Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1689 ความล้มเหลว

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1689 ความล้มเหลว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1689 ความล้มเหลว

 

สวรรค์สีขาว ถ้ำสวรรค์นักรบอสูร

 

“ปีศาจหัววัว รับสิ่งนี้!” วานรขนทองตะโกนขณะพุ่งเข้าไปหาฟางหยวนพร้อมกับพายุสายฟ้า

 

ปีศาจหัววัวฟางหยวนยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับเขยื้อน เพียงเมื่อวานรขนทองเข้ามาใกล้ เขาก็ยกมือขึ้นเล็กน้อย

 

“ปัง!”

 

มันเป็นหมัดตรงที่เรียบง่าย แต่วานรขนทองกลับถูกส่งลอยกลับหลังราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่

 

“บึม!”

 

วานรขนทองพุ่งชนภูเขา หินถล่มลงมาและฝังมันเอาไว้ภายใน

 

“ความแข็งแกร่งระดับนี้ กระทั่งนักรบวานรทองยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!”

 

“ข้าไม่เคยเห็นความแข็งแกร่งที่มาพร้อมกับความเร็วเช่นนี้มาก่อน มันอยู่ในระดับเดียวกับหอยทากดาราจริงๆ!”

 

นอกจากนักรบวานรทองที่ถูกฝังกลบ นักรบอสูรคนอื่นๆที่อยู่ในสนามรบต่างรู้สึกหวาดกลัว

 

“ร่วมมือกัน! เห็นได้ชัดว่านี่เป็นทักษะการต่อสู้ มันจะสูญเสียพลังจํานวนมากในการใช้ งาน!” นักรบอสูรราชันสีห์สายฟ้าคําราม

 

ฟางหยวนกําหราบนักรบอสูรเกือบทั้งหมดที่ถูกส่งมาโดยราชาอสูร ตอนนี้เหลือนักรบอสูรเพียงห้าคนที่ยังมีพลังเหลืออยู่

 

ทั้งห้าเป็นนักรบอสูรที่แข็งแกร่งที่สุด

 

ท่ามกลางนักรบอสูรทั้งห้า คนแรกคือนักรบราชสีห์สายฟ้าที่มีศีรษะเป็นสิงโตร่างกายมนุษย์ เขาใช้สายฟ้าเป็นอาวุธ คนที่สองคือนักรบกายาราชสีห์ เขามีศีรษะเป็นมนุษย์แต่ร่างกายเป็นสิงโต เขามีพลังการฟื้นฟูที่แข็งแกร่ง

 

นักรบอสูรคนที่สามคือนักรบหอยศิลา เขาอยู่ในเปลือกหอยขนาดใหญ่และสามารถยิงอุกกาบาตเพลิงออกมา

 

นักรบอสูรคนที่สี่คือนักรบแรดยักษ์ ร่างกายของเขาราวกับเหล็กกล้าที่แข็งแกร่ง

 

นักรบอสูรคนสุดท้ายคือนักรบผีเสื้อน้ำค้าง เขาอยู่ในร่างมนุษย์แต่มีปีกผีเสื้อและปลดปล่อยพลังงานความเย็นออกมา

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าโง่ เจ้าถูกจับแล้ว!” นักรบผีเสื้อน้ำค้างปรากฏตัวขึ้นเหนือศีรษะของฟางหยวน

 

พลังงานความเป็นระเบิดออกมาปกคลุมศีรษะและไหล่ของฟางหยวน

 

“โฮก…”

 

นักรบแรดยักษ์คํารามและพุ่งเข้าไปหาฟางหยวน

 

“ลองลิ้มรสทักษะการต่อสู้ใหม่ของข้า!” นักรบหอยศิลากดทับเท้าของฟางหยวนเอาไว้

 

นักรบแรดยักษ์พุ่งเข้ากระแทกฟางหยวนอย่างรุนแรง

 

มวลอากาศเย็นทําให้แขนของฟางหยวนถูกแช่แข็ง

 

“ถึงเวลาแล้ว!” นักรบราชสีห์สายฟ้าและนักรบกายาราชสีห์โจมตีศีรษะของฟางหยวนจากด้านซ้ายและขวา

 

“ตาย!” นักรบอสูรทั้งห้าตะโกนพร้อมกัน เจตนาสังหารของทุกคนพุ่งสูงขึ้น

 

“บึม!”

 

เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงและส่งคลื่นกระแทกออกไปรอบๆ นักรบอสูรทั้งห้าราวกับแผ่นไม้เล็กๆท่ามกลางพายุใหญ่ พวกเขากระอักเลือดและถูกส่งลอยกลับหลัง

 

ท่ามกลางฝุ่นควัน ร่างสีดําขนาดเท่าภูเขาค่อยๆปรากฏขึ้น

 

ฟางหยวนยืนอยู่อย่างเงียบๆที่จุดเดิม เขามองนักรบอสูรทั้งห้าที่ดิ้นรนอยู่บนพื้นก่อนจะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่แยแส

 

ทุกย่างก้าวของเขาทําให้แผ่นดินสะเทือนและทิ้งรอยเท้าขนาดใหญ่เอาไว้เบื้องหลัง

 

“บัดซบ!”

 

“อย่าไป…”

 

“หยุด!”

 

นักรบอสูรทั้งห้าพยายามลุกขึ้นยืนแต่มีเพียงนักรบราชสีห์สายฟ้าเท่านั้นที่ยืนขึ้นมาได้สําเร็จ

 

“นักรบราชสีห์สายฟ้า!”

 

“ไป เจ้าต้องหยุดสัตว์ประหลาดตัวนี้!”

 

นักรบราชสีห์สายฟ้าพุ่งเข้าไปหาฟาหงยวนโดยปราศจากความหวาดกลัว สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “หากเจ้าต้องการสังหารผู้อื่น เจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”

 

“บึม!”

 

ไม่มีผู้ใดเห็นการโจมตีของฟางหยวน พวกเขาเห็นเพียงนักรบราชสีห์สายฟ้าถูกกระแทกกลับด้วยความเร็วที่น่าตกใจเท่านั้น

 

ร่างของนักรบราชสีห์สายฟ้าตกลงบนพื้นและพุ่งต่อไปอีกสามสิบเมตรก่อนจะหยุดลง

 

นักรบราชสีห์สายฟ้าหมดสติและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก

 

ฟางหยวนยังเดินหน้าต่อไป

 

เขาควบคุมพลังของตนเองและไม่สังหารผู้คนเหล่านี้ นี่ต่างจากแรกเริ่มที่เขาบุกเข้ามา หลังจากได้รับมรดกหลายอย่าง ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เขาเห็นทุกสิ่งในถ้ำสวรรค์นักรบอสูรเป็นสมบัติของเขารวมถึงนักรบอสูรเหล่านี้

 

“ยังมีมรดกสุดท้ายเหลืออยู่ ตราบเท่าที่ข้าได้รับมรดกนี้ ข้าจะสามารถรวมเนื้อหาของมรดกหมด”

 

ในไม่ช้าฟางหยวนก็มาถึงด้านหน้าเปลือกหอยทากดารา

 

หอยทากดาราเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิด แต่ตัวที่อยู่ด้านหน้าฟางหยวนเป็นเพียงซากศพของมัน

 

เจ้าของถ้ำสวรรค์แห่งนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับหอยทากดาราและไม่สามารถรักษา ก่อนเสียชีวิต เขาทิ้งมรดกไว้เบื้องหลัง เปลือกหอยทากดาราเป็นสถานที่เก็บมรดกชิ้นสุดท้ายของเขา

 

“ปีศาจหัววัว ข้ารอเจ้าอยู่” ราชาอสูรรุ่นปัจจุบันยืนอยู่บนเปลือกหอยทากดารา

 

เขาแก่มากแล้วและดูเหมือนมดตัวเล็กที่ยืนอยู่ต่อหน้ายักษ์ฟางหยวน

 

แต่ดวงตาของมดตัวนี้กลับลุกไหม้ด้วยเจตจํานงแห่งการต่อสู้

 

แสงสว่างส่องประกายขึ้นก่อนที่เปลือกหอยทากดาราจะพุ่งเข้าหลอมรวมกับชายชรา

 

เมื่อแสงสว่างหายไป ยักษ์หุ้มเกราะที่มีร่างกายเล็กกว่าฟางหยวนเพียงเล็กน้อยก็ปรากฏตัวขึ้น

 

โอ้ วิธีนี้ไม่จํากัดเฉพาะสิ่งมีชีวิต มันยังสามารถใช้กับซากศพของสัตว์อสูรแรกกําเนิด! ฟางหยวนลอบประหลาดใจ

 

แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถทําความเข้าใจ

 

วิธีนี้เกี่ยวกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ มันไม่มีความแตกต่างระหว่างสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งที่ตายแล้ว

 

แม้หอยทากดาราจะตายไปแล้ว แต่เปลือกหอยของมันยังมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจํานวนมากเหลืออยู่ ชายชราสามารถใช้งานมัน

 

“นี่ควรเป็นไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของถ้ำสวรรค์แห่งนี้ น่าเสียดาย กระทั่งมันจะเป็นหอยทากดาราที่มีชีวิต มันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” ฟางหยวนเย้ยหยันอยู่ภายใน

 

การต่อสู้ปะทุขึ้น ผลลัพธ์เป็นไปตามความคาดหวังของฟางหยวน

 

ในสนามรบที่พังทลาย ฟางหยวนยืนหยัดอย่างภาคภูมิขณะที่นักรบหอยทากดาราล้มลงบนพื้นและกําลังจะตาย

 

“ไม่มีความหวัง” นักรบอสูรคนอื่นๆที่เข้ามาช่วยนักรบหอยทากดาราคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดขาว

 

นักรบหอยทากดารากลับสู่ร่างมนุษย์ของราชาอสูรรุ่นปัจจุบันอีกครั้ง เปลือกหอยทากดาราเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว

 

ฟางหยวนตรวจสอบและค้นพบบางสิ่ง

 

เขาหัวเราะก่อนกล่าว “จิตวิญญาณสวรรค์ เจ้ายังไม่ออกมาอีกขั้นหรือ?”

 

“…”

 

นักรบอสูรทั้งหมดตะลึง

 

“ข้า…ข้า…ข้าได้ยินสิ่งใดผิดไปหรือไม่?”

 

“สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้พูดได้ มันพูดภาษามนุษย์ได้จริงๆ!”

 

“ข้าหูฝาดเพราะข้าแก่เกินไปและกําลังจะตายใช่หรือไม่?” ราชาอสูรรุ่นปัจจุบันพึมพํา

 

วินาทีถัดมาจิตวิญญาณสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นในที่สุด

 

มันบินเข้าไปหาฟางหยวน

 

จิตวิญญาณสวรรค์อยู่ในร่างกิเลนหนุ่ม มันกล่าวด้วยเสียงที่คมชัด “ผู้อมตะจากภายนอก เจ้ามาที่นี่และได้รับมรดกมากมาย แต่เจ้ายังไม่ได้รับการยอมรับจากข้า เจ้าสังหารผู้บริสุทธิ์มากมายและอาละวาดไปทั่ว เจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าจะได้รับท่าไม้ตายอมตะของร่างหลักเท่านั้น อย่าคิดว่าเจ้าจะได้รับวิญญาณอมตะและถ้ำสวรรค์แห่งนี้”

 

“งั้นหรือ?” ฟางหยวนหัวเราะอย่างมีความหมาย

 

กิเลนหนุ่มกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้ารู้ว่าเจ้ากําลังคิดสิ่งใด แม้ข้าจะไม่สามารถเอาชนะเจ้า แต่ข้าสามารถระเบิดทําลายวิญญาณอมตะและถ้ำสวรรค์ทั้งหมด เจ้าจะไม่ได้รับสิ่งใดเลย”

 

ฟางหยวนเงียบ

 

เขารู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นความแน่วแน่ของกิเลนหนุ่ม จิตวิญญาณสวรรค์เหมือนจิตวิญญาณแผ่นดิน พวกมันไม่สามารถโกหก

 

ฟางหยวนไม่สามารถตรวจสอบการคงอยู่ของวิญญาณอมตะ

 

นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะแสงโลหิตก็ยังไม่ทรงพลังพอที่จะกําหราบจิตวิญญาณสวรรค์กิเลนตัวนี้

 

“เป็นเช่นนี้ นักรบอสูรเป็นส่วนหนึ่งของมรดก ข้าตระหนักถึงความตั้งใจนี้แล้ว” ฟางหยวนกล่าว

 

“แม้เจ้าจะเข้าใจตอนนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว ทุกคนมีโอกาสเพียงครั้งเดียว แต่เจ้าจะไม่จากไปมือเปล่า ร่างหลักของข้าจะมอบท่าไม้ตายอมตะให้เจ้า” จิตวิญญาณสวรรค์ชี้แจงอย่างชัดเจนและต้องการให้ฟางหยวนจากไป

 

หลังจากได้รับท่าไม้ตายอมตะ ฟางหยวนไม่อยู่ต่อหรือใช้กําลัง เขาออกมาจากถ้ำสวรรค์โดยง่าย

 

ทะเลตะวันออก

 

การต่อสู้ของห้าผู้อมตะทําให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่

 

“หากพวกเจ้ายังมีวิธีใดเหลืออยู่ก็ใช้มันออกมา!” ราชันมังกรยังผ่อนคลาย

 

ฟงจินฮวงยืนอยู่ข้างกายราชันมังกร นางยังปลอดภัยและไม่สูญเสียเส้นผมแม้แต่เส้นเดียว ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นการต่อสู้ของผู้อมตะระดับแปด มันช่วยขยายวิสัยทัศน์ของนางเป็นอย่างมาก

 

ยายหรง หยางจื่ออี้ และคนอื่นๆแสดงออกด้วยความเคร่งเครียด

 

หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอย่างจริงจัง พวกเขาได้ลิ้มรสพลังของราชันมังกร แม้ราชันมังกรจะต่อสู้เพียงลําพังและมีฟงจินฮวงเป็นภาระ แต่ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ของทะเลตะวันออกก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ตอนนี้พวกเขาเห็นสัญญาณของความพ่ายแพ้แล้ว

 

“เขามีความแข็งแกร่งของถึงระดับเก้า เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”

 

“ทรงพลังเกินไป สมกับเป็นราชันมังกรแห่งวังสวรรค์…”

 

ขวัญกําลังใจของผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ร่วงหล่นลงสู่จุดต่ำสุด

 

“บัดซบ! เราวางแผนยึดครองวังมังกรมานานแล้ว แต่ยังสวรรค์กลับขโมยมันไป!”

 

“เห้อ…ไปกันเถอะ เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชันมังกร มันไม่มีความหมายที่จะอยู่ต่อ”

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ตัดสินใจล่าถอย

 

ราชันมังกรไม่ได้ไล่ล่าพวกเขา

 

เป้าหมยของเขาในครั้งนี้คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดวังมังกรเท่านั้น

 

“วังมังกรถูกกัดกร่อนโดยอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าสงสัยว่ามันเหลือวิญญาณอมตะกี่ดวง” ราชันมังกรถอนหายใจ

 

“หือ?”

 

เขากําลังจะย้ายวังมังกรแต่วินาทีต่อมามันกลับพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยไม่คาดคิด

 

ราชันมังกรยืนอยู่ที่เดิม เขาไม่สามารถขัดขวางวังมังกรและทําได้เพียงมองมันบินจากไปเท่านั้น ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความตกใจขณะที่เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา “วังมังกรยังไม่บุบสลาย ไม่เพียงเท่านั้น หนึ่งในแกนกลางของมันยังเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ราชันมังกร ดูว่าคราวนี้เจ้าจะสู้กับพวกเราอย่างไร?” ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ของทะเลตะวันออกย้อนกลับมา

 

การแสดงออกของราชันมังกรกลายเป็นมืดครื้ม

 

สถานการณ์กลายเป็นยากลําบาก

 

เขาถูกปิดล้อมขณะที่วังมังกรปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกไปทุกหนทุกแห่ง สิ่งนี้จะสร้างความวุ่นวายขึ้นในทะเลตะวันออกอย่างแน่นอน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1689 ความล้มเหลว

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1689 ความล้มเหลว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1689 ความล้มเหลว

 

สวรรค์สีขาว ถ้ำสวรรค์นักรบอสูร

 

“ปีศาจหัววัว รับสิ่งนี้!” วานรขนทองตะโกนขณะพุ่งเข้าไปหาฟางหยวนพร้อมกับพายุสายฟ้า

 

ปีศาจหัววัวฟางหยวนยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับเขยื้อน เพียงเมื่อวานรขนทองเข้ามาใกล้ เขาก็ยกมือขึ้นเล็กน้อย

 

“ปัง!”

 

มันเป็นหมัดตรงที่เรียบง่าย แต่วานรขนทองกลับถูกส่งลอยกลับหลังราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่

 

“บึม!”

 

วานรขนทองพุ่งชนภูเขา หินถล่มลงมาและฝังมันเอาไว้ภายใน

 

“ความแข็งแกร่งระดับนี้ กระทั่งนักรบวานรทองยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!”

 

“ข้าไม่เคยเห็นความแข็งแกร่งที่มาพร้อมกับความเร็วเช่นนี้มาก่อน มันอยู่ในระดับเดียวกับหอยทากดาราจริงๆ!”

 

นอกจากนักรบวานรทองที่ถูกฝังกลบ นักรบอสูรคนอื่นๆที่อยู่ในสนามรบต่างรู้สึกหวาดกลัว

 

“ร่วมมือกัน! เห็นได้ชัดว่านี่เป็นทักษะการต่อสู้ มันจะสูญเสียพลังจํานวนมากในการใช้ งาน!” นักรบอสูรราชันสีห์สายฟ้าคําราม

 

ฟางหยวนกําหราบนักรบอสูรเกือบทั้งหมดที่ถูกส่งมาโดยราชาอสูร ตอนนี้เหลือนักรบอสูรเพียงห้าคนที่ยังมีพลังเหลืออยู่

 

ทั้งห้าเป็นนักรบอสูรที่แข็งแกร่งที่สุด

 

ท่ามกลางนักรบอสูรทั้งห้า คนแรกคือนักรบราชสีห์สายฟ้าที่มีศีรษะเป็นสิงโตร่างกายมนุษย์ เขาใช้สายฟ้าเป็นอาวุธ คนที่สองคือนักรบกายาราชสีห์ เขามีศีรษะเป็นมนุษย์แต่ร่างกายเป็นสิงโต เขามีพลังการฟื้นฟูที่แข็งแกร่ง

 

นักรบอสูรคนที่สามคือนักรบหอยศิลา เขาอยู่ในเปลือกหอยขนาดใหญ่และสามารถยิงอุกกาบาตเพลิงออกมา

 

นักรบอสูรคนที่สี่คือนักรบแรดยักษ์ ร่างกายของเขาราวกับเหล็กกล้าที่แข็งแกร่ง

 

นักรบอสูรคนสุดท้ายคือนักรบผีเสื้อน้ำค้าง เขาอยู่ในร่างมนุษย์แต่มีปีกผีเสื้อและปลดปล่อยพลังงานความเย็นออกมา

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าโง่ เจ้าถูกจับแล้ว!” นักรบผีเสื้อน้ำค้างปรากฏตัวขึ้นเหนือศีรษะของฟางหยวน

 

พลังงานความเป็นระเบิดออกมาปกคลุมศีรษะและไหล่ของฟางหยวน

 

“โฮก…”

 

นักรบแรดยักษ์คํารามและพุ่งเข้าไปหาฟางหยวน

 

“ลองลิ้มรสทักษะการต่อสู้ใหม่ของข้า!” นักรบหอยศิลากดทับเท้าของฟางหยวนเอาไว้

 

นักรบแรดยักษ์พุ่งเข้ากระแทกฟางหยวนอย่างรุนแรง

 

มวลอากาศเย็นทําให้แขนของฟางหยวนถูกแช่แข็ง

 

“ถึงเวลาแล้ว!” นักรบราชสีห์สายฟ้าและนักรบกายาราชสีห์โจมตีศีรษะของฟางหยวนจากด้านซ้ายและขวา

 

“ตาย!” นักรบอสูรทั้งห้าตะโกนพร้อมกัน เจตนาสังหารของทุกคนพุ่งสูงขึ้น

 

“บึม!”

 

เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงและส่งคลื่นกระแทกออกไปรอบๆ นักรบอสูรทั้งห้าราวกับแผ่นไม้เล็กๆท่ามกลางพายุใหญ่ พวกเขากระอักเลือดและถูกส่งลอยกลับหลัง

 

ท่ามกลางฝุ่นควัน ร่างสีดําขนาดเท่าภูเขาค่อยๆปรากฏขึ้น

 

ฟางหยวนยืนอยู่อย่างเงียบๆที่จุดเดิม เขามองนักรบอสูรทั้งห้าที่ดิ้นรนอยู่บนพื้นก่อนจะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่แยแส

 

ทุกย่างก้าวของเขาทําให้แผ่นดินสะเทือนและทิ้งรอยเท้าขนาดใหญ่เอาไว้เบื้องหลัง

 

“บัดซบ!”

 

“อย่าไป…”

 

“หยุด!”

 

นักรบอสูรทั้งห้าพยายามลุกขึ้นยืนแต่มีเพียงนักรบราชสีห์สายฟ้าเท่านั้นที่ยืนขึ้นมาได้สําเร็จ

 

“นักรบราชสีห์สายฟ้า!”

 

“ไป เจ้าต้องหยุดสัตว์ประหลาดตัวนี้!”

 

นักรบราชสีห์สายฟ้าพุ่งเข้าไปหาฟาหงยวนโดยปราศจากความหวาดกลัว สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “หากเจ้าต้องการสังหารผู้อื่น เจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”

 

“บึม!”

 

ไม่มีผู้ใดเห็นการโจมตีของฟางหยวน พวกเขาเห็นเพียงนักรบราชสีห์สายฟ้าถูกกระแทกกลับด้วยความเร็วที่น่าตกใจเท่านั้น

 

ร่างของนักรบราชสีห์สายฟ้าตกลงบนพื้นและพุ่งต่อไปอีกสามสิบเมตรก่อนจะหยุดลง

 

นักรบราชสีห์สายฟ้าหมดสติและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก

 

ฟางหยวนยังเดินหน้าต่อไป

 

เขาควบคุมพลังของตนเองและไม่สังหารผู้คนเหล่านี้ นี่ต่างจากแรกเริ่มที่เขาบุกเข้ามา หลังจากได้รับมรดกหลายอย่าง ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เขาเห็นทุกสิ่งในถ้ำสวรรค์นักรบอสูรเป็นสมบัติของเขารวมถึงนักรบอสูรเหล่านี้

 

“ยังมีมรดกสุดท้ายเหลืออยู่ ตราบเท่าที่ข้าได้รับมรดกนี้ ข้าจะสามารถรวมเนื้อหาของมรดกหมด”

 

ในไม่ช้าฟางหยวนก็มาถึงด้านหน้าเปลือกหอยทากดารา

 

หอยทากดาราเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิด แต่ตัวที่อยู่ด้านหน้าฟางหยวนเป็นเพียงซากศพของมัน

 

เจ้าของถ้ำสวรรค์แห่งนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับหอยทากดาราและไม่สามารถรักษา ก่อนเสียชีวิต เขาทิ้งมรดกไว้เบื้องหลัง เปลือกหอยทากดาราเป็นสถานที่เก็บมรดกชิ้นสุดท้ายของเขา

 

“ปีศาจหัววัว ข้ารอเจ้าอยู่” ราชาอสูรรุ่นปัจจุบันยืนอยู่บนเปลือกหอยทากดารา

 

เขาแก่มากแล้วและดูเหมือนมดตัวเล็กที่ยืนอยู่ต่อหน้ายักษ์ฟางหยวน

 

แต่ดวงตาของมดตัวนี้กลับลุกไหม้ด้วยเจตจํานงแห่งการต่อสู้

 

แสงสว่างส่องประกายขึ้นก่อนที่เปลือกหอยทากดาราจะพุ่งเข้าหลอมรวมกับชายชรา

 

เมื่อแสงสว่างหายไป ยักษ์หุ้มเกราะที่มีร่างกายเล็กกว่าฟางหยวนเพียงเล็กน้อยก็ปรากฏตัวขึ้น

 

โอ้ วิธีนี้ไม่จํากัดเฉพาะสิ่งมีชีวิต มันยังสามารถใช้กับซากศพของสัตว์อสูรแรกกําเนิด! ฟางหยวนลอบประหลาดใจ

 

แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถทําความเข้าใจ

 

วิธีนี้เกี่ยวกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ มันไม่มีความแตกต่างระหว่างสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งที่ตายแล้ว

 

แม้หอยทากดาราจะตายไปแล้ว แต่เปลือกหอยของมันยังมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจํานวนมากเหลืออยู่ ชายชราสามารถใช้งานมัน

 

“นี่ควรเป็นไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของถ้ำสวรรค์แห่งนี้ น่าเสียดาย กระทั่งมันจะเป็นหอยทากดาราที่มีชีวิต มันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” ฟางหยวนเย้ยหยันอยู่ภายใน

 

การต่อสู้ปะทุขึ้น ผลลัพธ์เป็นไปตามความคาดหวังของฟางหยวน

 

ในสนามรบที่พังทลาย ฟางหยวนยืนหยัดอย่างภาคภูมิขณะที่นักรบหอยทากดาราล้มลงบนพื้นและกําลังจะตาย

 

“ไม่มีความหวัง” นักรบอสูรคนอื่นๆที่เข้ามาช่วยนักรบหอยทากดาราคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดขาว

 

นักรบหอยทากดารากลับสู่ร่างมนุษย์ของราชาอสูรรุ่นปัจจุบันอีกครั้ง เปลือกหอยทากดาราเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว

 

ฟางหยวนตรวจสอบและค้นพบบางสิ่ง

 

เขาหัวเราะก่อนกล่าว “จิตวิญญาณสวรรค์ เจ้ายังไม่ออกมาอีกขั้นหรือ?”

 

“…”

 

นักรบอสูรทั้งหมดตะลึง

 

“ข้า…ข้า…ข้าได้ยินสิ่งใดผิดไปหรือไม่?”

 

“สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้พูดได้ มันพูดภาษามนุษย์ได้จริงๆ!”

 

“ข้าหูฝาดเพราะข้าแก่เกินไปและกําลังจะตายใช่หรือไม่?” ราชาอสูรรุ่นปัจจุบันพึมพํา

 

วินาทีถัดมาจิตวิญญาณสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นในที่สุด

 

มันบินเข้าไปหาฟางหยวน

 

จิตวิญญาณสวรรค์อยู่ในร่างกิเลนหนุ่ม มันกล่าวด้วยเสียงที่คมชัด “ผู้อมตะจากภายนอก เจ้ามาที่นี่และได้รับมรดกมากมาย แต่เจ้ายังไม่ได้รับการยอมรับจากข้า เจ้าสังหารผู้บริสุทธิ์มากมายและอาละวาดไปทั่ว เจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าจะได้รับท่าไม้ตายอมตะของร่างหลักเท่านั้น อย่าคิดว่าเจ้าจะได้รับวิญญาณอมตะและถ้ำสวรรค์แห่งนี้”

 

“งั้นหรือ?” ฟางหยวนหัวเราะอย่างมีความหมาย

 

กิเลนหนุ่มกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้ารู้ว่าเจ้ากําลังคิดสิ่งใด แม้ข้าจะไม่สามารถเอาชนะเจ้า แต่ข้าสามารถระเบิดทําลายวิญญาณอมตะและถ้ำสวรรค์ทั้งหมด เจ้าจะไม่ได้รับสิ่งใดเลย”

 

ฟางหยวนเงียบ

 

เขารู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นความแน่วแน่ของกิเลนหนุ่ม จิตวิญญาณสวรรค์เหมือนจิตวิญญาณแผ่นดิน พวกมันไม่สามารถโกหก

 

ฟางหยวนไม่สามารถตรวจสอบการคงอยู่ของวิญญาณอมตะ

 

นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะแสงโลหิตก็ยังไม่ทรงพลังพอที่จะกําหราบจิตวิญญาณสวรรค์กิเลนตัวนี้

 

“เป็นเช่นนี้ นักรบอสูรเป็นส่วนหนึ่งของมรดก ข้าตระหนักถึงความตั้งใจนี้แล้ว” ฟางหยวนกล่าว

 

“แม้เจ้าจะเข้าใจตอนนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว ทุกคนมีโอกาสเพียงครั้งเดียว แต่เจ้าจะไม่จากไปมือเปล่า ร่างหลักของข้าจะมอบท่าไม้ตายอมตะให้เจ้า” จิตวิญญาณสวรรค์ชี้แจงอย่างชัดเจนและต้องการให้ฟางหยวนจากไป

 

หลังจากได้รับท่าไม้ตายอมตะ ฟางหยวนไม่อยู่ต่อหรือใช้กําลัง เขาออกมาจากถ้ำสวรรค์โดยง่าย

 

ทะเลตะวันออก

 

การต่อสู้ของห้าผู้อมตะทําให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่

 

“หากพวกเจ้ายังมีวิธีใดเหลืออยู่ก็ใช้มันออกมา!” ราชันมังกรยังผ่อนคลาย

 

ฟงจินฮวงยืนอยู่ข้างกายราชันมังกร นางยังปลอดภัยและไม่สูญเสียเส้นผมแม้แต่เส้นเดียว ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นการต่อสู้ของผู้อมตะระดับแปด มันช่วยขยายวิสัยทัศน์ของนางเป็นอย่างมาก

 

ยายหรง หยางจื่ออี้ และคนอื่นๆแสดงออกด้วยความเคร่งเครียด

 

หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอย่างจริงจัง พวกเขาได้ลิ้มรสพลังของราชันมังกร แม้ราชันมังกรจะต่อสู้เพียงลําพังและมีฟงจินฮวงเป็นภาระ แต่ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ของทะเลตะวันออกก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ตอนนี้พวกเขาเห็นสัญญาณของความพ่ายแพ้แล้ว

 

“เขามีความแข็งแกร่งของถึงระดับเก้า เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”

 

“ทรงพลังเกินไป สมกับเป็นราชันมังกรแห่งวังสวรรค์…”

 

ขวัญกําลังใจของผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ร่วงหล่นลงสู่จุดต่ำสุด

 

“บัดซบ! เราวางแผนยึดครองวังมังกรมานานแล้ว แต่ยังสวรรค์กลับขโมยมันไป!”

 

“เห้อ…ไปกันเถอะ เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชันมังกร มันไม่มีความหมายที่จะอยู่ต่อ”

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ตัดสินใจล่าถอย

 

ราชันมังกรไม่ได้ไล่ล่าพวกเขา

 

เป้าหมยของเขาในครั้งนี้คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดวังมังกรเท่านั้น

 

“วังมังกรถูกกัดกร่อนโดยอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าสงสัยว่ามันเหลือวิญญาณอมตะกี่ดวง” ราชันมังกรถอนหายใจ

 

“หือ?”

 

เขากําลังจะย้ายวังมังกรแต่วินาทีต่อมามันกลับพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยไม่คาดคิด

 

ราชันมังกรยืนอยู่ที่เดิม เขาไม่สามารถขัดขวางวังมังกรและทําได้เพียงมองมันบินจากไปเท่านั้น ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความตกใจขณะที่เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา “วังมังกรยังไม่บุบสลาย ไม่เพียงเท่านั้น หนึ่งในแกนกลางของมันยังเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ราชันมังกร ดูว่าคราวนี้เจ้าจะสู้กับพวกเราอย่างไร?” ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ของทะเลตะวันออกย้อนกลับมา

 

การแสดงออกของราชันมังกรกลายเป็นมืดครื้ม

 

สถานการณ์กลายเป็นยากลําบาก

 

เขาถูกปิดล้อมขณะที่วังมังกรปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกไปทุกหนทุกแห่ง สิ่งนี้จะสร้างความวุ่นวายขึ้นในทะเลตะวันออกอย่างแน่นอน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+