Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1808 ไล่ล่าเต๋า

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1808 ไล่ล่าเต๋า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1808 ไล่ล่าเต๋า

 

วังสวรรค์ สุสานอมตะ

 

เปลวไฟปะทุขึ้นและอาบย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีแดง

 

สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของเทพธิดาจื่อเว่ยและสมาชิกวังสวรรค์คนอื่นๆ

 

เทพธิดาจื่อเว่ยรีบเดินทางไปยังสุสานอมตะและเห็นจุดแสงสีเงินส่องประกายอยู่ท่ามกลางกองไฟ

 

เมื่อเปลวไฟดับลง ผู้อมตะสูงวัยในชุดคลุมสีแดงเข้มก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับผู้อมตะชราที่นั่งอ ยู่บนรถเข็นไม้

 

ผู้อมตะสูงวัยในชุดคลุมสีแดงเลือดคือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไฟ หลี่ฮวง และผู้อมตะชราที่นั่งอยู่บนรถเข็นไม้ก็คือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา กู้หลิวรู่

 

“ผู้น้อยจื่อเว่ยคารวะผู้อาวุโสทั้งสอง” เทพธิดาจื่อเว่ยโค้งคํานับ

 

กู้หลิวรู่พยักหน้าโดยไม่พูด ใบหน้าของเขาซีดขาว ร่างกายผอมแห้งเหมือนโครงกระดูก เขาเป็นอัมพาตและต้องนั่งอยู่บนรถเข็น

 

หลี่ฮวงกล่าว “เราไม่ได้ตื่นขึ้นโดยไร้เหตุผล วังสวรรค์ต้องการกําลังของเรา สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกละอายใจเมื่อต้องแจ้งสถานการณ์ปัจจุบันให้ทั้งสองคนทราบ

 

“ฟางหยวน? ข้าไม่คิดว่าปีศาจเช่นนี้จะปรากฏตัวขึ้นบนโลกใบนี้!

 

“ปีศาจตนนี้ดุร้ายเกินไป เขาเป็นเมล็ดพันธุ์ที่เทพปีศาจบัวแดงทิ้งไว้”

 

หลี่ฮวงกันเสียงเย็นด้วยความโกรธและไม่พอใจ

 

การแสดงออกของกู้หลิวรูกลายเป็นเย็นชาเช่นกัน “โชคดีที่สถานการณ์โดยรวมยังอยู่ในการควบคุมของเรา เมื่อวิญญาณชะตากรรมฟื้นคืน วังสวรรค์จะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด แม้ฟางหยวนจะแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาจะไม่สามารถทําสิ่งใด”

 

เขากล่าวกับเทพธิดาจื่อเว่ย “เจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา มันถูกต้องแล้วที่เจ้าจะ เป็นผู้นําวงสวรรค์ หากเจ้ามีงานให้พวกเราทํา อย่าได้ลังเล”

 

ความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเทพธิดาจื่อเว่ย “ผู้อาวุโส พวกท่านพึ่งตื่น พวกท่านควรพักผ่อนและฟื้นฟูพลังการต่อสู้เป็นอันดับแรก”

 

“เรากําลังสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาโดยไม่คํานึงถึงค่าใช้จ่าย เรายังต้องวางแผนจัดการสายธารแห่งกาลเวลา ผู้อาวุโส มันจะดีมากหากพวกท่านสามารถปกป้อ งสายธารแห่งกาลเวลา”

 

กู้หลิวรู่และหลี่ฮวงมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าและหัวเราะ “ดี ให้เราจัดการเทพปีศาจน้อยผู้นี้!”

 

พิจารณาจากความแข็งแกร่ง หลี่ฮวงเหนือกว่ากู้หลิวรู่ แต่เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกตื่นเต้นกับการตื่นขึ้นของกู้หลิวรุ่มากกว่า

 

หลังจากทั้งหมดในที่สุดผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่ของวังสวรรค์ก็ตื่นขึ้น สิ่งนี้สามารถบรรเทาปัญหาเร่งด่วนของเทพธิดาจื่อเว่ย

 

“แต่ฟางหยวนกําเนิดใหม่แล้ว เขาจะรู้เรื่องการตื่นขึ้นของผู้อาวุโสเหล่านี้หรือไม่?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้วเมื่อคิดถึงฟางหยวน

 

ฟางหยวนสามารถกําเนิดใหม่ มันลําบากที่จะจัดการศัตรูเช่นนี้เพราะมันทําให้พวกเขาสงสัยในการตัดสินใจของตนเอง

 

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่รู้ว่าในชีวิตก่อนหน้ามีเพียงหลี่ฮวงเท่านั้นที่ตื่นขึ้น กู้หลิวรู่ตื่นขึ้นในช่วงเวลาสุดท้ายเมื่อถ้ําสวรรค์นิรันดรบุกโจมตีวังสวรรค์ ในเวลานั้นกู้หลิวคู่ต่อสู้กับไห่ฟาน ในที่สุดเขาก็ถูกลอบสังหารโดยหลิวหลิว

 

ฟางหยวนทําลายวิหารอดีตปัจจุบันและนาวานิรันดร์ ผลกระทบหยดหมึกทําให้กู้หลิวรู่ตื่นขึ้นล่วงหน้า

 

ผู้อมตะระดับแปดผู้นี้จะเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อฟางหยวนในสายธารแห่งกาลเวลา

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคกลางน้อย

 

ฟางหยวนกําลังตรวจสอบบึงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และหมอกที่เกิดจากละอองเกสรตัวเมียของพวกมัน

 

หมอกเกสรดอกไม้เหล่านี้คืออาหารของวิญญาณความเสียใจ

 

ชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนสร้างแหล่งทรัพยากรแห่งนี้หลังจากได้รับวิญญาณความเสียใจ

 

แต่ชีวิตนี้เขาร่ํารวยมากและสามารถสร้างมันล่วงหน้า แม้เขาจะยังไม่ได้รับวิญญาณความเสียใจ แต่เขาก็จะเตรียมความพร้อมสําหรับอนาคต เมื่อเขาได้รับวิญญาณความเสียใจ เขาก็ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับอาหารของมันอีก

 

แน่นอนว่าฟางหยวนทําสิ่งนี้หลังจากจัดหาอาหารให้กับวิญญาณอมตะดวงอื่นๆในการครอบครองของเขาเรียบร้อยแล้ว

 

ฟางหยวนกลืนกินมิติช่องว่างของเชลยและค้นวิญญาณของพวกเขา แต่กองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ไม่รู้เรื่องนี้และยังยอมรับการกรรโชกทรัพย์ของฟางหยวนต่อไป

 

วังสวรรค์ไม่รู้ว่าเทพปีศาจบัวแดงไม่ได้ทิ้งวิธีทําลายวิญญาณชะตากรรมเอาไว้ให้ฟางหยวน พวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและทุ่มเททุกสิ่งเพื่อจัดการสายธารแห่งกาลเวลา

 

เมื่อผู้คนยังเด็ก พวกเขาจะสนใจเพียงการต่อสู้ แต่หลังจากพวกเขาเติบโตขึ้น พวกเขาจะค่อยๆตระหนักว่าการต่อสู้เป็นเพียงวิธีการหนึ่งที่จะทําให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายและได้รับผลประโยชน์

 

มีความเสี่ยงสูงมากในการต่อสู้ที่ดุเดือดขณะที่ผลประโยชน์ไม่แน่นอน โดยปกติทั้งสองฝ่ายมักพบความสูญเสียเช่นเดียวกัน ดังนั้นวิธีนี้จึงสามารถใช้งานเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นเท่านั้น

 

ฟางหยวนให้ความสําคัญกับการวางแผนมากกว่า เขาไม่ใช่คนบ้าการต่อสู้ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องต่อสู้ เขาก็จะต่อสู้โดยปราศจากความหวาดกลัว

 

มีความแตกต่างระหว่างโลกของผู้ใช้วิญญาณกับโลกมนุษย์ คนผู้หนึ่งสามารถบ่มเพาะและได้รับพลังอํานาจที่สามารถเอาชนะกองกําลังขนาดใหญ่

 

ตัวอย่างเช่นเทพปีศาจจิตวิญญาณ

วิธีเดียวที่เขาใช้คือการฆ่า

 

ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า

 

เข่นฆ่าทุกสิ่ง ทําลายสวรรค์พิภพ

 

เขาไม่จําเป็นต้องวางแผนใดๆแต่เขายังได้รับผลประโยชน์สูงสุด

 

เพราะเหตุใด?

 

เพราะเขาบ่มเพาะเต่ําของตนเอง

 

นี่คือความเข้าใจสวรรค์พิภพของเขา มันคือความเข้าใจของเขาที่มีต่อตัวเขาเอง

 

ทุกสิ่งที่เขาฆ่าจะทําให้เขาเกิดความเข้าใจและมีความก้าวหน้า

ในช่วงชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน เขาต้องใช้เวลานับร้อยปีก่อนจะเข้าใจหลักการเหล่านี้

 

เขาเคยคิดว่าเต๋ของเขาคือสิ่งใด หรือกล่าวให้ชัดเจนกว่านั้น เขาสามารถสร้างเส้นทางเช่นไร?

 

กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่มีคําตอบที่ชัดเจนสําหรับคําถามนี้

 

เขาเดินไปบนเส้นทางที่คลุมเครือและเต็มไปด้วยอันตราย มีสัตว์ดุร้ายมากมายที่ต้องการกัดกินเขา

 

ท่ามกลางสัตว์ดุร้ายเหล่านี้ วังสวรรค์คือสัตว์ร้ายที่อันตรายที่สุด

 

เขาต้องใช้กําลังทั้งหมดเพื่อหาโอกาสเอาชนะสัตว์ร้ายตัวนี้และเดินหน้าต่อไปบนเส้นทางของเขา

 

ทั้งฟางหยวนและเทพธิดาจื่อเว่ยเปิดเผยข้อมูลของกันและกันซ้ําแล้วซ้ําอีกโดยหวังที่จะหยิบยืมความแข็งแกร่งของผู้อมตะคนอื่นๆจัดการฝ่ายตรงข้าม ไม่มีผู้ใดชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ มันเหมือนกับการต่อสู้ระหว่างพยัคฆ์กับราชสีห์ กลิ่นคาวเลือดของพวกมันดึงดูดฝูงหมาปาจํานวนนับไม่ถ้วนเข้ามา

 

สถานการณ์อาจดูเหมือนฟางหยวนได้รับชื่อเสียงที่น่าประทับใจ แต่แท้จริงแล้วมีกระแสน้ําอันเชี่ยวกรากซ่อนอยู่ในความมืด หลายคนกําลังคิดวิธีจัดการเขาและวิญญาณกาลเวลา

 

หลังจากทั้งหมดไม่มีผู้ใดมีความสุขกับการปรากฏตัวของภัยคุกคามดังกล่าว

 

วิญญาณกาลเวลาไม่ได้ทรงพลังมากนัก มันเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับเจ็ดและมีวิธีการมากมายที่สามารถต่อต้านมัน

 

กระทั่งแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาก็มีหลายวิธีที่สามารถปราบปรามวิญญาณกาลเวลา

 

ในความเป็นจริงฟางหยวนค่อนข้างประหลาดใจที่วังสวรรค์ไม่มีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านวิญญาณกาลเวลา

 

ฉายาเทพปีศาจน้อยอาจฟังดูเหมือนยิ่งใหญ่ แต่มันแฝงไว้ด้วยเจตนาสังหาร นี่เป็นการเตือนโลกว่าหากฟางหยวนไม่ถูกฆ่า เขาจะเติบโตขึ้นเป็นเทพปีศาจ อนาคตของทุกคนจะเต็มไปด้วยอันตราย

 

ฟางหยวนอาจได้รับชัยชนะในสายธารแห่งกาลเวลาแต่เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่ามันเป็นเพียงชัยชนะเล็กๆน้อยๆทางยุทธวิธีและไม่สามารถทําลายแผยการใหญ่ของวังสวรรค์

 

วังสวรรค์ยังควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด

 

“ด้วยรากฐานของวังสวรรค์ ผลกระทบหยดหมึกน่าจะปรากฏขึ้นแล้ว ตัวละครที่ทรงพลังอาจตื่นขึ้นจากสุสานอมตะ”

 

“สิ่งสําคัญที่สุดคือข้าต้องใช้ทุกวินาทีเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง”

 

ฟางหยวนไม่หลงระเริงกับชัยชนะ เขามีความสุขเพียงชั่วครู่ก่อนจะกลับไปมุ่งมั่นกับการบ่มเพาะ

 

มันไม่ใช่การกล่าวเกินจริงที่จะบอกว่าเขาใช้เวลาทุกวินาที่อย่างเต็มที่

 

การบ่มเพาะจิตวิญญาณดําเนินไปอย่างราบรื่น รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณระดับจิตวิญญาณเดียวดายของฟางหยวนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ฟางหยวนเริ่มฝึกท่าไม้ตายอื่นๆเช่นการโจมตีต่อเนื่องของปาซื่อปา

 

ในช่วงเวลาเหล่านี้เขายังใช้ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกอมตะเดินทางออกไปเก็บเกี่ยวทรัพยากรอมตะมากมายจากร่องลึกใต้พิภพที่เกิดใหม่

 

วิญญาณอมตะเส้นโลหิตปฐพีระดับเจ็ดเป็นหนึ่งในนั้น

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1808 ไล่ล่าเต๋า

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1808 ไล่ล่าเต๋า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1808 ไล่ล่าเต๋า

 

วังสวรรค์ สุสานอมตะ

 

เปลวไฟปะทุขึ้นและอาบย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีแดง

 

สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของเทพธิดาจื่อเว่ยและสมาชิกวังสวรรค์คนอื่นๆ

 

เทพธิดาจื่อเว่ยรีบเดินทางไปยังสุสานอมตะและเห็นจุดแสงสีเงินส่องประกายอยู่ท่ามกลางกองไฟ

 

เมื่อเปลวไฟดับลง ผู้อมตะสูงวัยในชุดคลุมสีแดงเข้มก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับผู้อมตะชราที่นั่งอ ยู่บนรถเข็นไม้

 

ผู้อมตะสูงวัยในชุดคลุมสีแดงเลือดคือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไฟ หลี่ฮวง และผู้อมตะชราที่นั่งอยู่บนรถเข็นไม้ก็คือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา กู้หลิวรู่

 

“ผู้น้อยจื่อเว่ยคารวะผู้อาวุโสทั้งสอง” เทพธิดาจื่อเว่ยโค้งคํานับ

 

กู้หลิวรู่พยักหน้าโดยไม่พูด ใบหน้าของเขาซีดขาว ร่างกายผอมแห้งเหมือนโครงกระดูก เขาเป็นอัมพาตและต้องนั่งอยู่บนรถเข็น

 

หลี่ฮวงกล่าว “เราไม่ได้ตื่นขึ้นโดยไร้เหตุผล วังสวรรค์ต้องการกําลังของเรา สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกละอายใจเมื่อต้องแจ้งสถานการณ์ปัจจุบันให้ทั้งสองคนทราบ

 

“ฟางหยวน? ข้าไม่คิดว่าปีศาจเช่นนี้จะปรากฏตัวขึ้นบนโลกใบนี้!

 

“ปีศาจตนนี้ดุร้ายเกินไป เขาเป็นเมล็ดพันธุ์ที่เทพปีศาจบัวแดงทิ้งไว้”

 

หลี่ฮวงกันเสียงเย็นด้วยความโกรธและไม่พอใจ

 

การแสดงออกของกู้หลิวรูกลายเป็นเย็นชาเช่นกัน “โชคดีที่สถานการณ์โดยรวมยังอยู่ในการควบคุมของเรา เมื่อวิญญาณชะตากรรมฟื้นคืน วังสวรรค์จะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด แม้ฟางหยวนจะแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาจะไม่สามารถทําสิ่งใด”

 

เขากล่าวกับเทพธิดาจื่อเว่ย “เจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา มันถูกต้องแล้วที่เจ้าจะ เป็นผู้นําวงสวรรค์ หากเจ้ามีงานให้พวกเราทํา อย่าได้ลังเล”

 

ความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเทพธิดาจื่อเว่ย “ผู้อาวุโส พวกท่านพึ่งตื่น พวกท่านควรพักผ่อนและฟื้นฟูพลังการต่อสู้เป็นอันดับแรก”

 

“เรากําลังสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาโดยไม่คํานึงถึงค่าใช้จ่าย เรายังต้องวางแผนจัดการสายธารแห่งกาลเวลา ผู้อาวุโส มันจะดีมากหากพวกท่านสามารถปกป้อ งสายธารแห่งกาลเวลา”

 

กู้หลิวรู่และหลี่ฮวงมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าและหัวเราะ “ดี ให้เราจัดการเทพปีศาจน้อยผู้นี้!”

 

พิจารณาจากความแข็งแกร่ง หลี่ฮวงเหนือกว่ากู้หลิวรู่ แต่เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกตื่นเต้นกับการตื่นขึ้นของกู้หลิวรุ่มากกว่า

 

หลังจากทั้งหมดในที่สุดผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่ของวังสวรรค์ก็ตื่นขึ้น สิ่งนี้สามารถบรรเทาปัญหาเร่งด่วนของเทพธิดาจื่อเว่ย

 

“แต่ฟางหยวนกําเนิดใหม่แล้ว เขาจะรู้เรื่องการตื่นขึ้นของผู้อาวุโสเหล่านี้หรือไม่?”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้วเมื่อคิดถึงฟางหยวน

 

ฟางหยวนสามารถกําเนิดใหม่ มันลําบากที่จะจัดการศัตรูเช่นนี้เพราะมันทําให้พวกเขาสงสัยในการตัดสินใจของตนเอง

 

เทพธิดาจื่อเว่ยไม่รู้ว่าในชีวิตก่อนหน้ามีเพียงหลี่ฮวงเท่านั้นที่ตื่นขึ้น กู้หลิวรู่ตื่นขึ้นในช่วงเวลาสุดท้ายเมื่อถ้ําสวรรค์นิรันดรบุกโจมตีวังสวรรค์ ในเวลานั้นกู้หลิวคู่ต่อสู้กับไห่ฟาน ในที่สุดเขาก็ถูกลอบสังหารโดยหลิวหลิว

 

ฟางหยวนทําลายวิหารอดีตปัจจุบันและนาวานิรันดร์ ผลกระทบหยดหมึกทําให้กู้หลิวรู่ตื่นขึ้นล่วงหน้า

 

ผู้อมตะระดับแปดผู้นี้จะเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อฟางหยวนในสายธารแห่งกาลเวลา

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคกลางน้อย

 

ฟางหยวนกําลังตรวจสอบบึงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และหมอกที่เกิดจากละอองเกสรตัวเมียของพวกมัน

 

หมอกเกสรดอกไม้เหล่านี้คืออาหารของวิญญาณความเสียใจ

 

ชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนสร้างแหล่งทรัพยากรแห่งนี้หลังจากได้รับวิญญาณความเสียใจ

 

แต่ชีวิตนี้เขาร่ํารวยมากและสามารถสร้างมันล่วงหน้า แม้เขาจะยังไม่ได้รับวิญญาณความเสียใจ แต่เขาก็จะเตรียมความพร้อมสําหรับอนาคต เมื่อเขาได้รับวิญญาณความเสียใจ เขาก็ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับอาหารของมันอีก

 

แน่นอนว่าฟางหยวนทําสิ่งนี้หลังจากจัดหาอาหารให้กับวิญญาณอมตะดวงอื่นๆในการครอบครองของเขาเรียบร้อยแล้ว

 

ฟางหยวนกลืนกินมิติช่องว่างของเชลยและค้นวิญญาณของพวกเขา แต่กองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ไม่รู้เรื่องนี้และยังยอมรับการกรรโชกทรัพย์ของฟางหยวนต่อไป

 

วังสวรรค์ไม่รู้ว่าเทพปีศาจบัวแดงไม่ได้ทิ้งวิธีทําลายวิญญาณชะตากรรมเอาไว้ให้ฟางหยวน พวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและทุ่มเททุกสิ่งเพื่อจัดการสายธารแห่งกาลเวลา

 

เมื่อผู้คนยังเด็ก พวกเขาจะสนใจเพียงการต่อสู้ แต่หลังจากพวกเขาเติบโตขึ้น พวกเขาจะค่อยๆตระหนักว่าการต่อสู้เป็นเพียงวิธีการหนึ่งที่จะทําให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายและได้รับผลประโยชน์

 

มีความเสี่ยงสูงมากในการต่อสู้ที่ดุเดือดขณะที่ผลประโยชน์ไม่แน่นอน โดยปกติทั้งสองฝ่ายมักพบความสูญเสียเช่นเดียวกัน ดังนั้นวิธีนี้จึงสามารถใช้งานเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นเท่านั้น

 

ฟางหยวนให้ความสําคัญกับการวางแผนมากกว่า เขาไม่ใช่คนบ้าการต่อสู้ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องต่อสู้ เขาก็จะต่อสู้โดยปราศจากความหวาดกลัว

 

มีความแตกต่างระหว่างโลกของผู้ใช้วิญญาณกับโลกมนุษย์ คนผู้หนึ่งสามารถบ่มเพาะและได้รับพลังอํานาจที่สามารถเอาชนะกองกําลังขนาดใหญ่

 

ตัวอย่างเช่นเทพปีศาจจิตวิญญาณ

วิธีเดียวที่เขาใช้คือการฆ่า

 

ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า

 

เข่นฆ่าทุกสิ่ง ทําลายสวรรค์พิภพ

 

เขาไม่จําเป็นต้องวางแผนใดๆแต่เขายังได้รับผลประโยชน์สูงสุด

 

เพราะเหตุใด?

 

เพราะเขาบ่มเพาะเต่ําของตนเอง

 

นี่คือความเข้าใจสวรรค์พิภพของเขา มันคือความเข้าใจของเขาที่มีต่อตัวเขาเอง

 

ทุกสิ่งที่เขาฆ่าจะทําให้เขาเกิดความเข้าใจและมีความก้าวหน้า

ในช่วงชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน เขาต้องใช้เวลานับร้อยปีก่อนจะเข้าใจหลักการเหล่านี้

 

เขาเคยคิดว่าเต๋ของเขาคือสิ่งใด หรือกล่าวให้ชัดเจนกว่านั้น เขาสามารถสร้างเส้นทางเช่นไร?

 

กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่มีคําตอบที่ชัดเจนสําหรับคําถามนี้

 

เขาเดินไปบนเส้นทางที่คลุมเครือและเต็มไปด้วยอันตราย มีสัตว์ดุร้ายมากมายที่ต้องการกัดกินเขา

 

ท่ามกลางสัตว์ดุร้ายเหล่านี้ วังสวรรค์คือสัตว์ร้ายที่อันตรายที่สุด

 

เขาต้องใช้กําลังทั้งหมดเพื่อหาโอกาสเอาชนะสัตว์ร้ายตัวนี้และเดินหน้าต่อไปบนเส้นทางของเขา

 

ทั้งฟางหยวนและเทพธิดาจื่อเว่ยเปิดเผยข้อมูลของกันและกันซ้ําแล้วซ้ําอีกโดยหวังที่จะหยิบยืมความแข็งแกร่งของผู้อมตะคนอื่นๆจัดการฝ่ายตรงข้าม ไม่มีผู้ใดชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ มันเหมือนกับการต่อสู้ระหว่างพยัคฆ์กับราชสีห์ กลิ่นคาวเลือดของพวกมันดึงดูดฝูงหมาปาจํานวนนับไม่ถ้วนเข้ามา

 

สถานการณ์อาจดูเหมือนฟางหยวนได้รับชื่อเสียงที่น่าประทับใจ แต่แท้จริงแล้วมีกระแสน้ําอันเชี่ยวกรากซ่อนอยู่ในความมืด หลายคนกําลังคิดวิธีจัดการเขาและวิญญาณกาลเวลา

 

หลังจากทั้งหมดไม่มีผู้ใดมีความสุขกับการปรากฏตัวของภัยคุกคามดังกล่าว

 

วิญญาณกาลเวลาไม่ได้ทรงพลังมากนัก มันเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับเจ็ดและมีวิธีการมากมายที่สามารถต่อต้านมัน

 

กระทั่งแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาก็มีหลายวิธีที่สามารถปราบปรามวิญญาณกาลเวลา

 

ในความเป็นจริงฟางหยวนค่อนข้างประหลาดใจที่วังสวรรค์ไม่มีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านวิญญาณกาลเวลา

 

ฉายาเทพปีศาจน้อยอาจฟังดูเหมือนยิ่งใหญ่ แต่มันแฝงไว้ด้วยเจตนาสังหาร นี่เป็นการเตือนโลกว่าหากฟางหยวนไม่ถูกฆ่า เขาจะเติบโตขึ้นเป็นเทพปีศาจ อนาคตของทุกคนจะเต็มไปด้วยอันตราย

 

ฟางหยวนอาจได้รับชัยชนะในสายธารแห่งกาลเวลาแต่เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่ามันเป็นเพียงชัยชนะเล็กๆน้อยๆทางยุทธวิธีและไม่สามารถทําลายแผยการใหญ่ของวังสวรรค์

 

วังสวรรค์ยังควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด

 

“ด้วยรากฐานของวังสวรรค์ ผลกระทบหยดหมึกน่าจะปรากฏขึ้นแล้ว ตัวละครที่ทรงพลังอาจตื่นขึ้นจากสุสานอมตะ”

 

“สิ่งสําคัญที่สุดคือข้าต้องใช้ทุกวินาทีเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง”

 

ฟางหยวนไม่หลงระเริงกับชัยชนะ เขามีความสุขเพียงชั่วครู่ก่อนจะกลับไปมุ่งมั่นกับการบ่มเพาะ

 

มันไม่ใช่การกล่าวเกินจริงที่จะบอกว่าเขาใช้เวลาทุกวินาที่อย่างเต็มที่

 

การบ่มเพาะจิตวิญญาณดําเนินไปอย่างราบรื่น รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณระดับจิตวิญญาณเดียวดายของฟางหยวนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ฟางหยวนเริ่มฝึกท่าไม้ตายอื่นๆเช่นการโจมตีต่อเนื่องของปาซื่อปา

 

ในช่วงเวลาเหล่านี้เขายังใช้ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกอมตะเดินทางออกไปเก็บเกี่ยวทรัพยากรอมตะมากมายจากร่องลึกใต้พิภพที่เกิดใหม่

 

วิญญาณอมตะเส้นโลหิตปฐพีระดับเจ็ดเป็นหนึ่งในนั้น

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+