Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1814 ผู้อมตะตระกูลฉีที่น่าสงสาร

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1814 ผู้อมตะตระกูลฉีที่น่าสงสาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1814 ผู้อมตะตระกูลฉีที่น่าสงสาร

 

สวรรค์สีขาว

 

ผู้อมตะตระกูลฉีหกคนบินไปอย่างรวดเร็ว

 

“ระวังให้ดี ที่นี่คือสวรรค์สีขาว สัตว์อสูรแรกกําเนิดสามารถปรากฏตัวขึ้นได้ทุกเมื่อ

 

“แม้เส้นทางสายนี้จะปลอดภัยแต่เรายังต้องระวังตัว”

 

“หลังจากเข้าไปในถ้ําสวรรค์ เราจะได้รับกายาสวรรค์ในครั้งนี้ ความรุ่งโรจน์ของตระกูลฉีอยู่เบื้องหน้าแล้ว!”

 

ผู้อมตะตระกูลฉีพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้นและสนุกสนาน

 

แม้พวกเขาจะไม่เข้าใจกายาสวรรค์แต่พวกเขาไม่ได้ประเมินมันต่ําเกินไป

 

เพราะนี่คือมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์

 

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้วิสัยทัศน์ของพวกเขากลับเปลี่ยนแปลงไป สวรรค์สีขาวกลายเป็นมืด

 

มันเหมือนลูกบอลสีดําขนาดใหญ่ห่อหุ้มพวกเขาเอาไว้ภาย

 

“มันคือท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ!”

 

“ผู้ใดซุ่มโจมตีพวกเรา!”

 

“ออกมา!”

 

ผู้อมตะตระกูลฉีตกตะลึงก่อนที่พวกเขาจะตะโกนด้วยความโกรธ

 

จากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดก็ปรากฏขึ้น

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้อยู่ในรูปลักษณ์ของเรือลําเล็ก ผู้อมตะยืนอยู่ที่หัวเรืออย่างเงียบๆและเผยรอยยิ้มให้กับกลุ่มผู้อมตะตระกูลฉี

 

ผู้อมตะผู้นี้มีใบหน้าที่หล่อเหลา เส้นผมสีดําของเขาทิ้งตัวยาวลงไปถึงเอว เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูบอบบางและโดดเด่นมาก

 

ผู้อมตะตระกูลฉีทั้งหกต่างตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นคนผู้นี้และคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้

 

ฉีช่ายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลฉีที่กล้าหาญที่สุดในกลุ่ม แต่ขณะนี้มีเพียงความตกใจเท่านั้นที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

 

ฉีจินเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สามของตระกูลฉี เขาเหมือนผู้อมตะตระกูลฉีคนอื่นๆที่มีใบหน้าซีดขาว หัวใจเต้นแรง และรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วทั้งร่าง

 

ฉีฟาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฉี แต่ตอนนี้เขาตื่นตระหนกและพึมพําออกมาด้วยเสียงสั่นเทา “ฟางฟางหยวน เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่? เหตุใดเจ้าถึงมาสร้างปัญหาให้กับพวกเรา?”

 

การปรากฏตัวของฟางหยวนทําให้ผู้อมตะตระกูลฉีมีนงง ขวัญกําลังใจของพวกเขาตกลงสู่จุดต่ําสุดในครั้งเดียว

 

ชื่อเสียงของฟางหยวนเหนือกว่าชีวิตก่อนหน้าเป็นอย่างมาก

 

ฟางหยวนประกาศผลการต่อสู้ครั้งที่สองในสายธารแห่งกาลเวลาออกไปทั่วโลก

 

วังสวรรค์พ่ายแพ้ซ้ําแล้วซ้ําอีกขณะที่ผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่หลี่ฮวงตายอย่างน่าสมเพช สิ่งเหล่านี้ทําให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือน

 

ผู้อมตะตระกูลฉีกลัวจนร่างกายอ่อนแรง

 

ฟางหยวนเป็นจักรพรรดิปีศาจแห่งยุคแต่เหตุใดเขาจึงมาที่นี่และซุ่มโจมตีพวกเขา?

 

“ท่าน…ฟางหยวน ตระกูลฉีของข้าเป็นตระกูลที่รักความสงบ เราไม่เคยสร้างปัญหาหรือต่อต้านท่าน หากท่านมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับพวกเรา เรายินดีแก้ไขและชดเชย” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฉีกล่าว

 

ฟางหยวนยิ้ม “อย่ากังวล ตราบเท่าที่พวกเจ้ายอมจํานน ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า ส่วนค่าชดเชย เหตุใดพวกเจ้าไม่ยกกายาสวรรค์ให้ข้า?”

 

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ผู้อมตะตระกูลฮีรู้สึกราวกับตกลงสู่ขุมนรก

 

โอ้ ไม่”

 

“ฟางหยวนรู้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเรา!”

 

“เขารู้ได้อย่างไร?

 

“เขาเป็นปีศาจต่างโลกที่ใช้วิญญาณกาลเวลาย้อนกลับมากําเนิดใหม่!”

 

“นี่เป็นเป้าหมายของเรามาหลายพันปี ตอนนี้พวกเรากําลังจะประสบความสําเร็จ แต่เราต้องยอมแพ้งั้นหรือ? ข้ารับไม่ได้!

 

ผู้อมตะตระกูลฉีแสดงออกด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน พวกเขาทั้งหวาดกลัว โกรธ กังวล เกลียดชัง และหมดสิ้นหนทาง

 

ผู้อมตะที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลนี้เป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเข้าสู่สวรรค์สีขาว แล้วพวกเขาจะต่อสู้กับฟางหยวนได้อย่างไร?

 

พวกเขาไม่ต่างจากเนื้อที่วางอยู่บนเขียง

 

“เหตุใดพวกเราไม่ลองเสียงดู?” ฉีช่ายลอบส่งเสียงด้วยฟันที่กัดแน่น

 

“เสี่ยง? เรายังมีโอกาสชนะงั้นหรือ? เจ้ารู้จักฟางหยวน พวกเราทําได้เพียงสละชีวิต” ฉีจินกล่าวอย่างหมดหนทาง

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาข่มขู่โดยตรง “ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าไตร่ตรองสามลมหายใจ หากพวกเจ้าไม่ยอมจํานน พวกเจ้าก็ต้องตาย”

 

“พวกเราควรทําอย่างไร?” ผู้อมตะตระกูลฉีตื่นตระหนก ทุกคนมองไปที่ฉีฟา

 

ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ฉีฟามีอํานาจสูงสุด เขาเป็นชายชราร่างผอมที่ดูกล้าหาญ แผ่นหลังของเขาตั้งตรงเหมือนหอกยาว

 

แต่หลังจากสามลมหายใจ เขากลับโค้งตัวลงและป้องหมัดกล่าว “ท่านฟางหยวน ตระกูลฉีของเรายอมจํานน!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า คนฉลาดย่อมเข้าใจสถานการณ์!” ฟางหยวนหัวเราะเสียงดัง “เจ้าตัดสินใจถูกแล้ว”

 

ไปหนิงปิงและคนอื่นๆ ที่อยู่ในเรือรบหมื่นปีถอนหายใจเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้

 

ชื่อเสียงของฟางหยวนทําให้ผู้อมตะระดับเจ็ดต้องยอมจํานนโดยไม่คิดที่จะต่อสู้

 

ฉีฟากล่าวเสริม “กายาสวรรค์เป็นของนายท่าน แต่ข้าอยากกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับมัน หากนายท่านอนุญาต”

 

ฟางหยวนมองผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฉีและเผยรอยยิ้มไม่ใส่ใจ “ไม่จําเป็น ข้าไม่กลัวที่จะบอกพวกเจ้าว่าข้าได้รับกายาสวรรค์ในชีวิตก่อนหน้านี้ ข้าสังหารพวกเจ้าหลายคนและยึดถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ แน่นอนว่าพวกเจ้าบางคนยอมจํานนต่อข้า”

 

ฟางหยวนหยุดก่อนกล่าวต่อ “ข้าเข้าใจความลับเกี่ยวกับกายาสวรรค์มากว่าพวกเจ้าทุกคนที่อยู่ที่นี่”

 

คํากล่าวของฟางหยวนเหมือนค้อนที่ทุบหัวใจของผู้อมตะตระกูล

 

พวกเขาตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

 

ฟางหยวนไม่สนใจพวกเขา เขาเข้าใจคนกลุ่มนี้และสามารถจัดการพวกเขาได้อย่างเหมาะสม

 

ผู้อมตะตระกูลฉีถูกนําขึ้นมาบนเรือรบหมื่นปีด้วยความมึนงง

 

หลังจากกดขี่ผู้อมตะตระกูลฉีเหล่านี้ ฟางหยวนก็ยกเลิกเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูต

 

สนามรบราชันภูตถูกพัฒนาขึ้นอีกระดับ ตอนนี้มันหลอมรวมเส้นทางแห่งกาลเวลาเข้าไปด้วย

 

เรือรบหมื่นปีบินไปยังจุดหมายของมันทันที

 

หลังจากไม่นานพวกเขาก็พบประตูเมืองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า

 

ผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนตกตะลึง พวกเขาเห็นสิ่งนี้เป็นครั้งแรก สําหรับผู้อมตะ ตระกูลฉี พวกเขาแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อนแต่ยังมีความหวังแฝงอยู่ในดวงตาของฟาและคนอื่นๆ

 

แสงสีแดงส่องสว่างขึ้นบนบานประตู

 

ฟางหยวนยิ้มและมองไปยังไหลั่วหลัน “ไป”

 

ไหลั่วหลันบินเข้าไปหาประตูเมืองขณะที่ฟางหยวนโบกมือใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

ร่างของไหลั่วหลันสั่นสะท้านขึ้น แสงสีแดงรอบตัวนางจางหายไปอย่างรวดเร็ว

 

ไหลั่วหลันได้รับการยอมรับ!

 

“เป็นไปไม่ได้”

 

“โอ้ สวรรค์ มันเกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

“สายเลือดของนางได้รับการยอมรับแล้ว! นางเป็นทายาทของเซียเซียงจริงๆงั้นหรือ?”

 

หกผู้อมตะตระกูลฉีประหลาดใจมาก

 

ฟางหยวนไม่สนใจพวกเขาแต่หันไปออกคําสั่งผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิน “ไป”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินหลายคนบินเข้าไปหาประตูเมืองและผ่านการทดสอบของแสงสีเหลือง พวกเขาได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ถ้ําสวรรค์ห้าเซียง

 

เมื่อเห็นสิ่งนี้ร่างของหกผู้อมตะตระกูลฉีสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

 

บางคนแทบล้มลงกับพื้น

 

ก่อนหน้านี้ไหลั่วหลันเป็นมนุษย์ นางอาจมีสายเลือดของเซียเซียง แต่มนุษย์หินเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ พวกเขาไม่สามารถมีลูกกับมนุษย์!

 

อย่างไรก็ตามประตูเมืองกลับยอมรับพวกเขา!

 

ความจริงอันโหดร้ายทิ่มแทงหัวใจของหกผู้อมตะตระกูลฉีราวกับดาบอันแหลมคม ในที่สุดพวกเขาก็สูญสิ้นความหวังทั้งหมด พวกเขาต้องยอมรับว่านี่เป็นวิธีการของฟางหยวน

 

ฉีฟารู้สึกขมขึ้น ก่อนหน้านี้เขายอมจํานนต่อฟางหยวนเพราะเขาไม่อยากตาย เขาต้องการใช้กายาสวรรค์ล่อลวงฟางหยวนและหาโอกาสหลบหนี

 

แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะเป็นไปไม่ได้

 

ฟางหยวนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี การเตรียมพร้อมของเขาแสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้โกหก

 

“ข้าเกรงว่าฟางหยวนจะได้รับกายาสวรรค์ในชีวิตก่อนหน้าจริงๆ!”

 

“เขามีวิญญาณกาลเวลา เขาสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เรื่อยๆ นี่มันไร้สาระเกินไป! แล้วผู้ใดจะสามารถหยุดเขา!”

 

“เดิมพันห้าเชียงผู้ใดจะคิดว่าคนนอกจะได้รับประโยชน์จากมัน…”

 

ผู้อมตะตระกูลนี้รู้สึกโกรธแต่พวกเขาก็ไม่สามารถทําสิ่งใด

 

ฟางหยวนแข็งแกร่งเกินไป มีความแตกต่างมากเกินไป มันฉับพลันเกินไป และโหดร้ายมากเกินไป!

 

“คนเหล่านี้ช่างน่าสงสาร…” เทพธิดากระต่ายขาวมองกลุ่มผู้อมตะตระกูลฉีด้วยความเห็นใจ

 

“ฟางหยวนต้องการสมบัตินั้น แล้วพวกเขาจะสามารถทําสิ่งใด?” ไปหนิงปิงแสดงออกอย่างเย็นชา นางเข้าใจฟางหยวนมากที่สุด

 

หลังจากนั้นผู้อมตะอีกหลายคนก็ผ่านการทดสอบของประตูเมือง

 

ฟางหยวนไม่อนุญาตให้ผู้อมตะตระกูลฉีเข้าไป พวกเขาถูกขังไว้บนเรือรบหมื่นปี

เทพธิดากระต่ายขาวและเทพธิดาเมี่ยวหยินได้รับการยอมรับจากฉีเซียง

 

ฟางหยวนกับไปหนิงปิงเข้าไปพร้อมกันในฐานะทายาทไปเซียง

 

สําหรับเรือรบหมื่นปีและผู้อมตะตระกูลฉี ฟางหยวนเก็บพวกเขาไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1814 ผู้อมตะตระกูลฉีที่น่าสงสาร

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1814 ผู้อมตะตระกูลฉีที่น่าสงสาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1814 ผู้อมตะตระกูลฉีที่น่าสงสาร

 

สวรรค์สีขาว

 

ผู้อมตะตระกูลฉีหกคนบินไปอย่างรวดเร็ว

 

“ระวังให้ดี ที่นี่คือสวรรค์สีขาว สัตว์อสูรแรกกําเนิดสามารถปรากฏตัวขึ้นได้ทุกเมื่อ

 

“แม้เส้นทางสายนี้จะปลอดภัยแต่เรายังต้องระวังตัว”

 

“หลังจากเข้าไปในถ้ําสวรรค์ เราจะได้รับกายาสวรรค์ในครั้งนี้ ความรุ่งโรจน์ของตระกูลฉีอยู่เบื้องหน้าแล้ว!”

 

ผู้อมตะตระกูลฉีพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้นและสนุกสนาน

 

แม้พวกเขาจะไม่เข้าใจกายาสวรรค์แต่พวกเขาไม่ได้ประเมินมันต่ําเกินไป

 

เพราะนี่คือมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์

 

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้วิสัยทัศน์ของพวกเขากลับเปลี่ยนแปลงไป สวรรค์สีขาวกลายเป็นมืด

 

มันเหมือนลูกบอลสีดําขนาดใหญ่ห่อหุ้มพวกเขาเอาไว้ภาย

 

“มันคือท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ!”

 

“ผู้ใดซุ่มโจมตีพวกเรา!”

 

“ออกมา!”

 

ผู้อมตะตระกูลฉีตกตะลึงก่อนที่พวกเขาจะตะโกนด้วยความโกรธ

 

จากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดก็ปรากฏขึ้น

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้อยู่ในรูปลักษณ์ของเรือลําเล็ก ผู้อมตะยืนอยู่ที่หัวเรืออย่างเงียบๆและเผยรอยยิ้มให้กับกลุ่มผู้อมตะตระกูลฉี

 

ผู้อมตะผู้นี้มีใบหน้าที่หล่อเหลา เส้นผมสีดําของเขาทิ้งตัวยาวลงไปถึงเอว เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูบอบบางและโดดเด่นมาก

 

ผู้อมตะตระกูลฉีทั้งหกต่างตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นคนผู้นี้และคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้

 

ฉีช่ายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลฉีที่กล้าหาญที่สุดในกลุ่ม แต่ขณะนี้มีเพียงความตกใจเท่านั้นที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

 

ฉีจินเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สามของตระกูลฉี เขาเหมือนผู้อมตะตระกูลฉีคนอื่นๆที่มีใบหน้าซีดขาว หัวใจเต้นแรง และรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วทั้งร่าง

 

ฉีฟาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฉี แต่ตอนนี้เขาตื่นตระหนกและพึมพําออกมาด้วยเสียงสั่นเทา “ฟางฟางหยวน เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่? เหตุใดเจ้าถึงมาสร้างปัญหาให้กับพวกเรา?”

 

การปรากฏตัวของฟางหยวนทําให้ผู้อมตะตระกูลฉีมีนงง ขวัญกําลังใจของพวกเขาตกลงสู่จุดต่ําสุดในครั้งเดียว

 

ชื่อเสียงของฟางหยวนเหนือกว่าชีวิตก่อนหน้าเป็นอย่างมาก

 

ฟางหยวนประกาศผลการต่อสู้ครั้งที่สองในสายธารแห่งกาลเวลาออกไปทั่วโลก

 

วังสวรรค์พ่ายแพ้ซ้ําแล้วซ้ําอีกขณะที่ผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่หลี่ฮวงตายอย่างน่าสมเพช สิ่งเหล่านี้ทําให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือน

 

ผู้อมตะตระกูลฉีกลัวจนร่างกายอ่อนแรง

 

ฟางหยวนเป็นจักรพรรดิปีศาจแห่งยุคแต่เหตุใดเขาจึงมาที่นี่และซุ่มโจมตีพวกเขา?

 

“ท่าน…ฟางหยวน ตระกูลฉีของข้าเป็นตระกูลที่รักความสงบ เราไม่เคยสร้างปัญหาหรือต่อต้านท่าน หากท่านมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับพวกเรา เรายินดีแก้ไขและชดเชย” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฉีกล่าว

 

ฟางหยวนยิ้ม “อย่ากังวล ตราบเท่าที่พวกเจ้ายอมจํานน ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า ส่วนค่าชดเชย เหตุใดพวกเจ้าไม่ยกกายาสวรรค์ให้ข้า?”

 

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ผู้อมตะตระกูลฮีรู้สึกราวกับตกลงสู่ขุมนรก

 

โอ้ ไม่”

 

“ฟางหยวนรู้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเรา!”

 

“เขารู้ได้อย่างไร?

 

“เขาเป็นปีศาจต่างโลกที่ใช้วิญญาณกาลเวลาย้อนกลับมากําเนิดใหม่!”

 

“นี่เป็นเป้าหมายของเรามาหลายพันปี ตอนนี้พวกเรากําลังจะประสบความสําเร็จ แต่เราต้องยอมแพ้งั้นหรือ? ข้ารับไม่ได้!

 

ผู้อมตะตระกูลฉีแสดงออกด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน พวกเขาทั้งหวาดกลัว โกรธ กังวล เกลียดชัง และหมดสิ้นหนทาง

 

ผู้อมตะที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลนี้เป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเข้าสู่สวรรค์สีขาว แล้วพวกเขาจะต่อสู้กับฟางหยวนได้อย่างไร?

 

พวกเขาไม่ต่างจากเนื้อที่วางอยู่บนเขียง

 

“เหตุใดพวกเราไม่ลองเสียงดู?” ฉีช่ายลอบส่งเสียงด้วยฟันที่กัดแน่น

 

“เสี่ยง? เรายังมีโอกาสชนะงั้นหรือ? เจ้ารู้จักฟางหยวน พวกเราทําได้เพียงสละชีวิต” ฉีจินกล่าวอย่างหมดหนทาง

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาข่มขู่โดยตรง “ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าไตร่ตรองสามลมหายใจ หากพวกเจ้าไม่ยอมจํานน พวกเจ้าก็ต้องตาย”

 

“พวกเราควรทําอย่างไร?” ผู้อมตะตระกูลฉีตื่นตระหนก ทุกคนมองไปที่ฉีฟา

 

ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ฉีฟามีอํานาจสูงสุด เขาเป็นชายชราร่างผอมที่ดูกล้าหาญ แผ่นหลังของเขาตั้งตรงเหมือนหอกยาว

 

แต่หลังจากสามลมหายใจ เขากลับโค้งตัวลงและป้องหมัดกล่าว “ท่านฟางหยวน ตระกูลฉีของเรายอมจํานน!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า คนฉลาดย่อมเข้าใจสถานการณ์!” ฟางหยวนหัวเราะเสียงดัง “เจ้าตัดสินใจถูกแล้ว”

 

ไปหนิงปิงและคนอื่นๆ ที่อยู่ในเรือรบหมื่นปีถอนหายใจเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้

 

ชื่อเสียงของฟางหยวนทําให้ผู้อมตะระดับเจ็ดต้องยอมจํานนโดยไม่คิดที่จะต่อสู้

 

ฉีฟากล่าวเสริม “กายาสวรรค์เป็นของนายท่าน แต่ข้าอยากกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับมัน หากนายท่านอนุญาต”

 

ฟางหยวนมองผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฉีและเผยรอยยิ้มไม่ใส่ใจ “ไม่จําเป็น ข้าไม่กลัวที่จะบอกพวกเจ้าว่าข้าได้รับกายาสวรรค์ในชีวิตก่อนหน้านี้ ข้าสังหารพวกเจ้าหลายคนและยึดถ้ําสวรรค์ทะเลปราณ แน่นอนว่าพวกเจ้าบางคนยอมจํานนต่อข้า”

 

ฟางหยวนหยุดก่อนกล่าวต่อ “ข้าเข้าใจความลับเกี่ยวกับกายาสวรรค์มากว่าพวกเจ้าทุกคนที่อยู่ที่นี่”

 

คํากล่าวของฟางหยวนเหมือนค้อนที่ทุบหัวใจของผู้อมตะตระกูล

 

พวกเขาตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

 

ฟางหยวนไม่สนใจพวกเขา เขาเข้าใจคนกลุ่มนี้และสามารถจัดการพวกเขาได้อย่างเหมาะสม

 

ผู้อมตะตระกูลฉีถูกนําขึ้นมาบนเรือรบหมื่นปีด้วยความมึนงง

 

หลังจากกดขี่ผู้อมตะตระกูลฉีเหล่านี้ ฟางหยวนก็ยกเลิกเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูต

 

สนามรบราชันภูตถูกพัฒนาขึ้นอีกระดับ ตอนนี้มันหลอมรวมเส้นทางแห่งกาลเวลาเข้าไปด้วย

 

เรือรบหมื่นปีบินไปยังจุดหมายของมันทันที

 

หลังจากไม่นานพวกเขาก็พบประตูเมืองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า

 

ผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนตกตะลึง พวกเขาเห็นสิ่งนี้เป็นครั้งแรก สําหรับผู้อมตะ ตระกูลฉี พวกเขาแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อนแต่ยังมีความหวังแฝงอยู่ในดวงตาของฟาและคนอื่นๆ

 

แสงสีแดงส่องสว่างขึ้นบนบานประตู

 

ฟางหยวนยิ้มและมองไปยังไหลั่วหลัน “ไป”

 

ไหลั่วหลันบินเข้าไปหาประตูเมืองขณะที่ฟางหยวนโบกมือใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

ร่างของไหลั่วหลันสั่นสะท้านขึ้น แสงสีแดงรอบตัวนางจางหายไปอย่างรวดเร็ว

 

ไหลั่วหลันได้รับการยอมรับ!

 

“เป็นไปไม่ได้”

 

“โอ้ สวรรค์ มันเกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

“สายเลือดของนางได้รับการยอมรับแล้ว! นางเป็นทายาทของเซียเซียงจริงๆงั้นหรือ?”

 

หกผู้อมตะตระกูลฉีประหลาดใจมาก

 

ฟางหยวนไม่สนใจพวกเขาแต่หันไปออกคําสั่งผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิน “ไป”

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินหลายคนบินเข้าไปหาประตูเมืองและผ่านการทดสอบของแสงสีเหลือง พวกเขาได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ถ้ําสวรรค์ห้าเซียง

 

เมื่อเห็นสิ่งนี้ร่างของหกผู้อมตะตระกูลฉีสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

 

บางคนแทบล้มลงกับพื้น

 

ก่อนหน้านี้ไหลั่วหลันเป็นมนุษย์ นางอาจมีสายเลือดของเซียเซียง แต่มนุษย์หินเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ พวกเขาไม่สามารถมีลูกกับมนุษย์!

 

อย่างไรก็ตามประตูเมืองกลับยอมรับพวกเขา!

 

ความจริงอันโหดร้ายทิ่มแทงหัวใจของหกผู้อมตะตระกูลฉีราวกับดาบอันแหลมคม ในที่สุดพวกเขาก็สูญสิ้นความหวังทั้งหมด พวกเขาต้องยอมรับว่านี่เป็นวิธีการของฟางหยวน

 

ฉีฟารู้สึกขมขึ้น ก่อนหน้านี้เขายอมจํานนต่อฟางหยวนเพราะเขาไม่อยากตาย เขาต้องการใช้กายาสวรรค์ล่อลวงฟางหยวนและหาโอกาสหลบหนี

 

แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะเป็นไปไม่ได้

 

ฟางหยวนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี การเตรียมพร้อมของเขาแสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้โกหก

 

“ข้าเกรงว่าฟางหยวนจะได้รับกายาสวรรค์ในชีวิตก่อนหน้าจริงๆ!”

 

“เขามีวิญญาณกาลเวลา เขาสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เรื่อยๆ นี่มันไร้สาระเกินไป! แล้วผู้ใดจะสามารถหยุดเขา!”

 

“เดิมพันห้าเชียงผู้ใดจะคิดว่าคนนอกจะได้รับประโยชน์จากมัน…”

 

ผู้อมตะตระกูลนี้รู้สึกโกรธแต่พวกเขาก็ไม่สามารถทําสิ่งใด

 

ฟางหยวนแข็งแกร่งเกินไป มีความแตกต่างมากเกินไป มันฉับพลันเกินไป และโหดร้ายมากเกินไป!

 

“คนเหล่านี้ช่างน่าสงสาร…” เทพธิดากระต่ายขาวมองกลุ่มผู้อมตะตระกูลฉีด้วยความเห็นใจ

 

“ฟางหยวนต้องการสมบัตินั้น แล้วพวกเขาจะสามารถทําสิ่งใด?” ไปหนิงปิงแสดงออกอย่างเย็นชา นางเข้าใจฟางหยวนมากที่สุด

 

หลังจากนั้นผู้อมตะอีกหลายคนก็ผ่านการทดสอบของประตูเมือง

 

ฟางหยวนไม่อนุญาตให้ผู้อมตะตระกูลฉีเข้าไป พวกเขาถูกขังไว้บนเรือรบหมื่นปี

เทพธิดากระต่ายขาวและเทพธิดาเมี่ยวหยินได้รับการยอมรับจากฉีเซียง

 

ฟางหยวนกับไปหนิงปิงเข้าไปพร้อมกันในฐานะทายาทไปเซียง

 

สําหรับเรือรบหมื่นปีและผู้อมตะตระกูลฉี ฟางหยวนเก็บพวกเขาไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+