Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1727 สังหารฟางหยวนเพื่อช่วยโลก

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1727 สังหารฟางหยวนเพื่อช่วยโลก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1727 สังหารฟางหยวนเพื่อช่วยโลก

 

ความสําเร็จของฟางหยวนเกิดจากการทํางานหนักของเขาและความช่วยเหลือจากคนรุ่นก่อน

 

แต่วังสวรรค์ก็เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีของฟางหยวน และผู้อมตะจากภูมิภาคอื่น นี่คือรากฐานและความแข็งแกร่งของพวกเขา

 

“ไม่มีทางเลือก ข้าต้องถอยเท่านั้น” ฟางหยวนคิด

 

เขาไม่มีความคิดที่จะทําลายเมืองจักรพรรดิอีกต่อไป

 

มันไม่มีประโยชน์ที่จะทําลายเมืองจักรพรรดิ

 

แต่ในจังหวะนี้แผ่นดินกลับแยกออกและกลืนกินภูเขาทั้งหมดเข้าไปด้วยความเร็วสูง

 

ด้วยความบังเอิญ เมืองจักรพรรดิอยู่ในเส้นทางของรอยแยกดังกล่าว

 

“โอ้ ไม่!”

 

“ปกป้องเมืองจักรพรรดิ!”

 

เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน

 

ผู้อมตะภาคกลางพยายามปกป้องเมืองจักรพรรดิ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถต่อต้านพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์พิภพ

 

ทุกคนทําได้เพียงเฝ้ามองรอยแยกกลืนกินเมืองจักรพรรดิเข้าไปเท่านั้น

 

เมืองจักรพรรดิจมลงสู่ร่องลึกใต้พิภพและสลายตัวอย่างต่อเนื่อง

 

ในเมืองแห่งนี้มีประชากรนับล้านคน มีผู้ใช้วิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วน พวกเขาล้วนเป็นชนชั้นสูงจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อต่อต้านฟางหยวน มีคนโชคดีจํานวนมากมารวมตัวกันที่นี่

 

เย่ฟานและหงอี้เป็นส่วนหนึ่งของคนกลุ่มนี้

 

“ช่วยพวกเขา!” หลี่ฮวงตะโกน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าจะช่วยให้เจ้าสมปรารถนา!” ฟางหยวนโจมตี

 

ตอนนี้เขาอยู่ในร่างราชันภูต เขาสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณได้อย่างง่ายดาย

 

ฟางหยวนเห็นหงอี้กับเยู่ฟานที่มีโชคเชื่อมต่อกับเขาและรู้สึกไม่แปลกใจที่โชคของเขาถูกระงับมาตลอด

 

ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป!

 

ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรฤดูใบไม้ผลิ

 

ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน!

 

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นอสูรปีวอกแรกกําเนิด และใช้อีกสองท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

“บัดซบ!” หลี่ฮวงไม่สามารถหยุดฟางหยวน เขาตะโกนด้วยความโกรธและทําได้เพียงเฝ้ามอง ผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนตกตายเท่านั้น

 

ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้มีชนชั้นสูงที่เข้าร่วมในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศรวมอยู่ด้วย

 

หงอี้และเยฟานก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

“ฟางหยวน เจ้าเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่เจ้ากลับสังหารมนุษย์ เจ้าช่างชั่วร้ายนัก เจ้าสมควรตาย เจ้าต้องตาย!” ดวงตาของชิงเต่กลายเป็นแดง… เขาพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนด้วยความโกรธ

 

การโจมตีของฟางหยวนทําให้ภาคกลางพบความสูญเสียครั้งใหญ่

 

เมืองจักรพรรดิเป็นสถานที่สําคัญของภาคกลาง มันมีการจัดเตรียมบนเส้นทางมนุษย์ที่สามารถสนับสนุนผู้อมตะของภาคกลางทั้งหมด

 

ภาคกลางใช้ระบบนิกาย เมืองจักรพรรดิเป็นสถานที่ผลิตอัจฉริยะที่มีโชคมากมาย หากผู้คนเหล่านี้สามารถเติบโต มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะกลายเป็นผู้อมตะในอนาคต

ในสงครามห้าภูมิภาค ผู้อมตะจํานวนมากจะตกตาย ผู้คนเหล่านี้เป็นเมล็ดพันธุ์อมตะและเป็นกําลังรบของภาคกลาง

 

การสูญเสียนี้ทําให้หลี่ฮวงและชิงเยโกรธมาก พวกเขาต้องการฉีกร่างของฟางหยวนออกเป็นชิ้นๆ

 

ด้านฟางหยวน เขารู้สึกโล่งใจ หลังจากกําจัดผู้คนเหล่านั้น เขาจะมีความได้เปรียบด้านโชคมากขึ้น

 

ฟางหยวนกวาดตามองซากเมืองจักรพรรดิก่อนจะล่าถอย

 

หลี่ฮวงและชิงเย่ไล่ล่าเขาอย่างไม่ลดละ

 

“ปีศาจ!”

 

“เขาฆ่าทุกคนในเมือง ครอบครัวของข้าอยู่ที่นั่น!”

 

“ฆ่าเขา กําจัดภัยพิบัติของโลกใบนี้!

 

ผู้อมตะภาคกลางเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

 

ฟางหยวนหัวเราะ “ผู้ใดจะสามารถหยุดข้า?”

 

แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดทําได้

 

ฟางหยวนไม่สามารถทําสิ่งใดกับผู้อมตะภาคกลางและคฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจับตัวฟางหยวนเช่นกัน

 

เว้นเพียงพวกเขาจะมีค่ายกลวิญญาณอมตะหรือเขตแดนอมตะ แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาไม่สามารถจัดตั้งพวกมัน

 

นอกจากนั้นแม้พวกเขาจะสามารถขังฟางหยวนไว้ในค่ายกลวิญญาณอมตะหรือเขตแดนอมตะ ฟางหยวนก็ยังมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ทรงพลัง เขาจะสามารถหลบหนีออกไปได้ในที่สุด

 

การเสียชีวิตของโจวซ่งซินเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด

 

“บึม!”

 

ด้วยการโจมตีที่รุนแรงของฟางหยวน คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังหนึ่งของภาคกลางเกือบพังทลายลง

 

ฟางเจิ้งอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ เหงื่ออันเย็นเยียบไหลลงมาจากหน้าผากของเขา ด้วยความหวาดกลัว เขารีบซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่นๆเคลื่อนที่เข้ามาสนับสนุน

 

ฟางหยวนไม่รู้ว่าฟางเจิ้งอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ แต่สัญชาตญาณของเขาบอกว่า เขาจะได้รับประโยชน์มากหากเขาสามารถทําลายมัน

 

การดํารงอยู่ของฟางเจิ้งเป็นภัยคุกคามของเขา

 

“ฟางหยวน ฟางหยวน!” แต่ในจังหวะนี้ปิงช่ายฉวนกลับติดต่อเขาอีกครั้ง

 

“บิงชายฉวน เจ้ายังกล้าติดต่อข้าอีกงั้นหรือ? ความล้มเหลวทั้งหมดในวันนี้เป็นเพราะเจ้า!” ฟางหยวนโกรธมาก

 

แม้วังสวรรค์จะมีรากฐานที่ลึกล้ําแต่พวกเขาก็ยังเสียเปรียบการร่วมมือกันของสี่ภูมิภาค

 

อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่งทําให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่อีกสี่ภูมิภาคไม่สามารถทํางานร่วมกัน

 

ในความเป็นจริงกองกําลังของทั้งสี่ภูมิภาคยังเก็บรักษาความแข็งแกร่งส่วนใหญ่ของพวกเขาเอาไว้ ตัวอย่างเช่นทะเลทรายตะวันตกที่ไม่ได้นําผู้อมตะระดับแปดและคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดออกมา ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลต่างๆไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขายังอยู่ที่ทะเลทรายตะวันตก

 

ปิงชายฉวนถอนหายใจ “ข้าไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เราพบความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่เรายังมีโอกาส นั่นคือแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ!”

 

วังสวรรค์จัดการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมขึ้นมาเพราะพวกเขาต้องการร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ความสําเร็จ

 

ตอนนี้การฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมยังไม่ประสบความสําเร็จ มันยังขาดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความสําเร็จ

 

แม้การแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมจะจบลงแล้ว แต่มันยังต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยก่อนที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติจะผลิตร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความสําเร็จขึ้นมาและถูกส่งไปยังวังสวรรค์

 

แม้ค่ายกลวิญญาณอมตะจะสามารถหยุดการโจมตีของกองกําลังพันธมิตรภาคใต้ แต่มันยังมีปั ญหาในการขนส่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ความสําเร็จ

 

หลังจากได้ยินคําอธิบายของปิงช่ายฉวน ฟางหยวนรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น “ดูเหมือนแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติจะเป็นความหวังสุดท้ายของเรา”

 

ฟางหยวนเร่งเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติโดยไม่ลังเล

 

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

วายุไร้ขอบเขตพยายามทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์ ขณะเดียวกันค่ายกลวิญญาณอมตะก็พยายามต่อต้านอย่างสุดกําลัง

วูหยงและคนอื่นๆแสดงออกอย่างเคร่งขรึม

 

จื่อชิวหยูกล่าวเสียงต่ํา “ไม่น่าเชื่อ พลังอํานาจของค่ายกลวิญญาณอมตะของพวกเขาเพิ่มขึ้นเช่นกัน วิธีบนเส้นทางมนุษย์ของภาคกลางช่างอัศจรรย์นัก!”

 

วูหยงเสียสละร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เพื่อปลดปล่อยวายุไร้ขอบเขต แม้ตอนนี้พวกเขาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่กําไรของพวกเขายังน้อยกว่าก่อนหน้า

 

“ดูเหมือนเราต้องโจมตีจากภายนอกและภายในพร้อมกัน” อี้ห่าวฟางกล่าว

 

ปาซื่อปาคิดก่อนกล่าว “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ก่อนหน้านี้เราลอบโจมตีโดยไม่ให้เวลาพวกเขาเตรียมตัว แต่ตอนนี้เราต้องระวังกําลังเสริมจากวังสวรรค์ เราต้องการความช่วยเหลือจากคนนอก”

 

ทุกคนเห็นด้วยกับคํากล่าวของปาซื่อปา

 

แม้วายุไร้ขอบเขตจะทรงพลัง แต่มันก็เป็นเพียงท่าไม้ตาย เมื่อมันถูกใช้งานไปแล้ว ฝ่ายตรงข้ามจะสามารถตอบโต้มันได้ในที่สุด

 

วูหยงรู้สึกหนักใจ

 

การลอบโจมตีล้มเหลว เขาไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะได้อย่างรวดเร็ว

 

วูหยงตระหนักว่ายิ่งสถานการณ์นี้ดําเนินต่อไปนานเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งเสียเปรียบมากเท่านั้น พวกเขาต้องแยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปข้างในขณะที่อีกกลุ่มอยู่ด้านนอก อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาทําเช่นนั้น เมื่อกําลังเสริมของวังสวรรค์มาถึง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันมากขึ้นเช่นกัน

 

วูหยงถอนหายใจ แม้การแยกกลุ่มจะนําไปสู่ปัญหา แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก

 

“แม้ข้าจะเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ แต่ข้าก็ไม่สามารถระดมคนมามากกว่านี้ ผู้อมตะระดับแปดสามคนคือขีดจํากัด” วูหยงสูดหายใจลึกและเริ่มเตรียมการ

 

จื่อชิวหยูเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกล เขาต้องเข้าไปภายใน วูหยงมีพลังการต่อสู้สูงที่สุด เขาต้องเข้าไปปกป้องจื่อชิวหยูและต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ภายใน

 

ในเวลาเดียวกันกําลังเสริมของวังสวรรค์อาจแข็งแกร่งมาก มันจะปลอดภัยกว่าหากทิ้งปาซื่อปาและอี้ห่าวฟางที่เป็นผู้อมตะระดับแปดไว้ด้านนอก

 

ขณะที่กลุ่มผู้อมตะภาคใต้กําลังพูดคุยเกี่ยวกับแผนการของพวกเขา การแสดงออกของวูหยงพลันเปลี่ยนแปลงไป เขามองไปทางทิศเหนือและกล่าวเบาๆ “บางคนกําลังมา”

 

กองกําลังที่นําโดยสามผู้อมตะระดับแปดเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา

 

ผู้อมตะระดับแปดคนแรกคือชายชราถือไม้เท้าที่ดูใจดี เขาเป็นอดีตผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเผ่าเหยาและเป็นราชันใต้คนปัจจุบันของถ้ําสวรรค์นิรันดร เหยากวง!

 

ผู้อมตะระดับแปดคนที่สองอยู่ในชุดคลุมขาว ร่างกายสูงใหญ่ เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเผ่าไป่ซู จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู!

 

ผู้อมตะระดับแปดคนที่สามสวมมงกุฎทรงสูงและสวมชุดคลุมสีทอง เขาก็คือองค์ชายฟังเซียน!

 

กลุ่มผู้อมตะที่ติดตามมาด้านหลังพวกเขาล้วนเป็นชนชั้นสูงของภาคเหนือไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิอมตะชูตู๋ เหนียงเอ๋อเฉียน หยวนหรางซุน เหนียงเอ๋อฝู และคนอื่นๆ

 

“สหายจากภาคเหนือ พวกเจ้าต้องการสิ่งใด?” วูหยงถามเสียงดัง

 

เหยากวงหัวเราะก่อนกล่าว “ศัตรูอยู่เบื้องหน้า พวกเราจะร่วมมือกับพวกเจ้าโจมตีวังสวรรค์!”

 

วูหยงหัวเราะเสียงดัง กําลังเสริมของวังสวรรค์ยังไม่มา แต่เขากลับได้พันธมิตรใหม่มาแทน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1727 สังหารฟางหยวนเพื่อช่วยโลก

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1727 สังหารฟางหยวนเพื่อช่วยโลก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1727 สังหารฟางหยวนเพื่อช่วยโลก

 

ความสําเร็จของฟางหยวนเกิดจากการทํางานหนักของเขาและความช่วยเหลือจากคนรุ่นก่อน

 

แต่วังสวรรค์ก็เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีของฟางหยวน และผู้อมตะจากภูมิภาคอื่น นี่คือรากฐานและความแข็งแกร่งของพวกเขา

 

“ไม่มีทางเลือก ข้าต้องถอยเท่านั้น” ฟางหยวนคิด

 

เขาไม่มีความคิดที่จะทําลายเมืองจักรพรรดิอีกต่อไป

 

มันไม่มีประโยชน์ที่จะทําลายเมืองจักรพรรดิ

 

แต่ในจังหวะนี้แผ่นดินกลับแยกออกและกลืนกินภูเขาทั้งหมดเข้าไปด้วยความเร็วสูง

 

ด้วยความบังเอิญ เมืองจักรพรรดิอยู่ในเส้นทางของรอยแยกดังกล่าว

 

“โอ้ ไม่!”

 

“ปกป้องเมืองจักรพรรดิ!”

 

เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน

 

ผู้อมตะภาคกลางพยายามปกป้องเมืองจักรพรรดิ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถต่อต้านพลังอํานาจอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์พิภพ

 

ทุกคนทําได้เพียงเฝ้ามองรอยแยกกลืนกินเมืองจักรพรรดิเข้าไปเท่านั้น

 

เมืองจักรพรรดิจมลงสู่ร่องลึกใต้พิภพและสลายตัวอย่างต่อเนื่อง

 

ในเมืองแห่งนี้มีประชากรนับล้านคน มีผู้ใช้วิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วน พวกเขาล้วนเป็นชนชั้นสูงจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อต่อต้านฟางหยวน มีคนโชคดีจํานวนมากมารวมตัวกันที่นี่

 

เย่ฟานและหงอี้เป็นส่วนหนึ่งของคนกลุ่มนี้

 

“ช่วยพวกเขา!” หลี่ฮวงตะโกน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าจะช่วยให้เจ้าสมปรารถนา!” ฟางหยวนโจมตี

 

ตอนนี้เขาอยู่ในร่างราชันภูต เขาสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณได้อย่างง่ายดาย

 

ฟางหยวนเห็นหงอี้กับเยู่ฟานที่มีโชคเชื่อมต่อกับเขาและรู้สึกไม่แปลกใจที่โชคของเขาถูกระงับมาตลอด

 

ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป!

 

ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรฤดูใบไม้ผลิ

 

ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน!

 

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นอสูรปีวอกแรกกําเนิด และใช้อีกสองท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

“บัดซบ!” หลี่ฮวงไม่สามารถหยุดฟางหยวน เขาตะโกนด้วยความโกรธและทําได้เพียงเฝ้ามอง ผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วนตกตายเท่านั้น

 

ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้มีชนชั้นสูงที่เข้าร่วมในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศรวมอยู่ด้วย

 

หงอี้และเยฟานก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

“ฟางหยวน เจ้าเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่เจ้ากลับสังหารมนุษย์ เจ้าช่างชั่วร้ายนัก เจ้าสมควรตาย เจ้าต้องตาย!” ดวงตาของชิงเต่กลายเป็นแดง… เขาพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนด้วยความโกรธ

 

การโจมตีของฟางหยวนทําให้ภาคกลางพบความสูญเสียครั้งใหญ่

 

เมืองจักรพรรดิเป็นสถานที่สําคัญของภาคกลาง มันมีการจัดเตรียมบนเส้นทางมนุษย์ที่สามารถสนับสนุนผู้อมตะของภาคกลางทั้งหมด

 

ภาคกลางใช้ระบบนิกาย เมืองจักรพรรดิเป็นสถานที่ผลิตอัจฉริยะที่มีโชคมากมาย หากผู้คนเหล่านี้สามารถเติบโต มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะกลายเป็นผู้อมตะในอนาคต

ในสงครามห้าภูมิภาค ผู้อมตะจํานวนมากจะตกตาย ผู้คนเหล่านี้เป็นเมล็ดพันธุ์อมตะและเป็นกําลังรบของภาคกลาง

 

การสูญเสียนี้ทําให้หลี่ฮวงและชิงเยโกรธมาก พวกเขาต้องการฉีกร่างของฟางหยวนออกเป็นชิ้นๆ

 

ด้านฟางหยวน เขารู้สึกโล่งใจ หลังจากกําจัดผู้คนเหล่านั้น เขาจะมีความได้เปรียบด้านโชคมากขึ้น

 

ฟางหยวนกวาดตามองซากเมืองจักรพรรดิก่อนจะล่าถอย

 

หลี่ฮวงและชิงเย่ไล่ล่าเขาอย่างไม่ลดละ

 

“ปีศาจ!”

 

“เขาฆ่าทุกคนในเมือง ครอบครัวของข้าอยู่ที่นั่น!”

 

“ฆ่าเขา กําจัดภัยพิบัติของโลกใบนี้!

 

ผู้อมตะภาคกลางเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

 

ฟางหยวนหัวเราะ “ผู้ใดจะสามารถหยุดข้า?”

 

แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดทําได้

 

ฟางหยวนไม่สามารถทําสิ่งใดกับผู้อมตะภาคกลางและคฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจับตัวฟางหยวนเช่นกัน

 

เว้นเพียงพวกเขาจะมีค่ายกลวิญญาณอมตะหรือเขตแดนอมตะ แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาไม่สามารถจัดตั้งพวกมัน

 

นอกจากนั้นแม้พวกเขาจะสามารถขังฟางหยวนไว้ในค่ายกลวิญญาณอมตะหรือเขตแดนอมตะ ฟางหยวนก็ยังมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ทรงพลัง เขาจะสามารถหลบหนีออกไปได้ในที่สุด

 

การเสียชีวิตของโจวซ่งซินเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด

 

“บึม!”

 

ด้วยการโจมตีที่รุนแรงของฟางหยวน คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังหนึ่งของภาคกลางเกือบพังทลายลง

 

ฟางเจิ้งอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ เหงื่ออันเย็นเยียบไหลลงมาจากหน้าผากของเขา ด้วยความหวาดกลัว เขารีบซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่นๆเคลื่อนที่เข้ามาสนับสนุน

 

ฟางหยวนไม่รู้ว่าฟางเจิ้งอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ แต่สัญชาตญาณของเขาบอกว่า เขาจะได้รับประโยชน์มากหากเขาสามารถทําลายมัน

 

การดํารงอยู่ของฟางเจิ้งเป็นภัยคุกคามของเขา

 

“ฟางหยวน ฟางหยวน!” แต่ในจังหวะนี้ปิงช่ายฉวนกลับติดต่อเขาอีกครั้ง

 

“บิงชายฉวน เจ้ายังกล้าติดต่อข้าอีกงั้นหรือ? ความล้มเหลวทั้งหมดในวันนี้เป็นเพราะเจ้า!” ฟางหยวนโกรธมาก

 

แม้วังสวรรค์จะมีรากฐานที่ลึกล้ําแต่พวกเขาก็ยังเสียเปรียบการร่วมมือกันของสี่ภูมิภาค

 

อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่งทําให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่อีกสี่ภูมิภาคไม่สามารถทํางานร่วมกัน

 

ในความเป็นจริงกองกําลังของทั้งสี่ภูมิภาคยังเก็บรักษาความแข็งแกร่งส่วนใหญ่ของพวกเขาเอาไว้ ตัวอย่างเช่นทะเลทรายตะวันตกที่ไม่ได้นําผู้อมตะระดับแปดและคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดออกมา ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลต่างๆไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขายังอยู่ที่ทะเลทรายตะวันตก

 

ปิงชายฉวนถอนหายใจ “ข้าไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เราพบความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่เรายังมีโอกาส นั่นคือแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ!”

 

วังสวรรค์จัดการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมขึ้นมาเพราะพวกเขาต้องการร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ความสําเร็จ

 

ตอนนี้การฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมยังไม่ประสบความสําเร็จ มันยังขาดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความสําเร็จ

 

แม้การแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมจะจบลงแล้ว แต่มันยังต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยก่อนที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติจะผลิตร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความสําเร็จขึ้นมาและถูกส่งไปยังวังสวรรค์

 

แม้ค่ายกลวิญญาณอมตะจะสามารถหยุดการโจมตีของกองกําลังพันธมิตรภาคใต้ แต่มันยังมีปั ญหาในการขนส่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ความสําเร็จ

 

หลังจากได้ยินคําอธิบายของปิงช่ายฉวน ฟางหยวนรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น “ดูเหมือนแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติจะเป็นความหวังสุดท้ายของเรา”

 

ฟางหยวนเร่งเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติโดยไม่ลังเล

 

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

วายุไร้ขอบเขตพยายามทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของวังสวรรค์ ขณะเดียวกันค่ายกลวิญญาณอมตะก็พยายามต่อต้านอย่างสุดกําลัง

วูหยงและคนอื่นๆแสดงออกอย่างเคร่งขรึม

 

จื่อชิวหยูกล่าวเสียงต่ํา “ไม่น่าเชื่อ พลังอํานาจของค่ายกลวิญญาณอมตะของพวกเขาเพิ่มขึ้นเช่นกัน วิธีบนเส้นทางมนุษย์ของภาคกลางช่างอัศจรรย์นัก!”

 

วูหยงเสียสละร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เพื่อปลดปล่อยวายุไร้ขอบเขต แม้ตอนนี้พวกเขาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่กําไรของพวกเขายังน้อยกว่าก่อนหน้า

 

“ดูเหมือนเราต้องโจมตีจากภายนอกและภายในพร้อมกัน” อี้ห่าวฟางกล่าว

 

ปาซื่อปาคิดก่อนกล่าว “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ก่อนหน้านี้เราลอบโจมตีโดยไม่ให้เวลาพวกเขาเตรียมตัว แต่ตอนนี้เราต้องระวังกําลังเสริมจากวังสวรรค์ เราต้องการความช่วยเหลือจากคนนอก”

 

ทุกคนเห็นด้วยกับคํากล่าวของปาซื่อปา

 

แม้วายุไร้ขอบเขตจะทรงพลัง แต่มันก็เป็นเพียงท่าไม้ตาย เมื่อมันถูกใช้งานไปแล้ว ฝ่ายตรงข้ามจะสามารถตอบโต้มันได้ในที่สุด

 

วูหยงรู้สึกหนักใจ

 

การลอบโจมตีล้มเหลว เขาไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะได้อย่างรวดเร็ว

 

วูหยงตระหนักว่ายิ่งสถานการณ์นี้ดําเนินต่อไปนานเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งเสียเปรียบมากเท่านั้น พวกเขาต้องแยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปข้างในขณะที่อีกกลุ่มอยู่ด้านนอก อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาทําเช่นนั้น เมื่อกําลังเสริมของวังสวรรค์มาถึง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันมากขึ้นเช่นกัน

 

วูหยงถอนหายใจ แม้การแยกกลุ่มจะนําไปสู่ปัญหา แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก

 

“แม้ข้าจะเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรภาคใต้ แต่ข้าก็ไม่สามารถระดมคนมามากกว่านี้ ผู้อมตะระดับแปดสามคนคือขีดจํากัด” วูหยงสูดหายใจลึกและเริ่มเตรียมการ

 

จื่อชิวหยูเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกล เขาต้องเข้าไปภายใน วูหยงมีพลังการต่อสู้สูงที่สุด เขาต้องเข้าไปปกป้องจื่อชิวหยูและต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ภายใน

 

ในเวลาเดียวกันกําลังเสริมของวังสวรรค์อาจแข็งแกร่งมาก มันจะปลอดภัยกว่าหากทิ้งปาซื่อปาและอี้ห่าวฟางที่เป็นผู้อมตะระดับแปดไว้ด้านนอก

 

ขณะที่กลุ่มผู้อมตะภาคใต้กําลังพูดคุยเกี่ยวกับแผนการของพวกเขา การแสดงออกของวูหยงพลันเปลี่ยนแปลงไป เขามองไปทางทิศเหนือและกล่าวเบาๆ “บางคนกําลังมา”

 

กองกําลังที่นําโดยสามผู้อมตะระดับแปดเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา

 

ผู้อมตะระดับแปดคนแรกคือชายชราถือไม้เท้าที่ดูใจดี เขาเป็นอดีตผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเผ่าเหยาและเป็นราชันใต้คนปัจจุบันของถ้ําสวรรค์นิรันดร เหยากวง!

 

ผู้อมตะระดับแปดคนที่สองอยู่ในชุดคลุมขาว ร่างกายสูงใหญ่ เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเผ่าไป่ซู จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู!

 

ผู้อมตะระดับแปดคนที่สามสวมมงกุฎทรงสูงและสวมชุดคลุมสีทอง เขาก็คือองค์ชายฟังเซียน!

 

กลุ่มผู้อมตะที่ติดตามมาด้านหลังพวกเขาล้วนเป็นชนชั้นสูงของภาคเหนือไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิอมตะชูตู๋ เหนียงเอ๋อเฉียน หยวนหรางซุน เหนียงเอ๋อฝู และคนอื่นๆ

 

“สหายจากภาคเหนือ พวกเจ้าต้องการสิ่งใด?” วูหยงถามเสียงดัง

 

เหยากวงหัวเราะก่อนกล่าว “ศัตรูอยู่เบื้องหน้า พวกเราจะร่วมมือกับพวกเจ้าโจมตีวังสวรรค์!”

 

วูหยงหัวเราะเสียงดัง กําลังเสริมของวังสวรรค์ยังไม่มา แต่เขากลับได้พันธมิตรใหม่มาแทน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+