Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1744 วิสัยทัศน์ของทุกคน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1744 วิสัยทัศน์ของทุกคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1744 วิสัยทัศน์ของทุกคน

 

ภาคกลาง เทือกเขาอัสนี

 

“บึ้ม!”

 

เสียงระเบิดดังขึ้น

 

ผู้อมตะสามคนอยู่ท่ามกลางการต่อสู้

 

“ทิ้งดอกไม้อสนีดาราไว้ข้างหลัง มิฉะนั้นแม้ข้าจะตาย ข้าก็จะไม่ปล่อยพวกเจ้าทั้งสองไปง่ายๆ!” ผู้อมตะภาคกลางหมี่หลานกวงตะโกนด้วยความโกรธ

 

เขากําลังต่อสู้กับอีกสองคน

 

หนึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่สวมชุดบัญฑิต อีกหนึ่งเป็นชายหนุ่มร่างเตี้ยที่ดูหมกมุ่นในตัณหา

 

ชายคนแรกเป็นผู้อมตะของทะเลตะวันออกที่ถูกเรียกว่าผู้อมตะคลังสมบัติ เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งข้อมูล ชายคนหลังเป็นผู้อมตะระดับหกของภาคกลาง เจี้ยนอี้เฉิง

 

ผู้อมตะคลังสมบัติขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาซ่อนความโกรธเอาไว้ “หมี่หลานกวง เจ้าไล่ล่าข้ามานานเพียงเพื่อดอกไม้อสนีดาราเช่นนั้นหรือ? ข้ายอมรับว่าทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งสายฟ้าและข้อมูลชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเจ้า ข้าบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งข้อมูลเช่นเดียวกัน ข้าเพียงต้องการทําวิจัยมัน”

 

“ข้าจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา หากเจ้ายังไล่ล่าข้าเพื่อทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดชิ้นนี้ ข้าจะต่อสู้กับเจ้าจนตาย! ข้าจะทําให้เจ้ารู้ว่าผู้อมตะของทะเลตะวันออกไม่สามารถกลั่นแกล้งได้โดยง่าย!”

 

เจี้ยนอี้เฉิงกล่าวเสริม “ผู้อาวุโสคลังสมบัติกล่าวได้ถูกต้อง เราควรกําจัดหมี่หลานกวงผู้นี้ไปซะ มิฉะนั้นหากเราปล่อยให้เขาไล่ตาม เราจะไม่าสมารถทําธุรกรรมใดๆ สถานการณ์ปัจจุบันเป็นโอกาสที่หาได้ยาก!”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติชําเลืองมองเจี้ยนอี้เฉิงและพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน”

 

เจี้ยนอี้เฉิงเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษระดับหกที่มีชื่อเสียงในภาคกลาง เขามีท่าไม้ตายอมตะ กระบี่บินที่ทําให้เขาเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว เขามีข้อมูลและคุ้นเคยกับพื้นที่

 

เขาเป็นคนบอกข้อมูลเกี่ยวกับดอกไม้อสนีดาราให้แก่ผู้อมตะคลังสมบัติและต้องการขโมยมัน โดยอาศัยความโกลาหลที่เกิดขึ้นในภาคกลาง

 

แต่ระหว่างกระบวนการนี้พวกเขาถูกค้นพบโดยหมี่หลานกวงและถูกไล่ล่า

 

หมี่หลานกวงมองผู้อมตะคลังสมบัติและเจี้ยนอี้เฉิง “เป็นเช่นนี้”

 

ต่อมาเขากล่าวบางสิ่งที่ทําให้ผู้อมตะคลังสมบัติตกตะลึง

 

“ผู้อมตะคลังสมบัติ แม้เจ้าจะเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก แต่เจ้าถูกเจี้ยนอี้เฉิงหลอก ในหุบเขาของข้ามีดอกไม้อสนีดาราสิบสามดอก เจ้าขโมยมาหนึ่งดอกและเจี้ยนอี้เฉิงขโมยไปสามดอก ส่วนที่เหลือถูกทําลายโดยเขา”

 

“อันใด!?”

 

เจี้ยนอี้เฉิงหัวเราะ “หมี่หลานกวง วิธีหว่านความไม่ลงรอยของเจ้าไม่มีประโยชน์ไร้สาระ”

 

แต่ในเวลาต่อมาผู้อมตะคลังสมบัติกลับหันหน้าไปทางเจี้ยนอี้เฉิงด้วยความโกรธ “เจี้ยนเฉิง เจ้ากล้าดีอย่างไร!?”

 

เมื่อไม่สามารถหลอกผู้อมตะคลังสมบัติ เจี้ยนอี้เฉิงหัวเราะและเร่งหลบหนี

 

“เจี้ยนอี้เฉิงผู้นี้ก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดแล้ว!” “นี่คือความเร็วที่แท้จริงของเขานั้นหรือ? เร็วมาก!”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติตกตะลึงและโกรธจัด เขาถูกเจี้ยนอี้เฉิงหลอกใช้ ตอนนี้เจี้ยนอี้เพิ่งได้รับผลประโยชน์มากกว่าเขาและทิ้งเขาไว้ขัดขวางหมี่หลานกวง

 

“น้องหมี ข้าจะคืนดอกไม้อัสนีดาราให้เจ้า อย่ากังวล ข้าขุดมันมาพร้อมกับราก เจ้าจะสามารถปลูกมันอีกครั้ง นอกจากนี้ข้าจะชดเชยให้เจ้าด้วยทรัพยากรที่มีมูลค่าเท่ากัน” ผู้อมตะคลังสมบัติกล่าวอย่างจริงจัง

 

หมี่หลานกวงยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “สถานการณ์นี้คือ?”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติตอบ “เราจะเป็นพันธมิตรเพื่อจัดการเจี้ยนอี้เฉิง”

 

ตอนนี้เขาเกลียดเจี้ยนอี้เฉิงมาก

 

หมี่หลานกวงก็เช่นกัน

 

เขายิ้มและยื่นมือออกไป “เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับท่าน สหายจากทะเลตะวันออก”

 

ทั้งสองบรรลุข้อตกลงและเริ่มไล่ล่าเจี้ยนอี้เฉิงทันที

 

สิ่งที่ทําให้คนทั้งสองโกรธมากขึ้นก็คือแม้เจี้ยนอี้เฉิงจะสามารถหลบหนีแต่เขาเลือกที่จะไม่หนีไปไกลนัก เขาต้องการเห็นหมี่หลานกวงและผู้อมตะคลังสมบัติต่อสู้กัน จากนั้นเขาจะฉวยโอกาสในเวลาที่เหมาะสมเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

 

ตอนนี้เมื่อเห็นหมี่หลานกวงและผู้อมตะคลังสมบัติร่วมมือกัน เจี้ยนอี้เฉิงรู้สึกประหลาดใจและหงุดหงิดแต่เขาไม่ตื่นตระหนก

 

เขาเย้ยหยัน “เมื่อข้าเป็นผู้อมตะระดับหก ข้าสามารถหลบหนีจากผู้อมตะระดับเจ็ดจํานวนมาก ตอนนี้ข้าก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ด พวกเจ้าจะจับข้าได้ในชีวิตหน้าเท่านั้น!”

 

หลังกล่าวจบคํา เจี้ยนอี้เฉิงกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะกระบี่บินทันที

 

หมี่หลานกวงและผู้อมตะคลังสมบัติสาปแช่งเสียงดัง พวกเขาทําได้เพียงมองเจี้ยนอี้เฉิงหลบ หนี

 

อย่างไรก็ตามหลังจากไม่นานเจี้ยนอี้เฉิงกลับหันหลังกลับและสบถ “บัดซบ! แม้ท่าไม้ตายอมตะกระบี่บินจะรวดเร็วแต่มันใช้ได้ไม่นานขณะที่พวกเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล พวกเขาเชี่ยวชาญด้านการรวบรวมข้อมูลและแบะแส พวกเขาจะสามารถค้นหาข้า!”

 

หมี่หลานกวงและผู้อมตะคลังสมบัติเกลียดชังเจี้ยนอี้เฉิงเป็นอย่างมาก ดังนั้นทั้งสองจึงไล่ล่าเขาอย่างไม่ลดละ

 

ทุกช่วงเวลาอันตราย เจี้ยนอี้เฉิงจะกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะกระบี่บินเพื่อหลบหนี

 

แต่ไม่นานหมี่หลานกวงและผู้อมตะคลังสมบัติก็ตามเขาทันอีกครั้ง

 

เจี้ยนอี้เฉิงตะโกน “การไล่ล่าข้าเช่นนี้มีความหมายใด? พวกเจ้าจะสูญเสียพลังงานอมตะที่สะสมไว้ทั้งหมด มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่!”

 

หมี่หลานกวงเย้ยหยัน “ท่ามกลางพวกเราทั้งสาม เจ้าฟังก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดเมื่อไม่นานนี้ เจ้าจะมีพลังงานอมตะมากเท่าใด? แม้เราต้องทุ่มสุดตัว แต่ครั้งนี้เราต้องกําจัดเจ้าให้ได้!”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติพยักหน้า “ถูกต้อง ข้าจะบอกเจ้าให้รู้ว่าผู้อมตะของทะเลตะวันออกไม่สามารถล้อเล่น!”

 

เจี้ยนอี้เฉิงสาปแช่งด้วยความกังวล “หมี่หลานกวง ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น เราต่างก็เป็นผู้อมตะภาคกลาง แต่ตอนนี้เจ้ากลับร่วมมือกับคนต่างถิ่น เจ้าจะทรยศงั้นหรือ?”

 

หมี่หลานกวงหัวเราะเสียงเย็น “อย่าพยายามข่มขู่ข้า วันนี้เจ้าทําให้ข้าขุ่นเคือง ความตายของเจ้าเป็นสิ่งแน่นอน!”

 

เจี้ยนอี้เฉิงทําได้เพียงใช้ท่าไม้ตายอมตะกระบี่บินเพื่อหลบหนีอีกครั้ง

 

หลังจากชั่วครู่ ผู้อมตะคลังสมบัติก็เปิดปากกล่าว “โอ้ ไม่ ดูเหมือนเขาจะค้นพบวิธีการติดตามของข้าแล้ว”

 

เขาสูญเสียการเชื่อมต่อกับเจี้ยนอี้เฉิง

 

ในไม่ช้าเขากับหมี่หลานกวงก็มาถึงปาแห่งหนึ่งและค้นพบแขนขวาของเจี้ยนอี้เฉิง

 

เจี้ยนอี้เฉิงตระหนักถึงสิ่งผิดปกติและตัดสินใจตัดแขนขวาของตนออกไป

 

ใบหน้าของผู้อมตะคลังสมบัติกลายเป็นมืดครื้ม “ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”

 

“อย่ากังวล” หมี่หลานกวงยิ้ม “ทางนี้”

 

ทั้งสองไล่ล่าต่อไป

 

เจี้ยนอี้เฉิงรู้สึกกดดันมาก พลังงานอมตะของเขาลดลงเรื่อยๆ

 

“ข้ากําลังจะตายแต่ข้าไม่ยอมแพ้!”

 

“ข้าทําลายวิธีติดตามของผู้อมตะคลังสมบัติแต่หมี่หลานกวงใช้วิธีใด?”

 

“ข้ากล้าทําให้เจ้าขุ่นเคืองเพราะข้าเข้าใจวิธีการทั้งหมดของเจ้า แต่ตอนนี้ข้าไม่รู้ว่าเจ้าใช้วิธีใด!”

 

“บอกความจริงกับข้าก่อนตายได้หรือไม่?”

 

หมี่หลานกวงเย้ยหยัน “อย่าแม้แต่จะคิด ไปสู่ชีวิตหลังความตายและเป็นผีโง่ซะ!”

 

แต่เจี้ยนอี้เฉิงยังใช้ท่าไม้ตายอมตะกระบี่บินหลบหนีอีกครั้ง

 

“ชายผู้นี้เจ้าเล่ห์เกินไป!” ผู้อมตะคลังสมบัติกัดฟันแน่น

 

“อย่ากังวล เว้นเพียงเขาจะหนีออกจากภาคกลาง มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถหลบหนีจากการตรวจสอบของข้า” หมี่หลานกวงกล่าวด้วยความมั่นใจ

 

ผู้อมตะคลังสมบัติเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “วิธีการของน้องหมีช่างน่าทึ่งนัก กระทั่งข้าก็ยังไม่พบวิธีการของเจ้า”

 

หมี่หลานกวงหัวเราะและโบกมือ “ท่านเข้าใจผิดแล้ว นี่ไม่ใช่วิธีการของข้าแต่เป็นการจัดเตรียมของเทพอมตะบัวสวรรค์”

 

“เจ้าหมายถึงสิ่งใด?”

 

“วังสวรรค์มีความลับที่ยิ่งใหญ่ แต่ข้ารู้ข้อมูลบางอย่าง ข้าจะอธิบายระหว่างทาง”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติพยักหน้าและตั้งใจฟัง

 

หมี่หลานกวงเคยบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งสายฟ้าและเป็นสมาชิกนิกายเมฆาวายุ แต่เขาทําผิดกฎของนิกาย เขาถูกทําลายการบ่มเพาะและถูกขับไล่ออกมา หลังจากนั้นเขาเปลี่ยนมาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งข้อมูลและก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดอีกครั้ง

 

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หมี่หลานกวงจะรู้ความลับบางอย่างของวังสวรรค์

 

หมี่หลานกวงกล่าว “ท่าไม้ตายนี้เรียกว่าวิสัยทัศน์ของทุกคน มันเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะบัวสวรรค์ ท่าไม้ตายนี้พึ่งพาท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่ง มันสามารถแบ่งปันมุมมองของคนภาคกลางทั้งหมด ตราบเท่าที่บางคนเห็นการเคลื่อนไหวหรือเบาะแสเพียงเล็กน้อยของเจี้ยนอี้เฉิง ข้าจะได้รับข้อมูลจากการมองเห็นของพวกเขาโดยตรง”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติตระหนักถึงบางสิ่ง “เป็นเช่นนี้ วิสัยทัศน์ของทุกคน ช่างลึกซึ้งนัก โดยธรรมชาติแล้วท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่งสามารถแบ่งปันความคิดและแยกแยะมิตรกับศัตรูเพื่อคนหาคนทรยศ.เดี๋ยว!”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติหยุดอย่างกะทันหันและมองหมี่หลานกวงด้วยสายตาน่ากลัว

 

เนื่องจากหมี่หลานกวงสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะวิสัยทัศน์ของทุกคน นั่นหมายความว่าเขาได้รับอิทธิพลของท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่ง

 

เขาเป็นผู้อมตะของภาคกลาง แล้วเขาจะยอมรับผู้บุกรุกได้อย่างไร มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้อมตะคลังสมบัติ เจ้าตกหลุมพรางของเราแล้ว!” เจี้ยนอี้เฉิงเผยตัวออกมาและหัวเราะเสียงดัง

 

ผู้บ่มเพาะสันโดษของภาคกลางอีกหลายคนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกกระตุ้นใช้งาน ผู้อมตะคลังสมบัติติดอยู่ภายใน

 

ทุกสิ่งเป็นการสมรู้ร่วมคิด ดอกไม้อสนีดาราเป็นเพียงเหยื่อล่อปลาใหญ่เช่นผู้อมตะคลังสมบัติเท่านั้น 

 

ในเวลาเดียวกัน

 

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

ในที่สุดการต่อสู้อันยาวนานก็มาถึงจุดสําคัญ

 

ฟางหยวนและคนอื่นๆพุ่งเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์ขณะที่ราชันมังกรถูกหยุดโดยตี้จางเฉิง

 

หากฟางหยวนทําลายวิญญาณชะตากรรม แผนการของวังสวรรค์จะล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

 

ในทางตรงข้ามหากฟางหยวนไม่ประสบความสําเร็จ ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย พวกเขาจะถูกปิดล้อมโดยผู้อมตะของวังสวรรค์

 

“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วจริงๆ ข้าต้อง..ฟางหยวนตั้งใจแน่วแน่แต่ในจังหวะนี้หอคอยดวงตาสวรรค์กลับระเบิดแสงสีขาวออกมาอีกครั้ง

 

ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตา!

 

“มันสามารถใช้ท่าไม้ตายนี้อีกครั้งได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ!” ฟางหยวนตกใจมาก

 

เมื่อแสงสีขาวจางหายไป คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลายหลังก็ถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์พร้อมกับผู้อมตะที่อยู่ภายใน ผู้อมตะระดับแปดสองคนที่อยู่ด้านหลังฟางหยวน หนึ่งใกล้ตาย อีกหนึ่งหมดสติ

 

“ช่างทรงพลังนัก!”

 

“วิญญาณชะตากรรมน่ากลัวเกินไป!”

 

“นี่คือพลังที่แท้จริงของหอคอยดวงตาสวรรค์งั้นหรือ?”

 

ผู้อมตะภาคเหนือและภาคใต้ตกสู่ความสิ้นหวัง ในทางตรงข้ามผู้อมตะภาคกลางโห่ร้องอย่างมีความสุข

 

“วังสวรรค์แข็งแกร่งที่สุด!”

 

“กําจัดผู้บุกรุก ให้พวกเขาชดใช้ด้วยเลือด!”

 

“ภาคกลางจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน!”

 

ด้วยท่าไม้ตายอมตะวิสัยทัศน์ของทุกคน ผู้คนในภาคกลางสามารถมองเห็นฉากเหตุการณ์นี้

 

พลังอํานาจของวังสวรรค์ฝังลึกอยู่ในหัวใจของทุกคน

 

“ท่านแม่ เหตุใดพวกเขาจึงล้มลง? ปีศาจทั้งหมดยกเว้นเขาล้มลงหมดแล้ว” เด็กหญิงจับมือมารดาของนางและถามด้วยความสงสัย

 

กระทั่งมนุษย์ธรรมดาก็ยังเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

น่าเสียดายที่มารดาของเด็กหญิงเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา นางสายหน้า “แม่ก็ไม่รู้เช่นกัน แต่อย่ากังวล ภาคกลางของเราได้รับการปกป้องจากผู้อมตะ เราจะไม่แพ้”

 

“ฟางหยวน…”

 

“ถูกต้อง เขาเป็นปีศาจต่างโลก”

 

“เขาไม่ใช่ปีศาจต่างโลกธรรมดาแต่เป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตาไม่ส่งผลกระทบต่อเขา”

 

หลังจากมีนงง ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือสามารถตอบสนองในที่สุด

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์บินออกจากหอคอยดวงตาสวรรค์และปิดกั้นฟางหยวน

 

อย่างไรก็ตาม

การดํารงอยู่ของฟางหยวนเหมือนประกายไฟที่ถูกจุดขึ้นในหัวใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ และภาคเหนืออีกครั้ง

 

“เขาเป็นความหวังเดียวที่เหลืออยู่!”

 

“ถูกต้อง เรายังมีฟางหยวน!”

 

“แม้ข้าจะเกลียดเขา แต่….”

 

ดวงตาของผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือเต็มไปด้วยความแน่วแน่

 

“ขวัญกําลังใจของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น” ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกประหลาดใจ

 

“เร็ว ฆ่าฟางหยวน!” ราชันมังกรเร่งออกคําสั่ง

 

ในเวลาเดียวกันคําสั่งของวูหยงก็ถูกส่งออกไปเช่นกัน “พันธมิตรภาคใต้ ฟังคําสั่งข้า ใช้กําลังทั้งหมดเพื่อช่วยฟางหยวนทําลายวิญญาณชะตากรรม!”

 

ปิงช่ายฉวนตะโกนเช่นกัน “ช่วยฟางหยวน นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเรา หากไม่สําเร็จ เราจะตายกันหมด!”

 

“คนพวกนี้” ฟางหยวนรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่สนับสนุนเขาอยู่ด้านหลัง นั่นทําให้ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้น

 

เขาหัวเราะอย่างเต็มที่ “ดี จากนี้ไปผู้ใดกล้าหยุดข้า หากพวกเจ้าไม่ตายก็เป็นข้า!”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1744 วิสัยทัศน์ของทุกคน

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1744 วิสัยทัศน์ของทุกคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1744 วิสัยทัศน์ของทุกคน

 

ภาคกลาง เทือกเขาอัสนี

 

“บึ้ม!”

 

เสียงระเบิดดังขึ้น

 

ผู้อมตะสามคนอยู่ท่ามกลางการต่อสู้

 

“ทิ้งดอกไม้อสนีดาราไว้ข้างหลัง มิฉะนั้นแม้ข้าจะตาย ข้าก็จะไม่ปล่อยพวกเจ้าทั้งสองไปง่ายๆ!” ผู้อมตะภาคกลางหมี่หลานกวงตะโกนด้วยความโกรธ

 

เขากําลังต่อสู้กับอีกสองคน

 

หนึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่สวมชุดบัญฑิต อีกหนึ่งเป็นชายหนุ่มร่างเตี้ยที่ดูหมกมุ่นในตัณหา

 

ชายคนแรกเป็นผู้อมตะของทะเลตะวันออกที่ถูกเรียกว่าผู้อมตะคลังสมบัติ เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งข้อมูล ชายคนหลังเป็นผู้อมตะระดับหกของภาคกลาง เจี้ยนอี้เฉิง

 

ผู้อมตะคลังสมบัติขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาซ่อนความโกรธเอาไว้ “หมี่หลานกวง เจ้าไล่ล่าข้ามานานเพียงเพื่อดอกไม้อสนีดาราเช่นนั้นหรือ? ข้ายอมรับว่าทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งสายฟ้าและข้อมูลชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเจ้า ข้าบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งข้อมูลเช่นเดียวกัน ข้าเพียงต้องการทําวิจัยมัน”

 

“ข้าจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา หากเจ้ายังไล่ล่าข้าเพื่อทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดชิ้นนี้ ข้าจะต่อสู้กับเจ้าจนตาย! ข้าจะทําให้เจ้ารู้ว่าผู้อมตะของทะเลตะวันออกไม่สามารถกลั่นแกล้งได้โดยง่าย!”

 

เจี้ยนอี้เฉิงกล่าวเสริม “ผู้อาวุโสคลังสมบัติกล่าวได้ถูกต้อง เราควรกําจัดหมี่หลานกวงผู้นี้ไปซะ มิฉะนั้นหากเราปล่อยให้เขาไล่ตาม เราจะไม่าสมารถทําธุรกรรมใดๆ สถานการณ์ปัจจุบันเป็นโอกาสที่หาได้ยาก!”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติชําเลืองมองเจี้ยนอี้เฉิงและพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน”

 

เจี้ยนอี้เฉิงเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษระดับหกที่มีชื่อเสียงในภาคกลาง เขามีท่าไม้ตายอมตะ กระบี่บินที่ทําให้เขาเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว เขามีข้อมูลและคุ้นเคยกับพื้นที่

 

เขาเป็นคนบอกข้อมูลเกี่ยวกับดอกไม้อสนีดาราให้แก่ผู้อมตะคลังสมบัติและต้องการขโมยมัน โดยอาศัยความโกลาหลที่เกิดขึ้นในภาคกลาง

 

แต่ระหว่างกระบวนการนี้พวกเขาถูกค้นพบโดยหมี่หลานกวงและถูกไล่ล่า

 

หมี่หลานกวงมองผู้อมตะคลังสมบัติและเจี้ยนอี้เฉิง “เป็นเช่นนี้”

 

ต่อมาเขากล่าวบางสิ่งที่ทําให้ผู้อมตะคลังสมบัติตกตะลึง

 

“ผู้อมตะคลังสมบัติ แม้เจ้าจะเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก แต่เจ้าถูกเจี้ยนอี้เฉิงหลอก ในหุบเขาของข้ามีดอกไม้อสนีดาราสิบสามดอก เจ้าขโมยมาหนึ่งดอกและเจี้ยนอี้เฉิงขโมยไปสามดอก ส่วนที่เหลือถูกทําลายโดยเขา”

 

“อันใด!?”

 

เจี้ยนอี้เฉิงหัวเราะ “หมี่หลานกวง วิธีหว่านความไม่ลงรอยของเจ้าไม่มีประโยชน์ไร้สาระ”

 

แต่ในเวลาต่อมาผู้อมตะคลังสมบัติกลับหันหน้าไปทางเจี้ยนอี้เฉิงด้วยความโกรธ “เจี้ยนเฉิง เจ้ากล้าดีอย่างไร!?”

 

เมื่อไม่สามารถหลอกผู้อมตะคลังสมบัติ เจี้ยนอี้เฉิงหัวเราะและเร่งหลบหนี

 

“เจี้ยนอี้เฉิงผู้นี้ก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดแล้ว!” “นี่คือความเร็วที่แท้จริงของเขานั้นหรือ? เร็วมาก!”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติตกตะลึงและโกรธจัด เขาถูกเจี้ยนอี้เฉิงหลอกใช้ ตอนนี้เจี้ยนอี้เพิ่งได้รับผลประโยชน์มากกว่าเขาและทิ้งเขาไว้ขัดขวางหมี่หลานกวง

 

“น้องหมี ข้าจะคืนดอกไม้อัสนีดาราให้เจ้า อย่ากังวล ข้าขุดมันมาพร้อมกับราก เจ้าจะสามารถปลูกมันอีกครั้ง นอกจากนี้ข้าจะชดเชยให้เจ้าด้วยทรัพยากรที่มีมูลค่าเท่ากัน” ผู้อมตะคลังสมบัติกล่าวอย่างจริงจัง

 

หมี่หลานกวงยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “สถานการณ์นี้คือ?”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติตอบ “เราจะเป็นพันธมิตรเพื่อจัดการเจี้ยนอี้เฉิง”

 

ตอนนี้เขาเกลียดเจี้ยนอี้เฉิงมาก

 

หมี่หลานกวงก็เช่นกัน

 

เขายิ้มและยื่นมือออกไป “เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับท่าน สหายจากทะเลตะวันออก”

 

ทั้งสองบรรลุข้อตกลงและเริ่มไล่ล่าเจี้ยนอี้เฉิงทันที

 

สิ่งที่ทําให้คนทั้งสองโกรธมากขึ้นก็คือแม้เจี้ยนอี้เฉิงจะสามารถหลบหนีแต่เขาเลือกที่จะไม่หนีไปไกลนัก เขาต้องการเห็นหมี่หลานกวงและผู้อมตะคลังสมบัติต่อสู้กัน จากนั้นเขาจะฉวยโอกาสในเวลาที่เหมาะสมเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

 

ตอนนี้เมื่อเห็นหมี่หลานกวงและผู้อมตะคลังสมบัติร่วมมือกัน เจี้ยนอี้เฉิงรู้สึกประหลาดใจและหงุดหงิดแต่เขาไม่ตื่นตระหนก

 

เขาเย้ยหยัน “เมื่อข้าเป็นผู้อมตะระดับหก ข้าสามารถหลบหนีจากผู้อมตะระดับเจ็ดจํานวนมาก ตอนนี้ข้าก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ด พวกเจ้าจะจับข้าได้ในชีวิตหน้าเท่านั้น!”

 

หลังกล่าวจบคํา เจี้ยนอี้เฉิงกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะกระบี่บินทันที

 

หมี่หลานกวงและผู้อมตะคลังสมบัติสาปแช่งเสียงดัง พวกเขาทําได้เพียงมองเจี้ยนอี้เฉิงหลบ หนี

 

อย่างไรก็ตามหลังจากไม่นานเจี้ยนอี้เฉิงกลับหันหลังกลับและสบถ “บัดซบ! แม้ท่าไม้ตายอมตะกระบี่บินจะรวดเร็วแต่มันใช้ได้ไม่นานขณะที่พวกเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล พวกเขาเชี่ยวชาญด้านการรวบรวมข้อมูลและแบะแส พวกเขาจะสามารถค้นหาข้า!”

 

หมี่หลานกวงและผู้อมตะคลังสมบัติเกลียดชังเจี้ยนอี้เฉิงเป็นอย่างมาก ดังนั้นทั้งสองจึงไล่ล่าเขาอย่างไม่ลดละ

 

ทุกช่วงเวลาอันตราย เจี้ยนอี้เฉิงจะกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะกระบี่บินเพื่อหลบหนี

 

แต่ไม่นานหมี่หลานกวงและผู้อมตะคลังสมบัติก็ตามเขาทันอีกครั้ง

 

เจี้ยนอี้เฉิงตะโกน “การไล่ล่าข้าเช่นนี้มีความหมายใด? พวกเจ้าจะสูญเสียพลังงานอมตะที่สะสมไว้ทั้งหมด มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่!”

 

หมี่หลานกวงเย้ยหยัน “ท่ามกลางพวกเราทั้งสาม เจ้าฟังก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดเมื่อไม่นานนี้ เจ้าจะมีพลังงานอมตะมากเท่าใด? แม้เราต้องทุ่มสุดตัว แต่ครั้งนี้เราต้องกําจัดเจ้าให้ได้!”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติพยักหน้า “ถูกต้อง ข้าจะบอกเจ้าให้รู้ว่าผู้อมตะของทะเลตะวันออกไม่สามารถล้อเล่น!”

 

เจี้ยนอี้เฉิงสาปแช่งด้วยความกังวล “หมี่หลานกวง ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น เราต่างก็เป็นผู้อมตะภาคกลาง แต่ตอนนี้เจ้ากลับร่วมมือกับคนต่างถิ่น เจ้าจะทรยศงั้นหรือ?”

 

หมี่หลานกวงหัวเราะเสียงเย็น “อย่าพยายามข่มขู่ข้า วันนี้เจ้าทําให้ข้าขุ่นเคือง ความตายของเจ้าเป็นสิ่งแน่นอน!”

 

เจี้ยนอี้เฉิงทําได้เพียงใช้ท่าไม้ตายอมตะกระบี่บินเพื่อหลบหนีอีกครั้ง

 

หลังจากชั่วครู่ ผู้อมตะคลังสมบัติก็เปิดปากกล่าว “โอ้ ไม่ ดูเหมือนเขาจะค้นพบวิธีการติดตามของข้าแล้ว”

 

เขาสูญเสียการเชื่อมต่อกับเจี้ยนอี้เฉิง

 

ในไม่ช้าเขากับหมี่หลานกวงก็มาถึงปาแห่งหนึ่งและค้นพบแขนขวาของเจี้ยนอี้เฉิง

 

เจี้ยนอี้เฉิงตระหนักถึงสิ่งผิดปกติและตัดสินใจตัดแขนขวาของตนออกไป

 

ใบหน้าของผู้อมตะคลังสมบัติกลายเป็นมืดครื้ม “ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”

 

“อย่ากังวล” หมี่หลานกวงยิ้ม “ทางนี้”

 

ทั้งสองไล่ล่าต่อไป

 

เจี้ยนอี้เฉิงรู้สึกกดดันมาก พลังงานอมตะของเขาลดลงเรื่อยๆ

 

“ข้ากําลังจะตายแต่ข้าไม่ยอมแพ้!”

 

“ข้าทําลายวิธีติดตามของผู้อมตะคลังสมบัติแต่หมี่หลานกวงใช้วิธีใด?”

 

“ข้ากล้าทําให้เจ้าขุ่นเคืองเพราะข้าเข้าใจวิธีการทั้งหมดของเจ้า แต่ตอนนี้ข้าไม่รู้ว่าเจ้าใช้วิธีใด!”

 

“บอกความจริงกับข้าก่อนตายได้หรือไม่?”

 

หมี่หลานกวงเย้ยหยัน “อย่าแม้แต่จะคิด ไปสู่ชีวิตหลังความตายและเป็นผีโง่ซะ!”

 

แต่เจี้ยนอี้เฉิงยังใช้ท่าไม้ตายอมตะกระบี่บินหลบหนีอีกครั้ง

 

“ชายผู้นี้เจ้าเล่ห์เกินไป!” ผู้อมตะคลังสมบัติกัดฟันแน่น

 

“อย่ากังวล เว้นเพียงเขาจะหนีออกจากภาคกลาง มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถหลบหนีจากการตรวจสอบของข้า” หมี่หลานกวงกล่าวด้วยความมั่นใจ

 

ผู้อมตะคลังสมบัติเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “วิธีการของน้องหมีช่างน่าทึ่งนัก กระทั่งข้าก็ยังไม่พบวิธีการของเจ้า”

 

หมี่หลานกวงหัวเราะและโบกมือ “ท่านเข้าใจผิดแล้ว นี่ไม่ใช่วิธีการของข้าแต่เป็นการจัดเตรียมของเทพอมตะบัวสวรรค์”

 

“เจ้าหมายถึงสิ่งใด?”

 

“วังสวรรค์มีความลับที่ยิ่งใหญ่ แต่ข้ารู้ข้อมูลบางอย่าง ข้าจะอธิบายระหว่างทาง”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติพยักหน้าและตั้งใจฟัง

 

หมี่หลานกวงเคยบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งสายฟ้าและเป็นสมาชิกนิกายเมฆาวายุ แต่เขาทําผิดกฎของนิกาย เขาถูกทําลายการบ่มเพาะและถูกขับไล่ออกมา หลังจากนั้นเขาเปลี่ยนมาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งข้อมูลและก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดอีกครั้ง

 

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หมี่หลานกวงจะรู้ความลับบางอย่างของวังสวรรค์

 

หมี่หลานกวงกล่าว “ท่าไม้ตายนี้เรียกว่าวิสัยทัศน์ของทุกคน มันเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะบัวสวรรค์ ท่าไม้ตายนี้พึ่งพาท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่ง มันสามารถแบ่งปันมุมมองของคนภาคกลางทั้งหมด ตราบเท่าที่บางคนเห็นการเคลื่อนไหวหรือเบาะแสเพียงเล็กน้อยของเจี้ยนอี้เฉิง ข้าจะได้รับข้อมูลจากการมองเห็นของพวกเขาโดยตรง”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติตระหนักถึงบางสิ่ง “เป็นเช่นนี้ วิสัยทัศน์ของทุกคน ช่างลึกซึ้งนัก โดยธรรมชาติแล้วท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่งสามารถแบ่งปันความคิดและแยกแยะมิตรกับศัตรูเพื่อคนหาคนทรยศ.เดี๋ยว!”

 

ผู้อมตะคลังสมบัติหยุดอย่างกะทันหันและมองหมี่หลานกวงด้วยสายตาน่ากลัว

 

เนื่องจากหมี่หลานกวงสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะวิสัยทัศน์ของทุกคน นั่นหมายความว่าเขาได้รับอิทธิพลของท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่ง

 

เขาเป็นผู้อมตะของภาคกลาง แล้วเขาจะยอมรับผู้บุกรุกได้อย่างไร มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้อมตะคลังสมบัติ เจ้าตกหลุมพรางของเราแล้ว!” เจี้ยนอี้เฉิงเผยตัวออกมาและหัวเราะเสียงดัง

 

ผู้บ่มเพาะสันโดษของภาคกลางอีกหลายคนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกกระตุ้นใช้งาน ผู้อมตะคลังสมบัติติดอยู่ภายใน

 

ทุกสิ่งเป็นการสมรู้ร่วมคิด ดอกไม้อสนีดาราเป็นเพียงเหยื่อล่อปลาใหญ่เช่นผู้อมตะคลังสมบัติเท่านั้น 

 

ในเวลาเดียวกัน

 

สมรภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

ในที่สุดการต่อสู้อันยาวนานก็มาถึงจุดสําคัญ

 

ฟางหยวนและคนอื่นๆพุ่งเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์ขณะที่ราชันมังกรถูกหยุดโดยตี้จางเฉิง

 

หากฟางหยวนทําลายวิญญาณชะตากรรม แผนการของวังสวรรค์จะล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

 

ในทางตรงข้ามหากฟางหยวนไม่ประสบความสําเร็จ ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย พวกเขาจะถูกปิดล้อมโดยผู้อมตะของวังสวรรค์

 

“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วจริงๆ ข้าต้อง..ฟางหยวนตั้งใจแน่วแน่แต่ในจังหวะนี้หอคอยดวงตาสวรรค์กลับระเบิดแสงสีขาวออกมาอีกครั้ง

 

ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตา!

 

“มันสามารถใช้ท่าไม้ตายนี้อีกครั้งได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ!” ฟางหยวนตกใจมาก

 

เมื่อแสงสีขาวจางหายไป คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลายหลังก็ถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์พร้อมกับผู้อมตะที่อยู่ภายใน ผู้อมตะระดับแปดสองคนที่อยู่ด้านหลังฟางหยวน หนึ่งใกล้ตาย อีกหนึ่งหมดสติ

 

“ช่างทรงพลังนัก!”

 

“วิญญาณชะตากรรมน่ากลัวเกินไป!”

 

“นี่คือพลังที่แท้จริงของหอคอยดวงตาสวรรค์งั้นหรือ?”

 

ผู้อมตะภาคเหนือและภาคใต้ตกสู่ความสิ้นหวัง ในทางตรงข้ามผู้อมตะภาคกลางโห่ร้องอย่างมีความสุข

 

“วังสวรรค์แข็งแกร่งที่สุด!”

 

“กําจัดผู้บุกรุก ให้พวกเขาชดใช้ด้วยเลือด!”

 

“ภาคกลางจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน!”

 

ด้วยท่าไม้ตายอมตะวิสัยทัศน์ของทุกคน ผู้คนในภาคกลางสามารถมองเห็นฉากเหตุการณ์นี้

 

พลังอํานาจของวังสวรรค์ฝังลึกอยู่ในหัวใจของทุกคน

 

“ท่านแม่ เหตุใดพวกเขาจึงล้มลง? ปีศาจทั้งหมดยกเว้นเขาล้มลงหมดแล้ว” เด็กหญิงจับมือมารดาของนางและถามด้วยความสงสัย

 

กระทั่งมนุษย์ธรรมดาก็ยังเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

น่าเสียดายที่มารดาของเด็กหญิงเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา นางสายหน้า “แม่ก็ไม่รู้เช่นกัน แต่อย่ากังวล ภาคกลางของเราได้รับการปกป้องจากผู้อมตะ เราจะไม่แพ้”

 

“ฟางหยวน…”

 

“ถูกต้อง เขาเป็นปีศาจต่างโลก”

 

“เขาไม่ใช่ปีศาจต่างโลกธรรมดาแต่เป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ ท่าไม้ตายอมตะจํานนต่อโชคชะตาไม่ส่งผลกระทบต่อเขา”

 

หลังจากมีนงง ผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือสามารถตอบสนองในที่สุด

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์บินออกจากหอคอยดวงตาสวรรค์และปิดกั้นฟางหยวน

 

อย่างไรก็ตาม

การดํารงอยู่ของฟางหยวนเหมือนประกายไฟที่ถูกจุดขึ้นในหัวใจของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ และภาคเหนืออีกครั้ง

 

“เขาเป็นความหวังเดียวที่เหลืออยู่!”

 

“ถูกต้อง เรายังมีฟางหยวน!”

 

“แม้ข้าจะเกลียดเขา แต่….”

 

ดวงตาของผู้อมตะภาคใต้และภาคเหนือเต็มไปด้วยความแน่วแน่

 

“ขวัญกําลังใจของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น” ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกประหลาดใจ

 

“เร็ว ฆ่าฟางหยวน!” ราชันมังกรเร่งออกคําสั่ง

 

ในเวลาเดียวกันคําสั่งของวูหยงก็ถูกส่งออกไปเช่นกัน “พันธมิตรภาคใต้ ฟังคําสั่งข้า ใช้กําลังทั้งหมดเพื่อช่วยฟางหยวนทําลายวิญญาณชะตากรรม!”

 

ปิงช่ายฉวนตะโกนเช่นกัน “ช่วยฟางหยวน นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเรา หากไม่สําเร็จ เราจะตายกันหมด!”

 

“คนพวกนี้” ฟางหยวนรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่สนับสนุนเขาอยู่ด้านหลัง นั่นทําให้ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้น

 

เขาหัวเราะอย่างเต็มที่ “ดี จากนี้ไปผู้ใดกล้าหยุดข้า หากพวกเจ้าไม่ตายก็เป็นข้า!”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+