Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1743 โอกาสสุดท้าย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1743 โอกาสสุดท้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1743 โอกาสสุดท้าย

 

“มันสายเกินไปที่จะถอย ทุกคน โปรดร่วมมือกันต่อต้านวังสวรรค์ พวกเขาจึงใช้วิญญาณชะตากรรม พวกเขาไม่สามารถใช้มันได้ในระยะเวลาสั้นๆ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเรา!” ปิงช่ายฉวนตะโกนเสียงดัง

 

กลุ่มผู้อมตะตอบสนองทันที พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยฟันที่กัดแน่น

 

ปิงช่ายฉวนกล่าวได้ถูกต้อง หอคอยดวงตาสวรรค์รวดเร็วเกินไป พวกเขาไม่สามารถหลบหนี

 

ไม่ใช่ว่าไม่มีผู้ใดคิดใช้ประโยชน์จากผู้อื่นเพื่อถ่วงเวลาให้ตนเองหลบหนี แต่สิ่งสําคัญก็คือภาคกลางใหญ่โตเกินไป แม้พวกเขาจะหลบหนีไปในทิศทางที่แตกต่างกัน หอคอยดวงตาสวรรค์ ก็ยังมีเวลาพอที่จะไล่ล่าและกําจัดพวกเขา

 

ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือเข้าใจสถานการณ์ พวกเขาต้องต่อสู้เท่านั้น

 

ทุกคนใช้ทุกสิ่งที่ตนเองมีออกมาอย่างสิ้นหวัง

 

สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน

 

“จื่อเว่ย ประกาศข่าวการกลับมาของวิญญาณชะตากรรมให้โลกรู้หรือยัง?” ราชันมังกรติดต่อเทพธิดาจื่อเว่ย

 

หลังจากไม่นานเทพธิดาจื่อเว่ยก็ตอบกลับ “ข่าวถูกเผยแพร่ออกไปในสวรรค์สีเหลือง แล้ว นอกจากนั้นฉากการต่อสู้ในขณะนี้ของท่านราชันมังกรก็กําลังถูกเผยแพร่อยู่ทุกหนทุกแห่ง ด้วยวิธีบนเส้นทางมนุษย์”

 

การเผยแพร่ข่าวการฟื้นคืนของวิญญาณชะตากรรมเป็นการยกขวัญกําลังใจผู้อมตะภาคกลาง และข่มขู่ศัตรูของพวกเขา

 

ผู้อมตะและผู้ใช้วิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วนได้ยินข่าวและได้เห็นฉากการต่อสู้ในปัจจุบัน

 

การกระทําของวังสวรรค์แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในชัยชนะของพวกเขา

 

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณชะตากรรมระดับเก้า วังสวรรค์จะไม่แพ้

 

เทพธิดาจื่อเว่ยต้องการใช้โอกาสนี้แสดงความแข็งแกร่งของวังสวรรค์โดยการจับกุมผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือในครั้งเดียว

 

ราชันมังกรเข้าใจความคิดของเทพธิดาจื่อเว่ยแต่เขายังขมวดคิ้ว

 

“ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย พวกเขาเหมือนสัตว์ร้ายที่ถูกต้อนเข้ามุมและพยายามดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย นี่ทําให้เรากลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้มันจะเป็นเรื่องชั่วคราวก็ตาม…”

 

เนื่องจากเทพธิดาจื่อเว่ยลงมือทําไปแล้ว ราชันมังกรจึงต้องให้ความร่วมมือกับนาง

 

พวกเขาต้องแสดงพลังอํานาจของวังสวรรค์ที่ไม่สามารถต่อต้านออกมา

 

ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

 

มันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า หลังจากวิญญาณชะตากรรมฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ พลังอํานาจของท่าไม้ตายนี้ยิ่งน่ากลัวมากกว่าเดิม

 

แต่ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตาไม่สามารถใช้งานติดต่อกัน มันต้องใช้เวลาพักฟื้นชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

“ดูเหมือนข้าต้องเคลื่อนไหวด้วยตนเอง มิฉะนั้นการแสดงของเราอาจดูไม่ดี”

 

ราชันมังกรออกคําสั่งให้ผู้อมตะหลายคนเข้าควบคุมหอคอยดวงตาสวรรค์ขณะที่เขาบินออกไป

 

“ราชันมังกรออกมาแล้ว ระวังเขาให้มาก!” ชิงช่ายฉวนเตือนคนอื่นๆ

 

“โจมตีพร้อมกัน!” เหยากวงตะโกน

 

บ้านไม้ไผ่สายลมและคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่นๆเคลื่อนไหวเช่นกัน

ราชันมังกรถูกปิดล้อมทันที

 

ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดจํานวนนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมาและทําให้โลกตกตะลึง

 

“ระวัง!”

 

“บัดซบ!”

 

“หลบ!”

 

ทั่วทั้งภาคกลางโดยเฉพาะสิบนิกายโบราณ ผู้อมตะจํานวนมากอุทานด้วยความตกใจ

 

พวกเขาเห็นราชันมังกรถูกปิดล้อมและรู้สึกกังวล

 

“บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”

 

เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ภายใต้ฝุ่นควัน ราชันมังกรยังไม่เคลื่อนไหว

 

ปราณมังกรทั้งเก้าที่เกิดจากท่าไม้ตายอมตะเก้ามังกรคุ้มภัยรัดพันอยู่รอบตัวราชันมังกรและ พ่นลมหายใจออกมาปัดเป่าฝุ่นควันออกไป

 

ราชันมังกรลอยอยู่ที่เดิมด้วยการแสดงออกที่สงบนิ่ง

 

เขามองไปรอบๆอย่างไม่แยแส “พวกเจ้าต้องการเกาที่คันให้ข้างั้นหรือ?”

 

“แข็งแกร่งนัก!” หัวใจของเหยากวงและคนอื่นๆสั่นไหว แม้พวกเขาจะได้รับข้อมูลมาแล้ว แต่ พวกเขายังตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของราชันมังกร

 

ปิงช่ายฉวนกัดฟันแน่น “เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า! ตอนนี้เราไม่มีค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณความสิ้นหวังทั้งเจ็ด เราไม่สามารถต่อสู้กับเขา ข้าควรทําอย่างไร?”

 

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นภูตมังกร!

 

ท่าไม้ตายอมตะร้อยตะขาบ!

 

ฟางหยวนและจักรพรรดิสวรรค์ไปซูส่งท่าไม้ตายอมตะของพวกเขาออกไปพร้อมกัน

 

กองทัพภูตมังกรดาบบรรพกาลและตะขาบสีเทาบินไปทั่วสนามรบ

 

ผู้ชมของภาคกลางกรีดร้องด้วยความตกใจและห่วงใยราชันมังกร

 

ท่ามกลางทะเลตะขาบ เสียงที่ไร้กังวลของราชันมังกรดังขึ้น “เป็นท่าที่ดี แต่ยังไม่พอ”

 

ท่าไม้ตายอมตะลมหายใจดาบ!

 

“บึม!”

 

กองทัพภูตมังกรดาบบรรพกาลและตะขาบสีเทาถูกทําลายในครั้งเดียว

 

ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์มีความคิดที่แตกต่างกัน

 

“ท่านแม่ คนที่มีเขามังกรเป็นผู้อมตะภาคกลางของเราใช่หรือไม่?”

 

“ท่านราชันมังกรเป็นอาจารย์ของเทพปีศาจบัวแดง เขาแข็งแกร่งมาก!”

 

“วังสวรรค์เคลื่อนไหวแล้ว ถอยกันเถอะ”

 

“ข้าปล้นทรัพยากรมามากมายแล้ว ข้าควรจากไปเดี๋ยวนี้”

 

เป็นไปตามคําทํานายของราชันมังกรและเทพธิดาจอเว่ย ผู้อมตะที่บุกภาคกลางเริ่มล่าถอย ขวัญกําลังของคนภาคกลางพุ่งสูงขึ้น

 

“กลยุทธ์ของพวกเราไร้ประโยชน์ต่อหน้าเขา” ใบหน้าของจักรพรรดิสวรรค์ไปซูกลายเป็นซีดเผือด

 

“ถึงคราวของข้าแล้ว” ราชันมังกรกล่าวเบาๆก่อนจะหายตัวไปอย่างกะทันหัน

 

“เร็วมาก!”

 

“เขาอยู่ที่ใด?”

 

อี้ห่าวฟางรู้สึกสังหรณ์ร้าย เขารีบเงยหน้าขึ้นและพบกับราชันมังกร

 

กรงเล็บมังกรพุ่งลงมา อี้ห่าวฟางยกมือขึ้นป้องกัน

 

“ยิ้ม!”

 

อี้ห่าวฟางพุ่งลงจากท้องฟ้าและสร้างหลุมขนาดใหญ่ไว้บนพื้น

 

เขากระอักเลือดคําโตออกมาและอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ การโจมตีนี้ทําลายการป้องกันของเขาและยังทําให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที

 

ปราณมังกรปรากฏขึ้นด้านหน้าอี้ห่าวฟางอีกครั้ง

 

แต่ปรมาจารย์ห้าธาตุกับขื่อชิวหยูปรากฏตัวขึ้นด้านข้างราชันมังกรอย่างกะทันหัน

 

“ราชันมังกร เจ้าตกหลุมพรางแล้ว!”

 

“เจ้าต้องติดอยู่ที่นี่!” ผู้อมตะทั้งสองกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

“มดปลวกต้องการจับข้างั้นหรือ?” ราชันมังกรเย้ยหยัน ร่างของเขาระเบิดแสงออกมา

 

“เพล้ง!”

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับกระจกแตก ปรมาจารย์ห้าธาตุและจื่อชิวหยูได้รับบาดเจ็บจากผลกระทบย้อนกลับ

 

แต่ราชันมังกรก็พลาดโอกาสสังหารอี้ห่าวฟางเช่นกัน

 

อี้ห่าวฟางบินขึ้นมาจากหลุมและรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองด้วยความหวาดกลัว

 

พลังของราชันมังกรเหนือจินตนาการมากเกินไป

 

อี้ห่าวฟางเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ แต่เขาเกือบถูกสังหารโดยการโจมตีไม่ถึงสามกระบวนท่าของราชันมังกร

 

“อาจมีเพียงผู้อมตะระดับเก้าเท่านั้นที่สามารถปราบปรามเขา”

 

“ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี การป้องกัน หรือการเคลื่อนไหว ราชันมังกรเหนือกว่าในทุกด้าน แม้เราจะปิดล้อมเขา เขาก็ยังสามารถตอบโต้ได้อย่างง่ายดาย

 

“ผู้ใดจะสามารถหยุดคนเช่นนี้”

 

ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือรู้สึกหวาดกลัว

 

พวกเขาไม่สามารถก้าวข้ามราชันมังกรโดยไม่ต้องกล่าวถึงหอคอยดวงตาสวรรค์ที่มีวิญญาณชะตากรรมระดับเก้า

 

แล้วพวกเขาควรทําอย่างไร?

 

ราวกับการตอบคําถามของกลุ่มผู้อมตะ เสียงคํารามสายหนึ่งดังขึ้นและทําให้พื้นดินแตกแยก

 

“ครื่น…”

 

พื้นดินแยกออกขณะที่มังกรยักษ์ที่น่าสะพรึงกลัวทะยานร่างขึ้นมา

 

“ราชันมังกร ข้าจะฉีกร่างเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!” มังกรยักษ์คํารามเสียงดัง

 

มันคือสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานาน จางเฉิง!

 

“หือ?” ราชันมังกรรู้สึกประหลาดใจ เขากุนเสียงเย็นและพุ่งเข้าเผชิญหน้าโดยไม่หลบเลี่ยง

 

การต่อสู้ระหว่างผู้อมตะและสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานปะทุขึ้นทันที

 

สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน

 

“ตั้งแต่เมื่อใดที่ตี้จางเฉิงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?” ผู้อมตะวังสวรรค์ตกตะลึง

 

“ห้าภูมิภาคกําลังรวมเป็นหนึ่ง ความโกรธแค้นของผู้คนทําให้จางเฉินแข็งแกร่งขึ้น!”

 

“แต่ไม่ใช่ว่าตี้จางเฉิงถูกขังอยู่ในถ้ํามังกรเร้นงั้นหรือ? เหตุใดมันจึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่?” กลุ่มผู้อมตะรู้สึกมึนงง

 

แต่พวกเขารู้ว่าราชันมังกรเป็นคนปราบปรามจางเฉิง ดังนั้นการมาแก้แค้นของจางเฉิงจึงเป็นเรื่องปกติ

 

เป็นไปตามคํากล่าวของราชันมังกรก่อนหน้านี้ ตอนนี้พลังอํานาจของตี้จางเฉิงเทียบเท่ากับเขาแล้ว

 

“หากมันไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ตี้จางเฉิงจะกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!”

 

“มหัศจรรย์นัก โอกาสมาถึงแล้ว”

 

“ฉวยโอกาสนี้ถอย!”

 

“เราถอยไม่ได้!” ฟางหยวนตะโกน “นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการโจมตี ราชันมังกรถูกหยุดโดยตี้จางเฉิง ตอนนี้เราสามารถไปที่หอคอยดวงตาสวรรค์และทําลายวิญญาณชะตากรรม!”

 

หลังกล่าวจบคํา ฟางหยวนเป็นผู้นําบินเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์

 

ปิงช่ายฉวนเป็นคนแรกที่ตอบสนอง เขาเรียกผู้อมตะภาคเหนือและติดตามไปอย่างใกล้ชิด

 

ผู้อมตะภาคใต้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเช่นกัน

 

“พวกเจ้ากล้างั้นหรือ?” ราชันมังกรกังวลแต่เขาถูกเหนี่ยวรั้งไว้โดยตี้จางเฉิง เขาทําได้เพียงมองฟางหยวนและคนอื่นๆพุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1743 โอกาสสุดท้าย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1743 โอกาสสุดท้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1743 โอกาสสุดท้าย

 

“มันสายเกินไปที่จะถอย ทุกคน โปรดร่วมมือกันต่อต้านวังสวรรค์ พวกเขาจึงใช้วิญญาณชะตากรรม พวกเขาไม่สามารถใช้มันได้ในระยะเวลาสั้นๆ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเรา!” ปิงช่ายฉวนตะโกนเสียงดัง

 

กลุ่มผู้อมตะตอบสนองทันที พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยฟันที่กัดแน่น

 

ปิงช่ายฉวนกล่าวได้ถูกต้อง หอคอยดวงตาสวรรค์รวดเร็วเกินไป พวกเขาไม่สามารถหลบหนี

 

ไม่ใช่ว่าไม่มีผู้ใดคิดใช้ประโยชน์จากผู้อื่นเพื่อถ่วงเวลาให้ตนเองหลบหนี แต่สิ่งสําคัญก็คือภาคกลางใหญ่โตเกินไป แม้พวกเขาจะหลบหนีไปในทิศทางที่แตกต่างกัน หอคอยดวงตาสวรรค์ ก็ยังมีเวลาพอที่จะไล่ล่าและกําจัดพวกเขา

 

ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือเข้าใจสถานการณ์ พวกเขาต้องต่อสู้เท่านั้น

 

ทุกคนใช้ทุกสิ่งที่ตนเองมีออกมาอย่างสิ้นหวัง

 

สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน

 

“จื่อเว่ย ประกาศข่าวการกลับมาของวิญญาณชะตากรรมให้โลกรู้หรือยัง?” ราชันมังกรติดต่อเทพธิดาจื่อเว่ย

 

หลังจากไม่นานเทพธิดาจื่อเว่ยก็ตอบกลับ “ข่าวถูกเผยแพร่ออกไปในสวรรค์สีเหลือง แล้ว นอกจากนั้นฉากการต่อสู้ในขณะนี้ของท่านราชันมังกรก็กําลังถูกเผยแพร่อยู่ทุกหนทุกแห่ง ด้วยวิธีบนเส้นทางมนุษย์”

 

การเผยแพร่ข่าวการฟื้นคืนของวิญญาณชะตากรรมเป็นการยกขวัญกําลังใจผู้อมตะภาคกลาง และข่มขู่ศัตรูของพวกเขา

 

ผู้อมตะและผู้ใช้วิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วนได้ยินข่าวและได้เห็นฉากการต่อสู้ในปัจจุบัน

 

การกระทําของวังสวรรค์แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในชัยชนะของพวกเขา

 

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณชะตากรรมระดับเก้า วังสวรรค์จะไม่แพ้

 

เทพธิดาจื่อเว่ยต้องการใช้โอกาสนี้แสดงความแข็งแกร่งของวังสวรรค์โดยการจับกุมผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือในครั้งเดียว

 

ราชันมังกรเข้าใจความคิดของเทพธิดาจื่อเว่ยแต่เขายังขมวดคิ้ว

 

“ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย พวกเขาเหมือนสัตว์ร้ายที่ถูกต้อนเข้ามุมและพยายามดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย นี่ทําให้เรากลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้มันจะเป็นเรื่องชั่วคราวก็ตาม…”

 

เนื่องจากเทพธิดาจื่อเว่ยลงมือทําไปแล้ว ราชันมังกรจึงต้องให้ความร่วมมือกับนาง

 

พวกเขาต้องแสดงพลังอํานาจของวังสวรรค์ที่ไม่สามารถต่อต้านออกมา

 

ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

 

มันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า หลังจากวิญญาณชะตากรรมฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ พลังอํานาจของท่าไม้ตายนี้ยิ่งน่ากลัวมากกว่าเดิม

 

แต่ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตาไม่สามารถใช้งานติดต่อกัน มันต้องใช้เวลาพักฟื้นชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

“ดูเหมือนข้าต้องเคลื่อนไหวด้วยตนเอง มิฉะนั้นการแสดงของเราอาจดูไม่ดี”

 

ราชันมังกรออกคําสั่งให้ผู้อมตะหลายคนเข้าควบคุมหอคอยดวงตาสวรรค์ขณะที่เขาบินออกไป

 

“ราชันมังกรออกมาแล้ว ระวังเขาให้มาก!” ชิงช่ายฉวนเตือนคนอื่นๆ

 

“โจมตีพร้อมกัน!” เหยากวงตะโกน

 

บ้านไม้ไผ่สายลมและคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่นๆเคลื่อนไหวเช่นกัน

ราชันมังกรถูกปิดล้อมทันที

 

ท่าไม้ตายอมตะระดับแปดจํานวนนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมาและทําให้โลกตกตะลึง

 

“ระวัง!”

 

“บัดซบ!”

 

“หลบ!”

 

ทั่วทั้งภาคกลางโดยเฉพาะสิบนิกายโบราณ ผู้อมตะจํานวนมากอุทานด้วยความตกใจ

 

พวกเขาเห็นราชันมังกรถูกปิดล้อมและรู้สึกกังวล

 

“บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”

 

เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ภายใต้ฝุ่นควัน ราชันมังกรยังไม่เคลื่อนไหว

 

ปราณมังกรทั้งเก้าที่เกิดจากท่าไม้ตายอมตะเก้ามังกรคุ้มภัยรัดพันอยู่รอบตัวราชันมังกรและ พ่นลมหายใจออกมาปัดเป่าฝุ่นควันออกไป

 

ราชันมังกรลอยอยู่ที่เดิมด้วยการแสดงออกที่สงบนิ่ง

 

เขามองไปรอบๆอย่างไม่แยแส “พวกเจ้าต้องการเกาที่คันให้ข้างั้นหรือ?”

 

“แข็งแกร่งนัก!” หัวใจของเหยากวงและคนอื่นๆสั่นไหว แม้พวกเขาจะได้รับข้อมูลมาแล้ว แต่ พวกเขายังตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของราชันมังกร

 

ปิงช่ายฉวนกัดฟันแน่น “เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า! ตอนนี้เราไม่มีค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณความสิ้นหวังทั้งเจ็ด เราไม่สามารถต่อสู้กับเขา ข้าควรทําอย่างไร?”

 

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นภูตมังกร!

 

ท่าไม้ตายอมตะร้อยตะขาบ!

 

ฟางหยวนและจักรพรรดิสวรรค์ไปซูส่งท่าไม้ตายอมตะของพวกเขาออกไปพร้อมกัน

 

กองทัพภูตมังกรดาบบรรพกาลและตะขาบสีเทาบินไปทั่วสนามรบ

 

ผู้ชมของภาคกลางกรีดร้องด้วยความตกใจและห่วงใยราชันมังกร

 

ท่ามกลางทะเลตะขาบ เสียงที่ไร้กังวลของราชันมังกรดังขึ้น “เป็นท่าที่ดี แต่ยังไม่พอ”

 

ท่าไม้ตายอมตะลมหายใจดาบ!

 

“บึม!”

 

กองทัพภูตมังกรดาบบรรพกาลและตะขาบสีเทาถูกทําลายในครั้งเดียว

 

ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์มีความคิดที่แตกต่างกัน

 

“ท่านแม่ คนที่มีเขามังกรเป็นผู้อมตะภาคกลางของเราใช่หรือไม่?”

 

“ท่านราชันมังกรเป็นอาจารย์ของเทพปีศาจบัวแดง เขาแข็งแกร่งมาก!”

 

“วังสวรรค์เคลื่อนไหวแล้ว ถอยกันเถอะ”

 

“ข้าปล้นทรัพยากรมามากมายแล้ว ข้าควรจากไปเดี๋ยวนี้”

 

เป็นไปตามคําทํานายของราชันมังกรและเทพธิดาจอเว่ย ผู้อมตะที่บุกภาคกลางเริ่มล่าถอย ขวัญกําลังของคนภาคกลางพุ่งสูงขึ้น

 

“กลยุทธ์ของพวกเราไร้ประโยชน์ต่อหน้าเขา” ใบหน้าของจักรพรรดิสวรรค์ไปซูกลายเป็นซีดเผือด

 

“ถึงคราวของข้าแล้ว” ราชันมังกรกล่าวเบาๆก่อนจะหายตัวไปอย่างกะทันหัน

 

“เร็วมาก!”

 

“เขาอยู่ที่ใด?”

 

อี้ห่าวฟางรู้สึกสังหรณ์ร้าย เขารีบเงยหน้าขึ้นและพบกับราชันมังกร

 

กรงเล็บมังกรพุ่งลงมา อี้ห่าวฟางยกมือขึ้นป้องกัน

 

“ยิ้ม!”

 

อี้ห่าวฟางพุ่งลงจากท้องฟ้าและสร้างหลุมขนาดใหญ่ไว้บนพื้น

 

เขากระอักเลือดคําโตออกมาและอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ การโจมตีนี้ทําลายการป้องกันของเขาและยังทําให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที

 

ปราณมังกรปรากฏขึ้นด้านหน้าอี้ห่าวฟางอีกครั้ง

 

แต่ปรมาจารย์ห้าธาตุกับขื่อชิวหยูปรากฏตัวขึ้นด้านข้างราชันมังกรอย่างกะทันหัน

 

“ราชันมังกร เจ้าตกหลุมพรางแล้ว!”

 

“เจ้าต้องติดอยู่ที่นี่!” ผู้อมตะทั้งสองกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

“มดปลวกต้องการจับข้างั้นหรือ?” ราชันมังกรเย้ยหยัน ร่างของเขาระเบิดแสงออกมา

 

“เพล้ง!”

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับกระจกแตก ปรมาจารย์ห้าธาตุและจื่อชิวหยูได้รับบาดเจ็บจากผลกระทบย้อนกลับ

 

แต่ราชันมังกรก็พลาดโอกาสสังหารอี้ห่าวฟางเช่นกัน

 

อี้ห่าวฟางบินขึ้นมาจากหลุมและรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองด้วยความหวาดกลัว

 

พลังของราชันมังกรเหนือจินตนาการมากเกินไป

 

อี้ห่าวฟางเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ แต่เขาเกือบถูกสังหารโดยการโจมตีไม่ถึงสามกระบวนท่าของราชันมังกร

 

“อาจมีเพียงผู้อมตะระดับเก้าเท่านั้นที่สามารถปราบปรามเขา”

 

“ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี การป้องกัน หรือการเคลื่อนไหว ราชันมังกรเหนือกว่าในทุกด้าน แม้เราจะปิดล้อมเขา เขาก็ยังสามารถตอบโต้ได้อย่างง่ายดาย

 

“ผู้ใดจะสามารถหยุดคนเช่นนี้”

 

ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือรู้สึกหวาดกลัว

 

พวกเขาไม่สามารถก้าวข้ามราชันมังกรโดยไม่ต้องกล่าวถึงหอคอยดวงตาสวรรค์ที่มีวิญญาณชะตากรรมระดับเก้า

 

แล้วพวกเขาควรทําอย่างไร?

 

ราวกับการตอบคําถามของกลุ่มผู้อมตะ เสียงคํารามสายหนึ่งดังขึ้นและทําให้พื้นดินแตกแยก

 

“ครื่น…”

 

พื้นดินแยกออกขณะที่มังกรยักษ์ที่น่าสะพรึงกลัวทะยานร่างขึ้นมา

 

“ราชันมังกร ข้าจะฉีกร่างเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!” มังกรยักษ์คํารามเสียงดัง

 

มันคือสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานาน จางเฉิง!

 

“หือ?” ราชันมังกรรู้สึกประหลาดใจ เขากุนเสียงเย็นและพุ่งเข้าเผชิญหน้าโดยไม่หลบเลี่ยง

 

การต่อสู้ระหว่างผู้อมตะและสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานปะทุขึ้นทันที

 

สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน

 

“ตั้งแต่เมื่อใดที่ตี้จางเฉิงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?” ผู้อมตะวังสวรรค์ตกตะลึง

 

“ห้าภูมิภาคกําลังรวมเป็นหนึ่ง ความโกรธแค้นของผู้คนทําให้จางเฉินแข็งแกร่งขึ้น!”

 

“แต่ไม่ใช่ว่าตี้จางเฉิงถูกขังอยู่ในถ้ํามังกรเร้นงั้นหรือ? เหตุใดมันจึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่?” กลุ่มผู้อมตะรู้สึกมึนงง

 

แต่พวกเขารู้ว่าราชันมังกรเป็นคนปราบปรามจางเฉิง ดังนั้นการมาแก้แค้นของจางเฉิงจึงเป็นเรื่องปกติ

 

เป็นไปตามคํากล่าวของราชันมังกรก่อนหน้านี้ ตอนนี้พลังอํานาจของตี้จางเฉิงเทียบเท่ากับเขาแล้ว

 

“หากมันไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ตี้จางเฉิงจะกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!”

 

“มหัศจรรย์นัก โอกาสมาถึงแล้ว”

 

“ฉวยโอกาสนี้ถอย!”

 

“เราถอยไม่ได้!” ฟางหยวนตะโกน “นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการโจมตี ราชันมังกรถูกหยุดโดยตี้จางเฉิง ตอนนี้เราสามารถไปที่หอคอยดวงตาสวรรค์และทําลายวิญญาณชะตากรรม!”

 

หลังกล่าวจบคํา ฟางหยวนเป็นผู้นําบินเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์

 

ปิงช่ายฉวนเป็นคนแรกที่ตอบสนอง เขาเรียกผู้อมตะภาคเหนือและติดตามไปอย่างใกล้ชิด

 

ผู้อมตะภาคใต้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเช่นกัน

 

“พวกเจ้ากล้างั้นหรือ?” ราชันมังกรกังวลแต่เขาถูกเหนี่ยวรั้งไว้โดยตี้จางเฉิง เขาทําได้เพียงมองฟางหยวนและคนอื่นๆพุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+