Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1709 วูหยงปะทะเฉินอี้

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1709 วูหยงปะทะเฉินอี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1709 วูหยงปะทะเฉินอี้

 

“บึ้ม!” เสียงระเบิดดังขึ้น

 

วูหยงนํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ทําลายแนวป้องกันที่ห้าของค่ายกลวิญญาณอมตะและมาถึงชั้นที่หก

 

พื้นที่ชั้นที่หกเป็นความมืดมิดอันไร้ขอบเขต

 

ผู้อมตะภาคใต้ราวกับมดตัวน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ขนาดใหญ่

 

“นี่คือค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ” ผู้อมตะตระกูลลั่วกล่าว

 

เขาสวมชุดพื้นเมืองของคนใต้ เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดและเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงของตระกูลลั่ว

 

ชื่อของเขาคือลั่วหรัน เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติและมีความสําเร็จที่ไม่น่าเชื่อ

 

“นี่คือค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งห้วงมิติจริงๆ” จื่อชิวหยูพยักหน้าเห็นด้วย “ให้ข้าอนุมาน”

 

การโจมตีแบบสุ่มไม่ใช่เรื่องฉลาด วิธีที่ดีที่สุดคือปล่อยให้ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกลอนุมานเพื่อหาจุดอ่อนของมัน

 

หลังจากอนุมาน จื่อชิวหยูกล่าว “ข้าไม่พบช่องโหว่ของค่ายกลนี้”

 

ลั่วหรันขมวดคิ้ว “แม้ข้าจะไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกล แต่ข้าพอมีความรู้เกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งห้วงมิติอยู่บ้าง ค่ายกลวิญญญาณชนิดนี้มักมีความสามารถเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการขยายพื้นที่ หลังจากเข้าสู่ค่ายกล ระยะทางหนึ่งก้าวจะยาวไกลราวกับหนึ่งร้อยก้าว”

 

จื่อชิวหยูหัวเราะ “สหายลั่วหรันฉลาดมาก นั่นถูกต้อง แต่ค่ายกลนี้ถูกดัดแปลง มีบางสิ่งซ่อนอยู่ภายใน

 

บางคนถาม “สิ่งใด?”

 

จื่อชิวหยูสายศีรษะ “ข้ายังไม่แน่ใจ ข้าเพียงสัมผัสถึงมันเท่านั้น เราควรทดสอบ จากนั้นข้าจะสามารถอนุมานต่อ อย่ากังวล มันไม่มีพลังโจมตี มันทําได้เพียงถ่วงเวลาพวกเราเท่านั้น”

 

“ในช่วงเวลานี้หากวังสวรรค์โจมตี ตราบเท่าที่พวกเราสามารถป้องกันตนเอง การเปลี่ยนแปลงใดก็ตามที่เกิดขึ้นจะทําให้ข้าสามารถอนุมานบางสิ่ง”

 

กลุ่มผู้อมตะเลือกทําตามคําแนะนําของจื่อชิวหยู

 

กองกําลังพันธมิตรภาคใต้ปกป้องจื่อชิวหยูที่อยู่ตรงกลางและมีวูหยงเป็นแนวหน้า

 

“ดู ข้างหน้ามีบางสิ่ง!” ผู้อมตะเหยาเทียนซีกล่าว

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้เคลื่อนที่ช้าลง พวกเขาเริ่มมองเห็นหัวไชเท้าขนาดใหญ่เท่าบ้านลอยอยู่กลางอากาศ

 

“มันคือสิ่งใด?” เหยาเทียนซีถาม

 

ทุกคนขมวดคิ้ว นี่ไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป

 

วูหยงนิ่งเงียบ เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับพืชอมตะแต่เขายังจําไม่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ

 

“หากข้าจําไม่ผิด นี่ควรจะเป็นหัวไชเท้าน้ําแข็ง มันเป็นพืชอมตะที่สูญพันธุ์ไปแล้วตั้งแต่อดีตกาล ผู้ใดจะคิดว่าวังสวรรค์จะเก็บมันไว้จนถึงตอนนี้” เฉียวจื่อไคกล่าว

 

เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉียว แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้

 

ดวงตาของวูหยงส่องประกายขึ้น “ถูกต้อง มันคือหัวไชเท้าน้ําแข็ง ทุกคนระวังให้ดี หากผู้ใดเข้าใกล้ มันจะระเบิดแสงอันเย็นเยียบออกมาและทําให้คนผู้นั้นแข็งตายทันที”

 

เฉียวจื่อไคอธิบายเสริม “อย่าประมาทแสงน้ําแข็ง มันเกิดจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของหัวไชเท้าน้ําแข็ง หลังจากมันยิงแสงน้ําแข็งออกมา หัวไชเท้าน้ําแข็งจะสูญเสียร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋และกลายเป็นทรัพยากรระดับมนุษย์ แสงน้ําแข็งของมันอาจมีพลังอํานาจระดับแปด”

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ระวังตัวมากขึ้น

 

ทันใดนั้นคลื่นกระแทกลึกลับพลันระเบิดออกมาจากความว่างเปล่า

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ปกป้องตนเองมานานแล้ว อย่างไรก็ตามคลื่นกระแทกไม่ได้โจมตีพวกเขา แต่เป้าหมายของมันคือหัวไชเท้าน้ําแข็ง

 

หัวไชเท้าน้ําแข็งหดตัวลงอย่างกะทันหันก่อนที่มันจะระเบิด

 

“บึม!”

 

แสงน้ําแข็งพุ่งออกไปทุกทิศทาง

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ใช้ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของตนเอง แต่ผู้อมตะคนหนึ่งยังถูกเปลี่ยนเป็นประติมากรรมน้ําแข็งภายในเวลาเพียงครึ่งลมหายใจ

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกตะลึง

 

เหตุการณ์นี้เกิดจากสิ่งลึกลับที่จื่อชิวหยูกล่าวถึงก่อนหน้านี้ มันทํางานร่วมกับหัวไชเท้าน้ําแข็งได้อย่างลงตัว

 

การแสดงออกของวูหยงกลายเป็นมืดครื้ม

 

เขาเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ แต่ตอนนี้พวกเขาสูญเสียสมาชิกคนแรกไปในที่สุด

 

วูหยงค่อนข้างกังวลและพยายามคิดหาวิธีรับมือกับสถานการณ์

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่คลื่นกระแทกปะทุขึ้นอีกครั้ง

 

“อยู่ใกล้ๆข้า!” ในช่วงเวลาสําคัญผู้อมตะกั่วหรันตะโกนและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะ

 

แสงน้ําแข็งยิงออกมาจากหัวไชเท้าน้ําแข็ง

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้รู้สึกถึงแรงกดันราวกับทุกคนถูกผนึกไว้ในโลงศพน้ําแข็ง

 

วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติระดับเจ็ด!

 

วิญญาณอมตะระดับเจ็ดดวงนี้ไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์แต่มันไม่ได้ไร้ประโยชน์

 

วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติช่วยให้กองกําลังพันธมิตรภาคใต้สามารถหลบหนีจากความตาย ในช่วงเวลาสําคัญ

 

แสงน้ําแข็งกลายเป็นไร้ความหมาย

 

“สถานการณ์เร่งด่วน ข้าต้องใช้วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติอย่างกะทันหัน มันมีระยะการทํางานที่ไม่แน่ชัด ข้าต้องขออภัยทุกท่านด้วย” ลั่วหรันรีบขอโทษ

 

วูหยงหัวเราะ “ทําได้ดีมาก!”

 

“วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติเป็นวิธีที่ดีในการตอบโต้ค่ายกลวิญญาณนี้” จื่อชิวหยูพยักหน้า ด้วยความยินดี

 

ลั่วหรันยิ้ม “ข้าได้รับวิญญาณอมตะดวงนี้มาจากร่องลึกใต้พิภพเมื่อเร็วๆนี้ ผู้ใดจะคิดว่ามันจะมีประโยชน์ที่นี่”

 

ทุกสิ่งบนโลกใบนี้มีจุดอ่อนและจุดแข็ง ไม่มีวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด มีเพียงผู้ใช้วิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด

 

วังสวรรค์สร้างค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ขึ้นมาด้วยวิญญาณอมตะระดับเจ็ดและวิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมหาศาล แต่มันยังถูกตอบโต้ด้วยวิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติเพียงดวงเดียว

 

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติ กลุ่มผู้อมตะภาคใต้จึงสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ

 

เนื่องจากค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์ถูกกระตุ้นใช้งาน ดังนั้นการอนุมานของจื่อชิวหยูจึงรวดเร็วขึ้น

 

ครูต่อมาจื่อชิวหยูก็พบช่องโหว่

 

เขากล่าวกับวูหยง “ค่ายกลวิญญาณนี้ยากที่จะทําลายจากภายใน ท่านผู้นํา เหตุใดท่านไม่ใช้วายุไร้ขอบเขตที่อยู่ด้านนอกทําลายมัน วิธีนี้จะง่ายกว่า”

 

วูหยงทําตามคําแนะนําของจื่อชิวหยูและบังคับวายุไร้ขอบเขตทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

กองกําลังพันธมิตรภาคใต้กลับสู่โลกภายนอก ขวัญกําลังใจของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น

 

ผลลัพธ์นี้ทําให้ผู้ควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์รู้สึกหนักใจ

 

หนึ่งในนั้นเป็นชายที่ดูเยาว์วัยในชุดคลุมเขียว เขาไม่ใช่ผู้ใดนอกจากผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ อดีตผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ และผู้สืบทอดของเทพอมตะบัวสวรรค์รุ่นปัจจุบัน เฉินอี้

 

“ผู้ใดจะคิดว่าศัตรูจะดุร้ายเช่นนี้ เหลือแนวป้องกันเพียงสามชั้นเท่านั้น” เฉินอี้คิดก่อนกล่าวกับคนด้านข้าง “เหตุใดเราไม่ร่วมมือกันและต่อสู้กับพวกเขา ด้วยวิธีนี้พวกเราจะสามารถซื้อเวลาให้ค่ายกลวิญญาณอมตะ”

 

ผู้อมตะหญิงที่อยู่ด้านข้างเฉินอี้คือเพ่ยกังซุ้ย นางเป็นสมาชิกวงสวรรค์ นางเคยเข้าร่วมในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมครั้งก่อน เมื่อได้ยินคํากล่าวของเฉินอี้ นางตกลงโดยไม่ลังเล

 

ทั้งสองเดินออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

วูหยงกับคนอื่นๆกําลังทําลายแนวป้องกันที่เจ็ดของค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

เฉินอี้ป้องหมัดขึ้น “สหายภาคใต้ ข้าคือเฉินอี้แห่งวังสวรรค์ มีผู้ใดต้องการต่อสู้กับข้าตัวต่อตัวหรือไม่?

 

รูม่านตาของวูหยงหดเล็กลง เขาโบกมือและนําบ้านไม้ไผ่สายลมออกมา

 

การต่อสู้ระหว่างผู้อมตะระดับแปด ผู้อมตะระดับเจ็ดไม่สามารถเข้าแทรกแซง แต่หากพวกเขาเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ พวกเขาจะสามารถเข้าร่วมการต่อสู้

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลปา ปาซื่อปา หัวเราะเสียงดัง “ตาแก่เฉินอี้ มันไม่ฉลาดที่เจ้าออกมาจากกระดอง ข้าจะต่อสู้กับเจ้า”

 

“เดี๋ยว! อย่าปล่อยให้เขาถ่วงเวลา เราจะโจมตีพร้อมกัน!” วูหยงหัวเราะและออกคําสั่ง

 

หากวูตู๋ซิ่วอยู่ที่นี่ นางจะยอมรับคําท้าทายของเฉินอี้และต่อสู้เพียงลําพัง

 

แต่วูหยงแตกต่างออกไป เหตุใดเขาต้องละทิ้งโอกาสประสบความสําเร็จ?

 

วูหยงนํากลุ่มผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้และคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านไม้ไผ่สายลม พุ่งไปข้างหน้าทันที

 

เฉินอี้และเพ่ยกังซุ้ยถูกโจมตีจากทุกทิศทาง

 

เพ่ยกังซุ้ยผลักฝามือส่งคลื่นสีขาวขนาดใหญ่ออกไป

 

ร่างของวูหยงกลายเป็นภาพติดตา ร่างจริงของเขาหายไปจากจุดนั้นอย่างกะทันหัน เพ่ยกังซุ้ยเผชิญหน้ากับกองทัพศัตรูด้วยพลังทั้งหมด

 

ปีกบนแผ่นหลังของอี้ห่าวฟางยิงพายุลูกศรจํานวนนับไม่ถ้วนไปยังเพยทั้งซุ้ยและเฉินอี้

 

“เข้ามา!” เฉินอี้สร้างต้นไม้มายาขนาดใหญ่ขึ้นรอบตัว

 

ฝนลูกศรพุ่งเข้าไปในปาและทําให้ใบไม้จํานวนมากร่วงหล่นลงจากต้น

 

เฉินอี้กําลังจะตอบโต้แต่วูหยงกลับปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเขาโดยไม่คาดคิด

 

“เขามีวิธีปกปิดที่ยอดเยี่ยม! ข้าไม่สามารถตรวจจับเขา!” เฉินอี้ตกใจมาก

 

ในช่วงเวลาสําคัญเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะหันหลังกลับ

 

“เราเป็นสหายตั้งแต่แรกพบ แต่ตอนนี้เจ้าต้องจากไป นี่คือการอําลาสหายที่ดีของข้า ให้ข้าส่งเจ้า” วูหยงเผยรอยยิ้มบาง

 

ใบหน้าของเฉินอี้กลายเป็นซีดเผือด

 

เขาตะโกนในใจ นี่คือท่าไม้ตายอมตะอําลาสหาย! วังสวรรค์หามันไม่พบ ผู้ใดจะคิดว่ามันจะอยู่ในมือของวูหยง”

 

ร่างของเฉินอี้ค่อยๆลอยขึ้น เส้นผม เสื้อผ้า และแขนขาของเขาเริ่มสูญสลาย

 

“ช่วยด้วย! เฉินอี้ตะโกนอยู่ในใจ เขาไม่สามารถส่งเสียงใดๆออกมา

 

เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนและไม่สามารถตอบโต้

 

กระทั่งท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมก็ไม่สามารถกระตุ้นใช้งาน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1709 วูหยงปะทะเฉินอี้

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1709 วูหยงปะทะเฉินอี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1709 วูหยงปะทะเฉินอี้

 

“บึ้ม!” เสียงระเบิดดังขึ้น

 

วูหยงนํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ทําลายแนวป้องกันที่ห้าของค่ายกลวิญญาณอมตะและมาถึงชั้นที่หก

 

พื้นที่ชั้นที่หกเป็นความมืดมิดอันไร้ขอบเขต

 

ผู้อมตะภาคใต้ราวกับมดตัวน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ขนาดใหญ่

 

“นี่คือค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ” ผู้อมตะตระกูลลั่วกล่าว

 

เขาสวมชุดพื้นเมืองของคนใต้ เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดและเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงของตระกูลลั่ว

 

ชื่อของเขาคือลั่วหรัน เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติและมีความสําเร็จที่ไม่น่าเชื่อ

 

“นี่คือค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งห้วงมิติจริงๆ” จื่อชิวหยูพยักหน้าเห็นด้วย “ให้ข้าอนุมาน”

 

การโจมตีแบบสุ่มไม่ใช่เรื่องฉลาด วิธีที่ดีที่สุดคือปล่อยให้ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกลอนุมานเพื่อหาจุดอ่อนของมัน

 

หลังจากอนุมาน จื่อชิวหยูกล่าว “ข้าไม่พบช่องโหว่ของค่ายกลนี้”

 

ลั่วหรันขมวดคิ้ว “แม้ข้าจะไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกล แต่ข้าพอมีความรู้เกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งห้วงมิติอยู่บ้าง ค่ายกลวิญญญาณชนิดนี้มักมีความสามารถเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการขยายพื้นที่ หลังจากเข้าสู่ค่ายกล ระยะทางหนึ่งก้าวจะยาวไกลราวกับหนึ่งร้อยก้าว”

 

จื่อชิวหยูหัวเราะ “สหายลั่วหรันฉลาดมาก นั่นถูกต้อง แต่ค่ายกลนี้ถูกดัดแปลง มีบางสิ่งซ่อนอยู่ภายใน

 

บางคนถาม “สิ่งใด?”

 

จื่อชิวหยูสายศีรษะ “ข้ายังไม่แน่ใจ ข้าเพียงสัมผัสถึงมันเท่านั้น เราควรทดสอบ จากนั้นข้าจะสามารถอนุมานต่อ อย่ากังวล มันไม่มีพลังโจมตี มันทําได้เพียงถ่วงเวลาพวกเราเท่านั้น”

 

“ในช่วงเวลานี้หากวังสวรรค์โจมตี ตราบเท่าที่พวกเราสามารถป้องกันตนเอง การเปลี่ยนแปลงใดก็ตามที่เกิดขึ้นจะทําให้ข้าสามารถอนุมานบางสิ่ง”

 

กลุ่มผู้อมตะเลือกทําตามคําแนะนําของจื่อชิวหยู

 

กองกําลังพันธมิตรภาคใต้ปกป้องจื่อชิวหยูที่อยู่ตรงกลางและมีวูหยงเป็นแนวหน้า

 

“ดู ข้างหน้ามีบางสิ่ง!” ผู้อมตะเหยาเทียนซีกล่าว

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้เคลื่อนที่ช้าลง พวกเขาเริ่มมองเห็นหัวไชเท้าขนาดใหญ่เท่าบ้านลอยอยู่กลางอากาศ

 

“มันคือสิ่งใด?” เหยาเทียนซีถาม

 

ทุกคนขมวดคิ้ว นี่ไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป

 

วูหยงนิ่งเงียบ เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับพืชอมตะแต่เขายังจําไม่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ

 

“หากข้าจําไม่ผิด นี่ควรจะเป็นหัวไชเท้าน้ําแข็ง มันเป็นพืชอมตะที่สูญพันธุ์ไปแล้วตั้งแต่อดีตกาล ผู้ใดจะคิดว่าวังสวรรค์จะเก็บมันไว้จนถึงตอนนี้” เฉียวจื่อไคกล่าว

 

เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉียว แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้

 

ดวงตาของวูหยงส่องประกายขึ้น “ถูกต้อง มันคือหัวไชเท้าน้ําแข็ง ทุกคนระวังให้ดี หากผู้ใดเข้าใกล้ มันจะระเบิดแสงอันเย็นเยียบออกมาและทําให้คนผู้นั้นแข็งตายทันที”

 

เฉียวจื่อไคอธิบายเสริม “อย่าประมาทแสงน้ําแข็ง มันเกิดจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของหัวไชเท้าน้ําแข็ง หลังจากมันยิงแสงน้ําแข็งออกมา หัวไชเท้าน้ําแข็งจะสูญเสียร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋และกลายเป็นทรัพยากรระดับมนุษย์ แสงน้ําแข็งของมันอาจมีพลังอํานาจระดับแปด”

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ระวังตัวมากขึ้น

 

ทันใดนั้นคลื่นกระแทกลึกลับพลันระเบิดออกมาจากความว่างเปล่า

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ปกป้องตนเองมานานแล้ว อย่างไรก็ตามคลื่นกระแทกไม่ได้โจมตีพวกเขา แต่เป้าหมายของมันคือหัวไชเท้าน้ําแข็ง

 

หัวไชเท้าน้ําแข็งหดตัวลงอย่างกะทันหันก่อนที่มันจะระเบิด

 

“บึม!”

 

แสงน้ําแข็งพุ่งออกไปทุกทิศทาง

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ใช้ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของตนเอง แต่ผู้อมตะคนหนึ่งยังถูกเปลี่ยนเป็นประติมากรรมน้ําแข็งภายในเวลาเพียงครึ่งลมหายใจ

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ตกตะลึง

 

เหตุการณ์นี้เกิดจากสิ่งลึกลับที่จื่อชิวหยูกล่าวถึงก่อนหน้านี้ มันทํางานร่วมกับหัวไชเท้าน้ําแข็งได้อย่างลงตัว

 

การแสดงออกของวูหยงกลายเป็นมืดครื้ม

 

เขาเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ แต่ตอนนี้พวกเขาสูญเสียสมาชิกคนแรกไปในที่สุด

 

วูหยงค่อนข้างกังวลและพยายามคิดหาวิธีรับมือกับสถานการณ์

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่คลื่นกระแทกปะทุขึ้นอีกครั้ง

 

“อยู่ใกล้ๆข้า!” ในช่วงเวลาสําคัญผู้อมตะกั่วหรันตะโกนและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะ

 

แสงน้ําแข็งยิงออกมาจากหัวไชเท้าน้ําแข็ง

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้รู้สึกถึงแรงกดันราวกับทุกคนถูกผนึกไว้ในโลงศพน้ําแข็ง

 

วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติระดับเจ็ด!

 

วิญญาณอมตะระดับเจ็ดดวงนี้ไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์แต่มันไม่ได้ไร้ประโยชน์

 

วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติช่วยให้กองกําลังพันธมิตรภาคใต้สามารถหลบหนีจากความตาย ในช่วงเวลาสําคัญ

 

แสงน้ําแข็งกลายเป็นไร้ความหมาย

 

“สถานการณ์เร่งด่วน ข้าต้องใช้วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติอย่างกะทันหัน มันมีระยะการทํางานที่ไม่แน่ชัด ข้าต้องขออภัยทุกท่านด้วย” ลั่วหรันรีบขอโทษ

 

วูหยงหัวเราะ “ทําได้ดีมาก!”

 

“วิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติเป็นวิธีที่ดีในการตอบโต้ค่ายกลวิญญาณนี้” จื่อชิวหยูพยักหน้า ด้วยความยินดี

 

ลั่วหรันยิ้ม “ข้าได้รับวิญญาณอมตะดวงนี้มาจากร่องลึกใต้พิภพเมื่อเร็วๆนี้ ผู้ใดจะคิดว่ามันจะมีประโยชน์ที่นี่”

 

ทุกสิ่งบนโลกใบนี้มีจุดอ่อนและจุดแข็ง ไม่มีวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด มีเพียงผู้ใช้วิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด

 

วังสวรรค์สร้างค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ขึ้นมาด้วยวิญญาณอมตะระดับเจ็ดและวิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมหาศาล แต่มันยังถูกตอบโต้ด้วยวิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติเพียงดวงเดียว

 

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะทําลายห้วงมิติ กลุ่มผู้อมตะภาคใต้จึงสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ

 

เนื่องจากค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์ถูกกระตุ้นใช้งาน ดังนั้นการอนุมานของจื่อชิวหยูจึงรวดเร็วขึ้น

 

ครูต่อมาจื่อชิวหยูก็พบช่องโหว่

 

เขากล่าวกับวูหยง “ค่ายกลวิญญาณนี้ยากที่จะทําลายจากภายใน ท่านผู้นํา เหตุใดท่านไม่ใช้วายุไร้ขอบเขตที่อยู่ด้านนอกทําลายมัน วิธีนี้จะง่ายกว่า”

 

วูหยงทําตามคําแนะนําของจื่อชิวหยูและบังคับวายุไร้ขอบเขตทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

กองกําลังพันธมิตรภาคใต้กลับสู่โลกภายนอก ขวัญกําลังใจของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น

 

ผลลัพธ์นี้ทําให้ผู้ควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์รู้สึกหนักใจ

 

หนึ่งในนั้นเป็นชายที่ดูเยาว์วัยในชุดคลุมเขียว เขาไม่ใช่ผู้ใดนอกจากผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ อดีตผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ และผู้สืบทอดของเทพอมตะบัวสวรรค์รุ่นปัจจุบัน เฉินอี้

 

“ผู้ใดจะคิดว่าศัตรูจะดุร้ายเช่นนี้ เหลือแนวป้องกันเพียงสามชั้นเท่านั้น” เฉินอี้คิดก่อนกล่าวกับคนด้านข้าง “เหตุใดเราไม่ร่วมมือกันและต่อสู้กับพวกเขา ด้วยวิธีนี้พวกเราจะสามารถซื้อเวลาให้ค่ายกลวิญญาณอมตะ”

 

ผู้อมตะหญิงที่อยู่ด้านข้างเฉินอี้คือเพ่ยกังซุ้ย นางเป็นสมาชิกวงสวรรค์ นางเคยเข้าร่วมในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมครั้งก่อน เมื่อได้ยินคํากล่าวของเฉินอี้ นางตกลงโดยไม่ลังเล

 

ทั้งสองเดินออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

วูหยงกับคนอื่นๆกําลังทําลายแนวป้องกันที่เจ็ดของค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

เฉินอี้ป้องหมัดขึ้น “สหายภาคใต้ ข้าคือเฉินอี้แห่งวังสวรรค์ มีผู้ใดต้องการต่อสู้กับข้าตัวต่อตัวหรือไม่?

 

รูม่านตาของวูหยงหดเล็กลง เขาโบกมือและนําบ้านไม้ไผ่สายลมออกมา

 

การต่อสู้ระหว่างผู้อมตะระดับแปด ผู้อมตะระดับเจ็ดไม่สามารถเข้าแทรกแซง แต่หากพวกเขาเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ พวกเขาจะสามารถเข้าร่วมการต่อสู้

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลปา ปาซื่อปา หัวเราะเสียงดัง “ตาแก่เฉินอี้ มันไม่ฉลาดที่เจ้าออกมาจากกระดอง ข้าจะต่อสู้กับเจ้า”

 

“เดี๋ยว! อย่าปล่อยให้เขาถ่วงเวลา เราจะโจมตีพร้อมกัน!” วูหยงหัวเราะและออกคําสั่ง

 

หากวูตู๋ซิ่วอยู่ที่นี่ นางจะยอมรับคําท้าทายของเฉินอี้และต่อสู้เพียงลําพัง

 

แต่วูหยงแตกต่างออกไป เหตุใดเขาต้องละทิ้งโอกาสประสบความสําเร็จ?

 

วูหยงนํากลุ่มผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้และคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านไม้ไผ่สายลม พุ่งไปข้างหน้าทันที

 

เฉินอี้และเพ่ยกังซุ้ยถูกโจมตีจากทุกทิศทาง

 

เพ่ยกังซุ้ยผลักฝามือส่งคลื่นสีขาวขนาดใหญ่ออกไป

 

ร่างของวูหยงกลายเป็นภาพติดตา ร่างจริงของเขาหายไปจากจุดนั้นอย่างกะทันหัน เพ่ยกังซุ้ยเผชิญหน้ากับกองทัพศัตรูด้วยพลังทั้งหมด

 

ปีกบนแผ่นหลังของอี้ห่าวฟางยิงพายุลูกศรจํานวนนับไม่ถ้วนไปยังเพยทั้งซุ้ยและเฉินอี้

 

“เข้ามา!” เฉินอี้สร้างต้นไม้มายาขนาดใหญ่ขึ้นรอบตัว

 

ฝนลูกศรพุ่งเข้าไปในปาและทําให้ใบไม้จํานวนมากร่วงหล่นลงจากต้น

 

เฉินอี้กําลังจะตอบโต้แต่วูหยงกลับปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเขาโดยไม่คาดคิด

 

“เขามีวิธีปกปิดที่ยอดเยี่ยม! ข้าไม่สามารถตรวจจับเขา!” เฉินอี้ตกใจมาก

 

ในช่วงเวลาสําคัญเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะหันหลังกลับ

 

“เราเป็นสหายตั้งแต่แรกพบ แต่ตอนนี้เจ้าต้องจากไป นี่คือการอําลาสหายที่ดีของข้า ให้ข้าส่งเจ้า” วูหยงเผยรอยยิ้มบาง

 

ใบหน้าของเฉินอี้กลายเป็นซีดเผือด

 

เขาตะโกนในใจ นี่คือท่าไม้ตายอมตะอําลาสหาย! วังสวรรค์หามันไม่พบ ผู้ใดจะคิดว่ามันจะอยู่ในมือของวูหยง”

 

ร่างของเฉินอี้ค่อยๆลอยขึ้น เส้นผม เสื้อผ้า และแขนขาของเขาเริ่มสูญสลาย

 

“ช่วยด้วย! เฉินอี้ตะโกนอยู่ในใจ เขาไม่สามารถส่งเสียงใดๆออกมา

 

เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนและไม่สามารถตอบโต้

 

กระทั่งท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมก็ไม่สามารถกระตุ้นใช้งาน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+