Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1668 ไร้เดียงสาเกินไป

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1668 ไร้เดียงสาเกินไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1668 ไร้เดียงสาเกินไป

 

เมื่อเพลงจบลง ทุกคนเริ่มพูดคุย

 

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยได้ยินเพลงเช่นนี้ ช่างอัศจรรย์นัก!”

 

“เจ้าสังเกตหรือไม่ เพลงนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ดูเหมือนเซี่ยฮันโม่จะไม่ชํานาญมากนัก การร้องเพลงของนางมีจุดผิดพลาดเล็กๆน้อยๆมากมาย” มนุษย์เงือกบางคนกล่าว

 

เหตุผลที่แท้จริงก็คือฟางหยวนและเซี่ยฮันโม่ไม่เคยฝึกซ้อมเพลงนี้มาก่อน หากพวกเขาสามารถฝึกแม้เพียงครั้งเดียว พวกเขาจะไม่ทําให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ

 

“ตอนนี้ทะเลสงบ สภาพอากาศเปลี่ยน เมฆดํากระจัดกระจาย แสงจันทร์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง โดยไม่คํานึงถึงข้อผิดพลาดของเซี่ยฮันโม่ แต่ผลลัพธ์ชัดเจนมาก!”

 

“อาจเสมอ แต่แท้จริงแล้วเซี่ยฮันโม่เหนือกว่าเล็กน้อย”

 

“ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับสองเพลงถัดไป”

 

ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น

 

ผู้อาวุโสสูงสุดสังเกตเห็นหลายสิ่ง นางสูดหายใจและรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ในคฤหาสน์วิญญาณ หัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็งกรีดร้อง

 

“ดูเหมือนแผนการของเจ้าจะสําเร็จแต่เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น” ซูเหลียนหรี่ตามองฟางหยวน นางถอนหายใจกล่าว “ชายผู้นี้ไม่ธรรมดา ไม่แปลกใจเลยที่เซี่ยฮันโม่ให้ความสําคัญกับเขา ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบทเพลง เพลงนี้ควรจะเป็นผลงานของเขา มนุษย์ผู้นี้มีพรสวรรค์สูงมาก”

 

หัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็งสงสัย “มีเพลงมากมายบนโลกใบนี้ เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่านี่เป็นผลงานของเขา”

 

ปู้ซูเหลียนเผยรอยยิ้มบาง นางมองหัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็งด้วยสายตาดูแคลน “เจ้าไม่มีวันเข้าใจ”

 

ใบหน้าของหัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็งกลายเป็นน่าเกลียดมากขึ้น “ซูเหลียน!”

 

ปู้ซูเหลียนหัวเราะเสียงเย็นโดยไม่สนใจหัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็ง ตรงข้าม นางมองฟางหยวนด้วยดวงตาส่องประกาย

 

คนอื่นอาจกลัวอํานาจทางการเมืองของผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งแต่ปู้ซูเหลียนเป็นข้องยกเว้น

 

ไม่เพียงเพราะนางเป็นภรรยาขอ

 

แต่ยังเป็นเพราะความสามารถและแผนการของนาง

 

แต่ปู้ซูเหลียนเดาผิด ฟางหยวนไม่ใช่ผู้ประพันธ์เพลงนี้ มันเป็นเพลงที่มาจากโลกมนุษย์ใบเดิมของเขา!

 

“เพลงนี้มีเอกลักษณ์และไม่มีผู้ใดเคยได้ยินมาก่อน มันต้องเป็นการสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเจ้า ผู้ใดจะคิดว่าเจ้ามีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งเสียงสูงถึงเพียงนี้” เซี่ยฮันโม่ชื่นชมฟางหยวน

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น “ขอบคุณสําหรับคําชมแต่ข้าไม่มีความสําเร็จมากมายบนเส้นทางแห่งเสียง”

 

“ไม่จําเป็นต้องถ่อมตัว ความสามารถในการสร้างสรรค์บทเพลงดังกล่าว มันหมายความว่าพรสวรรค์บนเส้นทางแห่งเสียงของเจ้าไม่ธรรมดา เจ้าอาจมีอนาคตที่ดีหากเจ้าเปลี่ยนไปบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเสียง” เซี่ยฮันโม่กล่าวด้วยความจริงใจและใบหน้าที่สดใส

 

ฟางหยวนไม่อธิบาย เขาไม่สามารถอธิบายและมันก็ไม่สําคัญ

 

สิ่งสําคัญตอนนี้คือสองเพลงถัดไป..” ฟางหยวนรู้สึกกังวล

 

เซี่ยฮันโม่และฟางหยวนเดินลงจากเวทีขณะที่ตงเลยเดินขึ้นไป

 

นางยังสงบนิ่งและไม่หวั่นไหว

 

เมื่อนางเริ่มร้องเพลง เสียงของนางดึงดูดฝูงปลามากมายเข้ามา

 

“ดังคาด” ฟางหยวนเย้ยหยัน

 

สายตาของเซี่ยฮันโม่กลายเป็นเย็นชา

 

องค์รักษ์ทั้งสองมองหน้ากับด้วยใบหน้าแดงก่ำ “นางผู้นี้ขโมยเพลงของเราอีกครั้ง!”

 

“อย่ากังวล ข้าเตรียมเพลงไว้แล้ว” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มมั่นใจ

 

หลังจากตงเลยลงจากเวที ฟางหยวนกับเซี่ยฮันโม่ก็ขึ้นไป

 

ฟางหยวนบรรเลงดนตรีขณะที่เซี่ยฮันโม่ร้องเพลงและเต้นรํา

 

เมื่อดวงจันทร์ส่องสว่าง เงยหน้าขึ้นถามท้องฟ้า

 

งดงามราวกับวังสวรรค์ ปีไหลผ่านในเสี้ยวพริบตา

 

เมื่อนางเริ่มขับร้อง บรรยากาศก็เปลี่ยนแปลงไป ทุกคนปิดเปลือกตาลงและเพลิดเพลินไปกับบทเพลงอันไพเราะ

 

ข้าปรารถนาที่จะกลับไป หอคอยหยกช่างเหน็บหนาว

 

เต้นรํากับเงาของตนเองไม่อาจเทียบกับชีวิตเสรี

 

ดวงจันทร์ลอยอยู่บนท้องฟ้า ใจข้าไม่เคยหลับใหล

 

เซี่ยฮันโม่คิดถึงช่วงเวลาที่นางเป็นเทพธิดาเลือก แม้นางจะมีอํานาจ แต่นางกลับรู้สึกโดดเดี่ยว นางร้องเพลงด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เอ่อล้น

 

ข้าไม่ควรโกรธแค้น แต่จันทร์มักเต็มดวงเสมอเมื่อแยกจาก

 

ผู้คนรู้สึกโศกเศร้าและปิติเมื่อพลัดพรากและพบพาน

 

ดวงจันทร์อาจมืดหรือสว่าง อาจเต็มดวงหรือเพียงจันทร์เสี้ยว

 

แม้ห่างไกลแต่ยังเห็นจันทร์ดวงเดียวกัน

 

เมื่อเพลงจบลง โลกกลายเป็นเงียบสงัด

กุ้ง หอย ปู ปลา เต่า สัตว์น้ำจํานวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่บนผิวทะเล

 

นกโบยบินอยู่บนท้องฟ้า นกที่หลับใหลยังตื่นขึ้นและถูกดึงดูดเข้ามาด้วยบทเพลงอันไพเราะ

 

เนื้อร้องที่งดงามและท่วงทํานองอันไพเราะเกาะกุมหัวใจของทุกคน

 

เซี่ยฮันโม่มองฟางหยวนและคิด นี่เป็นเพลงที่เขาแต่งเพื่อข้างั้นหรือ?”

 

นางสัมผัสได้ถึงเสียงสะท้อนในบทเพลง นางรู้สึกราวกับได้รับการปลอบโยน ตอนนี้ความโศกเศร้าในใจของนางจางหายไป ข่าวลือและเรื่องรบกวนจิตใจไม่ส่งผลกระทบต่อนางอีกต่อไป

 

“เขารู้จักข้าเป็นอย่างดี” เซี่ยฮันโม่เกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบาย นางประทับใจมากจริงๆ

 

ผลลัพธ์ชัดเจน ฟางหยวนและเซี่ยฮันโม่ชนะอีกครั้ง

 

ใบหน้าของตงเลยกลายเป็นซีดเผือด นางตระหนักว่าหากไม่ใช่เพราะข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของเซี่ยฮันโม่และฟางหยวน นางจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะขึ้นเวทีร้องเพลงที่สาม

 

“คนผู้นี้เป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่!” หัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็งกัดฟันแน่นและยกกําปั้นขึ้นทุบกําแพงคฤหาสน์วิญญาณ

 

“ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจแล้วงั้นหรือ?” ซูเหลียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

 

ผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งกันเสียงเย็นแต่ไม่ตอบโต้

 

เขาต้องแก้ปัญหานี้ มิฉะนั้นเซี่ยฮันโม่จะได้รับชัยชนะในที่สุด

 

“ฟางหยวนงั้นหรือ? ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะเป็นตัวปัญหา!”

 

“ข้าต้องกําจัดเขา!”

 

ผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งตั้งใจแน่วแน่ แต่ภายใต้สายตาของทุกคนในพิธีบูชาเทพสมุทร เขาไม่สามารถทําสิ่งใด

 

“ข้าควรทําอย่างไร?” ผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งครุ่นคิด หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

 

หลังจากไตร่ตรอง เขาลงมือในที่สุด

 

“ฟางหยวน ข้าคือผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็ง!” เขาถ่ายทอดเสียงไปหาฟางหยวนโดยตรง นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

 

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่เขาไม่ตอบ

 

ผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งหัวเราะเบาๆ “เพียงฟังข้า ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนฉลาด แต่เจ้าไร้เดียงสาเกินไป”

 

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็นและตอบกลับ “ข้าไม่ได้ไร้เดียงสา นี่คืออุดมการณ์ของข้า แต่เจ้าคงไม่เข้าใจ”

 

ผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งกล่าวต่อ “นั่นเป็นเหตุผลที่ข้ากล่าวว่าเจ้าไร้เดียงสา พวกเจ้าเพียงเห่าหอนอยู่ต่อหน้ากองไฟ เจ้าเป็นเพียงตัวหมากเบี้ย มันไม่ต่างจากธงที่ปลิวไปตามสายลมและไร้ที่ยึดเหนี่ยว”

 

“ผู้อาวุโสสูงสุดงั้นหรือ? ลองถามคนอื่นๆว่านางเป็นคนเช่นไร นางมีอํานาจที่จะกําหราบฝ่ายของข้าแต่นางเลือกที่จะใช้พวกเจ้าเป็นแนวหน้า เมื่อเซี่ยฮันโม่สอบสวนคดีทุจริต ผู้อาวุโสสูงสุดช่วยพวกเจ้าหรือไม่? นางอาจให้เบาะแสบางอย่าง แต่เชื่อข้า นางไม่ได้พยายามทําสิ่งใดเลย”

 

“แม้พวกเจ้าจะได้รับชัยชนะและสามารถรักษาตําแหน่งเทพธิดาเงือก แล้วอย่างไร? เจ้าคิดว่าข้าจะตายงั้นหรือ? ไม่! เผ่าคลื่นน้ำแข็งเป็นฝ่ายที่มีอํานาจมากที่สุดในวังเงือกศักดิ์สิทธิ์ หากข้าตาย วังเงือกศักดิ์สิทธิ์จะตกสู่ความโกลาหลและแตกแยก ผู้อาวุโสสูงสุดไม่มีความกล้าพอที่จะให้สิ่งนี้เกิดขึ้น นางต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่และป้องกันไม่ให้ข้าทําตัวนอกคอก”

 

“ไม่ว่าเจ้าจะทําสิ่งใด ข้าก็ยังจะมีชีวิตอยู่ในฐานะผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็ง ในกรณีเลวร้ายที่สุดข้าจะเสียสละแพะรับบาปสองสามตัวและหยุดเคลื่อนไหวชั่วคราว”

 

“ในพิธีบูชาเทพสมุทร ผู้เข้าแข่งขันเกือบทุกคนได้รับการสนับสนุนจากกองกําลังที่อยู่เบื้องหลัง เจ้าคิดว่านี่เป็นการแข่งขันที่ยุติธรรมงั้นหรือ? ไม่! นี่คือเกมส์ที่ใช้แบ่งปันทรัพยากรของตัวตนระดับสูง

 

“ฟางหยวน เจ้าอาจโกรธที่เราใช้กลอุบายในความมืด แต่เจ้าต้องเข้าในว่าในทะเลแห่งนี้ความมืดคือผู้ปกครองที่แท้จริง แสงสว่างสามารถส่องผ่านผิวน้ำเท่านั้น คนทั่วไปอาจเพลิดเพลินหรือหลงระเริงไปกับความงามของมันโดยคิดว่าแสงสว่างคือความจริงแท้ของท้องทะเล แต่นั่นเป็นความคิดที่ไร้เดียงสาเกินไป”

 

ฟางหยวนเงียบ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1668 ไร้เดียงสาเกินไป

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1668 ไร้เดียงสาเกินไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1668 ไร้เดียงสาเกินไป

 

เมื่อเพลงจบลง ทุกคนเริ่มพูดคุย

 

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยได้ยินเพลงเช่นนี้ ช่างอัศจรรย์นัก!”

 

“เจ้าสังเกตหรือไม่ เพลงนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ดูเหมือนเซี่ยฮันโม่จะไม่ชํานาญมากนัก การร้องเพลงของนางมีจุดผิดพลาดเล็กๆน้อยๆมากมาย” มนุษย์เงือกบางคนกล่าว

 

เหตุผลที่แท้จริงก็คือฟางหยวนและเซี่ยฮันโม่ไม่เคยฝึกซ้อมเพลงนี้มาก่อน หากพวกเขาสามารถฝึกแม้เพียงครั้งเดียว พวกเขาจะไม่ทําให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ

 

“ตอนนี้ทะเลสงบ สภาพอากาศเปลี่ยน เมฆดํากระจัดกระจาย แสงจันทร์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง โดยไม่คํานึงถึงข้อผิดพลาดของเซี่ยฮันโม่ แต่ผลลัพธ์ชัดเจนมาก!”

 

“อาจเสมอ แต่แท้จริงแล้วเซี่ยฮันโม่เหนือกว่าเล็กน้อย”

 

“ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับสองเพลงถัดไป”

 

ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น

 

ผู้อาวุโสสูงสุดสังเกตเห็นหลายสิ่ง นางสูดหายใจและรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ในคฤหาสน์วิญญาณ หัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็งกรีดร้อง

 

“ดูเหมือนแผนการของเจ้าจะสําเร็จแต่เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น” ซูเหลียนหรี่ตามองฟางหยวน นางถอนหายใจกล่าว “ชายผู้นี้ไม่ธรรมดา ไม่แปลกใจเลยที่เซี่ยฮันโม่ให้ความสําคัญกับเขา ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบทเพลง เพลงนี้ควรจะเป็นผลงานของเขา มนุษย์ผู้นี้มีพรสวรรค์สูงมาก”

 

หัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็งสงสัย “มีเพลงมากมายบนโลกใบนี้ เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่านี่เป็นผลงานของเขา”

 

ปู้ซูเหลียนเผยรอยยิ้มบาง นางมองหัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็งด้วยสายตาดูแคลน “เจ้าไม่มีวันเข้าใจ”

 

ใบหน้าของหัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็งกลายเป็นน่าเกลียดมากขึ้น “ซูเหลียน!”

 

ปู้ซูเหลียนหัวเราะเสียงเย็นโดยไม่สนใจหัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็ง ตรงข้าม นางมองฟางหยวนด้วยดวงตาส่องประกาย

 

คนอื่นอาจกลัวอํานาจทางการเมืองของผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งแต่ปู้ซูเหลียนเป็นข้องยกเว้น

 

ไม่เพียงเพราะนางเป็นภรรยาขอ

 

แต่ยังเป็นเพราะความสามารถและแผนการของนาง

 

แต่ปู้ซูเหลียนเดาผิด ฟางหยวนไม่ใช่ผู้ประพันธ์เพลงนี้ มันเป็นเพลงที่มาจากโลกมนุษย์ใบเดิมของเขา!

 

“เพลงนี้มีเอกลักษณ์และไม่มีผู้ใดเคยได้ยินมาก่อน มันต้องเป็นการสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเจ้า ผู้ใดจะคิดว่าเจ้ามีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งเสียงสูงถึงเพียงนี้” เซี่ยฮันโม่ชื่นชมฟางหยวน

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น “ขอบคุณสําหรับคําชมแต่ข้าไม่มีความสําเร็จมากมายบนเส้นทางแห่งเสียง”

 

“ไม่จําเป็นต้องถ่อมตัว ความสามารถในการสร้างสรรค์บทเพลงดังกล่าว มันหมายความว่าพรสวรรค์บนเส้นทางแห่งเสียงของเจ้าไม่ธรรมดา เจ้าอาจมีอนาคตที่ดีหากเจ้าเปลี่ยนไปบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเสียง” เซี่ยฮันโม่กล่าวด้วยความจริงใจและใบหน้าที่สดใส

 

ฟางหยวนไม่อธิบาย เขาไม่สามารถอธิบายและมันก็ไม่สําคัญ

 

สิ่งสําคัญตอนนี้คือสองเพลงถัดไป..” ฟางหยวนรู้สึกกังวล

 

เซี่ยฮันโม่และฟางหยวนเดินลงจากเวทีขณะที่ตงเลยเดินขึ้นไป

 

นางยังสงบนิ่งและไม่หวั่นไหว

 

เมื่อนางเริ่มร้องเพลง เสียงของนางดึงดูดฝูงปลามากมายเข้ามา

 

“ดังคาด” ฟางหยวนเย้ยหยัน

 

สายตาของเซี่ยฮันโม่กลายเป็นเย็นชา

 

องค์รักษ์ทั้งสองมองหน้ากับด้วยใบหน้าแดงก่ำ “นางผู้นี้ขโมยเพลงของเราอีกครั้ง!”

 

“อย่ากังวล ข้าเตรียมเพลงไว้แล้ว” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มมั่นใจ

 

หลังจากตงเลยลงจากเวที ฟางหยวนกับเซี่ยฮันโม่ก็ขึ้นไป

 

ฟางหยวนบรรเลงดนตรีขณะที่เซี่ยฮันโม่ร้องเพลงและเต้นรํา

 

เมื่อดวงจันทร์ส่องสว่าง เงยหน้าขึ้นถามท้องฟ้า

 

งดงามราวกับวังสวรรค์ ปีไหลผ่านในเสี้ยวพริบตา

 

เมื่อนางเริ่มขับร้อง บรรยากาศก็เปลี่ยนแปลงไป ทุกคนปิดเปลือกตาลงและเพลิดเพลินไปกับบทเพลงอันไพเราะ

 

ข้าปรารถนาที่จะกลับไป หอคอยหยกช่างเหน็บหนาว

 

เต้นรํากับเงาของตนเองไม่อาจเทียบกับชีวิตเสรี

 

ดวงจันทร์ลอยอยู่บนท้องฟ้า ใจข้าไม่เคยหลับใหล

 

เซี่ยฮันโม่คิดถึงช่วงเวลาที่นางเป็นเทพธิดาเลือก แม้นางจะมีอํานาจ แต่นางกลับรู้สึกโดดเดี่ยว นางร้องเพลงด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เอ่อล้น

 

ข้าไม่ควรโกรธแค้น แต่จันทร์มักเต็มดวงเสมอเมื่อแยกจาก

 

ผู้คนรู้สึกโศกเศร้าและปิติเมื่อพลัดพรากและพบพาน

 

ดวงจันทร์อาจมืดหรือสว่าง อาจเต็มดวงหรือเพียงจันทร์เสี้ยว

 

แม้ห่างไกลแต่ยังเห็นจันทร์ดวงเดียวกัน

 

เมื่อเพลงจบลง โลกกลายเป็นเงียบสงัด

กุ้ง หอย ปู ปลา เต่า สัตว์น้ำจํานวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่บนผิวทะเล

 

นกโบยบินอยู่บนท้องฟ้า นกที่หลับใหลยังตื่นขึ้นและถูกดึงดูดเข้ามาด้วยบทเพลงอันไพเราะ

 

เนื้อร้องที่งดงามและท่วงทํานองอันไพเราะเกาะกุมหัวใจของทุกคน

 

เซี่ยฮันโม่มองฟางหยวนและคิด นี่เป็นเพลงที่เขาแต่งเพื่อข้างั้นหรือ?”

 

นางสัมผัสได้ถึงเสียงสะท้อนในบทเพลง นางรู้สึกราวกับได้รับการปลอบโยน ตอนนี้ความโศกเศร้าในใจของนางจางหายไป ข่าวลือและเรื่องรบกวนจิตใจไม่ส่งผลกระทบต่อนางอีกต่อไป

 

“เขารู้จักข้าเป็นอย่างดี” เซี่ยฮันโม่เกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบาย นางประทับใจมากจริงๆ

 

ผลลัพธ์ชัดเจน ฟางหยวนและเซี่ยฮันโม่ชนะอีกครั้ง

 

ใบหน้าของตงเลยกลายเป็นซีดเผือด นางตระหนักว่าหากไม่ใช่เพราะข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของเซี่ยฮันโม่และฟางหยวน นางจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะขึ้นเวทีร้องเพลงที่สาม

 

“คนผู้นี้เป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่!” หัวหน้าเผ่าคลื่นน้ำแข็งกัดฟันแน่นและยกกําปั้นขึ้นทุบกําแพงคฤหาสน์วิญญาณ

 

“ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจแล้วงั้นหรือ?” ซูเหลียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

 

ผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งกันเสียงเย็นแต่ไม่ตอบโต้

 

เขาต้องแก้ปัญหานี้ มิฉะนั้นเซี่ยฮันโม่จะได้รับชัยชนะในที่สุด

 

“ฟางหยวนงั้นหรือ? ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะเป็นตัวปัญหา!”

 

“ข้าต้องกําจัดเขา!”

 

ผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งตั้งใจแน่วแน่ แต่ภายใต้สายตาของทุกคนในพิธีบูชาเทพสมุทร เขาไม่สามารถทําสิ่งใด

 

“ข้าควรทําอย่างไร?” ผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งครุ่นคิด หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

 

หลังจากไตร่ตรอง เขาลงมือในที่สุด

 

“ฟางหยวน ข้าคือผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็ง!” เขาถ่ายทอดเสียงไปหาฟางหยวนโดยตรง นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

 

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่เขาไม่ตอบ

 

ผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งหัวเราะเบาๆ “เพียงฟังข้า ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนฉลาด แต่เจ้าไร้เดียงสาเกินไป”

 

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็นและตอบกลับ “ข้าไม่ได้ไร้เดียงสา นี่คืออุดมการณ์ของข้า แต่เจ้าคงไม่เข้าใจ”

 

ผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็งกล่าวต่อ “นั่นเป็นเหตุผลที่ข้ากล่าวว่าเจ้าไร้เดียงสา พวกเจ้าเพียงเห่าหอนอยู่ต่อหน้ากองไฟ เจ้าเป็นเพียงตัวหมากเบี้ย มันไม่ต่างจากธงที่ปลิวไปตามสายลมและไร้ที่ยึดเหนี่ยว”

 

“ผู้อาวุโสสูงสุดงั้นหรือ? ลองถามคนอื่นๆว่านางเป็นคนเช่นไร นางมีอํานาจที่จะกําหราบฝ่ายของข้าแต่นางเลือกที่จะใช้พวกเจ้าเป็นแนวหน้า เมื่อเซี่ยฮันโม่สอบสวนคดีทุจริต ผู้อาวุโสสูงสุดช่วยพวกเจ้าหรือไม่? นางอาจให้เบาะแสบางอย่าง แต่เชื่อข้า นางไม่ได้พยายามทําสิ่งใดเลย”

 

“แม้พวกเจ้าจะได้รับชัยชนะและสามารถรักษาตําแหน่งเทพธิดาเงือก แล้วอย่างไร? เจ้าคิดว่าข้าจะตายงั้นหรือ? ไม่! เผ่าคลื่นน้ำแข็งเป็นฝ่ายที่มีอํานาจมากที่สุดในวังเงือกศักดิ์สิทธิ์ หากข้าตาย วังเงือกศักดิ์สิทธิ์จะตกสู่ความโกลาหลและแตกแยก ผู้อาวุโสสูงสุดไม่มีความกล้าพอที่จะให้สิ่งนี้เกิดขึ้น นางต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่และป้องกันไม่ให้ข้าทําตัวนอกคอก”

 

“ไม่ว่าเจ้าจะทําสิ่งใด ข้าก็ยังจะมีชีวิตอยู่ในฐานะผู้นําเผ่าคลื่นน้ำแข็ง ในกรณีเลวร้ายที่สุดข้าจะเสียสละแพะรับบาปสองสามตัวและหยุดเคลื่อนไหวชั่วคราว”

 

“ในพิธีบูชาเทพสมุทร ผู้เข้าแข่งขันเกือบทุกคนได้รับการสนับสนุนจากกองกําลังที่อยู่เบื้องหลัง เจ้าคิดว่านี่เป็นการแข่งขันที่ยุติธรรมงั้นหรือ? ไม่! นี่คือเกมส์ที่ใช้แบ่งปันทรัพยากรของตัวตนระดับสูง

 

“ฟางหยวน เจ้าอาจโกรธที่เราใช้กลอุบายในความมืด แต่เจ้าต้องเข้าในว่าในทะเลแห่งนี้ความมืดคือผู้ปกครองที่แท้จริง แสงสว่างสามารถส่องผ่านผิวน้ำเท่านั้น คนทั่วไปอาจเพลิดเพลินหรือหลงระเริงไปกับความงามของมันโดยคิดว่าแสงสว่างคือความจริงแท้ของท้องทะเล แต่นั่นเป็นความคิดที่ไร้เดียงสาเกินไป”

 

ฟางหยวนเงียบ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+