Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1753 รับมรดกของเทพปีศาจบัวแดงอีกครั้ง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1753 รับมรดกของเทพปีศาจบัวแดงอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1753 รับมรดกของเทพปีศาจบัวแดงอีกครั้ง

 

ทุ่งหญ้าที่ว่างเปล่า

 

แสงลึกลับส่องประกายบนท้องฟ้าก่อนที่ผู้อมตะสี่คนจะปรากฏตัวขึ้น

 

พวกเขาคือฟางหยวน อิงอู๋เซีย เทพธิดาเมี่ยวหยิน และเทพธิดากระต่ายขาว

 

ตอนนี้เทพธิดาเมี่ยวหยิน เทพธิดากระต่ายขาว และผมที่หกยังไม่ตาย พวกเขายังมีชีวิตอยู่

 

“เอาล่ะ พวกเจ้ากลับไปฝึกฝนได้” ฟางหยวนส่งผู้อมตะทั้งสามเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

สมาชิกนิกายเงาทั้งหมดฝึกฝนอยู่ในมิติซ่องว่างของฟางหยวน

 

ฟางหยวนนําพวกเขาออกมาเพียงเพื่อใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะทองรอบทิศ นี่เป็นวิธีเคลื่อนย้ายสถานที่ระยะไกลในพริบตาของเขาในขณะนี้

 

หลังจากฟางหยวนสูญเสียวิญญาณท่องแดนอมตะ ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศเข้ามาแทนที่ มันช่วยให้เขารอดพ้นจากสถานการณ์อันตรายมาได้หลายต่อหลายครั้ง

 

“แต่วิญญาณท่องแดนอมตะยังสะดวกกว่าในการใช้งาน” ฟางหยวนถอนหายใจ

 

ฟางหยวนเดินทางไกลมายังอีกมุมหนึ่งของภาคเหนือ แต่กลิ่นอายของค่ายกลวิญญาณอมตะท่องรอบทิศไม่สามารถปกปิด มันจะดึงดูดผู้คน ดังนั้นฟางหยวนจึงปรากฏตัวขึ้นในสถานที่รกร้างว่างเปล่าและห่างไกลจากผู้คนเพื่อหลีกเลี่ยงกองกําลังใหญ่

 

หากเขามีวิญญาณท่องแดนอมตะ มันจะไม่ลําบากมากนัก

 

ฟางหยวนคิดต่อ “แน่นอนว่าวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดเหมาะสมกับข้ามากกว่า”

 

“ตอนนี้ฟงจิวเก้อจะมีวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดอยู่ในการครอบครองหรือยัง?”

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดจากฟงจิวเก้อโดยใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณในการต่อสู้ที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

วิญญาณอมตะดวงนี้มีประโยชน์มากสําหรับฟางหยวน

 

แม้หลังจากกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดแล้ว วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดก็ยังสามารถใช้เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายทองแดนอมตะเพื่อนําฟางหยวนเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง

 

ค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศด้อยกว่าวิญญาณท่องแดนอมตะ มันไม่สามารถนําผู้ใช้งานข้ามกําแพงภูมิภาค นอกจากนั้นมันยังมีข้อจํากัดด้านจํานวนคน

 

“ในชีวิตก่อนหน้า ข้าโชคดีที่สามารถขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะโดยใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณ แต่วิธีนี้ไม่น่าเชื่อถือ มันพึ่งพาโชค ข้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าข้าจะได้รับวิญญาณท่องแดนอมตะในครั้งนี้

 

ฟางหยวนเกิดใหม่โดยพึ่งพาวิญญาณกาลเวลา เขานําข้อมูลล้ำค่า ระดับความสําเร็จ และท่าไม้ตายอมตะกลับมาด้วย แต่โชคของเขาลดลงอย่างมาก

 

ไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชคเพื่อเพิ่มโชคของตนเองอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตามวิธีบนเส้นทางแห่งโชคของเขาไม่มีประสิทธิภาพมากนัก

 

“ในการต่อสู้ครั้งก่อน เฉิงตูและเจ้าหญิงนิทราอ่อนแอกว่าข้า แม้โชคของข้าจะไม่ดีนัก แต่การกําจัดพวกเขาก็ไม่ใช่ปัญหา

 

ฟางหยวนค่อนข้างพอใจกับการต่อสู้สองครั้งก่อนหน้า

 

สถานการณ์ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของเขา

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาขาดวิธีโจมตีที่ทรงพลังเช่นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป เขาทําได้เพียงใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณและบุตรแห่งภูตเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม

 

ยังบังคับให้ฟางหยวนต้องหลบหนี

 

ถระเบิดตัวเอง นอ ออกจากการต่อสู้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนเสี่ยงมาก เขาใช้ความพยายามและเวลามากมายในการคิดค้นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปและประสบความสําเร็จก่อนการต่อสู้บนเทือกเขาห้าภูมิภาคเท่านั้น เขาใช้มันจับกุมผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์จวินเฉินกวงและทําให้วหยงตกตะลึง

 

ครั้งนี้เขาสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปตั้งแต่เริ่มต้นขณะที่ผลลัพธ์ของมันชัดเจนมาก

 

หลังจากสังหารเฉิงตูและเจ้าหญิงนิทรา ฟางหยวนได้รับทรัพยากรหลักในการหลอมรวมวิญญาณอมตะหมื่นตัวตนสามชิ้นแรกมาแล้ว สําหรับทรัพยากรชิ้นสุดท้าย มันคือเพลิงชีวิต

 

จากประสบการณ์ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนไม่จําเป็นต้องค้นหาเพลิงชีวิตด้วยตนเอง อีกไม่นานผู้อมตะจางจื่อจะนํามันออกมาวางขายในสวรรค์สีเหลือง เมื่อเวลานั้นมาถึงฟางหยวนจะสามารถซื้อมันจากเขา

 

ฟางหยวนมายังทุ่งหญ้ารกร้างแห่งนี้เพื่อจุดประสงค์อื่น

 

เขาบินลงสู่พื้นก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

ผลาญวิญญาณระเบิดโชค!

 

“รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าไม่สูงนัก ข้าต้องระวังการใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค แต่คราวนี้ข้ากําลังจะเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลา เพื่อความปลอดภัย ข้าต้องใช้มัน” ฟางหยวนถอนหายใจ

 

ท่าไม้ตายอมตะราชันภูตพึ่งพารากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเช่นกัน แต่ฟางหยวนต้องใช้มันเพื่อป้องกันการอนุมานจากศัตรู

 

ตอนนี้ฟางหยวนยังมีวิญญาณความเด็ดเดี่ยวเหลืออยู่ในคลังสมบัติแต่การบ่มเพาะจิตวิญญาณของเขาต้องหยุดลงเนื่องจากภูเขาตงฮันพึ่งถูกจุดชนวนระเบิดในมือของเทพธิดาจื่อเว่ย ฟางหยวนต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเพื่อกู้คืนมัน

 

หลังจากใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค โชคของฟางหยวนพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตามมันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้าในช่วงเวลาเดียวกันนี้

 

ข้อเสียของวิญญาณกาลเวลายิ่งใหญ่มาก ยิ่งการบ่มเพาะของผู้ใช้งานสูงเท่าใด โชคของพวกเขาก็ยิ่งลดลงเท่านั้น ฟางหยวนไม่รู้ว่าเทพปีศาจบัวแดงจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร

 

ฟางหยวนเดินไปรอบๆและกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถูกซ่อนไว้

 

จากนั้นเขาก็เข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะและหายตัวไปจากจุดนั้น

 

นี่คือค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถูกทิ้งไว้โดยนิกายเงา มันใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋จากสภาพแวดล้อมเพื่อปกปิดตัวมันเอง

 

ฟางหยวนมองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาก่อนจะใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาบางท่า

 

นี่เป็นท่าไม้ตายที่เขาพึ่งคิดค้นขึ้นและยังไม่ได้ตั้งชื่อ จุดประสงค์หลักของมันคือการปกปิดตัวตนและป้องกันการอนุมาน

 

หลังจากใช้ท่าไม้ตายนี้ ฟางหยวนสูดหายใจลึกและกระโดดลงไปในสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา

 

เขาเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลาสายหลักอย่างรวดเร็ว

 

ไกลออกไปคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังหนึ่งลอยอยู่เหนือสายธารแห่งกาลเวลา

 

มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะวิหารอดีตปัจจุบัน

 

มีผู้อมตะสี่คนอยู่ในวิหารอดีตปัจจุบัน สามชาย หนึ่งหญิง

 

พวกขาคือสี่ขุ่นจือจากนิกายผีเสื้อจิตวิญญาณ ทั้งสี่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด

 

ฟางหยวนใช้เกาะบัวหินที่ครองครองโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณสังหารหงซื่อของวังสวรรค์และทําให้พวกเขาประสบปัญหาขาดแคลนผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

แม้สี่ซุนจือจะไม่ใช่สมาชิกของวังสวรรค์แต่พวกเขามีความแข็งแกร่งและภักดี เทพธิดาจื่อเว่ยส่งพวกเขามาปกป้องสายธารแห่งกาลเวลาพร้อมกับวิหารอดีตปัจจุบัน หากฟางหยวนเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลา พวกเขาจะสังเกตเห็นทันที

 

“หือ?” จางซุนจือรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เกาซุนจือถาม

 

จางซุนจือชี้ไปยังหน้าจอแสดงภาพที่อยู่ในวิหารอดีตปัจจุบันและกล่าวด้วยความลังเล “ข้าคิดว่าข้าเห็นระลอกคลื่นที่ผิดปกติก่อนหน้านี้”

 

“เช่นนั้นเราไปตรวจสอบกันเถอะ” เกาซุนจือกล่าว

 

สี่ชุนจือกระต้นใช้งานวิหารอดีตปัจจุบันและตรวจสอบพื้นที่หลายสิบครั้งแต่กลับไม่พบสิ่งผิดปกติ

 

“ข้าอาจมองผิดไป ฮ่าฮ่าฮ่า” จางซุนจ่อหัวเราะด้วยความเขินอาย

 

“พี่ใหญ่อย่าประหม่าเกินไป ฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเราทั้งสี่สามารถเอาชนะเขาแม้จะไม่มีวิหารอดีตปัจจุบันก็ตาม” จงซุนจือปลอบโยน

 

วังสวรรค์เข้าใจพลังการต่อสู้ในปัจจุบันของฟางหยวนเป็นอย่างดี

 

เกาซุนจือหัวเราะคิกคัก “อย่ากังวล อย่ากังวล แม้พวกท่านจะตาย ตราบเท่าที่ข้ารอดชีวิต พวกท่านก็สามารถฟื้นคืนชีพ”

 

“ฮืม เจ้ากําลังสาปแช่งพี่ชายของเจ้างั้นหรือ?”

 

“เห้อ…”

 

“เจ้าช่างซุกซนนัก!”

 

“ท่านพี่ ปล่อยข้า…”

 

ภายในวิหารอดีตปัจจุบันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

 

ทั้งสี่ล้อเล่นกันอย่างสนุกสนานโดยไม่รู้ตัวเลยว่าฟางหยวนมาถึงสายธารแห่งกาลเวลาเรียบร้อยแล้ว

 

ในชีวิตก่อนหน้า วิหารอดีตปัจจุบันค้นพบคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ของฟางหยวน แต่ชีวิตนี้แตกต่างออกไป

 

ประการแรก ฟางหยวนพบเพียงวิหารอดีตปัจจุบันเท่านั้น วังสวรรค์ยังไม่ได้ส่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสามหลังออกมา

 

ประการที่สอง ฟางหยวนมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิหารอดีตปัจจุบัน เขาทําลายมันมาแล้วถึงสองครั้งในชีวิตก่อนหน้า สี่ซุนจือเสียชีวิตในมือของฟางหยวน เขายังจับและค้นวิญญาณของสามซุนจือ นั่นทําให้เขาสามารถเรียนรู้ความลับเกี่ยวกับวิหารอดีตปัจจุบัน

 

ประการสุดท้าย ฟางหยวนได้รับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหลายดวงหลังจากกําเนิดใหม่ หนึ่งในนั้นเป็นวิญญาณอมตะซ่อนเวลาระดับเจ็ด มันอนุญาตให้ผู้ใช้งานปกปิดร่องรอยของพวกเขา ด้วยการใช้วิญญาณอมตะดวงนี้เป็นแกนกลาง ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ฟางหยวนคิดค้นขึ้นสามารถหลบหนีจากการตรวจสอบของวิหารอดีตปัจจุบัน

 

ด้วยเหตุนี้คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดวิหารอดีตปัจจุบันจึงไม่พบการคงอยู่ของฟางหยวน

 

ฟางหยวนเคลื่อนที่ไปในสายธารแห่งกาลเวลาอย่างรวดเร็ว

 

เขาเผชิญหน้ากับอุปสรรคและปัญหาบางอย่าง

 

น้ำพุกะทันหันสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปด นอกจากนี้ยังมีอสูรปี

 

โชคดีที่ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชคมาแล้ว นั่นทําให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงพวกมันและไม่ทําให้เกิดความโกลาหล

 

หากการต่อสู้ปะทุขึ้น มีโอกาสสูงที่วิหารอดีตปัจจุบันจะค้นพบเขา

 

ตอนนี้ฟางหยวนยังไม่มีสระแก่นแท้ปี โดยปราศจากมัน เขาก็ไม่สามารถรวบรวมอสูรปีแรกกําเนิด

 

ในที่สุดวิญญาณกาลเวลาก็เริ่มสั่นสะเทือน หลังจากไม่นานฟางหยวนก็พบเกาะบัวหิน!

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1753 รับมรดกของเทพปีศาจบัวแดงอีกครั้ง

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1753 รับมรดกของเทพปีศาจบัวแดงอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1753 รับมรดกของเทพปีศาจบัวแดงอีกครั้ง

 

ทุ่งหญ้าที่ว่างเปล่า

 

แสงลึกลับส่องประกายบนท้องฟ้าก่อนที่ผู้อมตะสี่คนจะปรากฏตัวขึ้น

 

พวกเขาคือฟางหยวน อิงอู๋เซีย เทพธิดาเมี่ยวหยิน และเทพธิดากระต่ายขาว

 

ตอนนี้เทพธิดาเมี่ยวหยิน เทพธิดากระต่ายขาว และผมที่หกยังไม่ตาย พวกเขายังมีชีวิตอยู่

 

“เอาล่ะ พวกเจ้ากลับไปฝึกฝนได้” ฟางหยวนส่งผู้อมตะทั้งสามเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

สมาชิกนิกายเงาทั้งหมดฝึกฝนอยู่ในมิติซ่องว่างของฟางหยวน

 

ฟางหยวนนําพวกเขาออกมาเพียงเพื่อใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะทองรอบทิศ นี่เป็นวิธีเคลื่อนย้ายสถานที่ระยะไกลในพริบตาของเขาในขณะนี้

 

หลังจากฟางหยวนสูญเสียวิญญาณท่องแดนอมตะ ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศเข้ามาแทนที่ มันช่วยให้เขารอดพ้นจากสถานการณ์อันตรายมาได้หลายต่อหลายครั้ง

 

“แต่วิญญาณท่องแดนอมตะยังสะดวกกว่าในการใช้งาน” ฟางหยวนถอนหายใจ

 

ฟางหยวนเดินทางไกลมายังอีกมุมหนึ่งของภาคเหนือ แต่กลิ่นอายของค่ายกลวิญญาณอมตะท่องรอบทิศไม่สามารถปกปิด มันจะดึงดูดผู้คน ดังนั้นฟางหยวนจึงปรากฏตัวขึ้นในสถานที่รกร้างว่างเปล่าและห่างไกลจากผู้คนเพื่อหลีกเลี่ยงกองกําลังใหญ่

 

หากเขามีวิญญาณท่องแดนอมตะ มันจะไม่ลําบากมากนัก

 

ฟางหยวนคิดต่อ “แน่นอนว่าวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดเหมาะสมกับข้ามากกว่า”

 

“ตอนนี้ฟงจิวเก้อจะมีวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดอยู่ในการครอบครองหรือยัง?”

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดจากฟงจิวเก้อโดยใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณในการต่อสู้ที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

วิญญาณอมตะดวงนี้มีประโยชน์มากสําหรับฟางหยวน

 

แม้หลังจากกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดแล้ว วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดก็ยังสามารถใช้เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายทองแดนอมตะเพื่อนําฟางหยวนเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง

 

ค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศด้อยกว่าวิญญาณท่องแดนอมตะ มันไม่สามารถนําผู้ใช้งานข้ามกําแพงภูมิภาค นอกจากนั้นมันยังมีข้อจํากัดด้านจํานวนคน

 

“ในชีวิตก่อนหน้า ข้าโชคดีที่สามารถขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะโดยใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณ แต่วิธีนี้ไม่น่าเชื่อถือ มันพึ่งพาโชค ข้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าข้าจะได้รับวิญญาณท่องแดนอมตะในครั้งนี้

 

ฟางหยวนเกิดใหม่โดยพึ่งพาวิญญาณกาลเวลา เขานําข้อมูลล้ำค่า ระดับความสําเร็จ และท่าไม้ตายอมตะกลับมาด้วย แต่โชคของเขาลดลงอย่างมาก

 

ไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชคเพื่อเพิ่มโชคของตนเองอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตามวิธีบนเส้นทางแห่งโชคของเขาไม่มีประสิทธิภาพมากนัก

 

“ในการต่อสู้ครั้งก่อน เฉิงตูและเจ้าหญิงนิทราอ่อนแอกว่าข้า แม้โชคของข้าจะไม่ดีนัก แต่การกําจัดพวกเขาก็ไม่ใช่ปัญหา

 

ฟางหยวนค่อนข้างพอใจกับการต่อสู้สองครั้งก่อนหน้า

 

สถานการณ์ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของเขา

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาขาดวิธีโจมตีที่ทรงพลังเช่นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป เขาทําได้เพียงใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณและบุตรแห่งภูตเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม

 

ยังบังคับให้ฟางหยวนต้องหลบหนี

 

ถระเบิดตัวเอง นอ ออกจากการต่อสู้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนเสี่ยงมาก เขาใช้ความพยายามและเวลามากมายในการคิดค้นท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปและประสบความสําเร็จก่อนการต่อสู้บนเทือกเขาห้าภูมิภาคเท่านั้น เขาใช้มันจับกุมผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์จวินเฉินกวงและทําให้วหยงตกตะลึง

 

ครั้งนี้เขาสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปตั้งแต่เริ่มต้นขณะที่ผลลัพธ์ของมันชัดเจนมาก

 

หลังจากสังหารเฉิงตูและเจ้าหญิงนิทรา ฟางหยวนได้รับทรัพยากรหลักในการหลอมรวมวิญญาณอมตะหมื่นตัวตนสามชิ้นแรกมาแล้ว สําหรับทรัพยากรชิ้นสุดท้าย มันคือเพลิงชีวิต

 

จากประสบการณ์ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนไม่จําเป็นต้องค้นหาเพลิงชีวิตด้วยตนเอง อีกไม่นานผู้อมตะจางจื่อจะนํามันออกมาวางขายในสวรรค์สีเหลือง เมื่อเวลานั้นมาถึงฟางหยวนจะสามารถซื้อมันจากเขา

 

ฟางหยวนมายังทุ่งหญ้ารกร้างแห่งนี้เพื่อจุดประสงค์อื่น

 

เขาบินลงสู่พื้นก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

ผลาญวิญญาณระเบิดโชค!

 

“รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าไม่สูงนัก ข้าต้องระวังการใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค แต่คราวนี้ข้ากําลังจะเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลา เพื่อความปลอดภัย ข้าต้องใช้มัน” ฟางหยวนถอนหายใจ

 

ท่าไม้ตายอมตะราชันภูตพึ่งพารากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเช่นกัน แต่ฟางหยวนต้องใช้มันเพื่อป้องกันการอนุมานจากศัตรู

 

ตอนนี้ฟางหยวนยังมีวิญญาณความเด็ดเดี่ยวเหลืออยู่ในคลังสมบัติแต่การบ่มเพาะจิตวิญญาณของเขาต้องหยุดลงเนื่องจากภูเขาตงฮันพึ่งถูกจุดชนวนระเบิดในมือของเทพธิดาจื่อเว่ย ฟางหยวนต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเพื่อกู้คืนมัน

 

หลังจากใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค โชคของฟางหยวนพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตามมันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้าในช่วงเวลาเดียวกันนี้

 

ข้อเสียของวิญญาณกาลเวลายิ่งใหญ่มาก ยิ่งการบ่มเพาะของผู้ใช้งานสูงเท่าใด โชคของพวกเขาก็ยิ่งลดลงเท่านั้น ฟางหยวนไม่รู้ว่าเทพปีศาจบัวแดงจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร

 

ฟางหยวนเดินไปรอบๆและกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถูกซ่อนไว้

 

จากนั้นเขาก็เข้าไปในค่ายกลวิญญาณอมตะและหายตัวไปจากจุดนั้น

 

นี่คือค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถูกทิ้งไว้โดยนิกายเงา มันใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋จากสภาพแวดล้อมเพื่อปกปิดตัวมันเอง

 

ฟางหยวนมองสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาก่อนจะใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาบางท่า

 

นี่เป็นท่าไม้ตายที่เขาพึ่งคิดค้นขึ้นและยังไม่ได้ตั้งชื่อ จุดประสงค์หลักของมันคือการปกปิดตัวตนและป้องกันการอนุมาน

 

หลังจากใช้ท่าไม้ตายนี้ ฟางหยวนสูดหายใจลึกและกระโดดลงไปในสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา

 

เขาเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลาสายหลักอย่างรวดเร็ว

 

ไกลออกไปคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังหนึ่งลอยอยู่เหนือสายธารแห่งกาลเวลา

 

มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะวิหารอดีตปัจจุบัน

 

มีผู้อมตะสี่คนอยู่ในวิหารอดีตปัจจุบัน สามชาย หนึ่งหญิง

 

พวกขาคือสี่ขุ่นจือจากนิกายผีเสื้อจิตวิญญาณ ทั้งสี่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด

 

ฟางหยวนใช้เกาะบัวหินที่ครองครองโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณสังหารหงซื่อของวังสวรรค์และทําให้พวกเขาประสบปัญหาขาดแคลนผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

แม้สี่ซุนจือจะไม่ใช่สมาชิกของวังสวรรค์แต่พวกเขามีความแข็งแกร่งและภักดี เทพธิดาจื่อเว่ยส่งพวกเขามาปกป้องสายธารแห่งกาลเวลาพร้อมกับวิหารอดีตปัจจุบัน หากฟางหยวนเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลา พวกเขาจะสังเกตเห็นทันที

 

“หือ?” จางซุนจือรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เกาซุนจือถาม

 

จางซุนจือชี้ไปยังหน้าจอแสดงภาพที่อยู่ในวิหารอดีตปัจจุบันและกล่าวด้วยความลังเล “ข้าคิดว่าข้าเห็นระลอกคลื่นที่ผิดปกติก่อนหน้านี้”

 

“เช่นนั้นเราไปตรวจสอบกันเถอะ” เกาซุนจือกล่าว

 

สี่ชุนจือกระต้นใช้งานวิหารอดีตปัจจุบันและตรวจสอบพื้นที่หลายสิบครั้งแต่กลับไม่พบสิ่งผิดปกติ

 

“ข้าอาจมองผิดไป ฮ่าฮ่าฮ่า” จางซุนจ่อหัวเราะด้วยความเขินอาย

 

“พี่ใหญ่อย่าประหม่าเกินไป ฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเราทั้งสี่สามารถเอาชนะเขาแม้จะไม่มีวิหารอดีตปัจจุบันก็ตาม” จงซุนจือปลอบโยน

 

วังสวรรค์เข้าใจพลังการต่อสู้ในปัจจุบันของฟางหยวนเป็นอย่างดี

 

เกาซุนจือหัวเราะคิกคัก “อย่ากังวล อย่ากังวล แม้พวกท่านจะตาย ตราบเท่าที่ข้ารอดชีวิต พวกท่านก็สามารถฟื้นคืนชีพ”

 

“ฮืม เจ้ากําลังสาปแช่งพี่ชายของเจ้างั้นหรือ?”

 

“เห้อ…”

 

“เจ้าช่างซุกซนนัก!”

 

“ท่านพี่ ปล่อยข้า…”

 

ภายในวิหารอดีตปัจจุบันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

 

ทั้งสี่ล้อเล่นกันอย่างสนุกสนานโดยไม่รู้ตัวเลยว่าฟางหยวนมาถึงสายธารแห่งกาลเวลาเรียบร้อยแล้ว

 

ในชีวิตก่อนหน้า วิหารอดีตปัจจุบันค้นพบคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ของฟางหยวน แต่ชีวิตนี้แตกต่างออกไป

 

ประการแรก ฟางหยวนพบเพียงวิหารอดีตปัจจุบันเท่านั้น วังสวรรค์ยังไม่ได้ส่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสามหลังออกมา

 

ประการที่สอง ฟางหยวนมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิหารอดีตปัจจุบัน เขาทําลายมันมาแล้วถึงสองครั้งในชีวิตก่อนหน้า สี่ซุนจือเสียชีวิตในมือของฟางหยวน เขายังจับและค้นวิญญาณของสามซุนจือ นั่นทําให้เขาสามารถเรียนรู้ความลับเกี่ยวกับวิหารอดีตปัจจุบัน

 

ประการสุดท้าย ฟางหยวนได้รับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหลายดวงหลังจากกําเนิดใหม่ หนึ่งในนั้นเป็นวิญญาณอมตะซ่อนเวลาระดับเจ็ด มันอนุญาตให้ผู้ใช้งานปกปิดร่องรอยของพวกเขา ด้วยการใช้วิญญาณอมตะดวงนี้เป็นแกนกลาง ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ฟางหยวนคิดค้นขึ้นสามารถหลบหนีจากการตรวจสอบของวิหารอดีตปัจจุบัน

 

ด้วยเหตุนี้คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดวิหารอดีตปัจจุบันจึงไม่พบการคงอยู่ของฟางหยวน

 

ฟางหยวนเคลื่อนที่ไปในสายธารแห่งกาลเวลาอย่างรวดเร็ว

 

เขาเผชิญหน้ากับอุปสรรคและปัญหาบางอย่าง

 

น้ำพุกะทันหันสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปด นอกจากนี้ยังมีอสูรปี

 

โชคดีที่ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชคมาแล้ว นั่นทําให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงพวกมันและไม่ทําให้เกิดความโกลาหล

 

หากการต่อสู้ปะทุขึ้น มีโอกาสสูงที่วิหารอดีตปัจจุบันจะค้นพบเขา

 

ตอนนี้ฟางหยวนยังไม่มีสระแก่นแท้ปี โดยปราศจากมัน เขาก็ไม่สามารถรวบรวมอสูรปีแรกกําเนิด

 

ในที่สุดวิญญาณกาลเวลาก็เริ่มสั่นสะเทือน หลังจากไม่นานฟางหยวนก็พบเกาะบัวหิน!

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+