ท่านหญิงคือเทพธิดาเชี่ยฮันโม่ เจ้าจงจดจําไว้ตลอดไป! เจ้าโชคดีมากที่ได้รับความเมตตาจากท่านหญิง”

 

“เอาล่ะ พวกเจ้าพอได้แล้ว” ร่างสีขาวถอนหายใจ นางกล่าวกับฟางหยวนด้วยน้ําเสียงที่อ่อนโยน “ตอนนี้เจ้าอาจรู้สึกอ่อนล้า แต่ข้ารักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าแล้ว ข้าไม่สามารถรักษาการกัดกร่อนของน้ํามันดิบได้ในครั้งเดียว แต่ข้าจะมอบวิญญาณให้เจ้า ด้วยวิญญาณดวงนี้ เจ้าจะสามารถรักษาตัวเองต่อไป”

 

หลังจากนั้นร่างสีขาวก็จากไปพร้อมกับองค์รักษ์ทั้งสองของนาง

 

ฟางหยวนต้องการกล่าวบางคําแต่เขาไม่สามารถ

 

ความอ่อนล้าทําให้เขาหมดสติลงอีกครั้ง

 

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตแรกของฟางหยวน

 

สายตาของเขากลับมากระจ่างชัด เขากลับมาจากความทรงจําในที่สุด

 

ตอนนี้เขานํากลุ่มผู้ใช้วิญญาณกลับมายังหมู่บ้านบนเกาะเรียบร้อยแล้ว

 

เขาอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ในยามพลบค่ํา แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาผ่านช่องหน้าต่าง

 

นอกหน้าต่างนกนางนวลบินอยู่รอบๆชายหาด

 

มนุษย์เงือกที่ได้รับการช่วยชีวิตเป็นหญิงสาว ตอนนี้นางยังไม่ฟื้น หลังจากฟางหยวนช่วยชีวิตนาง ใบหน้าของนางก็กลับมาเป็นสีกุหลาบอีกครั้ง

 

ฟางหยวนไม่สนใจเงือกสาวผู้นี้มากนัก

 

ในความเป็นจริงนางไม่เหมือนเซียอันโม่จากความทรงจําของเขา รูปลักษณ์ของทั้งสองแตกต่างกันเป็นอย่างมาก แม้พวกนางจะมีความงามที่ไม่ด้อยกว่ากันมานักก็ตาม

 

‘ทั้งสองดูคล้ายกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น…’

 

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือสีเกล็ดของพวกนาง

 

หางปลาของมนุษย์เงือกมีสีที่แตกต่างกัน มนุษย์เงือกเกล็ดสีฟ้าและเกล็ดสีแดงพบเห็นได้ทั่วไป มนุษย์เงือกเกล็ดสีขาวและสีดําหายากมาก

 

มนุษย์เงือกเกล็ดขาวมีสถานะสูงส่ง ขณะที่มนุษย์เงือกเกล็ดดําถูกมองว่าเป็นคําสาป เงือกเกล็ดดําจะถูกสังหารทันที่ที่ถือกําเนิด

 

เชี่ยฮันโม่เป็นนางเงือกเกล็ดขาว นางเป็นตัวตนระดับสูงของเผ่ามนุษย์เงือก สําหรับเงือกสาวที่ฟางหยวนช่วยชีวิต นางเป็นมนุษย์เงือกเกล็ดฟ้าซึ่งพบเห็นได้บ่อยที่สุด

 

“ท่านชู” เป็นเพียงเวลานี้ที่หัวหน้าหมู่บ้านชราและผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนเข้ามาในห้อง

 

ฟางหยวนพยักหน้าเบาๆ

 

หลังจากรวบรวมน้ํามันดิบ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านชราหรือผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคน พวกเขาต่างมองฟางหยวนด้วยความเคารพอย่างสูงสุด

 

ด้านหนึ่งฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ที่ไม่อาจหยั่งรู้ อีกด้านหนึ่งฟางหยวนมอบผลประโยชน์มหาศาลให้กับพวกเขา วิญญาณเปลือกหอยวารีมีประโยชน์มาก พวกเขาได้รับประสบการณ์ตรงในการเดินทางครั้งนี้

 

สิ่งสําคัญที่สุดคือฟางหยวนสัญญาว่าจะหลอมรวมวิญญาณให้กับพวกเขามากขึ้น

 

“ท่านชู อาหารเตรียมพร้อมแล้ว” หัวหน้าหมู่บ้านชรายิ้ม

 

“ข้าจะดูแลนาง ท่านชูอย่ากังวล เมื่อนางตื่น ข้าจะพานางไปพบท่าน” ผู้ใช้วิญญาณวัยกลางคนกล่าวเสริม

 

ฟางหยวนมองเงือกสาวอีกครั้งก่อนจะส่ายศีรษะ “ไม่จําเป็นต้องพานางมาพบข้า เมื่อนางอื่น ส่งนางกลับทะเล แม้ที่นี่จะเป็นอาณาเขตของมนุษย์และการกระทําของนางไม่ต่างจากการขโมย แต่ในความคิดของข้า นางคงมีชีวิตที่ยากลําบาก เพียงปล่อยนางไป”

 

“ท่านชูอย่ากังวล เราจะไม่สร้างปัญหาให้นาง”

 

“ถูกต้อง หลายปีที่ผ่านมามีมนุษย์เงือกหลายคนมาที่นี่เพื่อขโมยน้ํามันดิบ เราไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ พวกเราไม่สามารถสกัดน้ํามันดิบทั้งหมดออกมา มันไม่เป็นไรหากเราจะแบ่งปันพวกเขา” หัวหน้าหมู่บ้านชราหัวเราะ

 

ฟางหยวนพยักหน้า

 

เขาได้รับข้อมูลทุกอย่างที่เขาต้องการจากหัวหน้าหมู่บ้านผ่านการค้นวิญญาณมาแล้ว

 

มีบางอย่างที่น่าสนใจ

 

โลกภายนอกเผ่ามนุษย์เงือกมีสถานะต่ํากว่ามนุษย์ ทั้งสองเผ่าพันธุ์มีความขัดแย้งและมักต่อสู้กัน แต่ที่นี่มนุษย์เงือกและมนุษย์มีความสัมพันธ์ที่ดี พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบ มีกระทั้งกรณีที่สองเผ่าพันธุ์แต่งงานกัน

 

‘ดูเหมือนถ้ําสวรรค์แห่งนี้จะเป็นสวรรค์สําหรับมนุษย์และมนุษย์เงือกอย่างแท้จริง’

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+